ตอนที่แล้วตอนที่ 35   ป่วนประสาทเล็กน้อย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 37   ทักษะระดับกลาง [ปิ้งย่าง]

ตอนที่ 36   วางก้าม


ตอนที่ 36   วางก้าม

 

ผู้แปล  :  ThreeSwords

ปรับสำนวน  :  ThreeSwords

 

 

“สวัสดีค่ะท่านลูกค้า  พร้อมที่จะสั่งหรือยังคะ?  ที่รีสอร์ทของเรามีเนื้อหมู วัว แกะ ไก่ เป็ด ปลา ปู และเนื้อสดอื่นๆ  เรามีผักทุกประเภทที่เหมาะสำหรับการย่าง เช่น...  และอีกมากมาย  ท่านลูกค้าสามารถเลือกทุกอย่างคละกันได้ตามอิสระ  อุปกรณ์ที่ใช้ในการย่างทั้งหมดไม่คิดค่าบริการค่ะ”

 

“และถ้าท่านสุภาพสตรีไม่ต้องการให้เสื้อผ้าหรือผิวโดนน้ำมันกระเด็นใส่และสัมผัสกับควันแล้ว  ท่านสามารถให้มืออาชีพในการทำบาร์บีคิวมาจัดการแทน  และท่ามกลางเชฟมืออาชีพซึ่งเชี่ยวชาญทักษะด้านนี้เป็นพิเศษ  เรามีเชฟเอฟเฟนดี้ที่ชนะเลิศการแข่งขันปิ้งบาร์บีคิวในเทศกาลอาหารเมืองหนิงไห่สามปีซ้อน”

 

“นี่เมนูค่ะ  โปรดเลือกสิ่งที่ท่านลูกค้าต้องการ  ถ้าท่านลูกค้าต้องการให้มืออาชีพมาย่างให้  กรุณาแจ้งก่อน  ทางเราจะได้เตรียมตัวให้พร้อมค่ะ”

 

บริกรหญิงค่อนข้างทุ่มเทให้กับงานเธอ  และแจ้งรายละเอียดพร้อมกับนำเสนอบริการในส่วนของบาร์บีคิวอย่างสุภาพมากเมื่อเธอเข้ามาสอบถามรอรับออเดอร์  คำอธิบายที่ชัดเจนของเธอทำให้ทั้งกลุ่มรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ทำการย่างบาร์บีคิว

 

คนในกลุ่มนอกจากฉินฟางล้วนเติบโตในเมืองใหญ่  พวกเขาเคยกินบาร์บีคิวมาก่อน  แต่ไม่เคยที่จะทำการปิ้งย่างพวกมัน...  ดังนั้นพวกเขาจึงสนใจที่จะทำมันจริงๆ  กระทั่งเริ่มที่จะอาสาปิ้งย่างเพื่อโชว์ออฟแฟนสาว

 

เหล่าหญิงสาวมองไปยังแฟนหนุ่มของพวกเธอ  กระทั่งถังเฟยเฟยก็ไม่เว้น  เธอมองไปที่ฉินฟางด้วยสายตาซึ่งเต็มไปด้วยความคาดหวัง

 

“บริกร  ไปเรียกผู้จัดการมาที่นี่หน่อยสิ!”

 

อย่างไรก็ตามก่อนที่เหล่าหญิงสาวซึ่งเป็นผู้วางแผนจัดงานจะเริ่มสั่งออเดอร์  ทันใดนั้นหลี่เฟิงที่นั่งโดดเดี่ยวอยู่ด้านข้างก็สั่งการบริกรหญิงด้วยท่าทางหยิ่งยโส

 

ใบหน้าของคนในกลุ่มแข็งค้างไปในทันที  หลี่เฟิงนั้นไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความเกรงใจพวกเขาเกี่ยวกับสิ่งที่ทำลงไปเลย  แต่พวกเขาทำได้เพียงเบ้ปากและไม่ได้พูดอะไรเลยกับเรื่องความหยาบคาบของหลี่เฟิง

 

“ค่ะคุณลูกค้า  และถ้าคุณลูกค้ามีความต้องการอื่นอีก  สามารถแจ้งดิฉันได้เลยค่ะ”

 

บริกรหญิงผู้น่ารักนั้นเรียบร้อยและเป็นมืออาชีพในงานของเธอมาก  กระทั่งเรื่องที่หลี่เฟิงแสดงความหยาบคายออกมา  เธอยังคงตอบกลับอย่างสุภาพมาก

 

“ถ้าฉันต้องการให้เธอไปเรียกให้เอฟเฟนดี้มาย่างให้  เธอทำได้ไหมล่ะ?”

