ตอนที่ 36 วางก้าม
ตอนที่ 36 วางก้าม
ผู้แปล : ThreeSwords
ปรับสำนวน : ThreeSwords
“สวัสดีค่ะท่านลูกค้า พร้อมที่จะสั่งหรือยังคะ? ที่รีสอร์ทของเรามีเนื้อหมู วัว แกะ ไก่ เป็ด ปลา ปู และเนื้อสดอื่นๆ เรามีผักทุกประเภทที่เหมาะสำหรับการย่าง เช่น... และอีกมากมาย ท่านลูกค้าสามารถเลือกทุกอย่างคละกันได้ตามอิสระ อุปกรณ์ที่ใช้ในการย่างทั้งหมดไม่คิดค่าบริการค่ะ”
“และถ้าท่านสุภาพสตรีไม่ต้องการให้เสื้อผ้าหรือผิวโดนน้ำมันกระเด็นใส่และสัมผัสกับควันแล้ว ท่านสามารถให้มืออาชีพในการทำบาร์บีคิวมาจัดการแทน และท่ามกลางเชฟมืออาชีพซึ่งเชี่ยวชาญทักษะด้านนี้เป็นพิเศษ เรามีเชฟเอฟเฟนดี้ที่ชนะเลิศการแข่งขันปิ้งบาร์บีคิวในเทศกาลอาหารเมืองหนิงไห่สามปีซ้อน”
“นี่เมนูค่ะ โปรดเลือกสิ่งที่ท่านลูกค้าต้องการ ถ้าท่านลูกค้าต้องการให้มืออาชีพมาย่างให้ กรุณาแจ้งก่อน ทางเราจะได้เตรียมตัวให้พร้อมค่ะ”
บริกรหญิงค่อนข้างทุ่มเทให้กับงานเธอ และแจ้งรายละเอียดพร้อมกับนำเสนอบริการในส่วนของบาร์บีคิวอย่างสุภาพมากเมื่อเธอเข้ามาสอบถามรอรับออเดอร์ คำอธิบายที่ชัดเจนของเธอทำให้ทั้งกลุ่มรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ทำการย่างบาร์บีคิว
คนในกลุ่มนอกจากฉินฟางล้วนเติบโตในเมืองใหญ่ พวกเขาเคยกินบาร์บีคิวมาก่อน แต่ไม่เคยที่จะทำการปิ้งย่างพวกมัน... ดังนั้นพวกเขาจึงสนใจที่จะทำมันจริงๆ กระทั่งเริ่มที่จะอาสาปิ้งย่างเพื่อโชว์ออฟแฟนสาว
เหล่าหญิงสาวมองไปยังแฟนหนุ่มของพวกเธอ กระทั่งถังเฟยเฟยก็ไม่เว้น เธอมองไปที่ฉินฟางด้วยสายตาซึ่งเต็มไปด้วยความคาดหวัง
“บริกร ไปเรียกผู้จัดการมาที่นี่หน่อยสิ!”
อย่างไรก็ตามก่อนที่เหล่าหญิงสาวซึ่งเป็นผู้วางแผนจัดงานจะเริ่มสั่งออเดอร์ ทันใดนั้นหลี่เฟิงที่นั่งโดดเดี่ยวอยู่ด้านข้างก็สั่งการบริกรหญิงด้วยท่าทางหยิ่งยโส
ใบหน้าของคนในกลุ่มแข็งค้างไปในทันที หลี่เฟิงนั้นไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความเกรงใจพวกเขาเกี่ยวกับสิ่งที่ทำลงไปเลย แต่พวกเขาทำได้เพียงเบ้ปากและไม่ได้พูดอะไรเลยกับเรื่องความหยาบคาบของหลี่เฟิง
“ค่ะคุณลูกค้า และถ้าคุณลูกค้ามีความต้องการอื่นอีก สามารถแจ้งดิฉันได้เลยค่ะ”
บริกรหญิงผู้น่ารักนั้นเรียบร้อยและเป็นมืออาชีพในงานของเธอมาก กระทั่งเรื่องที่หลี่เฟิงแสดงความหยาบคายออกมา เธอยังคงตอบกลับอย่างสุภาพมาก
“ถ้าฉันต้องการให้เธอไปเรียกให้เอฟเฟนดี้มาย่างให้ เธอทำได้ไหมล่ะ?”
หลี่เฟิงเหลือบมองบริกรหญิง และพูดอย่างไม่พึงพอใจ
“ลานบาร์บีคิวแห่งนี้หลี่เสี่ยวหลงดูแลใช่ไหม? ไปเรียกเขามา”
ตอนนี้บริกรหญิงตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก คนที่สามารถพูดชื่อของผู้จัดการได้ตรงๆ นั้นมีจำนวนเล็กน้อย และพิจารณาจากท่าทีของเขาแล้ว สามารถบอกได้โดยไม่ต้องคิดว่าเขาเป็นลูกชายของผู้มีอิทธิพลบางคน นอกจากนี้เอฟเฟนดี้เป็นหนึ่งในเชฟคนสำคัญของลานบาร์บีคิวนี้ ไม่ใช่ใครที่บริกรตัวเล็กๆ เช่นเธอจะสามารถไปสั่งได้
“กรุณาเตรียมออเดอร์ของคุณลูกค้าไว้นะคะ ดิฉันจะรีบกลับมาในไม่ช้า”
โดยไม่มีทางเลือกอื่น บริกรหญิงทำได้เพียงแจ้งกลุ่มของฉินฟางไว้ ก่อนที่จะรีบแยกตัวไปเรียกผู้จัดการ การเคลื่อนไหวจากด้านหลังของเธอดูเซ็กซี่มาก และทำให้หลี่เฟิงที่ไม่พอใจอยู่นั้นเกิดอารมณ์ขึ้นเล็กน้อยในทันที
“อืม ฉันจะบอกให้หลี่เสี่ยวหลงส่งหญิงสาวคนนั้นไปที่ห้องคืนนี้...”
หลี่เฟิงแอบวางแผนดังกล่าวในใจ
ไม่นานหลังจากนั้น บริกรหญิงก็นำชายวัยกลางคนที่ท่าทางอ่อนล้าและอ้วนมาที่กลุ่ม เห็นได้ชัดว่าเขานั้นเป็นผู้จัดการ แต่เมื่อเขาอยู่ห่างจากกลุ่มของฉินฟางยี่สิบสามสิบเมตร ก็สังเกตเห็นร่างของหลี่เฟิงซึ่งกำลังนั่งอยู่ที่นั่น จึงรีบเร่งฝีเท้าในทันที
“นายน้อยเฟิง ทำไมท่านไม่บอกกระผมตอนที่มาถึงล่ะครับ? กระผมจะได้ให้บริการเป็นการส่วนตัว!”
ผู้จัดการคนนี้มีไหวพริบ ทันทีที่เขาเห็นหลี่เฟิงดูเหมือนจะอยู่โดดเดี่ยวคนเดียวในกลุ่ม เขาก็รีบยกยอหลี่เฟิงและทำหน้าราวกับข้าทาสที่กำลังรับใช้เจ้านายในทันที
“ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น บังเอิญว่าวันนี้ฉันเจอกับเพื่อนร่วมชั้น สองสามคน ก็เลยมาด้วยกัน แต่มีบางอย่างที่คุณสามารถทำให้ฉันได้ พา... ใครหว่า? เอฟเฟนดี้มั้ง? ใช่ใช่ พาเขามาย่างอาหารให้ฉันหน่อย”
ตั้งแต่มีใครบางคนกำลังเลียขาเขาอย่างหนัก จึงเป็นธรรมดาที่หลี่เฟิงจะรับความปรารถนาดีและออกคำสั่งคนอ้วนหลี่ในทันที คนอ้วนหลี่ผงกหัวอย่างแรงและพร้อมจะทำตามที่หลี่เฟิงบอกทั้งหมด เขารู้อย่างชัดแจ้งว่าถ้าได้รับการสับสนุนจากหลี่เฟิงแล้ว การเลื่อนตำแหน่งของเขาก็อยู่อีกไม่ไกล
“ครอบครัวของฉันมีหุ้นบางส่วนในรีสอร์ทนี่ ดังนั้นแล้ว... อดีตเพื่อนร่วมห้องทั้งหลาย พวกเธอสามารถสั่งอะไรก็ได้ที่อยากกิน ฉันเลี้ยง เฟยเฟย ถ้าเธอต้องการอะไร แค่บอกฉันมา ไม่จำเป็นต้องเกรงใจนะ”
หลังจากหลี่เฟิงสั่งการคนอ้วนหลี่เสร็จ เขาก็หันหน้ามาพูดกับคนในกลุ่ม โดยเฉพาะฉินฟางด้วยท่าทางจองหอง ก่อนที่จะพยายามเอาใจถังเฟยเฟยอย่างมีความสุข
“ไม่จำเป็น นายเลี้ยงพวกนั้นเถอะ สำหรับฉันกับเฟยเฟย ให้ทำบิลแยกของที่กินต่างหาก พวกฉันจะจ่ายเอง”
อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าทุกคนจะไว้หน้าหลี่เฟิง อย่างน้อยก็ไม่ใช่ฉินฟาง ก่อนจะถังเฟยเฟยจะพูดปฏิเสธข้อเสนอของหลี่เฟิงด้วยตัวเอง ฉินฟางก็พูดปฏิเสธออกไปก่อนแล้ว กระทั่งพูดแทนให้ถังเฟยเฟยด้วย
“อย่างนั้นเรอะ? ฉันได้ยินว่าค่าใช้จ่ายที่นี่ไม่ถูกเลยนะ นายจ่ายไหวงั้นเหรอ? ไม่ใช่ว่ากำลังวางแผนให้ถังเฟยเฟยเป็นคนจ่ายหรอกใช่ไหม?”
การปฏิเสธของฉินฟางเหมือนกับเป็นการตบหน้าหลี่เฟิง ไม่ว่าหลี่เฟิงจะสามารถวบคุมตัวเองได้ดีขนาดไหน เขาก็ยังรู้สึกโกรธเล็กน้อยจากการถูกลูบคม ใบหน้าของเขาในเวลานี้มีรอยยิ้มที่ยียวน และน้ำเสียงก็กลายเป็นเย็นชาด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามตอนที่หลี่เฟิงพูดออกไปอย่างนั้น ถึงแม้เขาวางแผนที่จะสบประมาทฉินฟาง แต่ก็ยังทำให้คนอื่นในกลุ่มไม่พอใจด้วย เพราะถ้าพวกเขายอมให้หลี่เฟิงเลี้ยง ไม่ใช่เป็นการยอมรับว่าพวกเขาไม่สามารถจ่ายเงินค่าอาหารที่นี่ได้งั้นเหรอ?
ฟางหมินกับจางถิงเป็นลูกของเจ้าหน้าที่รัฐ พ่อของพวกเขาอยู่ในแวดวงการต่อสู้ทางการเมือง และรู้ดีว่าหลี่เฟิงไม่สามารถล่วงเกินได้ แม้ว่าจะไม่พอใจ แต่พวกเขาไม่มีทางเลือกที่จำต้องอดทน และคอยห้ามแฟนสาวของตัวเองด้วย
“ถ้าคุณชายหลี่มีน้ำใจจะเลี้ยงดูปูเสื่อพวกเรา ผมก็ไม่ควรที่จะปฏิเสธ แต่ผมยังมีความภาคภูมิใจในฐานะลูกผู้ชายที่ต้องรักษาไว้เมื่ออยู่ต่อหน้าแฟนของตัวเอง ดังนั้นผมก็จะจ่ายเงินค่าอาหารเองเช่นกัน”
เพราะซุนซูไม่ใช่คนเมืองหนิงไห่ เขาไม่จำเป็นต้องอดกลั้นต่อความเอาแต่ใจของหลี่เฟิง ในทางกลับกันซุนซูรู้สึกประทับใจในตัวของฉินฟาง จึงตัดสินใจที่จะช่วยฉินฟางตอกกลับหลี่เฟิงด้วย ส่วนลี่เหยาเองก็สนับสนุนแฟนของเธออย่างเงียบๆ
สำหรับถังเฟยเฟย เป็นธรรมดาที่เธอจะคล้อยตามฉินฟาง โดยที่ไม่ต้องเอ่ยอะไร เธอก็ขยับตัวเข้าไปใกล้ฉินฟางอีกเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงจุดยืนของเธอในเรื่องนี้
“หลี่เฟิงคนนี้... จิตใจคับแคบจริงๆ”
ในขณะเดียวกันตัวตนของหลี่เฟิงในสายตาถังเฟยเฟยที่ไม่ดีอยู่แล้วในทีแรกก็ยิ่งลดค่าต่ำลง จากนั้นเธอมองไปยังฉินฟาง ถึงแม้ว่าฐานะของครอบครัวเขาไม่ดี แต่หลังจากได้รู้จักเขามาอย่างยาวนาน นอกจากฐานะครอบครัวที่สู้ของหลี่เฟิงไม่ได้ ฉินฟางดีกว่าหลี่เฟิงในทุกด้าน
ทั่วไปแล้วหญิงสาวทุกคนอย่างน้อยย่อมมีคนที่พวกเธอชอบพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกับถังเฟยเฟย
จริงๆ แล้วเธออุปโลกน์ให้ฉินฟางมาเป็น ‘แฟน’ เพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาจีบ แต่ตอนนี้เมื่อเธอมองมาที่เขา ก็รู้สึกว่าฉินฟางคู่ควรจะเป็นแฟนของเธอ แค่นิดหน่อยนะ
พอคิดย้อนกลับไปถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เช้าจนมาถึงตอนนี้ ถูกเธอตบหน้า ทำราเม็งแสนอร่อยให้กับเธอ ขี่จักรยานมาส่งเธอที่นี่ ช่วยเธอจากการรุกคืบของหลี่เฟิง... หลังจากระลึกถึงสิ่งที่ฉินฟางทำแล้ว ถังเฟยเฟยก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาเล็กน้อย
“ช่างเถอะ ไปเดินเล่นกัน... และนายควรจะเรียนวิธีทำบาร์บีคิวด้วย อย่าทำให้ฉันขายหน้าต่อหน้าเพื่อนๆ !”
ขณะที่พวกเขาพูดจากันนั้น ต่อให้บอกไม่ได้ว่ากำลังจะต่อสู้กัน แต่ความจริงที่ฉินฟางกับหลี่เฟิงเป็นศัตรูกันสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ถังเฟยเฟยกังวลว่าฉินฟางอาจจะเสียเปรียบได้ เพราะที่แห่งนี้หลี่เฟิงเป็นเจ้าของสถานที่ ดังนั้นเธอจึงดึงตัวฉินฟางออกไปเดินเล่น
“แกไปเตรียมของก่อนได้เลย”
เรื่องนี้ยิ่งทำให้หลี่เฟิงรู้สึกหงุดหงิดและเกลียดฉินฟางมากยิ่งขึ้น การอาละวาดยิ่งไม่ใช่ทางเลือก เขาจึงแค่โบกมือให้คนอ้วนหลี่ไปจัดการเตรียมของ
“ฉินฟาง แล้วเราจะได้เห็นกัน...”
ใจของหลี่เฟิงกำลังถูกเผาไหม้ด้วยไฟแค้น และตาของเขาก็กรอกไปมาอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าเขากำลังคิดวิธีที่น่ารังเกียจเพื่อมาจัดการกับฉินฟางอีกครั้ง
……………………………..