ตอนที่แล้วตอนที่ 28   ถูกจับได้?!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 30   คำเชิญของเฟยเฟย

ตอนที่ 29   แฟนสาว


ตอนที่ 29   แฟนสาว

 

ผู้แปล  :  ThreeSwords

ปรับสำนวน  :  ThreeSwords

 

 

“ฉันเพิ่งจะเห็น...”

 

ถังเฟยเฟยยังต้องการที่จะโต้เถียง  แต่หลังจากเห็นฉินฟางมองเธอด้วยสายตาที่จริงใจแล้ว  เธอก็ลังเลที่จะพูดต่อให้จบ  ลองนึกย้อนกลับไปสองสามปีที่เธอรู้จักกับฉินฟางมา  ก็รู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนประเภทนั้น  เพราะถ้าเขาเป็นคนอย่างนั้นแล้ว  คนแรกที่เขาน่าจะลงมือคงไม่ใช่หญิงสาวที่เธอเห็นก่อนหน้านี้  แต่คงเป็นตัวของเธอเอง

 

“ก็ได้  อธิบายมา  หวังว่านายจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง...”

 

หลังจากที่คิดใคร่ควรญ  ถังเฟยเฟยตัดสินใจที่จะให้โอกาสฉินฟางได้อธิบายตัวเอง

 

“มานั่งตรงนี้ก่อนนะ  เรื่องราวมันค่อนข้างซับซ้อน  ผมจะอธิบายให้เธอฟังอย่างช้าๆ...”

 

พอเห็นว่าสุดท้ายถังเฟยเฟยก็คล้อยตามเขา  ฉินฟางก็ฉีกยิ้มออกมาเล็กน้อย  จากนั้นก็จูงมือถังเฟยเฟยพาเธอไปที่ม้านั่งตรงถนนซึ่งอยู่ไม่ไกลออกไป  เขาใช้แขนปัดกวาดม้านั่งที่ค่อนข้างสกปรกอย่างระมัดระวัง  กระทั่งใช้กางเกงขาสั้นของเขาทำความสะอาดเพิ่มเติมเป็นพิเศษ  ที่เขาทำทั้งหมดนั้นเพราะกังวลว่าฝุ่นผงจะทำให้กระโปรงสั้นสีขาวของถังเฟยเฟยเปื้อน

 

ถังเฟยเฟยจ้องมองฉินฟางทำความสะอาดม้านั่งอย่างหนักแบบเงียบๆ  และรู้สึกว่าสิ่งที่เขาทำดูติ๊งต๊องมาก  อย่างไรก็ตาม...

 

“ท่าทางติ๊งต๊องของเขาดูน่ารักมาก”  เธอพึมพำ

 

แต่เมื่อจำได้ว่าหญิงสาวที่อยู่ในห้องของฉินฟางคนนั้นมีรูปร่างหน้าตาไม่ด้อยไปกว่าเธอ  แถมใต้ร่มผ้าก็ไม่ได้สวมใส่อะไรไว้  ภายในใจของถังเฟยเฟยก็เริ่มที่จะโกรธนิดๆ และรู้สึกเหมือนกำลังจะถูกเผา  ดังนั้นท่าทางน่ารักของฉินฟางจึงถูกความรู้สึกโกรธของเธอปิดทับไว้ทันที

 

“ทำไมนายทำความสะอาดนานจัง?  ถ้ามีอะไรจะพูดก็พูดมา  ไม่งั้นฉันจะไปแล้วนะ…”

 

“โอเค  ผมพูด  ผมพูดแล้ว”

 

เวลานี้ฉินฟางเกือบจะปัดกวาดม้านั่งเสร็จแล้ว  เขารีบพาถังเฟยเฟยลงนั่ง  และจากนั้นก็เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้

 

“เรื่องราวที่เกิดขึ้น  เธอต้องฟังตั้งแต่ต้นจนจบ  มันเริ่มหลังจากผมปิดร้านและกลับไปที่ห้อง... บลาๆๆ และเมื่อเป็นเช่นนั้น  เซียวมู่เสวี่ยเลยกลับมาพร้อมกับผม  แต่อย่างที่เธอเห็น  ห้องของผมเล็กมาก  ก็เลย...บลาๆๆ”

 

ฉินฟางบอกถังเฟยเฟยทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้  สำหรับความลับเช่นการกินเกี๊ยวซ่าเพื่อฟื้นค่า HP นั้น  เป็นธรรมดาที่เขาจะกลบเกลื่อนไว้  และพูดว่าถึงแม้จะถูกแทง  มันก็ไม่ได้หนักหนาอะไร  แค่เลือดออกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

“เรื่องราวส่วนใหญ่ก็ประมาณนี้แหละ  ระหว่างเซียวมู่เสวี่ยกับผมไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ!”

 

“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ น่ะเหรอ?”

 

ฉินฟางหัวเราะอย่างขมขื่น  หลังจากลังเลอยู่สักพัก  เขาก็ยกชายเสื้อยืดขึ้น  บริเวณผิวหนังที่เปิดให้เห็นนั้นมีบาดแผลซึ่งกำลังตกสะเก็ดอยู่

 

“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ  เธอดู!  ผมได้รับบาดเจ็บและแผลก็ยังอยู่ตรงนี้...”

 

“โอเค  ฉันจะเชื่อนายก็ได้!”

 

หลังจากรับฟังเรื่องเล่าของฉินฟาง  ถังเฟยเฟยรู้สึกว่าสิ่งที่ฉินฟางพูดน่าจะเป็นเรื่องจริง  จากนั้นเธอก็มองไปยังบาดแผลที่เอวของฉินฟาง  ถึงแม้ว่ามันจะตกสะเก็ดแล้ว  แต่ก็เป็นแผลยาวและเห็นได้ชัดว่าเพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้  ดังนั้นตอนนี้ถังเฟยเฟยจึงเชื่อในเรื่องเล่าของฉินฟางโดยสนิทใจ

 

“ฉันไม่คาดคิดเลยว่าเซียวมู่เสวี่ยจะน่าสงสารมากเช่นนี้…”

 

ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ลึกลับจริงๆ  เห็นได้ชัดว่าเมื่อกี้นี้เธอยังเกลียดเซียวมู่เสวี่ยมาก  ในใจเธอด่าทอเซียวมู่เสวี่ยว่าเป็นนางแมวขโมย  แต่เพียงชั่วพริบตา  ถังเฟยเฟยก็รู้สึกสงสารเซียวมู่เสวี่ย  และอยากจะดึงเซียวมู่เสวี่ยเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนเพื่อทำการปลอบใจซะแล้ว

 

“ผมคิดตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าจะหารือเรื่องนี้กับเธอวันนี้  การให้เซียวมู่เสวี่ยอาศัยอยู่ในห้องผม  แน่นอนว่ามันไม่เหมาะสมเอาซะเลย...”

 

ฉินฟางไม่คาดคิดว่าถังเฟยเฟยจะแสดงความเห็นอกเห็นใจเซียวมู่เสวี่ย  ดังนั้นเขาจึงรีบพูดประโยคดังกล่าวออกมา  เพื่อทำให้ถังเฟยเฟยรู้สึกว่ามีความสำคัญจนความไม่พอใจต่างๆ ของเธอนั้นหายไปอย่างสิ้นเชิง

 

“ไม่เหมาะสมแน่นอน! คนอ้วนเฉินนั่นเลวมาก  ดังนั้นพวกเราต้องไม่ปล่อยให้เธอกลับไป  แต่การให้อาศัยอยู่ในบ้านของนายก็ไม่เหมาะจริงๆ  เอายังงี้ไหม?  ฉันจะไปคุยกับฟ่านเจี่ยเจียให้  เซียวมู่เสวี่ยจะได้ไปพักอยู่กับฟ่านเจี่ยเจีย  หรือพวกเราอาจหาสถานที่อื่นให้เธออาศัยถ้าหากฟ่านเจี่ยเจียไม่รับปาก  สำหรับเรื่องที่เซียวมู่เสวี่ยจะขอทำงานกับพวกเรานั้น... ในเมื่อตอนนี้เรากำลังขาดคนอยู่แล้ว  ทำไมไม่ให้เธอมาช่วยล่ะ?  แถมยังเป็นโอกาสที่จะได้ฉีกหน้าคนอ้วนเฉินด้วย!  ฮิฮิ  ฉันร้ายไปหรือเปล่านะ?”

 

การให้อภัยเซียวมู่เสวี่ยที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมา  และกระทั่งเข้าใจในชีวิตที่น่าสลดของเซียวมู่เสวี่ย  ทั้งหมดนี้เป็นเพราะถังเฟยเฟยมีความรู้สึกสะเทือนใจที่ล้นปรี่  และความเห็นอกเห็นใจของเธอเลยช่วยแก้ปัญหาทั้งหมดของฉินฟางในคราวเดียว  หลังจากที่เธอพูดจบ  ก็ดูเหมือนจะนึกได้ว่าคำพูดแบบนี้ไม่ควรออกมาจากปากของกุลสตรี  จึงแสดงท่าทางที่น่ารักมากออกมาจนฉินฟางยิ้มและหัวเราะ

 

“ไม่ร้าย  ไม่ร้าย  เธอไม่ร้ายเลย!  เธอเป็นคนที่จิตใจดีมาก!”

 

ฉินฟางพยักหน้ารัวจนเหมือนกับไก่ที่กำลังจิกข้าว  และเห็นพ้องกับข้อเสนอของถังเฟยเฟยร้อยเปอร์เซ็นต์

 

“ตอนนี้พวกเราคุยกันจบแล้วนะ  ผมกลับห้องได้ใช่ไหม?  เพราะยังไม่ได้ล้างหน้ากับแปรงฟันเลย...”

 

สุดท้ายถังเฟยเฟยก็ถูกกล่อมให้กลับไปที่ห้องกับฉินฟางจนได้  เพราะเขาในตอนนี้กำลังพูดด้วยใบหน้าที่ขมขื่น

 

“หืม?  ถ้านายไม่พูด  ฉันคงไม่ได้สังเกต!  ว่าผู้ชายสกปรกที่อยู่ต่อหน้าฉันเป็นใคร?!”

 

ถังเฟยเฟยที่ออกเดินไปกับฉินฟางพูดติดตลกเกี่ยวกับตัวเขา  แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้เอ่ยอะไรอีกและเดินกลับมาพร้อมกับฉินฟาง

 

โดยที่ไม่มีใครรู้  ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนดูเหมือนจะใกล้ชิดกันมากขึ้นหลังจากความเข้าใจผิดได้รับการแก้ไข  พวกเขาไม่ได้สงวนท่าทีอีกต่อไป  ความระแวงต่อกันได้จากหายไป  กระทั่งคุ้นเคยกันมากยิ่งขึ้น  สิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความจริงนี้คือมือของถังเฟยเฟยถูกฉินฟางกุมไว้ตลอดทางที่เดินกลับไป

 

ระหว่างทางกลับบ้าน  ฉินฟางกับถังเฟยเฟยได้พูดคุยและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน  เมื่อพวกเขากลับมาถึงก็บังเอิญเห็นเซียวมู่เสวี่ยกำลังซักผ้าอยู่  อาจเป็นเพราะเรื่องเข้าใจผิดเมื่อครู่นี้  เซียวมู่เสวี่ยเลยเปลี่ยนไปสวมชุดนักเรียนของฉินฟางที่เขาไม่ได้ใส่มานานแล้ว  ตอนนี้เมื่อเธอสวมเสื้อผ้าแบบนี้แล้ว  อย่างน้อยก็นับได้ว่าเธอไม่ได้เดินไปรอบๆ ด้วยสภาพที่เกือบเปลือย  แต่ฉินฟางก็ยังค่อนข้างรู้สึกอึดอัด

 

ตอนที่เธอเกือบจะซักเสื้อผ้าในกะละมังเสร็จ  ฉินฟางกับถังเฟยเฟยก็กลับมาถึง  ดูจากท่าทางกับสีหน้าของคนทั้งสองแล้ว  ก็พบว่าพวกเขากำลังจ้องมองมาที่เธอ  ใบหน้าของเซียวมู่เสวี่ยเลยแดงขึ้นเล็กน้อย  แสดงให้เห็นว่าเธอนั้นอายมาก

 

เสื้อผ้าในกะละมังทั้งหมดน่าจะเป็นของเซียวมู่เสวี่ย  แต่ก็มีที่ต่างออกไปซึ่งฉินฟางพบว่ามันค่อนข้างคุ้นตามาก  มันดูเหมือนกับ... กางเกงในของเขา?!  สีหน้าของฉินฟางเปลี่ยนไปในทันที  ตอนนี้ไม่เพียงเขาจะรู้สึกอึดอัด  แต่ยังไร้คำพูดที่จะกล่าวและยิ้มอย่างขมขื่น

 

“ฉันกำลังซักเสื้อผ้าของตัวเอง  พอดีเหลือบไปเห็นกองเสื้อผ้าของนายซึ่งมีรอยเปื้อนเต็มไปหมด  ฉันเลยช่วยซักพวกมันให้...”

