ตอนที่ 26 ส่วนที่ยื่นออกมา, ชุดชั้นใน
ตอนที่ 26 ส่วนที่ยื่นออกมา, ชุดชั้นใน
ผู้แปล : ThreeSwords
ปรับสำนวน : ThreeSwords
“โอเคค่ะ”
เกี่ยวกับเรื่องการจัดที่นอนของฉินฟาง เป็นธรรมดาที่เซียวมู่เสวี่ยผงกหัวยอมรับ ถึงแม้ว่าเธอจะยังรู้สึกประหม่าเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่อยู่กับเด็กหนุ่มตามลำพังในห้องเดียวกัน
ขณะที่ฉินฟางกำลังปูที่นอนพร้อมกับวางผ้าห่มของเขาลงกับพื้นห้อง ก็ได้ยินเซียวมู่เสวี่ยพูดอะไรบางอย่าง
“ฉันอยากอาบน้ำ…”
“ห้องน้ำอยู่ข้างนอกทางซ้ายมือ มันหาได้ง่ายมาก...”
ฉินฟางกำลังยุ่งมาก และไม่ได้คิดอะไรกับคำพูดของเธอ เขาบอกทางไปห้องน้ำแบบง่ายๆ ซึ่งมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกอะไรที่จะขออาบน้ำในช่วงอากาศร้อนเช่นนี้ เพราะถ้าไม่ได้อาบก็ไม่มีทางที่จะหลับลงได้ อย่างไรก็ตามเขาสังเกตเห็นได้อย่างรวดเร็วว่าเซียวมู่เสวี่ยไม่ได้ขยับตัว ดังนั้นฉินฟางจึงเผลอเงยหน้าขึ้นมอง
ใบหน้าของเซียวมู่เสวี่ยเป็นสีแดง และนั่นทำให้เธอดูน่ารักมาก จนฉินฟางตะลึงไปเล็กน้อยเพียงแค่เหลือบมอง โชคดีที่ฉินฟางได้สติกลับมาค่อนข้างไว จึงรีบถามเธอเป็นว่าเป็นอะไร
“เป็นอะไรเหรอ?”
“ฉัน... ไม่มีเสื้อผ้าเอาไว้เปลี่ยน”
เซียวมู่เสวี่ยจับเสื้อลายดอกไม้ที่ซีดและตัวเล็กซึ่งเธอกำลังสวมอยู่ ใบหน้าของเธอแดงสดใส เธอตอบคำถามของฉินฟางด้วยท่าทางเอียงอาย และเสียงของเธอก็เบามากจนแทบจะไม่ได้ยิน
“ห๊า!...”
โชคยังดีที่ห้องพักนี้เล็กมากๆ และมีคนอยู่เพียงสองคนข้างใน ถึงแม้ว่าเสียงของเซียวมูเสวี่ยจะเบา ฉินฟางก็ยังสามารถได้ยิน แต่เขารู้สึกตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูด
เสื้อผ้าที่เซียวมู่เสวี่ยสวมยังคงเป็นชุดเดิม เสื้อลายดอกไม้ตัวเล็กกับกางเกงยีนส์ขายาว และรองเท้าแตะธรรมดาๆ คู่หนึ่ง
เสื้อที่เธอใส่อยู่ตอนนี้สกปรกเล็กน้อย และกางเกงยีนส์ก็เปลี่ยนสีเนื่องจากการดิ้นรนขัดขืนก่อนหน้านี้ ซึ่งทั้งหมดจำเป็นต้องทำการซัก เพียงแต่เซียวมู่เสวี่ยมาที่บ้านของฉินฟางเพราะเธอไม่มีทางเลือก และไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้าเลย จึงเป็นธรรมดาที่เธอไม่ได้เอาเสื้อผ้าอื่นติดตัวมาด้วย
“เรื่องนี้...”
ฉินฟางรู้สึกงงในทันที เขาเป็นผู้ชายนะ จะมาคาดหวังให้เขาหาเสื้อผ้าผู้หญิงมาให้เซียวมู่เสวี่ยได้ยังไง?
‘ลองไปขอยืมฟ่านเจี่ยเจียดีไหมนะ?’
ความคิดดังกล่าวลอยขึ้นมาในสมองของฉินฟาง แต่เขาก็ล้มเลิกความคิดนี้ไปในทันที รูปร่างของฟ่านเจี่ยเจียค่อนข้างใหญ่ ถ้าเอาเสื้อผ้าของเธอมาสวมกับร่างผอมบางของเซียวมู่เสวี่ยแล้ว ก็คงจะใหญ่เกินไปจนเหมือนกับชุดของสตรีมีครรภ์
“ผมไม่มีเสื้อผ้าผู้หญิงอยู่เลย เอาอย่างนี้ไหมล่ะ? ผมมีเสื้อยืดซึ่งน่าจะใหญ่พอคลุมที่ส่วนสำคัญของเธอได้...”
ขณะที่ฉินฟางกำลังพูดอยู่นั้น เขาก็เจอเสื้อยืดสีขาวจากตู้เสื้อผ้า ซึ่งได้มาตอนที่เข้าเรียนมอปลาย น่าเสียดายที่ใหญ่เกินไปจนเขาไม่เคยใส่มันมาก่อน แต่สำหรับตอนนี้ก็คงจะได้ใช้แล้ว
“โอเค ขอบคุณค่ะ...”
เซียวมู่เสวี่ยลังเลอยู่สักพัก แต่เทียบเสื้อลายดอกไม้ของเธอกับเสื้อยืดตัวนี้แล้ว แน่นอนว่ามันใส่สบายกว่ามาก ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงพยักหน้า คืนนี้เธอมีที่ให้นอนก็เพราะฉินฟาง ถ้าเธอจู้จี้จุกจิกมากเกินไปก็ดูจะล้ำเส้นและไม่มีความเกรงใจ นอกจากนี้แล้วเธอเองก็ไม่ใช่คนประเภทนั้นด้วย
แต่เซียวมู่เสวี่ยที่หน้าแดงก็เดินไปที่ห้องน้ำโดยมีฉินฟางไปเป็นเพื่อน และอาบน้ำอุ่นอย่างสบายใจ ส่วนฉินฟางกลับไปจัดที่นอนต่อ ทำความสะอาดห้อง สุดท้ายแล้วเมื่อมีผู้หญิงมาพักที่นี่ มันก็ไม่ควรจะรกเกินไป
ไม่นานหลังจากนั้นขณะที่ฉินฟางกำลังยุ่ง ประตูห้องก็ถูกผลักเปิดและฉินฟางพูดออกมาโดยไม่หันหน้ามามอง
“เธออาบเสร็จแล้วเหรอ? งั้นก็ได้เวลาที่ผมจะไป...”
แต่ขณะที่เขาหันหน้ามาเพื่อเตรียมจะไปอาบน้ำ ก็บังเอิญหันมาเจอกับเซียวมู่เสวี่ยซึ่งๆ หน้า
หลังจากที่อาบน้ำแล้วผมดำขลับที่ยาวประบ่าซึ่งยังมีหยดน้ำติดอยู่กับใบหน้าที่น่ารักของเธอก็กลายเป็นสวยมากยิ่งขึ้น ประกอบกับเสื้อยืดตัวโคร่งที่คลุมเพียงร่างกายท่อนบน และเผยให้เห็นท่อนขาเรียวยาวทั้งสองนั้น ฉินฟางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความร้อนจากตัวที่เพิ่มขึ้น
ราวกับว่าที่เห็นอยู่นั้นมันยังไม่เพียงพอ เพราะเซียวมู่เสวี่ยเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ คราบน้ำบางส่วนบนตัวยังไม่ได้ถูกเช็ดออก จึงทำให้เสื้อยืดตัวโคร่งกลายเป็นเปียกชื้นจนแนบติดกับตัว และมันก็เน้นในส่วนที่สำคัญมากๆ ของร่างกายเธอ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงส่วนที่ยื่นออกมาคู่นั้น ซึ่งก็มีติ่งอยู่บนยอดของแต่ละข้างและแสดงสีสันที่ต่างออกไปเล็กน้อย
ความรู้สึกรุ่มร้อนที่อยู่ภายในตัวของฉินฟางพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่ได้เห็นส่วนที่ยื่นออกมาคู่นั้น จนเขาเกือบจะไม่สามารถเก็บงำไว้ได้ กระทั่งรู้สึกว่าจมูกมีความชุ่มชื้น และมีแนวโน้มเป็นอย่างมากที่เลือดกำเดาจะไหลได้ทุกเมื่อ ในเวลาเดียวกันนั้นร่างกายส่วนล่างก็อดไม่ได้ที่จะมีปฏิกิริยาและพองตัวขึ้น
“ผมจะไปอาบน้ำนะ...”
เพราะฉินฟางยังคงบริสุทธิ์อยู่ แล้วเขาจะรับมือกับสิ่งยั่วเย้านี้ได้แค่ไหนกัน? เขาจึงบอกเซียวมู่เสวี่ยว่าจะไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว และรีบหยิบตะกร้าใบเล็กที่ใส่แชมพู สบู่ กับของใช้อื่นในการอาบน้ำ จากนั้นก็รีบเร่งออกจากห้องด้วยความเร็วที่ ‘ผิดปกติ’ อย่างไรก็ตามตอนที่เขากำลังหลบออกไปนั้น ส่วนที่สำคัญของตัวเขาซึ่งได้อดกลั้นเอาไว้ก็ผงาดออกมาอย่างไม่สมควร...
คิกๆ
ด้วยท่าทางที่ฉินฟางแสดงออกมา เซียวมู่เสวี่ยจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ จนดูราวกับดอกไม้งามที่เพิ่งจะเบ่งบาน
“ว้าย! ชุดชั้นในฉัน...”
แต่เซียวมู่เสวี่ยก็ขำได้เพียงไม่นาน ทันทีที่ฉินฟางออกจากห้องไปก็นึกขึ้นได้ เธอวางชุดชั้นในไว้ในตะกร้าใบเล็กและมีแผนที่จะซักทำความสะอาดมัน เธอไม่คิดว่าก่อนที่จะได้หยิบมันออกมา ฉินฟางก็เอาตะกร้าใบเล็กนั่นซึ่งมีชุดชั้นในของเธอออกไปด้วย
เซียวมู่เสวี่ยในตอนนี้รู้สึกอายเป็นอย่างยิ่ง ชุดชั้นในผู้หญิงเป็นของส่วนตัวมากๆ นอกจากสามีตัวเองหรือแฟนหนุ่มที่ได้รับอนุญาตให้เห็นแล้ว คนอื่นนั้น...
“ฉันควรไปเอามันกลับมาดีไหม?”
เซียวมู่เสวี่ยอดไม่ได้ที่จะคิดไปเอาชุดชั้นในของเธอกลับคืนมา แต่ถ้าทำอย่างนั้นแล้ว ทั้งสองคนก็อาจอึดอัดใจกันมากขึ้น จากที่เธอประมาณไว้ระดับของความอึดอัดนั้นสูงมากจนถึงจุดที่เธออาจจะไม่สามารถหลับได้อย่างเป็นสุขอีกต่อไป
“หวังว่าเขาคงจะไม่เห็นมันนะ...”
แม้ว่าเธอจะเลิกล้มความคิดที่จะไปเอาชุดชั้นในกลับมา แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะหวังเช่นนั้น
********
“ฟิ้ว~ สุดท้ายก็หนีออกมาได้! แกมันถูกกระตุ้นได้ง่ายเกินไปแล้วนะ”
ฉินฟางปิดประตูห้องน้ำอย่างแรง และทรุดตัวลงไปพิงกับมัน จากนั้นเขาก็หายใจแรงและด่าว่าส่วนหนึ่งของตัวเขา
“นี่มัน...”
ขณะที่เขามองไปยังตะกร้า เป็นธรรมดาที่ฉินฟางจะสังเกตเห็นสิ่งของแปลกปลอมอยู่ใต้ขวดแชมพูกับสบู่ เพราะตะกร้าใบนี้เป็นของเขา ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเขาจึงยื่นมือไปหยิบของสิ่งนั้นขึ้นมาดู และหน้าแดงในทันที
ถ้าเขาไม่เห็นก็คงจะไม่รู้ แต่เมื่อเขาเห็นมันแล้วก็ตระหนักได้ว่าวัตถุสีขาวที่อยู่ในมือเขาคือ... บราของเซียวมู่เสวี่ย สำหรับสิ่งของอย่างอื่นที่อยู่ใต้บราซึ่งมีสีขาวเหมือนกันนั้น ฉินฟางทราบได้ในทันทีว่ามันคืออะไรโดยไม่จำเป็นต้องคิด ใบหน้าของเขาเลยยิ่งแดงมากขึ้นเมื่อได้รับรู้
“เซียวมู่เสวี่ยนี่จริงๆ เลย... เปลี่ยนเสื้อผ้า...”
ฉินฟางอดไม่ได้ที่จะบ่น แต่หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพักเขาก็นึกขึ้นได้อย่างรวดเร็ว มันเป็นเพราะเขาแย่งตะกร้ามาโดยไม่ทันให้เวลาเซียวมู่เสวี่ยหยิบเอาของของเธอออก สถานการณ์นี้ก็เลยเกิดขึ้น
“หวังว่าเธอจะไม่เข้าใจผิดนะ...”
ฉินฟางทำอะไรไม่ถูก แต่ได้ยิ้มอย่างขมขื่นซึ่งเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่ทราบได้ ถ้าเขาถูกเข้าใจผิดว่าเป็นพวกวิปริตเพราะเรื่องนี้จริงๆ มันก็ดูจะไม่คุ้มค่ากับที่โดนเอาซะเลย
……………………………..