ตอนที่ 52 รถจักรยานความเร็วสูง
ตอนที่ 52 รถจักรยานความเร็วสูง
ผู้แปล : ThreeSwords
ปรับสำนวน : ThreeSwords
ฉินฟางรู้สึกประหลาดใจกับเลเวลของหนิงอวี่ม่อที่สูงมากจริงๆ มันสูงยิ่งกว่าใครคนไหนที่เขาเคยพบไปไกลโข
จากนั้นเขาก็มองไปยังเรือนร่างที่ไร้ตำหนิของหนิงอวี่ม่อ ฉินฟางมองไม่เห็นเลยว่าเธอจะแข็งแกร่งกว่าคนอื่นได้ยังไง หรือเป็นเพราะเธอชอบใช้ความรุนแรงงั้นเหรอ?
คำตอบของคำถามนี้ ไม่มีใครที่สามารถบอกฉินฟางได้
ตอนนี้ฉินฟางก็ไม่มีเวลามาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน เขายังคงปั่นต่อไปและใช้แรงปั่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลให้รถจักรยานเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ
< ความเร็ว +3 >
< ความเร็ว +4 >
< ความเร็ว +8 >
นอกจากทำการปั่นแล้ว ฉินฟางก็ทำการประเมินรถจักรยานของเขาเป็นครั้งคราว เขาเห็นความเร็วของมันเพิ่มขึ้นจากตั้งต้นที่ 0 ไป +8 ในไม่กี่นาที และยังคงเพิ่มขึ้น
ภาพทิวทัศน์สองฝั่งถนนผ่านไปอย่างรวดเร็ว และสายลมอันอ่อนโยนก็พัดผ่านใบหน้า ซึ่งนี่ช่วยบรรเทาความอ่อนล้าที่เขารู้สึกได้จากการปั่นจักรยานอย่างหนักได้เล็กน้อย แต่ลมนี่ก็พัดเหงื่อเขาปลิวไปด้วยเช่นกัน!
“พวกมันไปอยู่ที่ไหนกันนะ?...”
ตอนแรกหนิงอวี่ม่อก็ไม่ได้สังเกตความเร็วของรถจักรยานที่กำลังนั่งอยู่ สายตาของเธอสับเปลี่ยนไปมาระหว่างสองฝั่งถนน เห็นได้ชัดว่ากำลังมองหาผู้หลบหนีสองคนนั่น เธอจึงไม่พบว่ารถจักรยานกำลังเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ!
“ว้าย! เร็วจัง?!”
ความสนใจของหนิงอวี่ม่อเปลี่ยนจากการมองหาพวกคนหลบหนีมายังฉินฟางหลังจากผ่านไปสักพัก เพราะเธอตระหนักได้ว่ารถจักรยานกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงมากประมาณ 120 km/h และเร็วมากยิ่งขึ้น
“นี่... นี่ยังเป็นรถจักรยานอยู่อีกเหรอ?”
ตอนนี้หนิงอวี่ม่อรู้สึกเป็นกังวลจริงๆ ทั้งๆ ที่รถสปอร์ตซึ่งเธอขับก่อนหน้านี้มีความเร็วที่สูงเกินกว่า 300 km/h ประกอบกับความเชื่อมั่นในทักษะการขับขี่ของตัวเอง จึงทำให้เธอไม่รู้สึกเกรงกลัวเลย
อย่างไรก็ตามในเวลานี้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังนั่งอยู่บนเรือลำเล็กในมหาสมุทรที่คลื่นลมแรง ราวกับว่าเรือกำลังจะล่มได้ตลอดเวลา
แต่เธอก็ไม่ได้นั่งอยู่บนเรือจริงๆ ทว่าเป็นรถจักรยานคันหนึ่ง ที่มีความเร็วเกินกว่า 160 km/h ไปแล้ว ถ้าฉินฟางทำอะไรผิดพลาดแม้เพียงนิดเดียวแล้ว คนทั้งสองก็จะลอยออกไปด้วยความเร็วสูง และผลที่ได้ไม่ต่างไปจากโดนรถชนล้มลงเลย
ลมเย็นพัดผ่านไปอย่างรวดเร็ว และหนิงอวี่ม่อที่สวมใส่เสื้อผ้าบางเบาก็รู้สึกสดชื่นขึ้นจากความเย็นนี้ แต่ในเวลานี้แผ่นหลังของเธอผู้ไม่เคยเกรงกลัวอะไรกลับเย็นปานน้ำแข็ง และรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับเทพเจ้าแห่งความตาย
เธอรู้สึกกลัว รู้สึกกลัวจริงๆ!
เธอเคลื่อนตัวเข้าไปหาฉินฟางเล็กน้อย และใช้มือดึงชายเสื้อของเขาให้แน่นมากขึ้น แต่ดูเหมือนเธอจะคิดว่าเสื้อของฉินฟางไม่แข็งแรงพอ ก็เลยเปลี่ยนไปจับข้างลำตัวของเขาแทน
การเปลี่ยนแปลงวิธีการจับนี้ทำให้ฉินฟางสะดุ้งตกใจเล็กน้อย และเผลอใช้แรงมากขึ้นเนื่องจากอารามตกใจ ความเร็วก็เลยยิ่งสูงขึ้น
ตอนนี้ใบหน้าของหนิงอวี่ม่อก็ค่อนข้างแดงเช่นกัน นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตยี่สิบกว่าปีของเธอที่ได้สัมผัสกับผู้ชายอย่างใกล้ชิดเช่นนี้
“เอ่อ... ฉินฟาง นายปั่นให้ช้าลงหน่อยได้มั้ย?”
หลังจากลังเลอยู่สักพัก หนิงอวี่ม่อก็อดไม่ได้ที่จะขอให้ฉินฟางปั่นช้าลง
“เสี่ยวหนิงเจีย เกรงว่าผมจะทำให้ไม่ได้ ความเร็วในตอนนี้มันสูงเกินไป ผมไม่สามารถชะลอรถจักรยานได้ในทันที ไม่งั้นมันอาจจะคว่ำได้!”
ที่ความเร็วเกิน 160 km/h ถ้าฉินฟางเบรครถขึ้นมาจริงๆ แล้ว พวกเขาทั้งสองน่าจะลอยถลาออกไปแน่นอน!
*******
“ลุงหลิว พวกเราไปล่วงเกินใครหรือเปล่าครับ? ถึงได้ถูกมอบหมายให้มาตั้งด่านในที่เปลี่ยวและร้อนเช่นนี้ ดูสิครับ ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงยังมีรถผ่านที่นี่ไม่ถึงสิบคันด้วยซ้ำ แล้วจะให้พวกเราไปจับใคร?! กระทั่งแอร์รถยังเสีย! โธ่เอ้ย... ผมกำลังจะร้อนตายอยู่แล้ว”
ตำรวจสองนายที่กำลังเหงื่อหยดนั้นนั่งอยู่ในรถตำรวจซึ่งจอดอยู่ข้างถนน หน้าต่างรถทั้งหมดล้วนถูกเปิดออก และถืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับวัดความเร็วไว้ในมือ เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังจะดักจับพวกที่ขับรถเร็วเกินกำหนด ส่วนคนที่ตอนนี้กำลังบ่นอยู่นั้นเป็นนายตำรวจที่อายุน้อยกว่า
“พูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกนะ เพราะเมื่อถนนสายนี้เปลี่ยว มันก็ง่ายในการดักจับคนที่ขับรถเร็วเกินกำหนดไง!”
ตำรวจที่แก่กว่าพูดจากประสบการณ์
“ถนนสายนี้จำกัดความเร็วไว้ที่ 100 km/h แต่ถ้าให้มาขับรถที่ถนนนี่ จะทำความเร็วได้ขนาดไหนกันนะ?”
“ครับ! ผมเข้าใจแล้ว ขิงแก่ย่อมเผ็ดกว่าจริงๆ!” (เปรียบเปรยผู้ใหญ่สูงอายุสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้รวดเร็วและดีกว่า เนื่องจากสั่งสมประสบการณ์มามากแล้ว)
ตำรวจที่หนุ่มกว่าตระหนักได้ในทันที บนถนนไม่ค่อยมีผู้คนเช่นนี้ แถมสภาพพื้นผิวยังคงดีอยู่ ถ้าไม่ขับด้วยความเร็วสูงแล้วย่อมเป็นเรื่องที่น่าเสียดายกับเส้นทางซิ่งรถที่ดีเช่นนี้ ถึงถนนสายนี้จะถูกจำกัดความเร็วเอาไว้ แต่ก็รับประกันความเร็วของคนส่วนใหญ่ที่ขับรถผ่านได้!
*ฟ้าว*
ในช่วงเวลานี้เอง ก็มีเงาดำสายหนึ่งวิ่งผ่านรถตำรวจของพวกเขาไป และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับวัดความเร็วก็เริ่มส่งเสียงบี๊ปๆ
“ฮิฮิ ลูกค้ามาแล้ว...”
ตำรวจที่เด็กกว่ายิ้มในทันที ขณะที่กำลังจะขับรถไล่ตามเขาก็ตะลึงงัน เพราะเผลอไปมองที่หน้าจอแสดงผลของเครื่องวัดความเร็วในมือ ซึ่งตรวจวัดความเร็วได้ 177 km/h เห็นได้ชัดว่าความเร็วนั้นเกินกว่าที่กำหนดไว้ แต่เขายังคงลองเอามือเคาะเครื่องนั่นดู เนื่องจากคิดว่ามันอาจจะเสีย
“เอ่อ... ลุงหลิว! จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดของลุง เคยเห็นรถจักรยานวิ่งเร็วกว่า 160 km/h มั้ย?”
ตำรวจที่เด็กกว่าลังเล และก็ถามคำถามนั้นออกมา
“ดูที่หน้าจอแสดงผลให้ดีๆ พล่ามเรื่องเหลวไหลอะไรออกมา?”
ตำรวจแซ่หลิวกำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ ก็เลยไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้ ดังนั้นเขาจึงว่ากล่าวนายตำรวจที่เด็กกว่าในลักษณะติดตลก
“ไม่นะครับ ผมพูดเรื่องจริง! ลุงลองดูด้วยตัวเองเลย...”
นายตำรวจคนที่เด็กกว่ายิ้มหน้าเหยเก พร้อมกับชี้ไปที่ร่างของฉินฟางและหนิงอวี่ม่อซึ่งกำลังซิ่งไปกับจักรยาน จากนั้นก็ชี้มายังหน้าจอแสดงผลของเครื่องวัดความเร็ว
“เฮ้ย! หมอนั่นเป็นสัตว์ประหลาดแบบไหนกัน!”
นายตำรวจที่แก่กว่าก็ตกใจมากเช่นกัน รถจักรยานตรงหน้ากำลังปั่นด้วยความเร็วสูงจริงๆ และไม่ได้ช้าไปกว่ารถสปอร์ตเลย
“แสดงว่าต้องเป็นนักปั่นมืออาชีพ...”
หลังจากที่ใคร่ครวญเล็กน้อย เขาจึงคิดว่าต้องเป็นนักปั่นมืออาชีพกำลังฝึกซ้อมอยู่ที่นี่ เลยไม่ได้ใส่ใจอะไรอีก จากนั้นก็กลับไปอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ
“ฉินฟาง ฉันคิดว่าพวกเราควรจะหยุดรถได้แล้วนะ หัวของฉันมึนไปหมดแล้ว...”
จริงๆ แล้วความเร็วของรถจักรยานกำลังจะลดลง แต่การหยุดที่ความเร็ว 177 km/h จำเป็นต้องใช้ระยะทางที่ค่อนข้างไกล นอกจากนี้ฉินฟางเองก็ตั้งใจลดความเร็วลงให้ช้าที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เพราะสัมผัสที่ได้รับจากหนิงอวี่ม่อ แต่เธอก็พูดบ่นออกมาเนื่องจากกัดฟันทนไม่ไหวแล้ว
“อืม... โอเค...”
ฉินฟางไม่มีทางเลือกได้แต่พยักหน้าตอบตกลง เขาเองก็ได้เอาเปรียบหนิงอวี่ม่อมาพอสมควรแล้ว จึงไม่ควรที่จะทำแบบนี้อีกต่อไป
“เสี่ยวหนิงเจีย ดูข้างหน้า! ใช่พวกที่หลบหนีคดีสองคนนั้นหรือเปล่า?”
ในช่วงเวลานี้เอง ฉินฟางสังเกตเห็นชายสองคนกำลังเตรียมตัวที่จะวิ่งเข้าไปภูเขา ก็เลยชี้บอกหนิงอวี่ม่อทันที
“ใช่แล้ว! พวกนั้นแหละ! รีบตามไปเร็ว!”
หลังจากหนิงอวี่ม่อทำการมองตรวจสอบ ก็พบว่าเป็นสองคนที่กำลังตามหาอยู่จริงๆ ทำให้เธอไม่สนใจเรื่องความเร็วอีกต่อไปแล้ว และสั่งให้ไล่ตามพวกนั้นไปอย่างเร็วปานสายฟ้า
……………………………..