 

พอสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในดวงตาของฉินฟาง  เซียวมู่เสวี่ยก็พูดอย่างอายๆ  ท้ายที่สุดแล้วเธอได้พักอยู่ในห้องของฉินฟางหนึ่งคืน  และเขากระทั่งเคยช่วยชีวิตเธอมาก่อน  ถึงแม้การแต่งให้กับเขาอาจเป็นไปไม่ได้  แต่การช่วยฉินฟางซักเสื้อผ้าของเขานั้นเป็นไปได้อย่างแน่นอน

 

“มู่เสวี่ย  ฉันชื่อว่าถังเฟยเฟยนะ  เป็น... แฟนสาวของฉินฟาง  ขอบใจที่ช่วยซักเสื้อผ้าของฉินฟางให้  เขาเป็นแบบนี้เสมอแหละ  ชอบรอให้กองเท่าภูเขาเล็กๆ ก่อนที่จะลงมือซักพวกมัน

 

อันที่จริงแล้วใบหน้าของถังเฟยเฟยเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยตอนที่เธอเจอเซียวมู่เสวี่ยกำลังซักเสื้อผ้าของฉินฟาง  อย่างไรก็ตามเมื่อเธอเห็นสีหน้าของเซียวมู่เสวี่ย  จู่ๆ ถังเฟยเฟยก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว  เธอที่เดิมทีนั้นกำลังกุมมือของฉินฟางไว้  ได้เปลี่ยนไปกอดแขนของเขาแทนและพูดประโยคเหล่านี้กับเซียวมู่เสวี่ย  ในเวลาเดียวกันนั้นดวงตาของเธอก็คอยเฝ้าดูปฏิกิริยาของเซียวมู่เสวี่ย

 

“ฉินฟางช่วยเหลือฉันไว้มาก  เพราะฉะนั้นการซักเสื้อผ้าให้กับเขาไม่ได้เรื่องที่ลำบากเลย”

 

เซียวมู่เสวี่ยแสดงให้เห็นท่าทางที่สงบมาก  ราวกับเธอไม่รู้สึกกังวลใจเลย  ซึ่งมันบ่งชี้ให้เห็นว่าฉินฟางกับเธอนั้นเป็นคนแปลกหน้าต่อกันอย่างแท้จริง

 

อย่างไรก็ตามตอนที่ถังเฟยเฟยบอกว่าฉินฟางเป็นแฟนของเธอ  ถังเฟยเฟยได้สังเกตเห็นว่าเซียวมู่เสวี่ยตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะหนึ่ง  ต่อให้เซียวมู่เสวี่ยกลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว  แต่ถังเฟยเฟยแน่ใจว่าปฏิกิริยาที่เซียวมู่เสวี่ยแสดงออกมานั้นไม่ตรงกับภาพที่เธอเห็น

 

เพราะการที่เซียวมู่เสวี่ยชะงักไปเล็กน้อย  ทัศนคติของถังเฟยเฟยที่มีต่อเซียวมู่เสวี่ยเลยเปลี่ยนจากความเห็นอกเห็นใจอย่างแท้จริงกลายเป็นระมัดระวังมากขึ้นเล็กน้อย  แต่โดยรวมก็ยังแสดงท่าทีที่เป็นมิตรอยู่

 

มีเพียงฉินฟางซึ่งยังคงยืนอยู่ด้านข้างนั้นที่ปากอ้าตาค้าง  ในเวลาเดียวกันเขาก็ครุ่นคิดว่า  ‘ถังเฟยเฟยกลายเป็นแฟนของผมตั้งแต่เมื่อไหร่หว่า?...’

 

“แต่ถ้ามันเป็นเรื่องจริง...  ก็ดีมากเลย!”

 

พูดได้ว่าสิ่งที่ฉินฟางกำลังหวังไว้นั้นใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากๆ

 

 

……………………………..

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด