ตอนที่ 20 ด้วยเกี๊ยวที่อยู่ในมือข้า ใครหาญกล้ามาต่อกร!
ตอนที่ 20 ด้วยเกี๊ยวที่อยู่ในมือข้า ใครหาญกล้ามาต่อกร!
ผู้แปล : ThreeSwords
ปรับสำนวน : ThreeSwords
“นาย...”
ไม่เพียงอันธพาลทั้งสามจะกลายสภาพไปเป็นไอ้ตัวโง่เง่า กระทั่งหญิงสาวที่เรียกว่าเสี่ยวซูก็ร้องอุทานด้วยความตกใจ เพราะในชีวิตนี้ของพวกเขาไม่เคยเห็นใครหลังจากที่โดนแทงและเสียเลือดแล้ว ยังจะมีอารมณ์มากินเกี๊ยวซ่า
ด้วยบาดแผลที่หนักหนาขนาดนี้ ถ้าเป็นคนอื่นแล้ว กระทั่งขยับตัวก็เป็นเรื่องที่ยากลำบาก มีน้อยคนมากที่จะเจริญอาหารอย่างฉินฟาง
“ผมสบายดี...”
ขณะที่ฉินฟางกำลังเคี้ยวเกี๊ยวซ่าตุ้ยๆ เขาก็ไม่ลืมที่จะยิ้มให้กับเสี่ยวซูที่อยู่ด้านข้าง อย่างไรก็ตามในใจเขาก็นึกก่นด่าเธออยู่บ้าง
‘ยัยบ้าเอ๊ย! เพื่อช่วยเธอ ผมเกือบจะเอาชีวิตไปทิ้ง แต่เธอก็ยังคงยืนอยู่ที่นี่เหมือนคนปัญญาอ่อน! เลือดที่ผมเสียไปทั้งหมดจะสูญเปล่าอย่างงั้นเหรอ!?’
แน่นอนว่าฉินฟางแค่นึกอยู่ในใจเท่านั้น เพราะเขาคงไม่สามารถพูดอย่างนั้นต่อหน้าเธอได้
ถึงแม้ว่าเขาจะบ่นอยู่ภายในใจ และเลือดก็ยังคงไหลออกมาจากบาดแผล แต่หลังจากยัดเกี๊ยวซ่า 7-8 ชิ้นลงไปในกระเพาะ ค่า HP ของเขาก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว การเพิ่มขึ้นนั้นเห็นได้ชัดว่าเร็วกว่าอัตราของเลือดที่เสียไป ทำให้ในตอนนี้ชีวิตของเขาถูกช่วยเหลือไว้ชั่วคราว
ไม่เพียงเท่านั้น ขณะที่จำนวนของเกี๊ยวซ่าลดลง ปริมาณของเลือดที่สูญเสียไปก็ลดลงด้วยเช่นกัน และอาการของเขาก็เริ่มทรงตัว ในเวลาเดียวกันนั้นผิวหน้าของฉินฟางก็กลายเป็นแดงมากขึ้น ไม่ซีดจนน่ากลัวเหมือนเมื่อสักครู่นี้
เสี่ยวซูจริงๆ แล้วไม่เชื่อในคำพูดของฉินฟาง แต่เมื่อท่าทางของฉินฟางค่อยๆ เริ่มดีขึ้น และบาดแผลที่เอวก็ประสานกันอย่างช้าๆ เธอทำได้เพียงมองเหตุการณ์ประหลาดนี้ด้วยสายตาที่ว่างเปล่า และก็นิ่งอึ้งไปโดยไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
“ลูกพี่ พวกเรา...”
เจ้าลูกสมุนทั้งสองรู้สึกขนลุกหลังจากเห็นการเปลี่ยนแปลงของฉินฟาง และแทบจะไม่สามารถอยู่ดูต่อไปได้ ถ้าไม่เป็นเพราะเหลาซูเฉียงยังยืนอยู่ที่นี่ พวกมันทั้งสองคงจะวิ่งหนีไปนานแล้ว
เรื่องก่อนหน้านี้ซึ่งทำให้ลูกสมุนชุดที่แล้วของเหลาซูเฉียงวิ่งหนีไป มันก็ก่นด่าพวกนั้นในใจว่าเป็นพวกขยะใจเสาะ แต่ใครจะไปคิดว่าไม่นานหลังจากนั้น ลูกสมุนชุดใหม่ของมันจะกลายเป็นพวกขยะใจเสาะด้วยเช่นกัน
เมื่อมันมองไปยังฉินฟางซึ่งก่อนหน้านี้อยู่บนปากเหวแห่งความตาย แทนที่จะโทรเรียกรถพยาบาลตอนที่เขากำลังจะตาย ฉินฟางกลับเริ่มกินเกี๊ยวซ่าซึ่งนั่นทำให้เขาดูน่าหวาดกลัวพอสมควร แต่เหนือสิ่งอื่นใดการที่เขากินเกี๊ยวซ่ากลับมีผลต่อการหยุดไหลของเลือดจนสีหน้าเขาดูดีขึ้น ในเวลานี้ฉินฟางดูไม่เหมือนคนที่กำลังจะตาย ไม่ว่าจะมองดูเขายังไง
“ไป...”
เหลาซูเฉียงรู้สึกแปลกใจและตกใจเป็นอย่างมาก เหตุการณ์ที่อยู่ต่อหน้านั้นเกินกว่าขอบเขตความเข้าใจของมัน อันที่จริงแล้วมันต้องการที่จะหลบหนีไปตั้งแต่แทงฉินฟางและเห็นเขาเสียเลือดเป็นจำนวนมาก
มันวางแผนที่จะออกไปจากเมืองแห่งนี้ ซึ่งแน่นอนว่าดีกว่าที่จะถูกจับในคดีฆาตกรรม แต่ในชั่วพริบตาฉินฟางก็ฟื้นตัว ดังนั้นมันจึงไม่จำเป็นจะต้องหลบหนีอีกต่อไป ทว่าสถานการณ์ในเวลานี้ก็ดูน่าขนลุกเกินไป ทำให้มันยังคงตัดสินใจที่จะจากไปดีกว่า
“เฮ้ เหลาเกอ พวกเรายังไม่ทันได้เจรจาตกลงกันเลย คุณต้องการที่จะไปแล้วงั้นเหรอ?”
แต่ขณะที่มันกำลังจากไปนั้น ก็มีหินก้อนหนึ่งโยนมาที่หัวของมัน ซึ่งนั่นทำให้เหลาซูเฉียงหันกลับมาเนื่องจากความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในทันทีทันใด สิ่งที่มันเห็นตอนหันกลับมาคือตัวของฉินฟางซึ่งยืนอยู่และกำลังอบอุ่นร่างกาย คล้ายว่าเตรียมที่จะต่อสู้กับพวกมันอีกครั้ง
“ไอ้หนุ่ม แกคงจะได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ เรื่องราวทั้งหมดเป็นเพราะคนอ้วนเฉินขอร้องให้ทำ พวกข้าก็แค่รับเงินมาและทำงานให้คุ้มค่าเงินนั่น ดังนั้นพวกเราทั้งสองฝ่ายไม่มีเรื่องบาดหมางซึ่งกันและกัน ถูกมั้ย?”
อันที่จริงแล้วเหลาซูเฉียงรู้สึกหวาดกลัวเมื่อมองไปยังฉินฟาง ก็ใครมันจะไปเคยเห็นคนที่ยืนอยู่ได้แถมยังอบอุ่นร่างกายหลังจากถูกแทงกันล่ะ? มีเพียงคนซึ่งไร้ความกลัวเท่านั้นที่จะไม่ตกอกตกใจหลังจากได้เห็นฉากที่น่าแปลกประหลาดเช่นนี้ และแน่นอนว่าเหลาซูเฉียงไม่ใช่คนประเภทนั้น
“ไม่มีเรื่องบาดหมางงั้นเหรอ? แกคิดว่าพวกเราไม่มีเรื่องบาดหมางกัน...”
แต่ฉินฟางไม่เพียงตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่เยียบเย็น และไล่ต้อนเหลาซูเฉียงกับพวกไปทีละก้าว สายตาของฉินฟางก็ดุร้ายมากด้วยเช่นกัน เหลาซูเฉียงคนนี้เป็นคนขี้ลืมจริงๆ ก่อนหน้านี้มันเพิ่งจะถูกอัดเพราะข่มเหงผู้หญิง แต่ตอนนี้มันทำราวกับว่าลืมเหตุการณ์นั้น และเริ่มทำการย่ำยีผู้หญิงคนอื่นอีกครั้ง
“ลูกพี่...!”
ลูกสมุนทั้งสองก็รู้สึกขนลุกด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดแล้วฉินฟางก็ยังเป็นคนคนหนึ่ง สาเหตุที่พวกมันประสบความสูญเสียเช่นนี้เป็นเพราะไม่ได้เตรียมตัวรับการซุ่มโจมตีของฉินฟาง ตอนนี้พวกมันมีอยู่สามคนกับฝ่ายตรงข้ามซึ่งมีอยู่เพียงคนเดียว เห็นได้ชัดว่าใครเป็นคนได้เปรียบ ถ้าพวกมันทั้งสามไม่สามารถกระทั่งเอาชนะฉินฟางด้วยข้อได้เปรียบที่มีเหลือล้นในตอนนี้ พวกมันก็ควรเลิกเป็นอันธพาลไปได้แล้ว
“แผลของเจ้าเด็กนั่น...”
แต่เหลาซูเฉียงก็ยังรู้สึกลังเล แผลถูกแทงที่เอวนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ถ้าฉินฟางเสียเลือดจำนวนมากอีกครั้งแล้ว เขาก็อาจจะตายจริงๆ
*ผัวะ*
แต่ฉินฟางไม่ได้ให้ทางเลือกพวกมันหลบหนี หินขนาดไข่นกกระทาก้อนหนึ่งจู่ๆ ก็ลอยออกจากมือของฉินฟาง และตรงไปกระทบที่หน้าผากของเหลาซูเฉียง จนเลือดเริ่มที่จะไหลในทันที
< ทักษะ [ลอบโจมตี] ทำงาน, เป้าหมายตกอยู่ในสถานะ [มึนงง] >
การใช้งานทักษะ [ลอบโจมตี] ประสบผลสำเร็จอย่างน่าประหลาดใจ และด้วยความจริงที่ว่าการใช้วัตถุอื่นซึ่งไม่ใช่ [ฮูลิแกนบริค] ส่งผลต่อความเป็นไปได้ในการติดสถานะ [มึนงง] ลดต่ำลงนั้น ก็ยิ่งทำให้ฉินฟางรู้สึกประหลาดใจมากขึ้นและมีความยินดีในทันที เขาฉวยข้อได้เปรียบที่เหลาซูเฉียงไม่สามารถสั่งการลูกสมุนของมันได้เนื่องจากการ [มึนงง] เข้าทำการถีบไปที่หน้าอกของเหลาซูเฉียงอย่างแรง
*ตั๊บ!*
เสียงทึบและต่ำดังสนั่น ร่างผอมบางของเหลาซูเฉียงปลิวไปเพราะแรงถีบของฉินฟาง ตัวของมันงอเป็นรูปตัววีขณะที่ลอยไปด้านหลัง จากนั้นก็ชนเข้ากับเสาไฟถนนอย่างแรงและแน่นิ่งไป
“ลูกพี่!... แมร่งเอ๊ย! มึงตาย!”
ส่วนเจ้าลูกสมุนทั้งสองที่กำลังลังเลและไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะสู้หรือหนีนั้น ในทันทีที่เหลาซูเฉียงพลาดท่าให้กับฉินฟาง พวกมันก็ไม่กล้าลังเลอีกต่อไป และรีบเหวี่ยงหมัดไปยังฉินฟาง
เป็นธรรมดาที่ฉินฟางจะไม่ต้องการแสดงความอ่อนแอใดๆ และเหวี่ยงหมัดของเขาไปยังเจ้าลูกสมุนทั้งสองด้วยเช่นกัน พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาไม่เกรงกลัวเรื่องจำนวนคนที่มากกว่าเลย
*ผัวะ!* *ผัวะ!* *ผัวะ!*
ฉินฟางกับเจ้าลูกสมุนทั้งสองต่างโยนหมัดใส่กันโดยไร้ซึ่งเทคนิคในการชก ทั้งสองฝ่ายมีความคิดเพียงแค่ว่า ‘ถ้าโดนไปหนึ่งหมัด ก็จะเอาคืนสองหมัด’ พวกนั้นยังคงต่อสู้กันต่อไป ส่วนหญิงสาวที่เรียกว่าเสี่ยวซูนั้นก็กำลังนึกกังวลอยู่ด้านข้าง เพราะเธอเองไม่รู้ว่าจะช่วยเขาได้ยังไง
การต่อสู้สำหรับพวกอันธพาลแล้ว มันเป็นเรื่องปกติธรรมดาเหมือนกับการกิน แต่สำหรับฉินฟางที่เพิ่งเรียนจบมอปลาย การต่อสู้เป็นสิ่งที่แตกต่างไปจากตัวตนของเขาเกือบจะทั้งหมด
กำปั้นและลูกเตะถูกระดมเข้าใส่ฉินฟางอย่างต่อเนื่อง ถ้ามีคนอื่นทั่วไปมาแทนฉินฟางในตอนนี้ พวกนั้นก็อาจจะทรุดลงไปนานแล้ว แต่ฉินฟางกลับสมบูรณ์ดี และอาศัยจังหวะที่พวกอันธพาลเข้าปะทะตรงๆ ทำการเปิดช่องสวนพวกมันกลับไปด้วย
ขนาดถูกฟาดอย่างหนักด้วยเก้าอี้พับ ฉินฟางยังเสียค่า HP แค่ 4 หน่วย เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วหมัดของพวกอันธพาลก็ไม่ได้มีอะไรเลย
หลังจากถูกอัดมาเป็นเวลานาน ฉินฟางเสียค่า HP ไป 1 หน่วยเท่านั้น ในทางตรงกันข้ามการตอบโต้ของฉินฟางกลับรุนแรงมากขึ้น และการโต้กลับเกือบทั้งหมดทำให้พวกมันเอนไปเอนมา
เวลาแห่งการต่อสู้ผ่านไปอย่างช้าๆ จนเจ้าลูกสมุนทั้งสองก็รู้สึกเหนื่อยล้าอยู่บ้าง ส่วนฉินฟางศัตรูของพวกมัน ก็แสดงให้เห็นการเคลื่อนไหวที่อ่อนแรงด้วยเช่นกัน ซึ่งนั่นทำให้พวกมันรู้สึกมั่นใจว่าจะชนะ
แต่ในขณะที่พวกมันคิดว่ากำลังจะชนะ ทันใดนั้นฉินฟางก็พุ่งเข้าหาหนึ่งในพวกมัน และใช้แรงเฉื่อยจากร่างกายของเขาทำการฝ่าวงล้อม จากนั้นก็รีบหยิบเกี๊ยวซ่าออกมาจากกระเป๋าและเริ่มรับประทาน
เจ้าลูกสมุนทั้งสองปากอ้าตาค้างในทันที มีใครที่ไหนเขากินเกี๊ยวซ่าระหว่างการต่อสู้กันวะ?
แต่ในช่วงเวลาที่พวกมันตกตะลึง ฉินฟางก็ได้กินเกี๊ยวซ่าลงไปสามชิ้นแล้ว ท่าทางอ่อนล้าก่อนหน้านี้ของฉินฟางหายไปในทันที และกลับมาเริงร่าอีกครั้ง การชกของเขาก็กลายเป็นเฉียบคมมากขึ้นด้วยเช่นกัน
“ฮิฮิ... ด้วยเกี๊ยวที่อยู่ในมือข้า ใครหาญกล้ามาต่อกร!”
.
……………………………..