ตอนที่แล้วตอนที่ 43 เปี่ยมไปด้วยความอยากและตะกละตะกลาม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 45   เล่นใต้โต๊ะ

ตอนที่ 44   มาทีหลังดังกว่า


ตอนที่ 44   มาทีหลังดังกว่า

 

ผู้แปล  :  ThreeSwords

ปรับสำนวน  :  ThreeSwords

 

 

“ไม่เห็นต้องพูดเกินจริงขนาดนั้นเลย  ใช่มั้ย...”

 

ขณะที่ชายคนนั้นกำลังตั้งข้อสงสัย  เขาก็เห็นภาพเหตุการณ์ที่คนเจ็ดคนทำตัวเหมือนกับผีผู้หิวโหย  และรีบร้อนเข้าไปแย่งอาหารพร้อมกับตวาดว่า  พวกนั้นไม่แม้แต่จะใส่ใจว่าคนที่อยู่ข้างๆ เป็นเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชาย  และทำแค่ฉกชิงกันอย่างอิรุงตุงนัง

 

คนที่แย่งมาได้นั้นย่อมมีความสุขอย่างที่สุด  และเริ่มกินมันอย่างร่าเริง  การเคลื่อนไหว ลักษณะท่าทางและรายละเอียดอื่นเล็กๆ น้อยๆ เหล่านั้น  ล้วนบ่งบอกถึงเสน่ห์ของอาหารฉินฟาง

 

“เป็นไปไม่ได้!  อาหารของเขาแค่ดีกว่ามาตรฐานเล็กน้อยเท่านั้น  และพวกนั้นยังไม่ลองกินอาหารของเอฟเฟนดี้มาก่อน”

 

เขาไม่เชื่อว่าอาหารของฉินฟางจะอร่อยมากจนทำให้ผู้คนลืมเลือนสิ่งอื่น  เขาเพิ่งจะได้กินอาหารของเอฟเฟนดี้  และยังคงระลึกถึงรสชาตินั้นได้  ดังนั้นเขาจึงเกิดเหตุผลขึ้นในใจที่ว่าตัวเองคิดถูกในทันที

 

“สหายทั้งหลาย!  พวกเราไปถล่มเจ้าเอฟเฟนดี้กัน!”

 

คุณลุงให้การสนับสนุนฉินฟางเป็นอย่างมาก  หลังจากที่กินอาหารชุดสุดท้ายเสร็จ  เขาก็ตะโกนบอกสหายให้ร่วมกันเคียงบ่าเคียงไหล่ไปร่วมยังศึกแย่งอาหารแนวหน้า  และรีบเร่งไปยังฝั่งของเอฟเฟนดี้อย่างกระตือรือร้น

 

ผู้คนที่มาทีหลังรู้ว่าฉินฟางกับเอฟเฟนดี้แข่งขันทำอาหาร  แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะกลายเป็นสงครามกลุ่ม!

 

หลังจากแฟนพันธุ์แท้อาหารฉินฟางชุดแรกจากไป  ผู้คนจำนวนมากก็มาถึงในทันทีหลังจากนั้น  ฉินฟางจึงไม่มีเวลาที่จะได้พักเลย  และใช้ความเร็วสูงสุดของตัวเองเพื่อเตรียมทำอาหารชุดต่อไป  ก่อนที่จะวางมันลงในจานที่ถูกทำให้ว่างเปล่าโดยกลุ่มแฟนผู้คลั่งไคล้...

 

คนที่มาหลังจากนั้นเห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อฉินฟางจะเก่งจริงตั้งแต่อายุน้อยเช่นนี้  อย่างไรก็ตามพวกเขาก็นึกถึงภาพการกินของพวกที่เพิ่งจากไป  พวกเขามองหน้าซึ่งกันและกัน  มีบางคนบ่นพึมพำและลังเลที่จะลองมัน

 

“ทำไมไม่ลองดูล่ะ?”

