ตอนที่ 51 การตัดสินใจของอเยชา
การสู้รบแพร่กระจายไปยังแบกแดดที่เป็นเมืองหลวงของอิรัก เสียงระเบิดทำให้เป็นค่ำคืนที่นอนไม่หลับขณะที่มันถูกโยนเข้าสู่ความโศร้าโศกของสงครามบนเมืองที่เคยรุ่งเรือง
แน่นอนว่าเป็นเฉพาะกับพลเมืองของแบกแดด
สำหรับชาวต่างชาติเช่นเจียงเฉินและโรเบิร์ต พวกเขาก็ดื่มเหล้าและดื่มด่ำกับเหตุการณ์รอบๆตัว
ท่ามกลางแสงไฟกระพริบของบาร์ เสียงกระทบโลหะหนักได้ยินผ่านแก้วหูของทุกคน ความงามของเลบานอนเต้นบิดตัวไปมาบนเวทีพร้อมกับเอวที่เหมือนงูและฉันสีบลอนด์เข้มแกว่งไปมา ผู้ชายนั่งข้างๆพื้นเต้นส่งเสียงเชียร์และตะโกนเสียงดังพร้อมเพียงกันขณะที่พวกเขาโยนธนบัตรสิบดอลลาร์สหรัฐในการแลกเปลี่ยนสำหรับการเคลื่อนไหวที่แปลกใหม่กว่า
หลังบาร์มีบาร์เทนเดอร์วางเครื่องดื่มค็อกเทลผสมไว้ด้านหน้าของโรเบิร์ตและเจียงเฉิน สถานประกอบการได้รับข่าวลือว่าเป็นของชายชาวอังกฤษเนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เป็นทหารต่างชาติหรือคนงานและนักข่าว
คนที่นี่ไม่จำเป็นต้องแบกรับภาระหนักของสงครามนี้แม้ว่าแนวรบจะจ่ออยู่หน้าประตูแล้ว พวกเขารู้ว่ากองทัพของประเทศของพวกเขาจะมาและปิดทางหนีของพวกมัน
มันทำให้คนอิจฉาอย่างแท้จริงเพื่อให้ประเทศบ้านเกิดของคุณมีพันธมิตรที่มีการป้องกันอย่างขยันขันแข็งไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน
"การเดินทางที่ปลอดภัย" โรเบิร์ตยกถ้วยของเขา
"การเดินทางที่ปลอดภัย" เจียงเฉินดื่มอวยพรให้เขาและโยนมันกลับ
ค๊อกเทลรสชาติค่อนข้างแปลก นอกเหนือจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วดูเหมือนว่าจะมีอะไรอื่นผสมอยู่ด้วย
"ฉันได้ยินมาว่าพวกเขาห้ามเครื่องดื่มแอลกอฮอล์" เจียงเฉินหมุนแก้วคริสตัลในขณะที่เขาชอบความงามที่เต้นอยู่บนพื้น
“สำหรับคนเคร่งศาสนา เจ้าของที่นี่มีภูมิหลังที่มีอิทธิพลซึ่งทำให้เขาได้รับใบอนุญาตพิเศษในการขาย นอกจากนี้คนส่วนใหญ่ที่นี่ยังเป็นทหารอเมริกันหรือทหารรับจ้างของแบล็ควอเตอร์อินเตอร์เนชั่ลนอล แม้ว่าจะเมาเป็นครั้งคราวแล้วทำให้เกิดปัญหา พวกเขาก็จะไล่ออกไปทันที สถานที่แห่งนี้ไม่ต้องการมีนักเลง” โรเบิร์ตยิ้มด้วยการแคบดวงตาขณะที่เชาจิบค๊อกเทล “สำหรับพวกคนเหล่านี้ที่อาศัยอยู่บนขอบมีดมีเพียงการกระตุ้นแบบนี้ที่สามารถทำให้จิตใจสงบได้อีกครั้งเพื่อให้รู้สึกยังคงมีชีวิตอยู่”
โรเบิร์ตพูดถึงคนที่อาจจะตายได้ทุกวินาที โรเบิร์ตไม่เพียงหมายถึงทหารที่กำลังตกอยู่ในอันตรายจากการก้าวขึ้นสู่ทุ่นระเบิดแต่ยังพูดถึงตัวเองในฐานะพ่อค้าอาวุธปืน
มือของเจียงเฉินถือแก้วส่ายไปส่ายมาชั่วครู่ขณะที่เขาคิดลึกเกี่ยวกับโลกเกิดหายนะที่วุ่นวายและผู้คนที่ทุกช์ทรมานอยู่ที่นั่น
เขาไม่รู้สึกสงสารใดๆ
มันเป็นเพียงเขาตระหนักว่าเขาเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่อาจเสียชีวิตได้ตลอดเวลา
[ฉันจะระมัดระวังมากขึ้นในอนาคต]
เขาส่ายหัวขณะที่เขาดื่มอีกอึก
“หนุ่มหล่อ คุณต้องการยิงไหม?” สองความงามตะวันออกกลางที่ใส่แต่เสื้อกล้ามหยุดด้านหน้าเจียงเฉินและโรเบิร์ตและขยิบตาอย่างยั่วยวน
"คุณต้องการใคร?" โรเบิร์ตผิวปากที่สองความงามขณะที่เขาจ้องอย่างกับมีลับลมคมในไปที่เจียงเฉิน “นี่ของฉัน”
“ไม่เอาทั้งสอง ฉันปวดหัว ฉันจะไปนอนเพราะต้องกลับเที่ยวบินในวันพรุ่งนี้” เจียงเฉินรู้สึกไม่สบายใจในขณะที่เขาถอนหายใจและวางถ้วยลงบนเคาน์เตอร์
“อย่าทำตัวเหมือนชายอายุวันกลางคนเพื่อนรัก ฮ่าฮ่า แล้วฉันจะเอาทั้งสอง” โรเบิร์ตหัวเราะแล้วจับความงามทั้งสองไว้ในอ้อมแขนของเขาและจูบพวกเขาในความเมามาย
เจียงเฉินนวดขมับที่ปวดเบาๆและลุกขึ้นยืนเพื่อออกไป
เขาออกจากบาร์ที่มีเสียงตะโกนกระทบโลหะหนักและเสียงเชียร์ที่เต็มไปด้วยความปรารภนาขณะที่เขาสะลึมสะลือมองหาประตูโรงแรมในอาการมึนงงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์
เขาผลักประตูเปิดออกและพุ่งเข้าหาเตียงนุ่มๆเกือบจะทันทีเขากรนพร้อมกับกลิ้นตัวฉุนของแอลกอฮอล์ลอยออกมจากเขา
อเยชาที่ขดตัวอยู่ด้านข้างได้กลิ่นเหล้าและยกคิ้วของเธอขึ้นเล็กน้อยก่อนที่เธอจะถอนหายใจ
เขาไม่ใช่ผู้ศรัทธาเลย
เมื่อพวกเขามาถึงโรงแรม เจียนเฉินได้พาเธอมาที่นี่ ไม่เพียงเธอได้อาบน้ำแต่เขาก็พาเธอไปทานอาหารกลางวันร้อนๆแล้วเพลิดเพลินไปกับมัน นอกจากนี้เขายังขอให้พนักงานต้อนรับโรงแรมซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆให้เธอจากร้านใกล้ๆ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้อยู่ในรายละเอียดของงานแต่ทิปหนักเป็นวิธีการแก้ปัญหา
หลังจากเธอเข้าพักในโรงแรมแล้ว เจียงเฉินก็ออกจากโรงแรม
และเขาก็ไม่ได้กลับมาจนกระทั่งเกือบเที่ยงคืน
อเยชาจะไม่หลับจนกว่าเขาจะกลับบ้าน เธอทำหน้าที่ของภรรยาที่สุภาพรอให้สามีกลับบ้าน นี่เป็นสิ่งที่แม่ของเธอสอนเธอ แต่น่าเสียดายที่เธอจะไม่ได้เห็นลูกสาวแต่งงาน
การสมรสเป็นความไม่แน่นอนขณะที่อเยชาได้ยินมาว่าหลายประเทศเชื่อในการมีผัวเดียวหรือมีเดียว สำหรับเธอที่ถูก “หยิบขึ้นมา” เธอไม่อิจฉาพิธีทางศาสนา เธอมีความสุขที่เจียงเฉินไม่ทิ้งเธอไว้ข้างหลัง
แตกต่างจากก่อนหน้า เธอสะอาดและสวมชุดใหม่
ความงดงามต่างประเทศที่อยู่ใต้ผิวหน้าพร้อมที่จะออกดอกในทุกช่วงเวลา ถึงแม้ตอนนี้มันยังซ่อนอยู่ภายใต้การแสดงออกที่ไร้อารมณ์ ร่างกายที่ผอมและบอบบางเห็นได้ชัดว่าขาดสารอาหารแต่ส่วนโค้งเว้าถูกทำให้เด่นโดยเสื้อผ้าที่บางๆ หลังจากดูแลเล็กน้อยอเยชาจะกลายเป็นความงามเหมือนแม่ของเธอ
มีความงามมากมายจากประเทศของเธอ
แต่ในทะเลทรายที่ถูกตัดขาดนี้ ความงานก็เป็นความบาป
ดวงตาของอเยชาต่างจากสายตาที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจของเซียชียู พวกมันค่อนข้างเฉยเมยบางทีแม้แต่ชีวิตของตัวเอง? เจียงเฉินจะไม่สามารถรู้ได้อย่างแน่นอนด้วยสัญชาตญาน
วันที่เธอเห็นพ่อแม่ของเธอถูกฆาตกรรมอย่างทารุณทั้งน้ำตา ความกลัวและความเศร้าโศกได้หมดไปจากร่างกายของเธอพร้อมกับความเกลียดชัง เธอได้เห็นโศกนาฏกรรมมากมายขณะที่เธอตั้งคำถามถึงความรู้สึกของเธอในชีวิตของตัวเอง
หากต้องเผชิญกับการตัดสินใจระหว่างความตายและความเจ็บปวดจนเหลือทน เธอพร้อมที่จะเลือกจบชีวิตของตัวเอง มันเป็นตรรกะที่สอนเธอโดยสงครามจากความเกลียดชังอย่างรุนแรงและแพร่หลายท่ามกลางผู้คน
แม้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นอย่างไรก็ตามชายตะวันออกขี้สงสารนี้ยอมรับเธอ
อเยชาละเลยกลิ่นของแอลกอฮอล์ที่สุดจะทนขณะที่เธอพลิกตัวของเจียงเฉิน จากนั้นเธอก็เอาผ้าเช็ดตัวที่อุ่นๆวางมันไว้บนหน้าผากของเขา
[สถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนสวรรค์]
ผ้าปูที่นอนดั้งเดิมและห้องตกแต่งอย่างสวยงาม เธอไม่เคยมีความสุขอย่างมากมาก่อนและเธอรักความสำราญใจอย่างสุดซึ้ง
เมื่อเธอเช็ดใบหน้าของเจียงเฉินแล้วมีความนุ่มนวลแสดงในสายตาที่เฉยเมยของเธอ นิ้วของเธอแตะที่หน้าอกของเจียงเฉินเบาๆขณะที่เธอลังเลก่อนที่เธอจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆและตัดสินใจที่จะปลดกระดุมเสื้อผ้าของเจียงเฉิน
เธอวางเสื้อผ้าที่เปียกไปด้วยเหงื่อไว้ด้านข้างและเธอก็หน้าแดงที่เห็นกล้ามเนื้อบนร่างกาย ขณะที่อายเธอยังคงเอื้อมมือออกไปพร้อมกับที่มือสั่นขณะที่เธอเช็ดเบาๆบนร่างกายของเจียงเฉิน
“อืมม...” เจียงเฉินกรนและพลิกตัวกลับขณะที่มันทำให้อเยชากลัว
เฉพาะตอนที่เธอเห็นว่าเจียงเฉินยังนอนหลับอยู่มันได้ทำให้หัวใจของเธอที่เต้นอย่างรวดเร็วสงบลง
เธอรู้ว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดแต่เธอก็ยังกลัวที่จะทำให้เขาตื่นขึ้นมา เธอรวบรวมกำลังใจอีกครั้งขณะที่เธอกัดริมฝีปากของเธอเบาๆ
เมื่อลมหายใจของเขากลายเป็นปกติอีกครั้ง อเยชาสุดท้ายก็ดึงความกล้าหาญกลับมาอีกครั้งเพื่อเช็ดเหงื่อจากด้านหลังของเขา
ถึงแม้ว่าเธอจะตัดสินใจที่จะดำเนินการต่อแต่เธอก็ยังไม่ได้เตรียมตัวอย่างเต็มที่ซึ่งอธิบายว่าความหวาดหวั่นของเธอยังไม่ลดน้อยลง
“ซันเจียว เย้าเย้า” เจียงเฉินพึมพำในขณะที่เขานอนหลับแล้วเขาพลิกตัวกลับมาและจับมือของอเยชา
อเยชาสะดุ้งและแข็งทื่ออยู่กับที่
[ซันเจียว...เย้าเย้า? นี่เป็นชื่อของเหล่าภรรยาหรือปล่าว?]
ไม่รู้จักฮันแต่ความรู้สึกที่หกของเธอในฐานะผู้หญิงพิสูจน์ว่าเป็นอาวุธที่น่ากลัวและมีความสำคัญ
เมื่อได้ยินชื่ออเยชารู้สึกโล่งใจแต่ในเวลาเดียวกันความรู้สึกที่คลุมเครือพุ่งเข้ามา
ความหึงหวง? ไม่น่าใช่...บางทีมันเป็นความไม่สบายใจ
เธอจ้องที่ใบหน้าของเจียงเฉินด้วยศีรษะของเธอใกล้ๆกับเขา ขณะที่เธอตระหนักถีงการกระทำที่น่าอับอายของเธอ เจียงเฉินก็ขยับไปเรื่อยๆจนกว่าเขาอยู่ข้างบนเธอ
[จะทำอย่างไรดี? ฉันจะกินเขาเลยได้ไหม?]
ใบหน้าของเธอทันทีสีแดงเข้ม ดวงตาที่ครั้งก่อนเฉยเมยกลายเป็นปั่นป่วนและสับสน เธอไม่สามารถที่จะจดทะเบียนได้แต่เธอก็คว่ำบนตัวเขาในขณะที่สมองหลั่งไหลเข้าไปในความยุ่งเหยิง
[แต่...นี้ก็ไม่เลวร้ายมากเพราะมันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้]
อเยชาพยายามโน้มน้าวตัวเองขณะที่เธอกัดริมฝีปากของเธอและเอาแขนห่อรอบคอของเขา
[แทนที่จะเป็นทาสเพศของปีศาจโดยไม่มีศักดิ์ศรีหรือสิทธิมนุษยชนตอนจบ นี้ดีกว่ามาก]
[อย่างน้อยที่สุดวิธีนี้ความบริสุทธิ์ของฉันจะเป็นของคนๆเดียวและฉันจะให้บริการกับชายคนเดียวเท่านั้น]
อเยชาโน้มน้าวตัวเองให้สงบจิตใจที่เต้นอย่างบ้าคลั่งของเธอ เธอพลันดันความอายของเธอออกไปและนำริมฝีปากของเธอไปใกล้กับลมหายใจที่เต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ของเจียงเฉิน
นี้ได้ทำให้เขาก่ออาชญากรรม
หรือเพิ่มน้ำมันลงในกองไฟ
-
ครึ่งหลับครึ่งตื่นเจียงเฉินรู้รึกราวกับว่าเขาอยู่ในสวรรค์ คนรับใช้ที่สวยงามป้อนองุ่นสดใหม่ใส่ปากของเขาแล้วกระตุ้นให้เขากินมันโดยไม่ลังเลใดๆ ไม่เพียงมีองุ่นอร่อยๆแต่ยังมีไวน์หอมหวาน น้ำผลไม้สดและความสุขที่น่าหลงใหล
รอก่อน ทำไมฉันถึงมีความสุขที่น่าหลงใหล?
บางทีมันเป็นเพราะเหงื่อ
ใครจะสนใจหลังจากทั้งหมดมันทำให้เขามีความสุขที่สุด