ตอนที่แล้วตอนที่ 45   เล่นใต้โต๊ะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 47   เมื่อฝุ่นหายตลบ

ตอนที่ 46   พลิกกลับ


ตอนที่ 46   พลิกกลับ

 

ผู้แปล  :  ThreeSwords

ปรับสำนวน  :  ThreeSwords

 

 

หลี่เฟิงไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นคนอารมณ์ดี  โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับผู้หญิง  ซึ่งเขาจะไม่ยอมให้มีแม้แต่ข้อบกพร่องเดียว  เขากับถังเฟยเฟยรู้จักกันมาอย่างยาวนาน  จริงๆ แล้วคุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็ก  ครอบครัวของพวกเขาทั้งสองฝ่ายต่างพูดบ่อยๆ ว่าถังเฟยเฟยคือภรรยาในอนาคตของเขา

 

นับแต่นั้นมาเป็นเวลากว่าสิบปี  หลี่เฟิงก็ถือว่าถังเฟยเฟยเป็นคนของเขา

 

แต่สถานการณ์เหล่านั้นจู่ๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก  และการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนั้นเริ่มขึ้นเพราะฉินฟาง  ในช่วงที่เรียนอยู่ชั้นมอปลายปีที่หก  ฉินฟางกับถังเฟยเฟยมีปฏิสัมพันธ์กันหลายครั้งมาก  แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นเรื่องของการเรียน  ดังนั้นในที่สุดหลี่เฟิงจึงไม่ได้ใส่ใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์พวกนี้

 

แต่หลังจากการสอบเข้าระดับอุดมศึกษาเสร็จสิ้น  จู่ๆ ถังเฟยเฟยก็วานให้เพื่อนนักเรียนชายในห้องที่ค่อนข้างสนิทกับฉินฟางให้ส่งจดหมายไปยังฉินฟาง  โชคไม่ดีที่จดหมายนั้นถูกหลี่เฟิงสกัดไว้  และนั่นทำให้หลี่เฟิงรู้ว่าถังเฟยเฟยดูเหมือนจะมีความรู้สึกให้กับฉินฟาง  เธออยากขอให้ฉินฟางพาไปออกเดท

 

เพราะจดหมายฉบับนั้นเอง  ทำให้หลี่เฟิงโกรธสุดๆ  เขารีบสั่งให้คนออกไปสืบเรื่องฉินฟาง  และนั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมฉินฟางถึงตกงานในท้ายที่สุด  ตอนที่ฉินฟางโดนซ้อม  จึงเป็นการปลดปล่อยความโกรธที่ถูกกักเก็บไว้  ซึ่งฉินฟางเกือบตายจากอุบัติเหตุในคราวนั้น

 

การโหวตยังคงดำเนินต่อไป  และคะแนนโหวตของเอฟเฟนดี้ยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปเรื่อยๆ  ส่วนอีกด้านหนึ่ง  ฉินฟางก็ยังคงมีคะแนนโหวตเพียงน้อยนิด  ความแตกต่างระหว่างคนทั้งสองจึงกว้างออกไปเรื่อยๆ  ซึ่งมันทำให้สถานการณ์ของฉินฟางนั้นยิ่งล่อแหลมลงไปทุกที

 

“ทำไมคนพวกนั้นทำแบบนี้ล่ะ?  ลงคะแนนให้ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ลองทานอาหาร...”

 

พอมองไปยังคนที่โหวตให้กับเอฟเฟนดี้  ถังเฟยเฟยก็หน้านิ่วคิ้วขมวด  และพูดออกมาด้วยความโมโห  รู้สึกอยากที่จะทุบตีคนพวกนั้นทั้งหมด

 

“เฟยเฟย  ไม่ต้องไปใส่ใจหรอก  ถึงจะแพ้ก็แค่เรื่องเล็กน้อย”

 

ฉินฟางค่อนข้างมองโลกในแง่ดี  และตอนนี้ก็กำลังทำบาร์บีคิวให้ตัวเองทาน  ตั้งแต่มาถึงลานบาร์บีคิวแห่งนี้  นอกจากปีกไก่ที่ฉกมาจากเจ้าสารเลวที่สอนเขาทำบาร์บีคิวนั่นแล้ว  เขายังไม่ได้ทานอะไรอีกเลย  หลังจากจบการแข่งขัน  เห็นได้ชัดว่าเขาหิว  จึงฉวยโอกาสนี้เริ่มทำอาหารจำนวนมากและกินมันโดยไม่ได้สนใจอะไร  เพราะทั้งหมดนี้เขาไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินสักเฟินเดียว

 

“ฮื่อ  อร่อย!”

 

เมื่อฉินฟางได้ลองทานบาร์บีคิวของตัวเองครั้งแรก  เขาก็ตกตะลึงกับความอร่อยของมัน  หลังจากตั้งสติอยู่สักพัก  เขาก็ถามคำถามถังเฟยเฟยเสียงเบา

 

“เฟยเฟย  นอกจากทำราเม็งขายแล้ว  ถ้าพวกเราทำบาร์บีคิวควบไปด้วย  เธอคิดว่าธุรกิจของเราจะดีขึ้นไหม?”

 

ความคิดของเขาตอนนี้กำลังนึกถึงวิธีสร้างรายได้ให้มากขึ้น  หลังจากที่ได้ทานบาร์บีคิวของตัวเอง  เขารู้สึกว่ารสชาติของมันนั้นดีมากจริงๆ  ซึ่งถ้าเขาทำบาร์บีคิวขายที่ร้าน  ยอดขายจะต้องดีขึ้นแน่ๆ

 

“นายอยากตายหรือไง?!”

 

อย่างไรก็ตาม  ถังเฟยเฟยคิ้วขมวดหลังจากได้ยินข้อเสนอของฉินฟาง  เธอเริ่มตำหนิฉินฟางด้วยน้ำเสียงดุเล็กๆ

 

“นายไม่เห็นเหรอว่าพวกเรายุ่งขนาดไหนตอนที่ขายราเม็ง?  ถ้านายอยากทำบาร์บีคิวขายเพิ่ม  ไม่ใช่ว่ากำลังพยายามผลาญชีวิตตัวเองหรือไงยะ?”

 

“อุ๊ก!  นั่นก็จริง... งั้นลืมที่พูดไปล่ะกัน...”

 

ฉินฟางสะดุ้งหลังจากได้ยินที่ถังเฟยเฟยพูด  เป็นเรื่องจริงว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นเป็นการพยายามทำให้ตัวเองโหมงานหนักเกินไป  จึงพยักหน้าเห็นด้วยตามความสัตย์  และล้มเลิกความคิดพวกนั้น

 

“หืมม?  ฉินฟาง  ดูสิ!  นั่นคุณลุงกับเจ็ดพวกฉกอาหาร!”

 

ในขณะที่ฉินฟางกำลังคิดเกี่ยวกับวิธีการหาเงินเพิ่มโดยการใช้ทักษะ [ปิ้งย่าง] และในเวลาเดียวกันก็ไม่ทำให้ตัวเองเหน็ดเหนื่อยนั้น  บางอย่างที่น่าตื่นตระหนกก็เกิดขึ้นในเหตุการณ์ลงคะแนนเสียง

 

เมื่อทุกคนรู้สึกว่าฉินฟางกำลังจะแพ้โดยไม่ต้องสงสัยแล้ว  แฟนพันธุ์แท้กลุ่มแรกของฉินฟางสุดท้ายก็มาถึง  อย่างไรก็ตามการมาถึงของพวกเขาให้ความรู้สึกกับผู้คนว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง

 

“พี่น้องเอ้ย  ถึงเวลาที่พวกเราจะลงมือแล้ว!”

 

หลังจากที่คุณลุงตะโกนด้วยน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์  แถวยาวสายหนึ่งก็เริ่มก่อตัวขึ้นข้างหลังเขา  ทุกคนในมือถือบัตรลงคะแนนเสียงที่เตรียมเอาไว้นานแล้ว  กระทั่งบางคนซึ่งก่อนหน้านี้ยืนอยู่ที่แถวโหวตของเอฟเฟนดี้ก็ยังมาร่วมด้วย

 

“ฉินฟาง”

 

“ฉินฟาง”

 

“ฉินฟาง”

 

 

หลังจากที่รวมกลุ่มกัน  ก็ตามมาด้วยคุณลุงที่ลงคะแนนโหวตให้กับฉินฟางเป็นคนแรก  ต่อจากนั้นก็เป็นคนที่เคยกินอาหารของฉินฟางเป็นส่วนใหญ่  พวกเขาทุกคนใส่บัตรลงคะแนนเสียงลงในกล่องด้วยท่าทางที่ตื่นเต้น

 

พิธีกรที่รับผิดชอบในการขานชื่อผู้ได้รับคะแนนเสียงตอนนี้กำลังตื่นตกใจ  เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์กำลังอยู่นอกการควบคุม  และพอมองไปยังแถวลงคะแนนของฉินฟาง  ก็ไม่น้อยไปกว่าแถวลงคะแนนของเอฟเฟนดี้เลย  และคนเหล่านั้นล้วนโหวตให้กับฉินฟาง  ทุกครั้งที่เขาขานชื่อฉินฟาง  จำนวนเม็ดเหงื่อบนศีรษะของเขาก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

 

ระยะห่างเดิมไม่กี่สิบเสียงถูกไล่เข้ามาในเวลาเพียงสามนาที  และของฉินฟางก็ดูจะมากกว่าเล็กน้อยแล้วด้วย

 

ไม่เพียงเท่านั้น  เหล่ากรรมการที่ยังลังเลว่าจะโหวตให้ใคร  ทันใดนั้นก็ตื่นตระหนกกับแถวที่เหยียดยาวนี้เช่นกัน

 

คนเหล่านั้นที่มาจากทุกชนชั้นอาชีพ  และไม่ได้รู้จักซึ่งกันและกันมาก่อน  แต่บัดนี้พวกเขาดูเหมือนกำลังจัดตั้งลัทธิขึ้น  และรวมกลุ่มกันด้วยความสมัครใจของตัวเอง  ซึ่งทำให้การชักจูงโดยชื่อเสียงของเอฟเฟนดี้นั้นแพ้ราบคาบไปในทันที

 

เรื่องนี้หมายความว่าอะไร?

 

นี่หมายความว่าบาร์บีคิวที่ฉินฟางทำนั้นอร่อยอย่างแน่นอน  และเห็นได้ชัดว่าอร่อยกว่าของเอฟเฟนดี้  พอคิดถึงเรื่องน่าเคลือบแคลงที่จู่ๆ ก็ประกาศจบการแข่งขันและเริ่มโหวต  ตอนนี้ทุกๆ อย่างดูกระจ่างชัดแล้ว

 

ในครั้งนี้ อาจเนื่องมาจากคนของหน่วยงานรัฐบาลเองก็โกงกินกันให้เห็นเยอะอยู่แล้ว  ทุกคนจึงรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากเพราะกระทั่งผู้จัดการแข่งขันยังคดโกง  เมื่อมีโอกาสที่จะสั่งสอนและฉีกหน้าคนโกง  คนพวกนี้ย่อมไม่ปล่อยไปแน่

 

ดังนั้นเหล่ากรรมการที่เดิมยังลังเลก็รู้ตัวเลือกของตัวเองในทันที  พวกเขาหยิบบัตรลงคะแนนมาอย่างมั่นใจ  และเข้าร่วมแถวยาวที่โหวตให้กับฉินฟาง

 

“76, 77… 85… 93!”

 

พิธีกรขานผลโหวตของฉินฟางอย่างไร้เรี่ยวแรง  จำนวนกรรมการทั้งหมดในที่นี้คือ 143 คน  ตอนแรกเริ่มเอฟเฟนดี้มีผลโหวตนำหน้าฉินฟางกว่าสี่สิบเสียง

 

แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปหลังจากคุณลุงทิ้งระเบิด

 

ในระยะเวลาสั้นๆ ไม่กี่นาที  คะแนนโหวตของฉินฟางก็ทะยานขึ้นจากเลขหลักเดียวไปยัง 93 เสียงในท้ายที่สุด  ส่วนเอฟเฟนดี้นั้นได้รับการโหวตเพียง 50 เสียง

 

93 ต่อ 50 เสียง

 

ผลออกมาแล้ว  และฉินฟางก็พลิกกลับมานำในคราเดียว  ทำให้ชนะไปอย่างท่วมท้น 43 เสียงเหนือเอฟเฟนดี้แชมป์บาร์บีคิวสามสมัยผู้มีชื่อเสียง

 

“เย้!  พวกเราชนะ  พวกเราชนะแล้ว!”

 

นับจากช่วงเวลาที่คุณลุงปรากฏตัวขึ้น  ถังเฟยเฟยก็ตกตะลึงจนกลายเป็นงุงงน  ยิ่งไปกว่านั้นการพลิกกลับในครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างฉับพลันจริงๆ  กว่าที่ถังเฟยเฟยจะได้สติก็หลังจากประกาศผลไปแล้ว  เธอร้องตะโกนอย่างเริงร่า  กระทั่งกอดฉินฟางโดยไม่รู้ตัว

 

สัมผัสจากอ้อมกอดของถังเฟยเฟย  ทำให้ฉินฟางรู้สึกว่าเลือดสูบฉีดไปทั่วร่างในทันที  ในฐานะที่เป็นหนุ่มบริสุทธิ์ผู้ยังไม่ประสีประสากับผู้หญิง  น้องชายตัวน้อยของฉินฟางจึงมีปฏิกิริยาขึ้นอย่างออกนอกหน้า...

 

 

……………………………..

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด