ตอนที่ 18 หญิงสาวที่เรียกว่าเสี่ยวซู
ตอนที่ 18 หญิงสาวที่เรียกว่าเสี่ยวซู
ผู้แปล : ThreeSwords
ปรับสำนวน : ThreeSwords
หลังจากทำการโทรเสร็จสิ้น เหลาซูเฉียงกับเหล่าลูกสมุนก็ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับคนอ้วนเฉินอีก พวกมันเพียงโยนเขาไปที่มุมหนึ่งพร้อมกับสูบบุหรี่รอ อย่างไรก็ตามสายตาของพวกมันก็ยังจับจ้องเขาตลอดเวลา ไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสหลบหนี
อีกด้านหนึ่งนั้นในที่สุดแล้วฉินฟางก็ไม่ได้จากไป เขาไม่ได้สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนอ้วนเฉินเลย แต่เขาไม่อาจรับประกันได้ว่าเหลาซูเฉียงกับพวกจะไม่ทำเรื่องที่น่ารังเกียจอีก ในเมื่อเขาอาศัยอยู่ตัวคนเดียวจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญว่าจะต้องกลับบ้านตอนไหน ก็เลยซ่อนตัวต่อไปและรอดูสถานการณ์ว่าจะออกไปในทิศทางไหน
บ้านของคนอ้วนเฉินไม่ได้ไกลจากที่นี่ ดังนั้นหลังจากผ่านไปสักพักฉินฟางจึงเห็นร่างที่เพรียวบางเดินเข้ามาในซอยอย่างช้าๆ ดูจากรูปร่างเพียงอย่างเดียวก็สามารถบ่งบอกได้ว่านี่คือหญิงสาวคนหนึ่ง
มันค่อนข้างดึกมากแล้วและรอบๆ บริเวณไม่มีคนอยู่เลย ถ้าหญิงสาวคนหนึ่งไม่มีเหตุที่ต้องกระทำแล้ว เธอก็คงจะไม่กล้าที่จะออกมาข้างนอกตามลำพัง นับประสาอะไรกับซอยเปลี่ยวเช่นนี้
ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่าหญิงสาวที่กำลังเดินเข้ามาคือหลานสาวของคนอ้วนเฉิน ซึ่งฉินฟางสามารถรู้ได้โดยไม่จำเป็นเคยต้องพบเจอหญิงสาวผู้นี้
เกือบจะในเวลาเดียวกับที่ฉินฟางกำลังคิดพิจารณาอยู่นั้น หญิงสาวคนนั้นก็เดินออกมาจากซอยแล้ว และปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าสายตาของฉินฟาง
เครื่องแต่งกายของหญิงสาวคนนั้นดูเรียบง่ายมาก เธอสวมกางเกงยีนส์สีดำกับเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้ซึ่งดูล้าสมัย และรองเท้าแตะธรรมดาทั่วไป แม้ว่าจะสวมชุดที่มาจากร้านแผงลอยทั้งตัว มันก็ไม่สามารถลดความงามของใบหน้าเธอ ถ้าแต่งตัวเพิ่มอีกสักนิดแล้วเธอน่าจะมีความงามทัดเทียมกับถังเฟยเฟยอย่างแน่นอน
“เช่นนี้แล้ว ดูท่าจะลำบากแน่ๆ...”
ถ้าไม่รู้ก็คงไม่เกิดปัญหา แต่หลังจากเห็นรูปร่างหน้าตาของหญิงสาวแล้ว ฉินฟางก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น
เหลาซูเฉียงกับพวกเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนที่มีจิตใจดีงาม ถ้าพวกมันกล้าที่จะคุกคามถังเฟยเฟยในที่สาธารณะแล้ว อะไรที่พวกมันจะทำในคืนที่เงียบสงัดกับสถานที่เปลี่ยวเช่นนี้ล่ะ? ฉินฟางนึกกลัว...
ฉินฟางไม่กล้าที่จะคิดอีกต่อไป เขาสามารถทำได้เพียงรอจนสถานการณ์ถูกตีแผ่ออกมา และภาวนาว่ามันจะไม่เป็นไปตามที่เขาคาดคะเนไว้
หลังจากที่หญิงสาวเดินออกจากซอยก็มองไปยังถนนรอบๆ สี่แยก มือทั้งสองของเธอกุมแน่นอยู่ที่หน้าท้อง กระทั่งฉินฟางที่อยู่ในห่างออกไปก็สามารถเห็นได้ว่ามีอะไรยื่นออกมาเล็กน้อยตรงบริเวณนั้น เป็นไปได้ว่าคนอ้วนเฉินอาจขอร้องให้เธอซ่อนเงินไว้แบบนั้นขณะเดินมาที่นี่
“เสี่ยวซู เสี่ยวซู... ลุงอยู่ที่นี่!”