 

หลี่เฟิงเหลือบมองบริกรหญิง  และพูดอย่างไม่พึงพอใจ

 

“ลานบาร์บีคิวแห่งนี้หลี่เสี่ยวหลงดูแลใช่ไหม?  ไปเรียกเขามา”

 

ตอนนี้บริกรหญิงตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก  คนที่สามารถพูดชื่อของผู้จัดการได้ตรงๆ นั้นมีจำนวนเล็กน้อย  และพิจารณาจากท่าทีของเขาแล้ว  สามารถบอกได้โดยไม่ต้องคิดว่าเขาเป็นลูกชายของผู้มีอิทธิพลบางคน  นอกจากนี้เอฟเฟนดี้เป็นหนึ่งในเชฟคนสำคัญของลานบาร์บีคิวนี้  ไม่ใช่ใครที่บริกรตัวเล็กๆ เช่นเธอจะสามารถไปสั่งได้

 

“กรุณาเตรียมออเดอร์ของคุณลูกค้าไว้นะคะ  ดิฉันจะรีบกลับมาในไม่ช้า”

 

โดยไม่มีทางเลือกอื่น  บริกรหญิงทำได้เพียงแจ้งกลุ่มของฉินฟางไว้  ก่อนที่จะรีบแยกตัวไปเรียกผู้จัดการ  การเคลื่อนไหวจากด้านหลังของเธอดูเซ็กซี่มาก  และทำให้หลี่เฟิงที่ไม่พอใจอยู่นั้นเกิดอารมณ์ขึ้นเล็กน้อยในทันที

 

“อืม  ฉันจะบอกให้หลี่เสี่ยวหลงส่งหญิงสาวคนนั้นไปที่ห้องคืนนี้...”

 

หลี่เฟิงแอบวางแผนดังกล่าวในใจ

 

ไม่นานหลังจากนั้น  บริกรหญิงก็นำชายวัยกลางคนที่ท่าทางอ่อนล้าและอ้วนมาที่กลุ่ม  เห็นได้ชัดว่าเขานั้นเป็นผู้จัดการ  แต่เมื่อเขาอยู่ห่างจากกลุ่มของฉินฟางยี่สิบสามสิบเมตร  ก็สังเกตเห็นร่างของหลี่เฟิงซึ่งกำลังนั่งอยู่ที่นั่น  จึงรีบเร่งฝีเท้าในทันที

 

“นายน้อยเฟิง  ทำไมท่านไม่บอกกระผมตอนที่มาถึงล่ะครับ?  กระผมจะได้ให้บริการเป็นการส่วนตัว!”

 

ผู้จัดการคนนี้มีไหวพริบ  ทันทีที่เขาเห็นหลี่เฟิงดูเหมือนจะอยู่โดดเดี่ยวคนเดียวในกลุ่ม  เขาก็รีบยกยอหลี่เฟิงและทำหน้าราวกับข้าทาสที่กำลังรับใช้เจ้านายในทันที

 

“ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น  บังเอิญว่าวันนี้ฉันเจอกับเพื่อนร่วมชั้น สองสามคน  ก็เลยมาด้วยกัน  แต่มีบางอย่างที่คุณสามารถทำให้ฉันได้  พา... ใครหว่า?  เอฟเฟนดี้มั้ง?  ใช่ใช่  พาเขามาย่างอาหารให้ฉันหน่อย”

 

ตั้งแต่มีใครบางคนกำลังเลียขาเขาอย่างหนัก  จึงเป็นธรรมดาที่หลี่เฟิงจะรับความปรารถนาดีและออกคำสั่งคนอ้วนหลี่ในทันที  คนอ้วนหลี่ผงกหัวอย่างแรงและพร้อมจะทำตามที่หลี่เฟิงบอกทั้งหมด  เขารู้อย่างชัดแจ้งว่าถ้าได้รับการสับสนุนจากหลี่เฟิงแล้ว  การเลื่อนตำแหน่งของเขาก็อยู่อีกไม่ไกล

 

“ครอบครัวของฉันมีหุ้นบางส่วนในรีสอร์ทนี่  ดังนั้นแล้ว...  อดีตเพื่อนร่วมห้องทั้งหลาย  พวกเธอสามารถสั่งอะไรก็ได้ที่อยากกิน  ฉันเลี้ยง  เฟยเฟย  ถ้าเธอต้องการอะไร  แค่บอกฉันมา  ไม่จำเป็นต้องเกรงใจนะ”

 

หลังจากหลี่เฟิงสั่งการคนอ้วนหลี่เสร็จ  เขาก็หันหน้ามาพูดกับคนในกลุ่ม  โดยเฉพาะฉินฟางด้วยท่าทางจองหอง  ก่อนที่จะพยายามเอาใจถังเฟยเฟยอย่างมีความสุข

 

“ไม่จำเป็น  นายเลี้ยงพวกนั้นเถอะ  สำหรับฉันกับเฟยเฟย  ให้ทำบิลแยกของที่กินต่างหาก  พวกฉันจะจ่ายเอง”

 

อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าทุกคนจะไว้หน้าหลี่เฟิง  อย่างน้อยก็ไม่ใช่ฉินฟาง  ก่อนจะถังเฟยเฟยจะพูดปฏิเสธข้อเสนอของหลี่เฟิงด้วยตัวเอง  ฉินฟางก็พูดปฏิเสธออกไปก่อนแล้ว  กระทั่งพูดแทนให้ถังเฟยเฟยด้วย

 

“อย่างนั้นเรอะ?  ฉันได้ยินว่าค่าใช้จ่ายที่นี่ไม่ถูกเลยนะ  นายจ่ายไหวงั้นเหรอ?  ไม่ใช่ว่ากำลังวางแผนให้ถังเฟยเฟยเป็นคนจ่ายหรอกใช่ไหม?”

 

การปฏิเสธของฉินฟางเหมือนกับเป็นการตบหน้าหลี่เฟิง  ไม่ว่าหลี่เฟิงจะสามารถวบคุมตัวเองได้ดีขนาดไหน  เขาก็ยังรู้สึกโกรธเล็กน้อยจากการถูกลูบคม  ใบหน้าของเขาในเวลานี้มีรอยยิ้มที่ยียวน  และน้ำเสียงก็กลายเป็นเย็นชาด้วยเช่นกัน

 

อย่างไรก็ตามตอนที่หลี่เฟิงพูดออกไปอย่างนั้น  ถึงแม้เขาวางแผนที่จะสบประมาทฉินฟาง  แต่ก็ยังทำให้คนอื่นในกลุ่มไม่พอใจด้วย  เพราะถ้าพวกเขายอมให้หลี่เฟิงเลี้ยง  ไม่ใช่เป็นการยอมรับว่าพวกเขาไม่สามารถจ่ายเงินค่าอาหารที่นี่ได้งั้นเหรอ?

 

ฟางหมินกับจางถิงเป็นลูกของเจ้าหน้าที่รัฐ  พ่อของพวกเขาอยู่ในแวดวงการต่อสู้ทางการเมือง  และรู้ดีว่าหลี่เฟิงไม่สามารถล่วงเกินได้  แม้ว่าจะไม่พอใจ  แต่พวกเขาไม่มีทางเลือกที่จำต้องอดทน  และคอยห้ามแฟนสาวของตัวเองด้วย

 

“ถ้าคุณชายหลี่มีน้ำใจจะเลี้ยงดูปูเสื่อพวกเรา  ผมก็ไม่ควรที่จะปฏิเสธ  แต่ผมยังมีความภาคภูมิใจในฐานะลูกผู้ชายที่ต้องรักษาไว้เมื่ออยู่ต่อหน้าแฟนของตัวเอง  ดังนั้นผมก็จะจ่ายเงินค่าอาหารเองเช่นกัน”

 

