ตอนที่ 35 ป่วนประสาทเล็กน้อย
ตอนที่ 35 ป่วนประสาทเล็กน้อย
ผู้แปล : ThreeSwords
ปรับสำนวน : ThreeSwords
“ฉินฟาง...”
ถังเฟยเฟยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับท่าทีของฉินฟาง แต่ทันใดนั้นตาของเธอก็เปล่งประกาย
“หลี่เฟิง แฟนของฉันมาถึงแล้ว ฉันไม่สามารถรับดอกไม้ของคุณได้”
อาศัยโอกาสนี้ ถังเฟยเฟยได้เอียงตัวหันไปหาฉินฟางเล็กน้อยและทำการกอดแขนเขา หลังจากนั้นเธอพูดปฏิเสธช่อกุหลาบแสนสวยที่หลี่เฟิงกำลังจะมอบให้อย่างสุภาพ
“ห๊า...”
การปฏิเสธของถังเฟยเฟยอยู่ในความคาดหมายของหลี่เฟิง เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สถานการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้หลี่เฟิงตกใจจริงๆ นั้นคือการที่ถังเฟยเฟยกอดแขนฉินฟาง แสดงให้เห็นว่าพวกเขานั้นใกล้ชิดกันขนาดไหน และกระทั่งพูดออกมาตรงๆ ว่าฉินฟางเป็นแฟนของเธอ
อย่างไรก็ตามเขารู้จักถังเฟยเฟยเป็นอย่างดี และอนุมานว่าเธอกำลังใช้ฉินฟางเป็นโล่ห์เท่านั้น จึงไม่ได้รู้สึกเคร่งเครียดอะไรเมื่อถังเฟยเฟยพูดว่าฉินฟางเป็นแฟนของเธอ
“เข้าใจแล้ว... ผมบุ่มบ่ามเกินไป ลี่เหยา ผมให้ช่อดอกไม้นี้กับเธอล่ะกัน...”
โดยไม่คาดคิด หลี่เฟิงสงบนิ่งจนดูไม่เหมือนกับคนในวัยของเขา ถึงแม้ว่าจะมีประกายของความตกใจและความโกรธผ่านดวงตา แต่ใบหน้าของเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก เพียงพูดขอโทษอย่างสุภาพ และมอบช่อดอกไม้ให้กับลี่เหยาแทน
“เอ่อ... คือ... ฉันก็พาแฟนมาด้วยเหมือนกัน เลยรับดอกไม้พวกนี้ไม่ได้ ฉันกลัวว่าเขาจะเข้าใจผิด”
อย่างไรก็ตามแผนการก็เกิดสะดุด เขาคิดว่าลี่เหยาเต็มใจที่จะช่วยบรรเทาสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้ เขาไม่คาดเลยว่าลี่เหยาจะซ้ำเติมคนล้ม และทำให้เขาต้องอดทนกับความอึดอัดที่มากขึ้นแทน
“ช่างมันล่ะกัน”
ใบหน้าของหลี่เฟิงอึมครึมเล็กน้อย และถ้าไม่ใช่เป็นเพราะอยู่ต่อหน้าถังเฟยเฟยจนไม่อาจสติแตกได้ เขาคงจะก่นด่าไปแล้ว จากนั้นเขาก็อยากที่จะโยนช่อดอกไม้ซึ่งไร้คุณค่านี้ลงไปในถังขยะใกล้ๆ
“รอก่อน!”
แต่ขณะที่เขาจะลงมือทำอย่างนั้น ฉินฟางก็เริ่มพูด
“หลี่เฟิง ถ้านายไม่รังเกียจ ให้ดอกไม้ช่อนั้นกับผมได้ไหม?”
“นายต้องการดอกไม้พวกนั้นไปทำไมเหรอ?”
ถังเฟยเฟยรู้สึกตกใจ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นแฟนกันแค่ในนาม แต่ฉินฟางก็เป็นแฟนของเธอ ดังนั้นการกระทำของเขาในตอนนี้ทำให้ถังเฟยเฟยรู้สึกอับอายอยู่บ้าง
“ผมจะให้มันกับเธอไงล่ะ...”
หลี่เฟิงทำตัวร้ายกาจ เขาโยนช่อดอกไม้นั่นให้กับฉินฟาง โดยวิธีและท่าทางที่เขาทำนั้นเหมือนกับกำลังให้บางอย่างกับขอทาน ซึ่งนี่ทำให้หน้าของสองสาวที่อยู่ข้างเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย และในใจรังเกียจหลี่เฟิงที่ทำตัวใจแคบมาก
อย่างไรก็ตามฉินฟางดูเหมือนว่าจะไม่สะทกสะท้าน และรับช่อดอกไม้นั้นอย่างมีความสุข เขาถือมันด้วยมือข้างหนึ่งพร้อมกับดึงกุหลาบบางส่วนในช่อออกมาอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็โยนที่เหลือลงในถังขยะ ส่วนดอกกุหลาบที่สวยที่สุดสิบเอ็ดดอกซึ่งเขาเลือกออกมาอย่างง่ายๆ นั้น ก็ถูกบรรจงมอบเป็นดอกไม้ช่อใหม่ให้กับถังเฟยเฟยต่อหน้า
“เฟยเฟย พวกเรารีบร้อนมา ผมเลยลืมเตรียมมาให้ จึงยืมกุหลาบสิบเอ็ดดอกนี้เป็นของขวัญให้กับเธอ และปรารถนาให้เธอมีความสุขทุกๆ วัน!”
ฉินฟางยื่นกุหลาบสิบเอ็ดดอกไปยังถังเฟยเฟยด้วยท่าท่างจริงใจ
“ขอบคุณค่ะ...”
ถังเฟยเฟยรู้สึกมึนงงจากการกระทำที่ฉับพลันของฉินฟาง แต่เธอก็ฟื้นคืนสติได้อย่างรวดเร็วและรับดอกไม้จากฉินฟางด้วยท่าทีเอียงอาย พร้อมกับกอดขอบคุณเขาด้วย
ใบหน้าหล่อเหลาของหลี่เฟิงเขียวคล้ำในทันที เขาคิดจะเล่นตลกกับฉินฟาง แต่ไม่คาดว่าจะถูกป่วนกลับแทน
ก่อนหน้านี้ฉินฟางค่อนข้างจะนิ่งเฉยและไม่รู้วิธีการเข้าสังคมดีเท่าไหร่ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับหลี่เฟิงศัตรูของเขา มันเหมือนกับว่าพรสวรรค์ที่ซ่อนเร้นได้ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา! ไม่เพียงเขาจะซ่อนความเกลียดชังและปั่นหัวหลี่เฟิงได้ กระทั่งได้รับการกอดจากถังเฟยเฟย! ลงมือเพียงครั้งเดียวก็ได้รับผลตอบแทนมากมาย
“เอ่อ ตอนนี้ค่อนข้างสายแล้ว รีบเข้าไปข้างในกันเถอะ!”
พอเห็นหลี่เฟิงใกล้ที่จะระเบิดความโกรธออกมา ลี่เหยาก็ก้าวเข้ามาในช่วงเวลาที่เหมาะสมและเปลี่ยนเรื่องคุย ด้วยวิธีนี้พวกเขาจึงสามารถหลีกเลี่ยงการแสดงภาพที่ไม่น่าดูในที่สาธารณะได้
“อืม เข้าไปข้างในกัน”
ถังเฟยเฟยในเวลานี้ได้ถอยออกมาจากอ้อมแขนของฉินฟางแล้ว ใบหน้าของเธอค่อนข้างแดง เนื่องจากแรงกระตุ้นที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน การกระทำจึงค่อนข้างออกนอกแบบฉบับของเธอตามปกติ เธอรู้สึกอายที่ตัวเองนั้นกล้าทำลงไปได้อย่างไร ดังนั้นจึงรีบหลบออกมาและดึงมือลี่เหยาเข้าไปในรีสอร์ท
“ฉินฟาง หลังจากไม่เจอกันครึ่งเดือน ดูเหมือนว่าแกจะมีชีวิตอยู่ดีใช่ไหม?’
เป็นธรรมดาที่ฉินฟางกับหลี่เฟิงจะเดินตามพวกเธอไป หลี่เฟิงซึ่งพยายามควบคุมความโกรธไว้ก็พูดกับฉินฟางด้วยน้ำเสียงที่ไม่ร้อนไม่หนาว
“ทั้งหมดต้องขอบใจแกนะ หลี่เฟิง! ข้า ฉินฟางจะจ่ายหนี้ในครั้งนั้นคืนให้แน่ๆ พร้อมกับดอกเบี้ยด้วย...”
เมื่อไม่มีถังเฟยเฟยอยู่ข้างๆ ฉินฟางจึงไม่ซ่อนความเกลียดชังของเขาอีกต่อไป ด้วยใบหน้าที่เย็นชา เขาพูดถากถางหลี่เฟิงกลับ และนับจากนี้ความขัดแย้งระหว่างคนทั้งสองก็กลายเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
“จะรอดูล่ะกัน... ครั้งหน้าหวังว่าแกคงจะโชคดี...”
ปฏิกิริยาตอบสนองต่อความเกลียดชังของฉินฟาง หลี่เฟิงเพียงแค่หัวเราะอย่างเย็นชาเท่านั้น ความแตกต่างกันระหว่างครอบครัวของหลี่เฟิงกับฉินฟางช่างกว้างใหญ่ราวฟ้ากับดิน หลี่เฟิงรู้สึกว่าการฆ่าฉินฟางนั้นง่ายดายเหมือนกับเอานิ้วบี้มด ตัวตนที่กระจ้อยร่อยเช่นนี้ต้องการสู้เขากลับงั้นเหรอ?
“น่าขัน”
นี่คือการประเมินที่หลี่เฟิงมีให้กับฉินฟางซึ่งทำตัวหยิ่งผยอง
การต่อสู้ยกแรกระหว่างคนทั้งสอง ถึงแม้ฉินฟางจะยังคงเสียเปรียบ แต่รอบนี้เขาก็กำชัยได้เล็กน้อย
—
ลี่เหยาจองสถานที่ในสนามบาร์บีคิวเอาไว้ และมันตั้งอยู่ข้างทะเลสาปหยกขาว น้ำในทะเลสาปนั้นใสกระจ่างมาก บนผิวน้ำก็มีเรือเล็กอยู่สองสามลำ ซึ่งหนึ่งในเรือพวกนั้นก็มีคู่รักที่กำลังจู๋จี๋กันอย่างเปิดเผย
“ฟางหมิน จางถิง นานแล้วนะที่ไม่ได้เจอกัน!”
เมื่อฉินฟางกับหลี่เฟิงมาถึงงานเลี้ยง ถังเฟยเฟยกับลี่เหยาก็นั่งร่วมอยู่กับกลุ่มคนไปแล้ว ฉินฟางรู้จักผู้หญิงในกลุ่มนั้นอีกสองคน จึงเอ่ยทักทายพวกเธออย่างสุภาพ หลังจากก็นั่งลงข้างถังเฟยเฟย
โชคดีที่ลี่เหยาได้อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างถังเฟยเฟยกับฉินฟางตอนที่เธอมาถึงไปแล้ว ดังนั้นหญิงสาวทั้งสองจึงไม่ได้แสดงความประหลาดใจอะไรมาก
อย่างไรก็ตามการปรากฏตัวของหลี่เฟิงนั้นทำให้พวกผู้หญิงรู้สึกไม่สะดวกใจ เพราะพวกเธอรู้ดีว่าหลี่เฟิงเพียรตามจีบถังเฟยเฟย แต่สุดท้ายถังเฟยเฟยกลับไปเลือกคนยากจนอย่างเช่นฉินฟาง และไม่แม้กระทั่งให้โอกาสคนรวยอย่างหลี่เฟิง ความจริงนี้ทำให้พวกผู้หญิงรู้สึกประหลาดใจ
นอกเหนือจากพวกผู้หญิงกลุ่มนี้ ก็ยังมีกลุ่มแฟนหนุ่มของพวกเธอ เนื่องจากอายุของพวกเขานั้นไม่ต่างไปจากฉินฟางเท่าไหร่นัก ดังนั้นจึงยังสามารถพูดคุยสนทนากันได้
แฟนของลี่เหยาชื่อว่าซุนซู ตอนนี้เป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยหยางเฉิง เขาค่อนข้างคุยเก่ง ลี่เหยากับซุนซูรู้จักกันมานานแล้ว และตั้งแต่ลี่เหยาไปเรียนที่มหาวิทยาลัยหยางเฉิงด้วย จึงถือได้ว่าที่ซุนซุมาที่นี่นั้นเพื่อเป็นเพื่อนลี่เหยาตอนกลับ
แฟนของฟางหมินกับจางถิงล้วนเกิดที่เมืองหนิงไห่ ชื่อของพวกเขาคือพานเฉินและถังหมิงตามลำดับ อย่างไรก็ตามพวกเขานั้นก็ไม่ได้ตามแฟนสาวไปเรียนต่อที่อื่น ทั้งสองเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยหนิงไห่ เนื่องจากเป็นแค่ลูกของเจ้าพนักงานที่มีตำแหน่งเล็กๆ ดังนั้นจึงไม่ได้ทำตัวหยิ่งผยองเหมือนกับลูกหลานของพวกชนชั้นสูง ซึ่งนี่ทำให้ฉินฟางพูดคุยกับพวกเขาได้ง่าย กระทั่งคุยโวกับฉินฟางว่าถ้าต้องการให้ช่วยอะไรก็ขอให้บอกมา
แน่นอนว่าพวกเขาพูดไปอย่างนั้นเอง เพราะถ้าฉินฟางต้องการให้พวกเขาช่วยเหลือจริงๆ แล้ว ฉินฟางอาจจะต้องจ่ายเงินจำนวนมาก หรือไม่ก็รับปากว่าจะทำให้ทุกอย่างเป็นการตอบแทน ซึ่งฉินฟางนั้นก็รู้ในเรื่องนี้ดี
ด้วยสี่สาวกับแฟนหนุ่มของพวกเธอ ทำให้คนในกลุ่มล้วนมีคู่ ส่วนหลี่เฟิงนั้นอ้างว้างอยู่ตัวคนเดียว ซึ่งอาจเป็นเพราะความสำคัญของเขาเปรียบไม่ได้กับแฟนของพวกเธอ ประกอบกับความทะนงตนของเขา มันจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะถูกโดดเดี่ยว นี่ทำให้ใบหน้าของหลี่เฟิงดำทะมึน มีเพียงตอนที่บริกรซึ่งรับผิดชอบในส่วนของบาร์บีคิวเดินเข้ามาสอบถาม เขาเลยมีตัวตนขึ้นมาอยู่บ้าง
……………………………..