ตอนที่ 194: พื้นที่หกวงแหวน (1)
"อย่างไรก็ตามถ้าอิซาเบลล้มเหลวในการก้าวไปขั้นต่อไปภายในหนึ่งร้อยปีเธอก็จะต้องเปลี่ยนร่างกายของเธอเป็นรูปแบบพลังงาน...." เดรอนส่ายหัว เขาคิดว่าโอกาสล้มเหลวต่ำเกินไป การไปถึงระดับสองอาจจะเป็นเรื่องยากแต่ระดับพรสวรรค์ของอิซาเบลและทรัพยากรที่ตระกูลของเธอจะช่วยให้ก้าวไปสู่ขั้นคริสตัล
ก่อนขึ้นรถม้าอิซาเบลก็หันกลับมาและกระซิบกับเดรอน เธอบอกเดรอนให้มอบตราไม้ให้แองเจเล่เพื่อที่จะทำให้เขามีสิทธิ์ซื้อขายในพื้นที่รวมถึงสิทธิในการซื้อทรัพยากรและความรู้ นอกจากนี้แองเจเล่ยังอาจเป็นผู้อยู่อาศัยของพื้นที่หกวงแหวนด้วยเศษไม้เล็กๆนี้
อิซาเบลส่งข้อมูลบางอย่างให้แองเจเล่โดยใช้อนุภาคพลังงานก่อนที่จะออกเดินทางในรถม้า
แองเจเล่ยืนอยู่บนดาดฟ้าและเฝ้าดูอิซาเบลออกไปพร้อมกับสมาชิกในตระกูลของเธอ เขาค่อยๆลงบันไดและก้าวไปบนพื้น
"ข้าหวังว่าข้าจะช่วยเธอได้" อิซาเบลบอกแองเจเล่เกี่ยวกับสถานการณ์ของเธอในข้อความที่เธอส่งมา อิซาเบลไม่ได้บอกตระกูลของเธอเกี่ยวกับสภาพร่างกายของเธอและการใช้เลือดแรด ตระกูลคิดว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ได้ประมาณหนึ่งร้อยปีแต่ความจริงเธอเหลือแค่ประมาณยี่สิบปี เธอบอกให้แองเจเล่ทำเลือดแรดบริสุทธิ์ให้เธอเพื่อที่อย่างน้อยเธอก็พยายามที่จะเข้าถึงขั้นคริสตัล โชคชะตาของตระกูลของอิซาเบลจะเปลี่ยนไปถ้าหากทุกสิ่งทุกอย่างมันแย่ลง
'แม่ของเธอจะรู้ความจริงในไม่ช้า'
แองเจเล่คิดชั่วครู่และส่ายหัว มีลมอ่อนๆพัดโดนใบหน้าของเขา
ชายฝั่งว่างเปล่าหลังจากที่พวกของอิซาเบลจากไป
เขามองไปรอบๆ คนที่เขาเห็นมีเพียงลูกเรือที่เพิ่งถ่ายสินค้าเสร็จ
"ท่านกรีน ตอนนี้เราสามารถไปได้แล้วใช่หรือไม่" กัปตันฮอว์คตะโกนจากดาดฟ้า เขาพยายามพูดอย่างสุภาพที่สุด
พ่อมดฝึกหัดขั้นสามและลูกเรือทั้งหมดยืนอยู่ข้างราวและจ้องที่แองเจเล่
"ใช่" แองเจเล่พยักหน้า เขาสังเกตเห็นว่าคนเหล่านี้กลัวพลังของเขา
กัปตันฮอว์คดูโล่งใจหลังจากที่ได้ยินคำตอบของแองเจเล่ พวกเขาดึงบันไดขึ้นและเริ่มเตรียมตัวแล่นเรือ
เรือค่อยๆจากไปหลังจากผ่านไปหลายนาที
แองเจเล่ยืดหลังและดึงปกคอเสื้อขึ้น เขาเดินไปที่ถนนฝั่งตรงข้ามของท่าเรือ
หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงก็มีทางแยกปรากฏข้างหน้าและมีป้ายบอกทางอยู่ตรงกลาง ถนนไปทางทิศตะวันตกไปพื้นที่การค้าสาธารณะและไปทางตะวันออกไปหอคอยหกวงแหวน
แองเจเล่ตรวจสอบป้ายและเลี้ยวขวาทันที
แม้ว่าเคอร์แมนจะเป็นพ่อมดของหอคอยหกวงแหวนเขายังคงสงสัยว่ามีใครจะรู้ไหมว่าชายคนนี้ยังเป็นสมาชิกของลัทธิด้วย คนที่รู้ว่าแองเจเล่ฆ่าเคอร์แมนทั้งหมดตายบนเกาะดังนั้นเขาจึงไม่มีอะไรต้องกลัว
แม้ว่าองค์กรจะพยายามตามหาเคอร์แมนสนามพลังที่ล้อมรอบซากปรักหักพังก็จะขัดขวางคาถาพยากรณ์ทุกประเภท มีคนไม่มากนักที่รู้เรื่องตำแหน่งที่ตั้งที่แน่นอนของเกาะนั้น
ด้วยตราซามันก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องกังวลเกี่ยวกับการถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรในปัจจุบัน
โนล่าเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่
ดินแดนของหอคอยหกวงแหวนมีขนาดเท่าจังหวัด มีเมืองใหญ่หลายเมืองที่ถูกควบคุมโดยตระกูลพ่อมดหลายตระกูล เมืองเล็กบางเมืองได้ทำสัญญากับพ่อมด
สถานการณ์คล้ายคลึงกันสำหรับองค์กรใหญ่อีกสององค์กร
องค์กรใหญ่แต่ละองค์กรทำงานเหมือนประเทศเล็กๆ นอกจากนี้ยังใช้พื้นที่สาธารณะเป็นที่อาศัยในการติดต่อสื่อสาร
แองเจเล่เดินประมาณหนึ่งชั่วโมง มีต้นไม้ทั้งสองข้างของถนน มีกำแพงเมืองสีดำสูงปรากฏข้างหน้าปิดกั้นเส้นทางเหมือนงูตัวยาวที่กำลังเลื้อย แองเจเล่มองไปรอบๆ เขาไม่เห็นปลายกำแพงและทางเข้าใดๆบนผิวของมัน
สุดถนนมีบังเกอร์สีดำที่มีปล่องควันไฟอยู่ด้านบน
มีชายชราสองคนสวมชุดคลุมสีเทานั่งอยู่นอกประตูของบังเกอร์กำลังเล่นหมากรุกบนโต๊ะสี่เหลี่ยมสีขาว
ทางด้านขวาของบังเกอร์เป็นพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ มีรถม้าสีดำและสีขาวหลายคันที่มีการแกะสลักที่แตกต่างกันจอดอยู่ที่นั่น
แองเจเล่เห็นบังเกอร์และเดินตรงไป
สถานที่นี้ดูไม่เหมือนทางเข้าขององค์กรใหญ่
ชายชราสองคนสังเกตเห็นเขาและยืนขึ้นพร้อมกัน
"นี่เป็นประตูหลังของหอคอยหกวงแหวน เจ้าเป็นใครและมาทำไมที่นี่" หนึ่งในชายชราถามด้วยความสับสน
ปกติสมาชิกจะเข้าองค์กรจากท่าเรือส่วนตัวเนื่องจากท่าเรือสาธารณะมุ่งหน้าสู่ประตูหลังเท่านั้น นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมถึงไม่มีคนจำนวนมากนัก
แผนเดินของแองเจเล่คือการเข้าร่วมหอคอยหกวงแหวน อย่างไรก็ตามเขาตัดสินใจที่จะทำเพียงการค้าทรัพยากรหายากกับองค์กรหลังจากที่ได้รับตราจากอิซาเบล
"ข้าเป็นพ่อมดที่เกี่ยวข้องกับตระกูลโจเนส" แองเจเล่เอาตราไม้สีน้ำตาลออกมา มีตัวอักษร 'S' อยู่บนผิวของมันมีเส้นบิดเบี้ยวสองเส้นข้างบนและข้างล่าง
ชายชราตรวจสอบตราไม้
ตราไม้เริ่มเรืองแสงหลังจากที่จ้องไปที่มัน ลวดลาย 'S' บนผิวของมันบิดเบี้ยวเล็กน้อยเหมือนงูที่มีชีวิต
ชายชราสองคนเป็นเพียงพ่อมดฝึกหัดขั้นที่สามเท่านั้น พวกเขารีบโค้งให้แองเจเล่หลังจากที่ตรวจสอบความถูกต้องของตรา
"ตอนนี้ข้าสามารถเข้าไปได้หรือยัง" แองเจเล่พยักหน้า
"แน่นอน"
ชายชราตอบ เขาแก้คทาสั้นสีขาวออกจากเข็มขัดและชี้ไปที่กำแพง
ชี่
มีประตูโค้งขนาดใหญ่ปรากฏที่กำแพงสีดำ แองเจเล่มองเห็นหญ้าสีเขียวที่อีกด้าน
แองเจเล่เก็บตราไม้ใส่ถุงกระเป๋าและเดินไปที่ประตู
มีคลื่นพลังงานมากกว่าสิบคลื่นวิ่งผ่านร่างของเขาขณะที่เขาเข้าประตูและหายไปหลังจากที่ตราไม้เรืองแสงอีกครั้ง
'น่าสนใจ ข้าสงสัยว่าคนจะสามารถเข้าประตูได้ด้วยการบังคับ แต่การป้องกันที่นี่ดีมาก' แองเจเล่พยักหน้าเล็กน้อย
อีกด้านของกำแพงเป็นทะเลสีเขียวเข้มที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ระหว่างต้นไม้มีทางเดินแคบๆสีขาวนำไปสู่พื้นที่ที่ลึกขึ้น มันยาวและคดเคี้ยว
แองเจเล่อยู่ในดินแดนของหอคอยหกวงแหวนแล้ว
ช่องว่างระหว่างต้นไม้แองเจเล่มองเห็นอนุสาวรีย์สีขาวที่อยู่ห่างออกไปแทบจะมองไม่เห็นในหมอก อย่างไรก็ตามมันดูเหมือนว่าอนุสาวรีย์นี้ไม่ใช่ตัวเดียวกับสิ่งที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ในพื้นที่ซื้อขายสาธารณะ ตัวนี้มันต่างออกไป
ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงนกกระพือปีกบนท้องฟ้า
แองเจเล่เงยหน้าขึ้นและเห็นอินทรีตัวใหญ่ประมาณสิบตัวบินเหนือหัวของเขา มีคนชุดคลุมสีเทานั่งอยู่บนหลังของอินทรีเหล่านั้น ดูเหมือนว่าพวกเขายังไม่ได้เป็นพ่อมดทางการ
ตามคำแนะนำของอิซาเบลมีพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลผู้คนมากมายในหอคอยหกวงแหวนและด้วยทางเข้าดินแดนจากประตูหลังเขาก็สามารถเข้าถึงหนึ่งในหอคอยการค้าได้อย่างรวดเร็วโดยการเดินตามเส้นทาง
หอคอยการค้าเป็นจุดโปรดของพ่อมดที่ส่วนใหญ่จะใช้สำหรับการค้าขายความรู้และทรัพยากร มีข้อกำหนดสองข้อสำหรับการสร้างหอคอยการค้า
ข้อแรกองค์กรที่แข็งแกร่งจะช่วยรักษาความเป็นธรรมของการค้า
ข้อสองคริสตัลรูปเพชรขนาดใหญ่สำหรับการสื่อสารสาธารณะ
มีรถม้าหลายคันและม้าหลายตัวที่แองเจเล่ผ่านขณะที่เขามุ่งหน้าไปหอคอย
พ่อมดแสงบางคนขี่ม้าและบางคนขี่สัตว์อสูรแปลกๆที่มีร่างเป็นวัวและเท้าเป็นแพะ ทุกคนกำลังเดินทางด้วยความเร็วเต็มที่
นอกจากนี้แองเจเล่ยังเห็นพ่อมดขี่สัตว์บินในท้องฟ้ามุ่งหน้าไปยังพื้นที่อื่นเป็นครั้งคราว
แองเจเล่สวมชุดคลุมเทาเดินผ่านทางแยกหลายสายขณะที่ถนนกว้างขึ้น ข้างหน้ามีพ่อมดมากขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุดเขาก็มองเห็นอนุสาวรีย์สีขาวที่ตั้งอยู่ข้างถนนอย่างเงียบๆได้ชัดเจน
มีรถม้าหลายคันจอดอยู่บนพื้นที่ว่างข้างหน้าเสาอนุสาวรีย์
อนุสาวรีย์สีขาวสูงมากกว่าสิบเมตรและล้อมรอบไปด้วยราวโลหะ มันเกือบจะดูเหมือนอนุสาวรีย์ที่จมลงสู่พื้นหญ้า
พ่อมดยืนอยู่รอบๆหอคอย แองเจเล่ไม่แน่ใจว่าพวกเขากำลังทำอะไร บางคนดูตื่นเต้นแต่บางคนดูผิดหวัง
นอกจากนี้ยังมีพ่อมดหมายคนที่กดฝ่ามือเข้ากับตัวหอคอยโดยการปิดตาด้วยเหตุผลบางอย่าง
แองเจเล่ค่อยๆเดินไปที่เสาอนุสาวรีย์ยังพยายามคิดให้ออกว่าเกิดอะไรขึ้นขณะที่ตรวจสอบสภาพแวดล้อมตลอดเวลา พฤติกรรมของเขาดึงดูดความสนใจบางอย่าง
พ่อมดฝึกหัดวัยเยาว์สาวคนที่กำลังคุยกันข้างหอคอยสังเกตเห็นแองเจเล่ หนึ่งในนั้นกระซิบกับเพื่อนของเขาและรีบเดินมาทางแองเจเล่
"นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านเยี่ยมชมหอคอยใช่ไหม" ชายคนนั้นถาม "ท่านต้องการความช่วยเหลือหรือไม่"
แองเจเล่มองไปรอบๆ เขาพยายามจะแสดงให้เห็นว่าเขารู้ว่าหอคอยทำงานอย่างไร แต่ดูเหมือนว่ามีคนหลายคนที่นี่ทำตัวเหมือนเขา
อีกสองคนที่มาใหม่ที่อยู่ข้างหลังเขาได้รับการต้อนรับโดยพ่อมดฝึกหัดด้วยเช่นกัน
เขาขบริมฝีปากและดูพ่อมดฝึกหัดข้างหน้าเขา ชายคนนี้เป็นพ่อมดฝึกหัดขั้นที่สอง จากคลื่นพลังงานที่เขาปลดปล่อยมาแองเจเล่ระบุได้ว่าชายคนนี้เพิ่งก้าวถึงขั้นที่สองไม่นานมานี้
เขามีผิวสีเหลือง ผมสีดำและตาสีดำ พ่อมดฝึกหัดคนนี้มีใบหน้าดูธรรมดาและอาจจะไม่เป็นที่ดึงดูดในฝูงชน
"เจ้าเป็นใคร" แองเจเล่มองไปที่เขาและถาม
ชายหนุ่มโค้งให้และเริ่มอธิบาย
"ข้าอยู่ในความดูแลของหอคอยการค้านี้ ไม่ต้องกังวลเพราะข้าเป็นหนึ่งในพ่อมดฝึกหัดที่ถูกส่งมาที่นี่โดยองค์กร ข้าจะอธิบายวิธีใช้หอคอยให้ท่าน นอกจากนี้ถ้าท่านไม่ว่าอะไรข้าสามารถแนะนำบริการอื่นๆให้แก่ท่านได้" เสียงของเขาดูอ่อนเยาว์และขะมักเขม้น
"หืม" แองเจเล่มองไปที่ผู้คนรอบๆอนุสาวรีย์ "ดังนั้นพวกเขากำลังส่งข้อความเพื่อสื่อสารงั้นหรือ ข้าคิดว่าข้าสามารถทำอย่างนั้นได้"
"ท่านพูดถูก ให้ข้าแนะนำตัวเองก่อน ข้าชื่ออีวาน" ชายหนุ่มยิ้ม "ถ้าท่านรู้วิธีการส่งและรับข้อความได้โปรดตามข้าไปหาพ่อมดฝึกหัดขั้นที่สาม พวกเขาจะแนะนำท่านเรื่องกระบวนการซื้อขายที่นี่รวมถึงวิธีการระบุช่องคลื่นสัญญาณ"