เพราะซุนซูไม่ใช่คนเมืองหนิงไห่  เขาไม่จำเป็นต้องอดกลั้นต่อความเอาแต่ใจของหลี่เฟิง  ในทางกลับกันซุนซูรู้สึกประทับใจในตัวของฉินฟาง  จึงตัดสินใจที่จะช่วยฉินฟางตอกกลับหลี่เฟิงด้วย  ส่วนลี่เหยาเองก็สนับสนุนแฟนของเธออย่างเงียบๆ

 

สำหรับถังเฟยเฟย  เป็นธรรมดาที่เธอจะคล้อยตามฉินฟาง  โดยที่ไม่ต้องเอ่ยอะไร  เธอก็ขยับตัวเข้าไปใกล้ฉินฟางอีกเล็กน้อย  แสดงให้เห็นถึงจุดยืนของเธอในเรื่องนี้

 

“หลี่เฟิงคนนี้... จิตใจคับแคบจริงๆ”

 

ในขณะเดียวกันตัวตนของหลี่เฟิงในสายตาถังเฟยเฟยที่ไม่ดีอยู่แล้วในทีแรกก็ยิ่งลดค่าต่ำลง  จากนั้นเธอมองไปยังฉินฟาง  ถึงแม้ว่าฐานะของครอบครัวเขาไม่ดี  แต่หลังจากได้รู้จักเขามาอย่างยาวนาน  นอกจากฐานะครอบครัวที่สู้ของหลี่เฟิงไม่ได้  ฉินฟางดีกว่าหลี่เฟิงในทุกด้าน

 

ทั่วไปแล้วหญิงสาวทุกคนอย่างน้อยย่อมมีคนที่พวกเธอชอบพอ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกับถังเฟยเฟย

 

จริงๆ แล้วเธออุปโลกน์ให้ฉินฟางมาเป็น ‘แฟน’ เพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาจีบ  แต่ตอนนี้เมื่อเธอมองมาที่เขา  ก็รู้สึกว่าฉินฟางคู่ควรจะเป็นแฟนของเธอ  แค่นิดหน่อยนะ

 

พอคิดย้อนกลับไปถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เช้าจนมาถึงตอนนี้  ถูกเธอตบหน้า  ทำราเม็งแสนอร่อยให้กับเธอ  ขี่จักรยานมาส่งเธอที่นี่  ช่วยเธอจากการรุกคืบของหลี่เฟิง...  หลังจากระลึกถึงสิ่งที่ฉินฟางทำแล้ว  ถังเฟยเฟยก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาเล็กน้อย

 

“ช่างเถอะ  ไปเดินเล่นกัน...  และนายควรจะเรียนวิธีทำบาร์บีคิวด้วย  อย่าทำให้ฉันขายหน้าต่อหน้าเพื่อนๆ !”

 

ขณะที่พวกเขาพูดจากันนั้น  ต่อให้บอกไม่ได้ว่ากำลังจะต่อสู้กัน  แต่ความจริงที่ฉินฟางกับหลี่เฟิงเป็นศัตรูกันสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน  ถังเฟยเฟยกังวลว่าฉินฟางอาจจะเสียเปรียบได้  เพราะที่แห่งนี้หลี่เฟิงเป็นเจ้าของสถานที่  ดังนั้นเธอจึงดึงตัวฉินฟางออกไปเดินเล่น

 

“แกไปเตรียมของก่อนได้เลย”

 

เรื่องนี้ยิ่งทำให้หลี่เฟิงรู้สึกหงุดหงิดและเกลียดฉินฟางมากยิ่งขึ้น  การอาละวาดยิ่งไม่ใช่ทางเลือก  เขาจึงแค่โบกมือให้คนอ้วนหลี่ไปจัดการเตรียมของ

 

“ฉินฟาง  แล้วเราจะได้เห็นกัน...”

 

ใจของหลี่เฟิงกำลังถูกเผาไหม้ด้วยไฟแค้น  และตาของเขาก็กรอกไปมาอย่างต่อเนื่อง  แสดงให้เห็นว่าเขากำลังคิดวิธีที่น่ารังเกียจเพื่อมาจัดการกับฉินฟางอีกครั้ง

 

 

……………………………..

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด