ตอนที่ 08 ทักษะ [ลอบโจมตี]
ผู้แปล : ThreeSwords
ปรับสำนวน : ThreeSwords
ความรู้สึกนี้ทำให้ฉินฟางอึดอัดเป็นอย่างมากและขมวดคิ้วโดยไม่รู้สึกตัว อย่างไรก็ตามเขาก็ยังไม่รู้ว่าอะไรที่ผิดปกติจนตัวเองรู้สึกสับสนเช่นนี้
“พี่ชายท่านนี้ ผมเพิ่งมาอยู่ที่นี่เลยยังไม่รู้กฏ ถ้ามีอะไรที่คุณต้องการแล้วก็บอกมาได้เลย ผมจะทำให้แน่ๆ”
ฉินฟางพยายามส่ายหัวเพื่อไล่ความรู้สึกแปลกๆ ที่อยู่ข้างในหัวเขาออกไป น่าเสียดายที่มันไม่ประสบผลสำเร็จ อย่างไรก็ตามเขาก็ยังสอบถามเหลาซูเฉียงอย่างสุภาพเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องการ
ฉินฟางได้เข้าไปพัวพันกับพวกอันธพาลเมื่อสองวันก่อนและเกือบจะเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุในวันนั้น แม้ว่าอุบายของพวกอันธพาลในครั้งนี้จะเต็มไปด้วยช่องโหว่แต่ในใจของเขาก็ยังคงรู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง ดังนั้นถึงเขาจะไม่เกรงกลัวเหลาซูเฉียงที่ดูท่าทางอ่อนแอคนนี้ แต่ตราบใดที่เขายังคงทำการค้าต่อไปก็เป็นไปได้ว่าจะถูกรังควานจากพวกอันธพาลเหล่านี้
“อย่างน้อยแกก็รู้จักที่จะอ่านสถานการณ์ ไม่เหมือนกับใครบางคน...”
เมื่อเหลาซูเฉียงได้ยินที่ฉินฟางพูด ก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่หยาบกระด้างของเขา แต่ก็ยังส่งสายตาไปข่มขู่ฟ่านเจี่ยเจีย
“เห็นแก่เจ้าของร้านมีมารยาทเป็นอย่างมาก ถ้าแกจ่ายมา 5,000 หยวน ข้าก็รับรองได้ว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
“อะไรนะ? ห้าพัน? ทำไมพวกแกไม่ไปปล้นธนาคารซะเลยล่ะ?”
หลังจากได้ยินในสิ่งที่เหลาซูเฉียงต้องการ หน้าของฉินฟางก็เปลี่ยนไปในทันทีและคิ้วก็ขมวดไปด้วยเช่นกัน ขณะที่ฟ่านเจี่ยเจียซึ่งยืนอยู่ข้างฉินฟางก็มีการตอบสนองที่รุนแรงมาก และเริ่มแผดเสียงดังที่ทำให้ผู้คนกลัว
เหล่าลูกค้าในร้านบะหมี่รู้สึกได้ถึงสถานการณ์ที่กำลังจะไม่สามารถควบคุมได้ จึงตัดสินใจเรียกเก็บเงินและวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว อีกด้านหนึ่งถังเฟยเฟยก็กำลังเดินตรงไปหาฉินฟางพร้อมกับเก็บเงินจากลูกค้า
“พี่ชาย พวกเราเป็นแค่ร้านค้าเล็กๆ ผมไม่คิดว่าพวกเราจะสามารถหาเงินได้มากขนาดนั้นภายในหนึ่งเดือน...”
ในตอนนี้ฉินฟางก็เริ่มที่จะรู้สึกโกรธขึ้นมาบ้างแล้ว แต่เพื่อให้การต่อรองในครั้งนี้ผ่านไปได้อย่างสงบ ฉินฟางจึงยังอดกลั้นความโกรธของเขาไว้ และพูดอธิบายไปอย่างสุภาพ
“หยุดพล่ามเรื่องไร้สาระ ข้าจับตาดูมาสองสามวันแล้ว ร้านบะหมี่ของแกขายดีที่สุด แกน่าจะหาเงินได้อย่างน้อยสองถึงสามพันหยวนต่อวัน เพราะฉะนั้นการจ่ายเงินแค่ห้าพันหยวนก็แค่หยดน้ำจากมหาสมุทร ถูกมั้ย?”
ดวงตาตี่เล็กของเหลาซูเฉียงหมุนไปรอบๆ จากนั้นสายตาของมันก็มีประกายที่ผิดแปลกไป ภายใต้หนวดที่สกปรกกับปากที่โสมมซึ่งกำลังพูดพล่ามเรื่องไร้สาระไปเรื่อย เมื่อมันเห็นถังเฟยเฟยที่กำลังเดินเข้ามา ดวงตาของมันก็ลุกโชนด้วยไฟปรารถนา และหลังจากนั้นไม่นานมันก็พูดออกมาในทันทีว่า
“อันที่จริงแล้ว เรื่องนี้สามารถต่อรองกันได้...”
“เหลาเกอ...”
เมื่อลูกสมุนทั้งสองเห็นเหลาซูเฉียงจู่ๆ ก็เปลี่ยนใจจึงตะโกนเรียกในทันที พวกมันเป็นแค่อันธพาลกลุ่มเล็กๆ และเงินห้าพันหยวนก็ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ มันมากพอที่จะให้พวกมันเสพสุขไปสักระยะหนึ่ง แล้วจะให้ยกเลิกไปได้ยังไงกัน?
แต่เหลาซูเฉียงเพียงโบกมือส่งสัญญาณให้พวกนั้นสงบลงและทำใจเย็นๆ จากนั้นก็มองไปยังถังเฟยเฟยที่ยืนอยู่ข้างฉินฟางด้วยสายตาที่ชั่วร้ายและเจ้าเล่ห์เพทุบาย
“ทันทีที่ให้แฟนของแกไปเล่นอยู่กับพวกข้าสักพัก นับประสาอะไรกับเงินห้าพันหยวน ข้าจะไม่ถามหาเงินจากแกเลยสักเฟินเดียว”
“ไร้ยางอาย”
ถังเฟยเฟยที่ยืนอยู่ข้างฉินฟางหลังจากได้ยินที่เหลาซูเฉียงพูด ใบหน้าก็แดงก่ำด้วยความโกรธ และสบถออกมาหนึ่งคำจากเรียวปากที่มีเสน่ห์คู่นั้น
“ใช่ ใช่ ใช่ ให้หญิงสาวนี่ไปกับพวกข้าหนึ่งคืน”
“หญิงงาม มากับพวกข้าเถอะ พวกเรามั่นใจว่าจะทำให้เจ้าผ่านค่ำคืนหฤหรรษ์นี้ไปด้วยความสุขสันต์...”
ลูกสมุนทั้งสองเข้าใจแผนการของเหลาซูเฉียงในทันที และมองไปยังใบหน้าอันน่ารักของถังเฟยเฟย จากนั้นก็เรือนร่างที่สูงโปร่งและหน้าอกขนาดกำลังดีของเธอ พวกมันเริ่มที่จะกลืนน้ำลายและกระทั่งยื่นมือตรงไปหาเธอ
“เอาล่ะ แกจะเลือกแบบไหน? รีบให้คำตอบเร็วเข้า”
ขณะที่เหลาซูเฉียงกำลังพูดก็เดินนวยนาดเข้าไปหาถังเฟยเฟย ลูกสมุนของมันซึ่งมีเหลาซูเฟิงเป็นศูนย์กลางก็เดินทอดน่องเรียงหน้ากระดานเข้าไปหาถังเฟยเฟยอย่างไม่รีบเร่ง ซึ่งดูเหมือนว่ากำลังวางแผนที่จะตัดโอกาสในการหลบหนีของถังเฟยเฟย
“ฉินฟาง....”
ท้ายที่สุดแล้วถังเฟยเฟยก็ยังเป็นเพียงหญิงสาวที่ยังเรียนไม่จบ พอเห็นพฤติกรรมของพวกอันธพาลแล้ว จิตใจของเธอก็พลันว่างเปล่าและยืนพิงฉินฟางโดยไม่ทันได้รู้สึกตัว จากนั้นก็หลบไปซ่อนอยู่ข้างหลังเขา หน้าอกขนาดกำลังดีของเธอถูไถไปกับแขนของฉินฟาง ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มที่เต็มไปด้วยความยืดหยุ่น
“โอเค...”
พอเผชิญหน้ากับเหล่าอันธพาล ฉินฟางก็ทำตัวเหมือนกับพวกเศษสวะที่ขี้ขลาดและก้มหน้าพูดคำว่า ‘โอเค’ เรื่องนี้ทำให้ผู้คนที่มุงอยู่โดยรอบผิดหวังในตัวของฉินฟางในทันที ขณะเดียวกันเหลาซูเฉียงก็ยิ้มเยาะและอดไม่ได้ที่จะก่นด่าว่าขี้ขลาดอยู่ในใจ ส่วนถังเฟยเฟยนั้นดวงตาของเธอเบิกกว้างและสายตาก็แสดงให้เห็นว่าไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยินเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามฉินฟางผู้ซึ่งทำตัวเหมือนกับพวกเศษสวะ ไม่นานหลังจากที่พูดคำว่า ‘โอเค’ จู่ๆ ก็ขยับตัวของเขา และคว้าชามราเม็งที่ยังกินไม่เสร็จฟาดไปหัวของเหลาซูเฉียงอย่างรุนแรงด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าฟาด จากนั้นเขาก็พูดว่า
“... ซะเมื่อไหร่กันเล่า!”
⌈ ทักษะที่เรียนรู้ : ลอบโจมตี
ทักษะความชำนาญ : ขั้นเริ่มต้น
ค่าประสบการณ์ : 1%
ผลกระทบของทักษะ : มีโอกาสที่จะทำให้สลบหรือมึนงง
หมายเหตุ : การใช้อาวุธโจมตีสามารถทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม ⌋
เกือบจะในเวลาเดียวกันที่เขาลอบโจมตีสำเร็จ ฉินฟางก็ได้ยินเสียงไม่ได้ยินมานานอีกครั้ง หรือพูดง่ายๆ ว่าเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ทักษะใหม่หลังจากทำการต่อสู้
ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อการลอบโจมตีประสบผลสำเร็จ เขาก็สังเกตเห็นพวกอันธพาลเหล่านั้นจู่ๆ ก็เปล่งแสงสีแดงออกมาเล็กน้อย และยังมีข้อความลึกลับปรากฏขึ้นบนหัวของอันธพาลทั้งสามคนซึ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจน
⌈ อันธพาล, เลเวล 1, พลังโจมตีอ่อนด้อยมาก
การประเมินผล : แข็งแรงกว่าคุณเล็กน้อย, ทักษะ : รีดไถ
ลักษณะเฉพาะตัว : รังแกคนที่อ่อนแอกว่าแต่ในขณะเดียวกันก็เกรงกลัวคนที่แข็งแรงกว่า ⌋
พอเห็นประโยคเหล่านี้แล้ว สิ่งที่ฉินฟางนึกถึงในทีแรกคือตอนที่เขาทำ [เส้นบะหมี่คุณภาพเลว] เป็นครั้งแรก ซึ่งข้อความในตอนนั้นคล้ายกับตอนนี้ด้วยเช่นกัน
“ชีวิตของผมได้เปลี่ยนไปอยู่ในเกมส์แล้วงั้นเหรอ?”
ฉินฟางอดไม่ได้ที่จะคิดแบบนั้น แต่เมื่อเหลือบมองไปยังฟ่านเจี่ยเจียที่ยืนอยู่ข้างเขา ทุกอย่างเป็นปกติและไม่มีข้อความเหล่านั้นปรากฏขึ้นมาเลย
ในหมู่คนที่มองมาจากระยะไกลเหล่านั้น ก็ไม่มีเช่นกัน ไม่มีข้อความอะไรปรากฏขึ้นมาเลย
เดี๋ยวก่อนนะ แล้วทำไมคนนั้นถึงได้มีล่ะ?
ถ้าเขาไม่สังเกตเห็นก็คงจะไม่รู้ แต่เมื่อสังเกตเห็นแล้วก็รู้สึกประหลาดใจจริงๆ ท่ามกลางผู้คนที่อยู่ห่างออกไป ฉินฟางพบว่ามีคนหนึ่งที่ร่างกายของเขาเปล่งแสงสีแดงอ่อนๆ และในเวลาเดียวกันก็มีข้อความปรากฏขึ้นบนหัวของเขา เพียงแต่มันอยู่ห่างเกินไปจนฉินฟางเห็นได้ไม่ชัดเจน
อย่างไรก็ตามฉินฟางก็จำได้ว่าคนผู้นั้นเป็นใคร และไม่คาดคิดเลยว่าคนคนนั้นคือเจ้าของร้านเฉิน ซึ่งตั้งร้านขายของว่างอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน ปกติแล้วเขาจะสุภาพกับฉินฟางเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่มีมารยาท
แต่ลักษณะเฉพาะของเจ้าของร้านเฉินนั้นคล้ายคลึงกับของพวกอันธพาล ซึ่งนั่นก็คือร่างกายของพวกเขาเปล่งแสงสีแดงอ่อนออกมา ทันใดนั้นฉินฟางก็นึกถึงศัพท์เฉพาะที่ใช้กันเกมส์คำหนึ่ง ‘ผู้เล่นสีแดง (Player Killer ; PK)’
ปกติแล้วในเกมส์มีเพียงผู้เล่นที่ฆ่าฟันตามอำเภอใจเท่านั้นที่จะได้รับสถานะ ‘ผู้เล่นสีแดง’ อย่างไรก็ตามพวกอันธพาลกับเจ้าของร้านเฉินไม่น่าจะเคยฆ่าคนมาก่อนแน่ๆ ถ้าเป็นอย่างนั้น... ใช่แล้ว เจตนาร้าย! ศัตรู!
ท้ายที่สุดฉินฟางก็เข้าใจในความหมายของแสงสีแดง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่การอนุมาน แต่สิ่งที่คิดไว้นั้นไม่น่าจะห่างไกลจากข้อเท็จจริง
…………………………