ตอนที่แล้วตอนที่ 27   ชายหญิงอยู่กันตามลำพัง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 29   แฟนสาว

ตอนที่ 28   ถูกจับได้?!


ตอนที่ 28   ถูกจับได้?!

ผู้แปล  :  ThreeSwords

ปรับสำนวน  :  ThreeSwords

 

 

ทั้งสองคนพูดคุยกันไปเรื่อยๆ  จนสุดท้ายก็ผล็อยหลับไป  โดยไม่รู้เลยว่าใครกันที่หลับก่อน

 

*ก๊อก*  *ก๊อก*  *ก๊อก*  *ก๊อก*

 

เมื่อยามเช้ามาถึง  ขณะที่ฉินฟางยังคงสะลึมสะลืออยู่  ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูแว่วมา  เสียงเคาะนั้นเบามากๆ  เนื่องจากฉินฟางยังไม่ตื่นตัวเต็มที่  เขาจึงคิดไปว่าเป็นเสียงเคาะประตูของห้องอื่น

 

จากนั้นเขาก็รู้สึกว่ามีเงาอะไรบางอย่างผ่านตาเขาไป  ฉินฟางที่อยู่สภาพครึ่งหลับครึ่งตื่นจึงมองไปที่เงานั่นและเห็นว่ามันคืออะไร  แต่สมองของเขายังทื่ออยู่  ดังนั้นเขาหลับตาลงนอนอีกครั้ง

 

“ซวยแล้ว!”

 

แต่ก่อนที่ฉินฟางจะกลับไปหลับต่อ  ดวงตาของเขาก็เปิดกว้าง  เพราะนึกได้ทันทีว่าในห้องนี้นอกจากตัวเขาแล้ว  ก็ยังมีเซียวมู่เสวี่ยอยู่ด้วย  ยิ่งไปกว่านี้แล้วเสียงเคาะประตูนั่นดูเหมือนจะมาจากประตูของเขาอีกด้วย

 

ประตูห้องถูกเปิดออก

 

“ฉินฟาง  สายแล้วนะ  ทำไมนายถึงยังไม่ออก...”

 

ถังเฟยเฟยรู้สึกงุนงงว่าฉินฟางที่ปกติตื่นเช้าทำไมถึงยังไม่ตื่น  ดังนั้นเธอจึงรีบมาที่ห้องของเขาเพื่อสอบถามสาเหตุ  แต่เมื่อประตูห้องถูกเปิด  หญิงสาวคนหนึ่งที่สวมเสื้อยืดสีขาวตัวโคร่งและสามารถมองเห็นปทุมถันได้อย่างลางๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเธอ  ซึ่งนี่ทำให้สิ่งที่เธอกำลังพูดอยู่นั้นหยุดชะงักในทันที  ขณะที่ตัวเธอก็กลายเป็นแข็งทื่อไป

 

เซียวมู่เสวี่ยมองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าซึ่งสวยราวกับนางฟ้าด้วยความประหลาดใจ  อายุของหญิงสาวคนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่แตกต่างจากเธอ  แต่เสื้อผ้านั้นเห็นได้ชัดว่าดีกว่า  พอเห็นว่าหญิงสาวคนนี้เรียกชื่อของฉินฟาง  เธอจึงรีบพูดด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ว่า

 

“คุณมาหาฉินฟางเหรอค่ะ?  เขายังไม่ตื่น...”

 

“เธอเป็นใคร?  ทำไมถึงได้มาอยู่ในห้องของฉินฟาง?”

 

ใบหน้าของถังเฟยเฟยอึมครึมในทันที  ดูแตกต่างจากเซียวมู่เสวี่ยที่กำลังยิ้มแย้ม  น้ำเสียงของเธอเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง  แม้ว่าภายในใจจะรู้สึกเจ็บแปลบ  แต่เธอก็ยังบังคับให้ตัวเองสงบและถามต่อไป

 

สาวสวยคนหนึ่งกำลังสวมเสื้อยืดผู้ชายไซซ์ใหญ่และไม่ได้สวมอะไรอยู่เลยใต้ร่มผ้า  ซึ่งดูจากที่ถังเฟยเฟยเห็นแสดงว่าสาวสวยคนนี้นอนค้างคืนที่ห้องของฉินฟาง  หลักฐานทั้งหมดนี่บ่งบอกว่าเป็นเรื่องอย่างว่าแน่ๆ

 

“ฉัน...”

 

ขณะที่เซียวมู่เสวี่ยจะเอ่ยอะไรบางอย่าง  เธอก็ได้ยินเสียงจากข้างหลัง  เลยรู้ว่าฉินฟางตื่นแล้วและหยุดพูดต่อ

 

“เอ่อ… ผมตื่นแล้ว”

 

ตอนนี้ฉินฟางจะกล้าหลับต่อได้ยังไง?  ช่วงเวลาที่เขาพบว่าเซียวมู่เสวี่ยกำลังไปเปิดประตู  เขาก็รู้ว่าตัวเองซวยแน่แล้ว  ดังนั้นจึงรีบลุกขึ้น  พร้อมกับโผล่หน้าออกไปให้เห็นจากข้างหลังเซียวมู่เสวี่ย  และพูดอย่างเงอะงะ

 

พอเห็นว่าฉินฟางตื่นแล้ว  เซียวมู่เสวี่ยก็ยิ้มให้กับถังเฟยเฟย  จากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในห้อง  ซึ่งดูเหมือนว่าเธอกำลังจะเข้าไปเก็บเตียง

 

“ฉินฟาง  นายมัน... ไร้ยางอาย!”

 

พอได้เห็นภาพที่เซียวมู่เสวี่ยอยู่กับฉินฟางตำตา  หัวใจของถังเฟยเฟยก็กลายเป็นอึดอัดมาก  เธอจ้องฉินฟาง  และอยากที่จะตบหน้าเขาจริงๆ  แต่ตอนที่ด่าฉินฟางไป  เธอไม่กล้าใช้คำพูดที่หยาบคายเพราะตัวเธอถูกอบรมสั่งสอนมาอย่างดี

 

“มันไม่ใช่อย่างนั้น  ถัง...”

 

พอเห็นสีหน้าของถังเฟยเฟย  ฉินฟางรู้ได้ในทันทีว่าเธอเข้าใจเขาผิด  และเมื่อพบว่าถังเฟยเฟยกำลังจะจากไป  ฉินฟางก็เผลอยื่นมือออกไปดึงตัวเธอกลับมา  เพื่อต้องการให้เธอได้ฟังคำอธิบายของเขา

 

*เพี๊ยะ*

 

ถังเฟยเฟยที่ตอนนี้หัวใจเหมือนกำลังจะถูกเผา  เมื่อเธอเห็นเขากำลังยื่นมือมาหา  ก็ไม่ได้คิดอะไรมากและตบหน้าของฉินฟางไปหนึ่งครั้ง  เสียงตบนั้นดังชัดเจน  จากนั้นใบหน้าของฉินฟางก็มีรอยนิ้วมือปรากฏขึ้นในทันที  และตรงบริเวณที่โดนตบเริ่มจะบวมแล้ว

 

“ฉัน...”

 

การตบครั้งนี้เธอไม่ได้ตั้งใจเลยจริงๆ  และพอเห็นใบหน้าของฉินฟางบวม  ถังเฟยเฟยก็กลายเป็นรู้สึกห่วง  ขณะที่เธอกำลังจะพูดอธิบาย  สายตาของเธอก็บังเอิญมองผ่านฉินฟางไปตกลงที่เซียวมู่เสวี่ย  ในเวลานี้เซียวมู่เสวี่ยกำลังก้มตัวลงเพื่อทำบางอย่าง  และจากตำแหน่งที่ถังเฟยเฟยยืนอยู่นั้น  เธอสามารถมองผ่านคอเสื้อยืดจนเห็นอะไรบางอย่างที่ขาวเนียนและกลมกลึง

 

“…ฮึ!”

 

หลังจากที่ได้เห็นอย่างนั้น  ความรู้สึกห่วงที่เหลืออยู่น้อยนิดของถังเฟยเฟยก็สลายไปโดยสิ้นเชิง  เธอจ้องมองฉินฟางอีกครั้ง  แต่สุดท้ายเธอก็หันหน้าหนีและเดินจากไป

 

ฉินฟางรู้สึกว่าหน้าที่โดนตบของเขาเหมือนกำลังจะถูกเผา  การตบของถังเฟยเฟยค่อนข้างไม่ปรานีเลย  ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่คนไม่ชอบการออกกำลังกายมากนักอย่างฉินฟางจะสามารถทนได้โดยไม่ถอยหนี

 

“ถังเฟยเฟย  รอก่อน!”

 

อย่างไรก็ตามพอเห็นถังเฟยเฟยกำลังจะเดินจากไปพร้อมกับโกรธจนพลุ่งพล่าน  และตอนนี้ก็ออกไปที่ลานแล้ว  ฉินฟางก็ตื่นตระหนก  การเข้าใจผิดในครั้งนี้ไม่ควรมาจนถึงขั้นนี้  เขารีบร้อนไล่ตามถังเฟยเฟยไป

 

โชคยังดีที่ฉินฟางระวังตัวเนื่องจากมีหญิงสาวมานอนค้างด้วย  ถึงแม้อากาศจะร้อนมากแต่เขาก็ยังสวมเสื้อยืดกับกางเกงไว้  มิฉะนั้นแล้วถ้าเขาสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้น  มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะอธิบาย  กระทั่งไล่ตามถังเฟยเฟยไปยังอาจจะล่าช้าเพราะต้องสวมใส่เสื้อผ้า

 

“ตาบ้า บ้า บ้า!”

 

ถังเฟยเฟยโกรธจนพลุ่งพล่าน  และขณะที่เธอกำลังเดินไปอย่างรวดเร็วนั้น  ก็บ่นพึมพำอย่างโมโหด้วยคำด่าที่หยาบคายที่สุดเท่าที่เธอนึกได้ให้กับฉินฟาง  เธอไม่รู้ว่าทำไมหัวใจถึงได้รู้สึกขุ่นเคือง  กระทั่งขอบตาก็เปียกนอง

 

“ถังเฟยเฟย  รอผมก่อน!”

 

ถึงแม้ว่าฉินฟางจะสวมรองเท้าแตะ  แต่ความเร็วในการวิ่งของเขาอย่างน้อยก็เร็วกว่าถังเฟยเฟย  ไม่นานหลังจากนั้นฉินฟางก็ตามเธอทัน  โดยที่ถังเฟยเฟยไม่ต้องหันหน้ามา  เธอก็สามารถได้ยินเสียงฝีเท้าที่มาจากรองเท้าแตะของเขา  และเห็นได้ชัดว่าฉินฟางไม่ลืมที่จะร้องเรียกถังเฟยเฟยด้วย

 

เกือบจะในเวลาเดียวกับที่ฉินฟางร้องเรียกถังเฟยเฟยเสร็จ  เธอก็รู้สึกได้ถึงมืออันใหญ่โตที่กำลังดึงแขนไว้  ตอนที่มือนั่นผ่านรักแร้ของเธอไปนั้นก็กระทบถูกกับส่วนหนึ่งของร่างกายโดยบังเอิญ  ใบหน้าของเธอเลยกลายเป็นแดงก่ำด้วยความเขินอาย

 

“ปล่อยนะ”

 

แต่เมื่อเธอนึกถึงสิ่งที่ฉินฟางทำก่อนหน้านี้  หน้าของถังเฟยเฟยก็แดงเพราะโมโหแทน  เธอเหวี่ยงแขนเพื่อพยายามที่จะสลัดมือของฉินฟางออก

 

“ผมไม่ปล่อย  ฟังคำอธิบายของผมก่อน!”

 

ในเวลานี้ฉินฟางไม่กล้าที่จะปล่อยมือ  ถึงแม้ว่าวิธีการของเขาจะค่อนข้างหน้าด้านไปบ้าง  แต่นั่นก็เป็นทางเลือกเดียวที่เขามี

 

“ฉันเห็นด้วยตาของตัวเอง  มีอะไรที่ต้องอธิบายอีกล่ะ?  ใครจะไปนึกล่ะว่าฉินฟางผู้หล่อเหลาของเรามีเสน่ห์มากขนาดนี้?  ถึงกับพาสาวสวยกลับมาค้างคืนที่บ้านได้”

 

ในใจของถังเฟยเฟยขุ่นเคืองเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว  ดังนั้นปากของเธอจึงเป็นเหมือนกับปืนใหญ่  ระเบิดคำพูดที่เสียดแทงออกมา

 

ฉินฟางไม่เคยคิดเลยจะเห็นท่าทางที่แปลกไปเช่นนี้จากถังเฟยเฟย  เธอที่ปกติแล้วจะเป็นคนน่ารักและกระตือรือร้น  แต่ถ้ารู้จักเธอให้มากยิ่งขึ้นก็จะบอกได้ว่าเธอเป็นคนที่ปักใจเชื่อมากเกินไปบ้าง  เหมือนกับที่เธอแสดงออกอยู่ในตอนนี้

 

“เรื่องราวมันไม่ได้เป็นแบบที่เธอคิด...”

 

ฉินฟางดึงแขนของถังเฟยเฟยไว้และปฏิเสธที่จะปล่อยมือ  ขณะที่ถังเฟยเฟยยังดิ้นรนขัดขืนต่อไป  ซึ่งระหว่างเหตุการณ์มันช่วยไม่ได้ที่ถังเฟยเฟยจะพลาด  โดยการปล่อยให้มือของฉินฟางกวาดโดนส่วนที่นูนของเธอเบาๆ  สำหรับตัวของฉินฟางอาจจะไม่ทันได้สังเกต  แต่คนที่โดนล่ะ  ถังเฟยเฟยไม่สามารถเพิกเฉยความรู้สึกแปลกๆ ที่มาจากการถูกสัมผัสนี้ได้  ดังนั้นใบหน้าของเธอจึงกลายเป็นแดงยิ่งขึ้น

 

อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงของถังเฟยเฟยไม่ถูกเห็นว่าเป็นเรื่องที่สำคัญในสายตาของฉินฟาง  เขาคิดว่าหน้าของถังเฟยเฟยที่แดงขึ้นเนื่องจากความโกรธ  ซึ่งนี่ยิ่งทำให้เขาตื่นตระหนกมาก  ทั้งๆ ที่ตัวเขาก็ไม่ทราบสาเหตุ  แต่สัมผัสได้ว่าถ้าปล่อยให้ความรู้สึกนี้ดำเนินต่อไป  ก็อาจจะสูญเสียบางสิ่ง...

 

 

……………………………..

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด