ตอนที่ 21 : เฉิดฉายเจิดจรัส
เมื่อแม่นมเฉินหวนระลึกถึงอุปนิสัยของเกอซีก่อนหน้านี้ นางตระหนกตกใจ หากแต่กลับปีติยินดีไปด้วยในคราเดียวกัน หยาดน้ำตาเอ่อล้นเจิ่งนองขึ้นที่ขอบตาทั้งคู่อย่างฉับพลัน “คุณหนู......ท่านฝึกฝนพลังยุทธได้แล้วหรือเจ้าคะ ? ที่สุดแล้ว สองวันมานี้ท่านหายไปไหนมาเจ้าคะ ? คุณหนูได้รับบาดเจ็บที่ใดหรือไม่เจ้าคะ.....”
ความห่วงใยและการแสดงออกของแม่นมเฉินทำให้เกอซีสะดุ้งเล็กน้อย ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตัวเกอซีอย่างกระทันหันในวันนี้สมควรทำให้แม่นมเฉินรับรู้ได้ว่านางกลับกลายเป็นดั่งคนแปลกหน้ามิใช่หรือ ?
การแสดงออกของเกอซีอ่อนโยนยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก นางใช้ความคิดใคร่ครวญเล็กน้อยในการหาถ้อยคำเอ่ยอธิบายถึงเรื่องราวสองวันที่ผ่านมานี้
“แม่นม ท่านเพียงจดจำไว้ว่าน่าหลานเกอซีผู้เดิมได้ตายจากไปแล้ว และนับจากนี้ไป ข้ามิใช่เศษสวะไร้ค่าที่ผู้คนทั้งหลายจะพากันเหยียบย่ำทำร้ายได้อีก มันผู้ใดกล้าข่มเหงเรา ข้าจะไม่ปล่อยพวกมันเหล่านั้นให้ลอยนวลไปแน่ และนั่นย่อมไม่เว้นแม้กระทั่งคนจากสกุลน่าหลานเช่นกัน”
แม้นางจะยังไม่รู้ว่าตนจะสามารถฝึกฝนพลังยุทธขับแล่นกระแสปราณได้หรือไม่ หากแต่นาง เกอซี จะไม่มีวันดูหมิ่นคุณค่าในตนเอง นางจะไม่มีวันยอมรับชะตากรรมแห่งการเป็นเศษสวะไร้ค่าที่ถูกทอดทิ้ง หากนางไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้ฝึกฝนพลังลมปราณจริง นางก็จะต้องแสวงหาหนทางแห่งความแข็งแกร่งในรูปแบบอื่นให้จงได้
“บ่าวเฒ่าชราเยี่ยงข้าช่างไร้ค่า ทำให้คุณหนูต้องพบกับความลำบาก !” หยาดน้ำใสไหลท่วมสองข้างแก้มของแม่นมเฉิน นางรีบปาดหยดน้ำตาออกไปก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ “แต่เมื่อคุณหนูสามารถฝึกฝนพลังฝีมือได้แล้วย่อมเป็นเรื่องที่ดียิ่ง....ดีจริง ๆ ! ข้ารู้ว่าคุณหนูหาใช่เศษสวะไม่ ! ฮูหยินก็เคยกล่าวไว้เช่นนี้ นางว่าจะต้องมีสักวันที่คุณหนูจะเฉิดฉายเจิดจรัสขึ้นมาให้ทุกคนได้ประจักษ์.....ฮูหยินคอยดูแลปกป้องคุณหนูจริง ๆ ฮือ ฮือ....คุณหนู แม่นมผู้นี้ดีใจกับคุณหนูเหลือเกินเจ้าค่ะ !”
ภายในใจของเกอซีเกิดความฉงนเมื่อได้ยินคำกล่าวของแม่นมเฉินที่ว่า “จะต้องมีวันที่คุณหนูจะเฉิดฉายเจิดจรัสขึ้นมาให้ทุกคนได้ประจักษ์” นั่นหมายความเช่นไร ? แล้วเหตุใดแม่นมเฉินจึงสามารถทำใจยอมรับการเปลี่ยนแปลงของนางได้ง่ายดายรวดเร็วถึงเพียงนี้
ทว่าเกอซีกลับต้องสลัดเอาความฟุ้งซ่านทั้งหลายออกไปและแทนที่มันด้วยความจดจ่อต่อเส้นชีพจรของแม่นมเฉินแทน
“คุณหนู ท่านไม่จำเป็นต้องห่วงกังวลถึงบ่าวผู้นี้หรอกเจ้าค่ะ ชีวิตอันต่ำต้อยของข้านั้นเพียงอาการบาดเจ็บเท่านี้นับว่าเป็นเรื่องธรรมดา ข้าคุ้นชินกับมันไปแล้วเจ้าค่ะ”
น่าหลานเกอซีไม่เคยได้ศึกษาร่ำเรียนในศาสตร์การรักษามาก่อนเลย เรื่องเช่นนี้แม่นมเฉินจะไม่ล่วงรู้ได้อย่างไร หากแต่ยามนี้เกอซีกลับลงมือตรวจจับชีพจรของนางโดยใช้เวลานานพอควรก่อนที่หญิงสาวจะแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา แม่นมเฉินเริ่มจะรับรู้ได้ถึงความรู้สึกสิ้นหวังในใจ หญิงชราเริ่มเอ่ยปากปลอบใจเด็กสาวตรงหน้า
“หากคุณหนูไม่สบายใจ พรุ่งนี้ข้าจะเข้าไปรับยาจากท่านหมอที่ในตัวเมือง ข้าจะต้องแข็งแรงให้ได้ แม่นมผู้นี้อยากเห็นคุณหนูโดดเด่นงดงามเป็นที่ประจักษ์ไปทั่วอาณาจักรจินหลิง รอวันที่ข้าจะได้ส่งคุณหนูเข้าห้องหอ”
ในอาณาจักรแห่งนี้เมื่อผู้ยากไร้จำเป็นต้องเยียวยารักษาอาการเจ็บป่วย พวกเขาจำต้องไปรับการรักษาจากหมอที่เดินทางผ่านเข้ามาในดินแดนนี้เท่านั้น
เมื่อได้ยินคำกล่าวของแม่นมเฉิน ความรู้สึกซาบซึ้งเอิบอาบเข้าแทรกซึมภายในใจของเกอซี หญิงสาววางมือของแม่นมเฉินลงอย่างทะนุถนอมก่อนจะยกยิ้มขึ้นบาง ๆ “แม่นมวางใจเถิด อาการเจ็บป่วยของท่านหาได้หนักหนา ข้าจะทำการรักษาให้ท่านเอง”
แม่นมเฉินเข้าใจว่าเกอซีกำลังกล่าวถึงการตามหาหมอมารักษานาง หากแต่มิคาดคิดเลยว่าเกอซีจะสามารถตรวจดูอาการของนางผ่านการจับเส้นชีพจรได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังเขียนใบสั่งยาตลอดถึงขั้นตอนการปรุงยาเพื่อใช้ในการรักษาอาการบาดเจ็บของนางอีกด้วย
“ได้เจ้าค่ะ บ่าวชราผู้นี้เชื่อคุณหนู คุณหนูเหน็ดเหนื่อยมากพอแล้ว ไปพักผ่อนที่เรือนฝั่งตะวันออกก่อนเถิดนะเจ้าคะ”
เรือนฝั่งตะวันออกนั้นคือสถานที่ซึ่งพ่อบ้านหลี่กับภรรยาใช้เป็นที่พำนักอาศัยมาก่อนหน้านี้ จางซานถูกส่งตัวไปจัดการกับพวกบ่าวรับใช้ที่อยู่ในเรือนตะวันออกนั้นให้เรียบร้อยก่อนล่วงหน้า
อาคารที่สกุลน่าหลานให้น่าหลานเกอซีใช้เป็นที่พำนักอาศัยนั้นเก่าแก่คร่ำค่าผุพังอีกทั้งยั้งตั้งอยู่รกร้างห่างไกลถึงขนาดที่หากผู้ใดต้องการมาเยือน ณ สถานที่แห่งนี้อาจต้องหลงในระหว่างทางก็เป็นได้
ทว่าเรือนฝั่งตะวันออกที่พ่อบ้านหลี่พำนักอาศัยนั้นถูกตระเตรียมไว้อย่างดีเยี่ยม
ที่นอนซึ่งถูกจัดเตรียมไว้ให้แก่เกอซีนั้นอ่อนนุ่มแสนสบาย แม้จะไม่มีเครื่องตกแต่งเรือนที่สูงค่า หากแต่ทุกสิ่งกลับแลดูเรียบง่ายอย่างลงตัว ข้างหัวเตียงมีโต๊ะเครื่องแป้งที่ตบแต่งอย่างงดงาม
เกอซีรู้สึกเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้ามาทั้งวันสืบเนื่องมาจากร่างเดิมที่อ่อนแอกระเสาะกระแสะ ยามนี้เมื่อเรื่องทุกอย่างถูกจัดการให้เรียบร้อยลงตัวดีแล้วหญิงสาวจึงเริ่มรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดร้าวไปตลอดทั่วทั้งเรือนกาย
***จบตอน เฉิดฉายเจิดจรัส***