ตอนที่ 17 สมน้ำหน้า!
ตอนที่ 17 สมน้ำหน้า!
ผู้แปล : ThreeSwords
ปรับสำนวน : ThreeSwords
พวกอันธพาลทั้งสามยังคงทุบตีคนอ้วนเฉินต่อไปเรื่อยๆ ในยามค่ำคืนของฤดูร้อนเช่นนี้ การกระทำที่ต้องใช้กำลังดังกล่าวย่อมทำให้เหงื่อโชกประกอบกับความจริงที่ว่าพวกมันเหน็ดเหนื่อยเกินไปอยู่บ้าง ดังนั้นจึงหยุดทำการซ้อมคนอ้วนเฉินหลังจากผ่านไปสักพัก คนอ้วนเฉินในเวลานี้ถูกอัดจนฟกช้ำดำเขียว ใบหน้าของเขาที่อ้วนมากอยู่แล้วในเวลานี้ก็ปูดบวมจนไม่สามารถมองเห็นลักษณะเค้าโครงที่ถูกต้องได้เลย
“เจ้าของร้านเฉิน หลังจากถูกทุบตี แกควรรู้ว่าจะต้องทำอะไรแล้วสินะ ใช่มั้ย? ตอนนี้แกไม่มีเงินอยู่งั้นเหรอ? ง่ายๆ แค่โทรหาเมียแกให้เอาเงินมาที่นี่ไง เงินหนึ่งหมื่นหยวน ถ้าจำนวนเงินขาดไปแม้แต่เพียงเฟินเดียว อย่าคิดเลยว่าวันนี้จะได้กลับบ้าน...”
เหลาซูเฉียงในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าจะไม่ปล่อยคนอ้วนเฉินไปโดยปราศจากเงินของมัน เพราะศีรษะที่มีอาการสั่นหลังจากถูกตีอย่างหนักโดยฉินฟาง และด้วยนิสัยของมันแล้วก็จะไม่มีวันปล่อยไปถ้าไม่ได้รับอะไรบางอย่างเป็นการตอบแทน
สำหรับฉินฟางนั้น เหลาซูเฉียงยังไม่กล้าที่จะไปหาเรื่องเขาเป็นการชั่วคราว หลักๆ เป็นเพราะฉินฟางยังเป็นหนุ่มฉกรรจ์และเลือดร้อน เมื่อฉินฟางถูกหาเรื่อง การตอบโต้ของเขานั้นไม่เบาเลย ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นแล้วเขาคงจะไม่สามารถทำให้ลูกสมุนของมันสองคนก่อนหน้านี้อกสั่นขวัญแขวนจนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ถ้ามีใครบางคนขอให้เหลาซูเฉียงไปก่อกวนฉินฟางในเวลานี้ มันก็จะปฏิเสธเพราะเกรงกลัวฉินฟาง
ในเมื่อมันไม่กล้าที่จะไปทำอะไรฉินฟางอีก จึงเป็นธรรมดาที่เหลาซูเฉียงที่ชอบข่มเหงคนที่อ่อนแอกว่าจะร้องเรียกค่าชดเชยจากคนอ้วนเฉินที่เป็นผู้เริ่มเรื่องทั้งหมด หลังจากประสบความสูญเสียเช่นนี้ในมือของฉินฟาง คนอ้วนเฉินอย่างน้อยก็ต้องมีการหลั่งเลือด ไม่งั้นแล้วมันจะยอมรับตัวเองที่ถูกอัดจนสาหัสได้อย่างไร?
“ฉันไม่... ไม่มีเงินจริงๆ... โอ๊ย!”
คนอ้วนเฉินยังยืนกรานหัวชนฝาจนถึงที่สุด แต่ก่อนที่จะพูดจบนั้นก็ถูกเตะอย่างรุนแรงโดยเหลาซูเฉียง ในเวลาเดียวกันนั้นเหลาซูเฉียงก็ดึงมีดที่มีประกายเยียบเย็นออกมาจากเอว
“คนอ้วนเฉิน หยุดดึงดันได้แล้ว กูพยายามจบเรื่องนี้อย่างสุภาพแล้วแต่มึงปฏิเสธ กูพูดไปแล้วว่าต้องการเงินเท่าไหร่ และกูต้องได้มัน ไม่งั้น... นิ้วทั้งหลายของมึงก็คงต้องโบกมือลาแล้ว...”
เหลาซูเฉียงพูดเสียงเกรี้ยวกราดและสั่งให้ลูกสมุนทั้งสองจับคนอ้วนเฉินนอนลง ขณะที่ตัวมันก็จับยึดมือของคนอ้วนเฉินไว้ จากนั้นก็ใช้มีดที่เย็นเยียบและแหลมคมลูบไล้เบาๆ ตามนิ้วของคนอ้วนเฉิน
คนอ้วนเฉินตื่นตระหนกในทันที รู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงความเย็นของขอบมีด และรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของการที่จะถูกเฉือนอยู่ลางๆ แต่เขาก็อ้วนเกินไปจนไม่สามารถขยับตัวได้สักนิ้วเนื่องจากถูกจับให้นอนลง ไม่งั้นแล้วเขาคงเห็นเลือดที่ไหลออกมาจากนิ้ว...
“เรื่องนี้ดูชักจะเลยเถิดไปแล้ว...”
ฉินฟางที่มองดูอยู่บนถนนฝั่งตรงข้ามไม่ได้คาดคิดว่าการแสดงนี้จะค่อยๆ กลายเป็นใหญ่โตขึ้นไปเรื่อยๆ เขานึกว่าจะได้เห็นเพียงคนอ้วนเฉินถูกซ้อมและสูญเสียเงินจากการขู่กรรโชก แต่ไม่คิดว่าเหลาซูเฉียงจะเหี้ยมโหดมาก เพราะจากสิ่งที่เห็นนั้นมันต้องการที่จะตัดนิ้วของคนอ้วนเฉินจริงๆ
“ควรจะไปช่วยคนอ้วนเฉินสักหน่อยไหม?”
ทันใดนั้นฉินฟางก็เริ่มลังเลเพราะเขาเป็นคนใจดีมีเมตตา หลังจากเห็นสถานการณ์รุนแรงเช่นนี้แล้ว ความรู้สึกเห็นอกเห็นใจของเขาก็เริ่มที่จะแสดงออกมา
“แต่ผมจะสามารถช่วยได้ไหมนะ?”
มองไปยังอันธพาลทั้งสามคนที่อยู่ในซอยฝั่งตรงข้าม นอกจากจะได้เปรียบที่จำนวนคนแล้ว เหลาซูเฉียงก็ยังมีมีดด้วย ขณะที่ตัวของฉินฟางมีเพียงมือเปล่า อย่างมากเขาก็สามารถใช้งาน [ฮูลิแกนบริค] จาก [กล่องไอเทม] อย่างไรก็ตามถ้าเขาวิ่งมาจากระยะไกลขนาดนี้แล้ว ก่อนที่จะสามารถทุบหัวใครบางคนด้วยก้อนอิฐ ตัวเขาน่าจะถูกแทงด้วยมีดไปแล้ว
“หลังจากที่ถูกฟาดด้วยเก้าอี้ ผมเสีย HP ไป 4 หน่วย แล้วค่า HP จำนวนเท่าไหร่กันนะที่ผมจะเสียไปถ้าถูกแทงด้วยมีด?”
คำถามดังกล่าวเกิดขึ้นภายในใจของฉินฟาง
เขาเหลือบไปยังเกี๊ยวซ่าที่อยู่ในมือซึ่งเย็นชืดแล้ว ด้วยสองเข่งซึ่งมีเกี๊ยวซ่าอย่างละ 6 ชิ้นทำให้เขามีเกี๊ยวซ่าอยู่ทั้งหมด 12 ชิ้น ซึ่งหมายความว่าสามารถฟื้นฟูค่า HP ได้ 12 หน่วย ถ้าบวกกับค่า HP 10 หน่วยของตัวเขารวมเข้าไปด้วย แสดงว่าเขามีค่า HP ที่สามารถใช้ได้เพียง 22 หน่วย
การถูกตีด้วยม้านั่งลดค่า HP ลง 4 หน่วย แต่ถ้าเปรียบเทียบกับการถูกแทงด้วยมีดซึ่งเห็นได้ชัดว่ามันอันตรายกว่ามาก
“ตราบใดที่มีดนั่นไม่ได้แทงถูกส่วนสำคัญใดๆ ก็น่าจะไม่มีอันตรายต่อชีวิต และถ้าตอนที่ถูกแทงไม่ได้เสียค่า HP 10 หน่วยในทีเดียว เพราะด้วย HP ที่มีอยู่ 22 หน่วย ผมสามารถรับการแทงได้อย่างมาก 3 ครั้งเท่านั้น...”
ขณะที่ฉินฟางกำลังคิดถึงการช่วยชีวิตคนอ้วนเฉินอยู่นั้น เขาก็คิดอีกว่าการช่วยคนแบบนี้ไม่คุ้มค่าเลยจริงๆ ถ้าได้รับบาดเจ็บแล้วก็จะมีปัญหาตามมามากมาย และยังมีแม่ที่หวังให้เขาประสบความสำเร็จ พอคิดถึงข้อเสียทั้งหมดแล้วฉินฟางก็กลายเป็นลังเล
“คนอ้วนเฉิน กูจะไม่พูดซ้ำอีกต่อไปแล้ว ปล่อยให้มึงหลั่งเลือดเสียบ้างจะได้จำสภาพของตัวเอง ถ้ามึงยังไม่เชื่อฟัง มันก็คงจะไม่ใช่แค่เรื่องธรรมดาๆ อย่างนิ้วมีเลือดไหลอีกต่อไป...”
ขณะที่มันเอ่ยออกมาอย่างนั้น เหลาซูเฉียงก็ยกมือที่กำลังบาดเจ็บของคนอ้วนเฉินขึ้น และภาพของมือที่น่าสยดสยองก็ถูกประทับไว้ในดวงตาทั้งสองของคนอ้วนเฉิน
เหลาซูเฉียงนี้เป็นคนที่โหดร้ายอย่างแท้จริง เพราะ “การหลั่งเลือด” ของคนอ้วนเฉินไม่ได้เกิดจากเพียงนิ้วเดียว แต่มาจากทั้งห้านิ้ว และจากการลงมือของมันดูเหมือนว่ามืออีกข้างที่ยังไม่ได้ถูกกระทำนั้นก็จะหลั่งเลือดในไม่ช้านี้ด้วย
“อย่า! ไม่! ฉันจะให้เงินนั่น... ฉันจะจ่ายมัน...”
ความรู้สึกเจ็บปวดจากการถูกแทงที่มาจากนิ้วของเขา ทำให้คนอ้วนเฉินกลัวอย่างแท้จริง มือข้างหนึ่งของเขาได้กลายเป็นสีแดงไปแล้ว และเลือดสดๆ ก็ไหลรินออกมาราวกับเป็นอิสระ ถ้าเลือดยังคงไหลต่อไปแบบนี้แล้ว มันคงไม่น่าจะประหลาดใจอะไรถ้าคนอ้วนเฉินจะตายจากการเสียเลือด
นี่เป็นเรื่องของความเป็นความตาย กระทั่งคนปากแข็งอย่างคนอ้วนเฉินที่ไม่ต้องการสูญเสียเงินก็ไม่มีทางเลือก ทำได้แต่กรีดร้องและยินยอมตามความต้องการของเหลาซูเฉียง
ในสถานการณ์เช่นนี้ ถ้ากระเป๋าเงินของเขาไม่ถูกรีดออกมา ก็น่าจะเป็นตัวเขาที่ถูกรีด...
“รีบโทรเร็วเข้า พวกกูไม่ได้มีความอดทนมากนัก!”
เหลาซูเฉียงโยนโทรศัพท์ที่เป็นของคนอ้วนเฉินกลับไปให้ และลูกสมุนทั้งสองก็ปล่อยตัวคนอ้วนเฉินด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าพวกมันจะไม่ได้อยู่ข้างๆ แต่ทั้งคู่ก็ยืนประกบคนอ้วนเฉินไว้ เพื่อไม่ให้เขามีโอกาสหลบหนี
แต่คนอ้วนเฉินยังสามารถคิดถึงการหลบหนีได้อย่างไร? หลังจากที่หลั่งเลือดเขาก็กลัวจนตัวสั่นตอนที่รับโทรศัพท์นั่นไป จากนั้นก็ทำการโทรไปที่บ้าน
“เสี่ยวซู ป้าของแกอยู่ที่ไหน? อะไรนะ ไม่อยู่บ้าน? ไปที่ไหนนะ? เล่นไพ่นกกระจอก? บ้าเอ๊ย ป้าแกจะทำให้ลุงตาย...”
คนอ้วนเฉินโทรไปที่บ้านแต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับทำให้เขาผิดหวังเป็นอย่างมาก เมียเขาไปเล่นไพ่นกกระจอกและยังไม่กลับมาที่บ้าน สถานการณ์ในตอนนี้ร้ายแรงจนเขาลืมแม้กระทั่งกดวางสาย จากนั้นก็มองไปยังเหลาซูเฉียงอย่างระมัดระวังและพูดว่า
“เหลา... เหลาเกอ เมียฉัน... ไม่ได้อยู่ที่บ้าน...”
“ใครที่รับโทรศัพท์เมื่อสักครู่นี้?”
เหลาซูเฉียงวิตกกังวลเป็นอย่างมากเช่นกัน เพราะในที่สุดมันก็ทำให้คนอ้วนเฉินยินยอมหลังจากผ่านความยากลำบากมามาก แต่คาดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะไม่อยู่บ้าน... เป็นไปไม่ได้ที่มันจะไปที่นั่นด้วยตัวเอง ถูกมั้ย? ถ้าทำอย่างนั้นแล้วคนอ้วนเฉินอาจจะหาทางโต้กลับอย่างรุนแรงก็เป็นได้
“หลานสาวของฉันซึ่งมาจากที่ห่างไกลออกไป... เธอมาขอพักอาศัยอยู่ที่บ้าน...” คนอ้วนเฉินพูดตัวสั่น
“ให้หลานสาวแกมาส่งเงินนั่น”
“แต่...”
ไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้เห็นสีหน้าเจ็บปวดบนใบหน้าที่ปูดบวมอย่างหนักของคนอ้วนเฉิน เพราะขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ท้องของเขาก็ถูกเตะโดยเหลาซูเฉียง
“ไม่มีคำว่าแต่ มีเงินแล้วทุกอย่างล้วนตกลงกันได้ แต่ถ้าไม่มีเงิน... นิ้วของแกก็อาจจะพลัดพรากออกจากร่าง”
เมื่อเรื่องได้มาไกลถึงเพียงนี้แล้ว แน่นอนว่าเหลาซูเฉียงก็จะไม่ยอมจากไปโดยไม่ได้เงินนั่น น้ำเสียงของมันหนักแน่นและไม่เปิดช่องให้เจรจา ทันใดนั้นมันก็จัดการให้หลังของคนอ้วนเฉินไปติดกำแพง
“สมน้ำหน้า”
แม้ว่าฉินฟางจะไม่สามารถได้ยินสิ่งที่พวกนั้นพูดได้อย่างชัดเจน แต่ก็พอจับใจความสำคัญได้ ถ้าคนอ้วนเฉินยอมจ่ายเงินนั่นแล้ว เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่สูญเสียชีวิต เรื่องนี้ทำให้ใจของฉินฟางรู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย อย่างไรก็ตามในเรื่องที่เกิดกับคนอ้วนเฉินนั้น ฉินฟางก็นึกได้เพียงสามคำนี้เท่านั้น
“สะ เสี่ยวซู ไปที่ครัว... ตรง... ที่นั่นมีของซึ่งถูกห่อเอาไว้ ได้โปรดเอามาให้ลุงด้วย ตอนนี้ลุงอยู่ที่ซอยข้างมหาวิทยาลัยหนิงไห่... อืม ใช่ ใช่แล้ว มันเป็นเรื่องเร่งด่วน...”
ภายใต้การบีบบังคับของเหลาซูเฉียง คนอ้วนเฉินไม่มีทางเลือกนอกจากต้องพูดไปอย่างนั้น และปล่อยให้หลานสาวซึ่งมาจากที่ห่างไกลเป็นคนส่งเงินนั่นให้กับเขา
“ใครจะไปรู้ว่าชายร่างอ้วนคนนี้รู้วิธีซ่อนเงินจากเมียตัวเอง...”
ถ้าเงินนั่นถูกซ่อนไว้อย่างลับๆ เช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นเงินที่คนอ้วนเฉินแอบเก็บไว้ และจำนวนเงินที่ซ่อนไว้นั้นคือหนึ่งหมื่นหยวน แต่ฉินฟางไม่คิดว่าคนอ้วนเฉินจะมีเงินซ่อนไว้ที่เดียว...
แน่นอนว่าคนอ้วนเฉินจะมีเงินเก็บซ่อนไว้อีกหรือไม่ ก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรกับเหลาซูเฉียง และกับฉินฉินฟางก็เช่นเดียวกัน
เพียงแต่ฉินฟางสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยบนใบหน้าของอันธพาลทั้งสามนั้น เขาก็นึกได้ในทันทีว่าทำไมเขากับเหลาซูเฉียงถึงได้ต่อสู้กันในตอนแรก จนทำให้เขารู้สึกกังวลเกี่ยวกับหลานสาวของคนอ้วนเฉินในทันที
……………………………..