คนอ้วนเฉินซึ่งอยู่ที่มุมถนนหนึ่งก็ตะโกนเรียกเสี่ยวซูในทันทีเมื่อหญิงสาวปรากฏตัว เหลาซูเฉียงกับพวกก็ทำการดับบุหรี่และยกตัวคนอ้วนเฉินขึ้น จากนั้นก็เดินตรงไปยังหญิงสาว ด้วยความบังเอิญทิศทางที่พวกมันเดินมานั้นอยู่ตรงหน้าสายตาของฉินฟาง และระหว่างฉินฟางกับพวกนั้นมีเพียงถนนคั่นโดยไม่มีรถหรือผู้คนเลย
“ลุงค่ะ ลุง...”
หญิงสาวเต็มไปด้วยความสงสัยขณะที่มองไปยังคนอ้วนเฉินที่กำลังใกล้เข้ามา ใบหน้าของเขาเปลี่ยนจากหน้าที่เหมือนหมูกลายไปเป็นช้าง จนเธอสามารถเห็นเค้าโครงหน้าเดิมของคนอ้วนเฉินได้เพียงเล็กน้อย หญิงสาวรู้สึกตื่นตระหนก แต่หลังจากเห็นคนทั้งสามซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นอันธพาลอยู่ข้างๆ ลุงของเธอ ก็ทำให้เธอเผลอเดินถอยหลังไปสองสามก้าว
“อย่าเพิ่งพูดอะไรเกี่ยวกับตัวของลุงในเวลานี้ หลานได้เอาสิ่งที่ลุงขอมาด้วยไหม?”
ตอนนี้สิ่งเดียวที่คนอ้วนเฉินต้องการคือการรีบออกไปจากที่นี่ ถ้าเขายังคงอยู่ที่นี่นานต่อไปก็อาจจะถูกซ้อมอีกรอบ นอกจากนี้เลือดที่ไหลออกจากมือของเขาก็ยังไม่หยุดสนิท
“เอามาสิคะ นี่ค่ะ...”
หญิงสาวเอาเงินที่ถูกห่อด้วยกระดาษออกมาจากเสื้อเชิ้ตของเธอในทันที แต่ตอนที่เธอนำเงินออกมานั้นก็ได้เผยผิวที่ขาวราวหิมะและปุ่มหน้าท้องซึ่งแลดูน่ารักบางส่วนออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เหลาซูเฉียงที่สังเกตเห็นแล้วว่าหญิงสาวคนนี้สวยมากแม้จะแต่งกายล้าสมัย ดวงตาทั้งสองก็เกิดประกายขึ้นเมื่อมันได้มอง
หญิงสาวหวาดกลัวการจ้องมองที่หยาบโลนนี้ และมือทั้งสองของเธอก็สั่นจนเงินที่ถือไว้เกือบจะตกลงบนพื้น เพราะความกักขฬะที่สายตาของเหลาซูเฉียงสื่อออกมาทำให้หญิงสาวผู้ซึ่งไม่เคยผ่านเรื่อง ‘นั้น’ มาก่อนรู้สึกตื่นตระหนก
คนอ้วนเฉินเห็นได้ชัดว่าไม่ได้รับรู้ถึงสายตาที่สื่อออกมาจากเหลาซูเฉียง ทำเพียงก้มหน้าหยิบเงินมา และจากนั้นก็ส่งมอบเงินไปตรงหน้าเหลาซูเฉียงอย่างระมัดระวัง พร้อมกับพูดว่า
“เหลาเกอ เงินอยู่นี่แล้ว... ฉันสามารถกลับบ้านได้หรือยัง?”
เหลาซูเฉียงไม่ได้เอ่ยอะไรตอนที่รับเงินนั่นมา หลังจากฉีกกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ห่อไว้ก็พบว่ามีเงินก้อนหนึ่งอยู่ข้างในจริงๆ และหลังจากทำการนับจำนวนเงินก็มีอยู่ประมาณหนึ่งหมื่นหยวน เหลาซูเฉียงคิดว่าในเวลานี้คนอ้วนเฉินไม่กล้าเล่นตลกอะไรอีก เพราะรู้ว่าจะโดนทำร้ายอีกถ้าทำอย่างนั้น
“ได้สิ ตอนนี้แกสามารถไสหัวไปได้แล้ว...”
หลังจากที่ได้รับเงิน เหลาซูเฉียงก็โบกมือไล่คนอ้วนเฉินให้รีบออกไปเบาๆ
“กำลังไป กำลังจะไปแล้ว...”
คนอ้วนเฉินรู้สึกเหมือนกับยกภูเขาออกจากอก แต่ในขณะที่กำลังก้มหน้าบ่นพึมพำและเตรียมที่จะเรียกหญิงสาวที่เรียกว่าเสี่ยวซูให้จากไปด้วยกันนั้น
“ช้าก่อน!”
เหลาซูเฉียงก็ตะโกนเสียงดังมาจากข้างหลัง
“แกไปได้แต่สำหรับเธอนั้น... ต้องอยู่”
เกือบจะในทันทีหลังจากเหลาซูเฉียงพูดไปอย่างนั้น ลูกสมุนทั้งสองของมันก็ลุกโชนด้วยไฟปรารถนาแล้ว และทำการปิดกั้นทางหลบหนีของหญิงสาวจากด้านหน้าและหลัง
“เหลาเกอ อย่า... อย่าทำอย่างนี้... ฉันให้เงินคุณไปแล้วนะ...”
ใบหน้าของคนอ้วนเฉินซีดเผือดในทันที และพูดทักท้วงด้วยอาการตะกุกตะกัก
“มึงให้เงินกับกูแล้ว ดังนั้นกูจะไม่รบกวนมึงอีก รีบไปซะ... หรือจะให้กูทำมึงเลือดสาดล่ะ”
เหลาซูเฉียงเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนประเภทที่จะรับฟังคำร้องขอความเมตตาของผู้อื่น ดังนั้นมันจึงดึงมีดออกมาอีกครั้ง และในขณะที่ทำการคุกคามคนอ้วนเฉินให้หลบหนี มันก็เดินไปยังหญิงสาวคนนั้นด้วย
“อุว๊ากก!”
คนอ้วนเฉินซึ่งกลัวจนหัวหดมาเป็นเวลานานแล้ว มองไปยังหญิงสาวด้วยสีหน้าขัดแย้ง แต่ช่วงเวลาที่เหลาซูเฉียงดึงมีดออกมาอีกครั้ง คนอ้วนเฉินก็นึกตอนที่เขาหลั่งเลือดเมื่อสักครู่นี้ในทันทีและกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนก หลังจากนั้นเขาก็หายลับไปในความมืดของซอยที่นำกลับไปยังบ้าน
“ลุงเฉิน!...”
ใบหน้าของหญิงสาวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และพยายามที่จะวิ่งหนีไปอย่างสะเปะสะปะ แต่ลูกสมุนทั้งสองนั้นไม่ใช่มือสมัครเล่น ทันทีที่ขาของเธอมีการเคลื่อนไหวพวกมันก็ทำการปิดเส้นทางหลบหนีของหญิงสาว
“พวก... พวกแกอย่าเข้ามานะ!”
หญิงสาวที่เรียกว่าเสี่ยวซูตื่นกลัว เธอเพิ่งจะมาถึงที่เมืองแห่งนี้และยังไม่ทันได้รู้สึกคุ้นเคยกับที่นี่เลย นอกจากคนอ้วนเฉินและครอบครัวของเขาแล้ว เธอก็ไม่มีญาติอื่นใด เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ กระทั่งคนอ้วนเฉินก็ทอดทิ้งเธอไป ต่อให้เป็นหญิงสาวคนอื่นที่มีจิตใจเข้มแข็งมากที่สุดก็ไม่อาจทนทานได้ ทำให้ใบหน้าของเธอในเวลานี้เต็มไปด้วยหยาดน้ำตา
“เฮ้ น้องสาว อย่ากลัวไปเลย พี่ไม่ใช่คนไม่ดี...”
เหลาซูเฉียงเล่นกับมีดในมือของมันด้วยสีหน้าที่ชั่วร้าย และค่อยๆ ต้อนหญิงสาวเข้าไปที่มุม เหล่าลูกสมุนก็มีสีหน้าคล้ายๆ กัน โดยหนึ่งในนั้นพูดออกมาด้วยความอหังการ
“ลูกพี่กินเนื้อไปแล้ว ก็อย่าลืมแบ่งปันน้ำแกงให้พวกข้าด้วยนะ”
พวกมันเป็นอันธพาลกลุ่มเล็กๆ ที่แม้ว่าจะเคยทำเรื่องพวกนี้มาก่อน แต่หญิงสาวพวกนั้นล้วนมีประสบการณ์มานับครั้งไม่ถ้วน ทว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าพวกมันในเวลานี้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องความงามของเธอที่กินขาดคนอื่น และเห็นได้ชัดว่ายังบริสุทธิ์อยู่อีกด้วย เรื่องนี้กระตุ้นจินตนาการของพวกมันจริงๆ
“จากที่เห็น ผมคงไม่มีทางเลือกซะแล้ว ใช่ไหม?...”
ฉินฟางที่เฝ้าติดตามสถานการณ์มาตลอด ก็พบว่าเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดซึ่งเขาได้จิตนาการไว้ก็เกิดขึ้นตามที่คาดในท้ายที่สุด หญิงสาวคนหนึ่งถูกอันธพาลสามคนเหยียดหยามย่ำยี แต่ฉินฟางก็รู้ว่าตัวเขาจะไม่ปล่อยให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นโดยไม่ทำอะไรเลย ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นยืนและค่อยๆ เข้าไปใกล้อันธพาลทั้งสามที่เอาแต่มองหญิงสาวคนนั้น และไม่ได้สังเกตเห็นการคงอยู่ของฉินฟางเลย...
……………………………..