 

ด้วยประโยคนั้น  ความลังเลของทุกคนก็หมดไป  และเข้าไปหยิบอาหารที่ตัวเองชอบ  จากนั้นก็เดินออกไปด้านข้างอย่างเงียบๆ และเอาอาหารใส่ลงไปในปาก  นี่เป็นเพราะพวกเขากลัวว่าถ้าต้องคายทิ้งเพราะรสชาติอันย่ำแย่แล้ว  ฉินฟางก็อาจแสดงอาการและทำอะไรบางอย่างกับพวกเขาก็เป็นได้

 

แต่เพียงแค่กัดลงไปคำเดียว  ทุกคนก็ตกตะลึง

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่แสดงตนว่าเป็นแฟนตัวยงของเอฟเฟนดี้เมื่อครู่นี้  เขานั้นตกใจจนเซ่อไปเลย  เพียงแค่เคี้ยวอาหารเบาๆ ก็ทำให้กลิ่นหอมและรสชาติอันน่ามหัศจรรย์พรั่งพรูออกมา

 

ทั้งๆ ที่เมื่อกี้นี้เขากลัวว่าจะได้กินอาหารรสชาติย่ำแย่  ก็เลยหยิบสะเต๊ะมาเพียงหนึ่งไม้  แต่หลังจากที่กัดไปหนึ่งคำ  เขากินก็หมดไปแล้วหนึ่งในสามของไม้  และอีกสองคำต่อมาทุกอย่างก็หมดสิ้นไป

 

“เยี่ยมมาก  โคตรอร่อยเลย!”

 

สะเต๊ะไม้นั้นลงไปอยู่ในกระเพาะของเขาแล้ว  แต่รสชาติกับกลิ่นอันหอมหวนยังคงหลงเหลืออยู่ในปาก  เขาดูดลิ้นของตัวเบาๆ และรู้สึกว่ารสชาติที่หลงเหลืออยู่นั้นช่างน่ามหัศจรรย์  เป็นอาหารที่ทำให้อยากจะกลืนกินแม้กระทั่งลิ้นของตัวเอง  ภายในใจร่ำร้องไปด้วยความปีติยินดี

 

อดีตแฟนตัวยงของเอฟเฟนดี้ไม่ได้เป็นคนเดียวที่ลองทาน  คนอื่นที่ลองทานก็มีปฏิกริยาแบบเดียวกัน  และใบหน้าของพวกเขาก็แสดงอาการตกใจกับรสชาตินี้  ก่อนที่ดวงตาของพวกเขาจะลุกวาวและมองตาโตไปยังจานที่ฉินฟางวางอาหารไว้

 

คนที่ไม่ได้ห่างจากหน้าเตาของฉินฟางรีบเข้าประจำที่ในทันที  และเลือกในตำแหน่งที่ได้เปรียบ  พวกเขาเห็นสิ่งที่กลุ่มของลุงคนนั้นทำก่อนหน้านี้แล้ว  ทำให้ในเวลานี้รู้สึกเสียดายมาก  เพราะถ้าพวกเขามากันให้เร็วกว่านี้  อย่างน้อยก็อาจจะได้กินจนอิ่มไปเกือบครึ่ง  ตอนนี้พวกเขาต้องรอจนกระทั่งมีส่วนเกินหลังจากคนอื่นได้ลองทาน  หรือไม่ก็บังเอิญได้มาสองสามไม้โดยอาศัยข้อได้เปรียบของตำแหน่งที่ยืน

 

ในระยะเวลาไม่นาน  ก็มีคนออกันเต็มอยู่ด้านหน้าของฝั่งฉินฟาง  และส่วนใหญ่เป็นคนที่ได้ทานอาหารของฉินฟางไปครั้งหนึ่งแล้ว  ส่วนคนมาทีหลังล้วนไม่รู้จักรสชาติจึงมีไม่มากที่เข้ามาลอง  ซึ่งเป็นแบบเดียวกับพวกที่มาแรกๆ ก็คือไม่ได้หยิบไปลองทานกันมากนัก  ของที่ฉินฟางทำส่วนมากจะถูกเอาไปโดยคนที่ได้ลองทานแล้ว

 

ชาวจีนมีพฤติกรรมประหลาดอย่างหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์  นั่นคือพวกเขาชอบที่จะทำตามฝูงชน

 

โดยไม่ได้ใส่ใจว่าอาหารของฉินฟางจะดีหรือไม่  แต่ถ้ามีคนต่อแถวรอกินมันแล้ว  คนส่วนใหญ่ย่อมคิดว่ามันดีแน่ๆ  นอกจากนี้ยิ่งแถวยาวเท่าไหร่แสดงว่าอาหารก็ต้องดีมากเท่านั้น  นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมตอนแรกฝั่งของเอฟเฟนดี้ถึงเต็มไปด้วยผู้คน  ในขณะที่ของฉินฟางมีเพียงแปดคน

 

เมื่อมีคนมาอออยู่ฝั่งของฉินฟางมากขึ้น  และทุกคนที่กำลังกินอาหารของฉินฟางก็ทำท่าเหมือนกับว่ามันอร่อยมาก  คนส่วนใหญ่จึงคิดว่าอาหารนี่จะต้องดีจริงแน่ๆ  จึงเริ่มต่อคิวด้วยเช่นกัน

 

ตอนนี้ฝั่งของฉินฟางเต็มไปด้วยผู้คน  จนเมื่ออดีตแฟนอาหารตัวยงของเอฟเฟนดี้กลับมา  ก็พบว่าเขาไม่มีทางแทรกตัวกลับเข้าไปได้อีกเลย

 

“สหาย  คุณลองทานแล้วใช่ไหม?  รสชาติเป็นไงบ้าง?  ถ้าไม่อร่อยฉันจะได้ไปต่อคิวที่ฝั่งเอฟเฟนดี้อีกรอบ...”

 

คนที่มาทีหลังบังเอิญเห็นคนที่มาก่อนหน้าซึ่งเคยตะโกนสนับสนุนเอฟเฟนดี้เสียงดัง  ก็เลยดึงตัวเขามาและถามเกี่ยวกับอาหารของฉินฟาง  คนที่ถามนั้นค่อนข้างอยู่ในตำแหน่งที่ดีสำหรับการเข้าไปหยิบอาหารของฉินฟาง

 

“อืมมม  อย่าให้พูดเลย  มันห่วยมาก!  ผมแนะนำให้คุณรีบกลับไปกินของเอฟเฟนดี้...”

 

พอเห็นชายคนนั้นอยู่ในตำแหน่งที่ดีเช่นนี้  อดีตแฟนตัวยงของเอฟเฟนดี้ก็นึกอะไรบางอย่างออก  และตอบคำถามกลับไปด้วยท่าทางเจ็บใจ

 

“แย่ขนาดนั้นเชียว?  งั้นก็ลืมที่ถามเถอะ  ฉันจะกลับไปต่อคิวที่เดิมล่ะกัน...”

 

ชายคนนั้นไม่ได้คิดอะไรมาก  หลังจากได้ยินจากแฟนอาหารของเอฟเฟนดี้ว่าอาหารของฉินฟางแย่  ก็ไม่ได้สงสัยและออกมาจากตำแหน่งที่ดีของเขา  เตรียมที่จะกลับไปยังฝั่งของเอฟเฟนดี้

 

ทันทีที่ชายคนนั้นถอยออกมา  อดีตแฟนอาหารตัวยงของเอฟเฟนดี้ก็รีบร้อนแทรกเข้าไปสุดตัวในทันที  เพราะกลัวว่าถ้าเขาชักช้า  ตำแหน่งนี้จะถูกแย่งไป

 

“เฮ้  คุณ?  คุณกำลังทำอะไรน่ะ?”

 

เพียงแต่ในขณะที่ชายซึ่งถูกล่อลวงคนนั้นกำลังจะจากไป  เขาก็หันหน้ากลับมาและพบว่าคนที่พูดว่าอาหารของฉินฟางแย่นั้นแย่งที่ของเขาไป  ดังนั้นชายผู้ถูกล่อลวงจึงรีบแตะไหล่อดีตแฟนอาหารตัวยงของเอฟเฟนดี้ในทันที  และถามด้วยท่าทีตกใจ

 

“แหะๆ ขอโทษด้วยนะ...  อาหารนี่มันอร่อยมากเกินไป  ก็เลยอดไม่ได้ที่จะ...”

 

อดีตแฟนตัวยงของเอฟเฟนดี้พูดด้วยใบหน้าที่เก้อเขิน  และไม่ลืมที่จะกล่าวขอโทษต่อสิ่งที่เขาทำไปเมื่อครู่นี้

 

“ไม่ต้องกังวลไป  คุณจะได้ส่วนแบ่งจากอะไรก็ตามที่ผมเอามาได้แน่ๆ ...”

 

ในขณะที่เขาพูดจบนั้น  ฉินฟางก็ได้ทำอาหารชุดใหม่เสร็จแล้ว  อดีตแฟนอาหารเอฟเฟนดี้จึงยื่นมือเข้าไปแย่งชิงอาหารนั่นอย่างรีบร้อน  ปล่อยให้ชายซึ่งโดนโกงตำแหน่งยืนที่ดีของตัวเองไปยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความมึนงง  สุดท้ายผ่านไปพักใหญ่ชายคนนั้นก็ได้สติ  จึงตระหนักได้ว่าเขาโดนโกง  และตะโกนเสียงดังว่า  “พวกแซงคิว!”

 

“สหาย  อย่างเพิ่งโมโห! ลองนี่ก่อน!  ผมต่อสู้อย่างลำบากเพื่อให้ได้มันมา  สิ่งนี้คืออาหารที่คุณสมควรเรียกมันว่าบาร์บีคิว!  ของเอฟเฟนดี้มันคือขยะชัดๆ!”

 

อดีตแฟนอาหารตัวยงของเอฟเฟนดี้เป็นคนรักษาคำพูดอย่างคาดไม่ถึง  ถึงแม้จะแย่งมาได้ไม่กี่ไม้หลังจากที่ใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก  แต่เขาก็ยังเหลือไว้ไม้หนึ่งให้กับชายคนนั้น

 

ชายคนนั้นไม่ได้คิดเล็กคิดน้อย  และรับอาหารไม้นั้นไปทาน  ปฏิกิริยาตอบสนองของเขาเป็นแบบเดียวกับคนอื่นที่ได้กินในทีแรก  ตาโตและเลียปากเพื่อรำลึกถึงรสชาตินั้นหลังจากกินเสร็จ

 

“เป็นยังไงบ้าง สหาย?  ผมไม่ได้โกหกคุณใช่มั้ยล่ะ?”

 

อดีตแฟนตัวยงของเอฟเฟนดี้พูดราวกับว่าเขากำลังพยายามทำความดีบางอย่าง

 

“ไม่ต้องพูดแล้ว!  แน่นอนว่ามันอร่อย!  แมร่งเอ้ย  ทำไมคุณยังยืนอยู่ที่นั่นล่ะ  รีบกลับไปแย่งมาเพิ่มอีก!  เปิดทางให้ฉันเร็วเข้า  ฉันจะเข้าไปร่วมด้วย!”

 

ฉินฟางทำอาหารจนรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นเหมือนกับเครื่องผลิต  แต่เมื่อเห็นอาหารของเขาเป็นที่ชื่นชอบเช่นนี้  ถึงแม้ว่าเขายังไม่ได้ลองทานของตัวเอง  ฉินฟางก็ยังรู้สึกมีความสุขอย่างที่สุด

 

 

……………………………..

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด