ตอนที่ 23 [ซอสสูตรลับ]
ตอนที่ 23 [ซอสสูตรลับ]
ผู้แปล : ThreeSwords
ปรับสำนวน : ThreeSwords
“แต่... ข้าไม่มีเงินแล้วนะ!”
เหลาซูเฉียงล้วงเข้าไปในกระเป๋าซ้าย จากนั้นก็กระเป๋าขวา แต่พบเพียงเศษเงินเล็กน้อยประมาณ 30 หยวน
อันธพาลอย่างมันปกติแล้วก็ไม่ได้ทำงานทำการอะไร จึงเป็นธรรมดาที่จะไม่มีรายได้ประจำ ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของมันมาจากการเก็บค่า ‘คุ้มครอง’ และมันไม่จำเป็นต้องมีเงินติดตัวตอนที่ออกไปหาอะไรกิน
นอกจากนี้มันยังเป็นหัวหน้าแก๊งที่ต้องคอยรักษาหน้าของมันไว้ด้วย ดังนั้นเมื่อมันมีเงินก็จะไปผลาญที่คลับกับพวกลูกสมุน ทำให้เงินของมันหมดไปอย่างรวดเร็ว จนในบางครั้งมันก็ถูกไล่ออกคลับเพราะใช้เงินเกินกว่าที่มี
เดิมทีมันมีเงินอยู่ 5,000 หยวนซึ่งได้รับมาจากคนอ้วนเฉิน เป็นเงินค่าตอบแทนของมันในการจัดการกับฉินฟาง แต่ก่อนที่มันจะลงมือก็ได้ใช้จ่ายเงินนั่นไปเป็นจำนวนมากแล้ว จากนั้นมันก็โดนฉินฟางอัดกลับมาจนต้องใช้เงินนั่นไปอีกครั้งกับค่ารักษาพยาบาล นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันจึงมีเงินเหลือเพียง 30 กว่าหยวนในตอนนี้
ฉินฟางมองไปยังเงินจำนวนขี้ปะติ๋วที่อยู่ในมือของเหลาซูเฉียง แบงค์ 10 และ 20 หยวนอย่างละหนึ่งใบกับเงินเหรียญจำนวนหนึ่ง ฉินฟางยิ้มในทันทีและพูดว่า
“แสดงว่าการแทงผมหนึ่งครั้งมีมูลค่า 30 หยวน... เฮ้ เอายังงี้ไหมล่ะ? เดี๋ยวผมให้เงินแก 300 หยวน จะได้แทงแกได้ 10 ครั้ง โอเคไหม?”
ขณะที่เขาพูดขู่เหลาซูเฉียง มีดในมือของฉินฟางก็เลื่อนไปตามผิวหนังของมัน ราวกับกำลังพยายามหาจุดที่เหมาะสมมากที่สุดเพื่อแทงมัน
“มะ... ไม่!”
เหลาซูเฉียงกำลังจะร้องไห้อยู่แล้ว
“ข้าจะให้เพิ่ม ข้าจะให้มากกว่านี้!”
“ให้? แกจะให้อะไรล่ะ? หัวที่อยู่บนสุดของตัวแกหรือไง?”
แต่ฉินฟางยังคงไม่อ่อนข้อและทำการพูดขู่ต่อไป บนตัวของเหลาซูเฉียงไม่มีของมีค่าอะไร ซึ่งฉินฟางเองก็รู้ดี แต่ในเวลานี้เขาจงใจที่จะสร้างความลำบากให้กับมัน
“ใบรับสภาพหนี้ ให้ข้าเขียนใบรับสภาพหนี้กับแกเป็นไง?”
“ใบรับสภาพหนี้?”
ฉินฟางรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ไม่คิดว่ามีวิธีการเช่นนี้ด้วย แต่เมื่อเขาเหลือบมองไปยังเหลาซูเฉียง ก็สังเกตเห็นว่ามันกรอกตาไปมา เขาจึงยิ้มอย่างเย็นชาในทันที
“ไม่ต้องมาปั่นหัวผม! ใบรับสภาพหนี้งั้นเหรอ? ด้วยสันดานอย่างแกคงไม่เคยจ่ายเงินที่ติดค้างเอาไว้หรอกใช่มั้ย?... ลืมเรื่องเงินพวกนั้นซะ ผมจะแทงแกแทน!”
ขณะที่พูดออกไปอย่างนั้น มือของเขาก็เริ่มเคลื่อนไหวและมีดได้เลื่อนไปอยู่ตรงผิวต้นขาของเหลาซูเฉียงแล้ว เพราะบริเวณนี้มีเนื้อหนังอยู่มากกว่า จึงเป็นเหตุผลที่ฉินฟางตัดสินใจจะแทงลงไปเบาๆ ที่นี่ ในช่วงหน้าร้อนที่ร้อนเช่นนี้ เหลาซูเฉียงก็เลยสวมกางเกงชายหาดขาสั้น ดังนั้นต้นขาของมันจึงเปิดโล่ง ทำให้ฉินฟางแทงได้สะดวกมากขึ้น
“ม่ายยย! ยะ... อย่าแทง!”
ตอนที่ฉินฟางกดมีดลง แม้ว่าจะยังไม่มีเลือดไหลแต่มีดก็ได้เจาะผ่านผิวหนังเข้ามาแล้ว อีกทั้งความเจ็บปวดของผิวหนังที่ถูกเจาะผ่านเข้ามานั้นก็รู้สึกได้อย่างแจ่มชัด และนั่นทำให้เหลาซูเฉียงตื่นตระหนก เพราะไม่คาดคิดว่าฉินฟางจะกล้าแทงมันจริงๆ!
“พี่ใหญ่ ท่านพี่ใหญ่ที่เคารพ! อย่าแทง ได้โปรดอย่าแทงข้าเลย! ข้าจะให้ของอื่นเป็นการแลกเปลี่ยนได้ไหม?”
เหลาซูเฉียงใช้มือสองข้างของมันจับมือทั้งคู่ของฉินฟางไว้แน่น แต่มันในเวลานี้ไม่มีเรี่ยวแรงเหลือแล้ว สามารถทำได้เต็มที่เพียงป้องกันไม่ให้ฉินฟางแทงลงไปลึกกว่านี้
“โอ้? ลองพูดมาให้ผมฟังหน่อยซิ!”
ฉินฟางไม่ได้ให้ความสนใจอะไรมาก คิดว่าเหลาซูเฉียงพยายามที่จะซื้อเวลา เลยใช้แรงในการกดมีดเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อย จนเลือดเริ่มที่จะไหลออกมาจากจุดที่แทงลงไปในทันที
“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่! คุณขายราเม็งใช่ไหม? ตอนที่พ่อข้ายังมีชีวิตอยู่ เขาก็ขายราเม็งเช่นกัน ยอดขายของร้านในตอนนั้นดีมากๆ และนั่นเป็นเพราะซอสของพ่อข้ารสเด็ดกว่าของเจ้าอื่น! ตราบเท่าที่นายท่านปล่อยข้าไป ข้าก็จะบอกซอสสูตรลับนั่นให้!”
ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเหลาซูเฉียงเทหมดหน้าตัก แต่เมื่อฉินฟางได้ยินเรื่องที่มันพูด เขาก็กังขา ถ้าซอสนั่นมันดีมากจริงๆ เหลาซูเฉียงคงไม่กลายมาเป็นอันธพาลและใช้ชีวิตฉาบฉวยตั้งแต่แรกแล้ว
“พี่ใหญ่ ข้าพูดเรื่องจริง! เพราะข้าเป็นคนขี้เกียจ ก็เลยแอบหนีไปเล่นบ่อยๆ ตอนที่พ่อข้าบังคับให้ไปเรียน...”
พอเห็นฉินฟางมองมันด้วยท่าทีสงสัย เหลาซูเฉียงจึงพูดออกมาอย่างอายๆ
“แต่ข้ารู้สูตรลับนั่น! ตราบเท่าที่พี่ใหญ่ทำตามที่ข้าบอกแล้ว ก็จะสามารถทำซอสนั่นได้แน่นอน”
“แกพูดราวกับว่ามันเป็นเรื่องจริง แต่ใครล่ะจะเชื่อ?”
เป็นธรรมดาที่ฉินฟางจะไม่เชื่อคำพูดของเหลาซูเฉียง เพราะมันแสดงตัวว่าเป็นคนเลวตั้งแต่แรก และพร้อมทำทุกอย่างเพื่อหลบเลี่ยงสถานการณ์นี้
เหลาซูเฉียงยิ้มอย่างขมขื่น ดวงตาเบิกกว้าง จากนั้นก็ชี้ไปยังลูกสมุนที่เพิ่งซ้อมมันเมื่อสักครู่นี้
“เรื่องที่ข้าพูดเป็นความจริง! จริงแท้แน่นอน! ถ้าไม่เชื่อก็ถามเจ้าสาม! มันเป็นเพื่อนบ้านข้าตั้งแต่เด็ก รู้เรื่องการค้าของพ่อข้า...”
“มันเป็นความจริง สิ่งที่ลูกพี่ข้าพูดล้วนเป็นความจริง!”
เมื่อฉินฟางหันหน้าไปหามัน ใบหน้าที่หยาบกระด้างของเจ้าสามก็รีบยิ้มรับในทันที และผงกหัวรัวๆ มันเพิ่งจะประจักษ์ถึงความโหดเหี้ยมของฉินฟางด้วยตาตัวเอง มันไม่ต้องการที่จะลงเอยแบบเดียวกับเหลาซูเฉียง ดังนั้นจึงรีบตอบกลับโดยไม่รีรอ
“จริงเหรอ? งั้นก็เล่ามาให้ฟังหน่อย”
อันที่จริงข้อเสนอของเหลาซูเฉียงนั้นเย้ายวนใจของฉินฟาง ร้านราเม็งของเขาขายดีมากก็จริง แต่หลักๆ แล้วเป็นเพราะเส้นบะหมี่ที่เขาทำมีคุณภาพดีมาก ส่วนซอสนั้นค่อนข้างธรรมดา ลูกค้าส่วนใหญ่พูดเช่นนั้น ทว่าฉินฟางในเวลานี้ยังไม่มีวิธีที่จะปรับปรุงซอสของเขาให้ดีขึ้นได้
“ได้สิแต่พี่ใหญ่ต้องให้สัญญา หลังจากที่ข้าบอกสูตรนั่นไปแล้ว ห้ามมายุ่งวุ่นวายกับข้าอีกต่อไป!”
ตอนนี้เหลาซูเฉียงไม่มีทางเลือก แต่ก็ไม่ต้องการปล่อยนกอินทรีไปก่อนที่จะได้เห็นกระต่าย* ดังนั้นมันจึงทำการต่อรองกับฉินฟาง
*ปล่อยนกอินทรีไปก่อนที่จะได้เห็นกระต่าย เป็นการอุปมาอุปไมยว่าไม่ควรรีบหยิบยื่นจนกว่าจะได้รับการยืนยันหรือผลประโยชน์
“แกวางใจได้เลย แม้ว่าอายุผมจะยังไม่มากนัก แต่ก็ไม่คิดทำตัวต่ำช้าเหมือนกับแก ตราบเท่าที่แกไม่ได้โกหก ผมก็จะไม่ทำให้ชีวิตของแกยากลำบาก แต่ถ้าแกโกหกแล้วล่ะก็... หึหึ!”
หลังจากคิดใคร่ครวญสักพัก ฉินฟางก็ตัดสินใจเชื่อว่าเรื่องที่เหลาซูเฉียงพูดนั้นเป็นความจริง ถึงสุดท้ายต่อให้เหลาซูเฉียงโกหก ฉินฟางก็ไม่ได้สูญเสียอะไร ดังนั้นเขาจึงรับปากในทันที แต่เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ลืมใช้ไม้แข็งหลังจากใช้ไม้นวม มีดในมือของฉินฟางก็เลยตรงไปจ่อไว้ที่ ‘น้องชาย’ ของเหลาซูเฉียง
“เฮ้ย!”
กางเกงชายหาดแบบขาสั้นของเหลาซูเฉียงถูกเจาะเป็นรู ส่วนมีดที่เย็นปานน้ำแข็งก็แทบจะสัมผัสกับ ‘น้องชาย’ ของเหลาซูเฉียง ซึ่งมันอยู่ใกล้กันมากเกินไปจนถ้าฉินฟางเบี่ยงมีดไปสักเล็กน้อยแล้ว ‘น้องชาย’ ของเหลาซูเฉียงก็อาจจะใช้การไม่ได้
ด้วยการแทงในครั้งนี้ ความคิดเจ้าเล่ห์เพทุบายใดๆ ที่เหลาซูเฉียงนึกไว้ล้วนหายไปหมดสิ้น ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยน้ำตา ถึงแม้มันจะกลัวโดนแทงแต่สุดท้ายก็แค่ไปพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสักพัก แต่ถ้า ‘น้องชาย’ ของมันโดนแทง...
มันไม่กล้าที่จะนึกถึงอีกต่อไป และตอบกลับอย่างร้อนรน
“พูดแล้ว ข้าพูดแล้ว!”
ฉินฟางผงกหัวและทำการดึงมีดกลับไปหลังจากทำให้เหลาซูเฉียงตกใจ จากนั้นเขาก็เอาหูไปใกล้ปากเหลาซูเฉียง เพื่อทำการฟังสิ่งที่มันกำลังบรรยายให้กับเขาเรื่องสูตรซอสนั่น
“พูดมา”
ฉินฟางรอเหลาซูเฉียงที่พยายามขุดรายละเอียดเกี่ยวกับสูตรซอสนั่นจากส่วนลึกของสมองทีละน้อย เพราะมันต้องรื้อฟื้นความจำจึงเล่าได้ไม่ต่อเนื่อง แต่สุดท้ายก็พูดออกมาจนจบ
< คุณได้รับ [ซอสสูตรลับ] >
เกือบจะในเวลาเดียวกันกับที่เหลาซูเฉียงเล่าจบ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นในหัวของฉินฟาง เห็นได้ชัดว่าซอสสูตรลับที่เหลาซูเฉียงพูดออกมาเป็นของจริง และเป็นฉบับที่สมบูรณ์ทีเดียว ส่วนคุณสมบัติที่ได้จากซอสนั่นคงจะต้องรอฉินฟางทำมันขึ้นมา
……………………………..