ตอนที่แล้วEternal Martial Sovereign ตอนที่ 22 – เกาะเอาไว้?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEternal Martial Sovereign ตอนที่ 24 – นกกระจอกกลืนกินสวรรค์

Eternal Martial Sovereign ตอนที่ 23 – คลื่นพลังงานที่น่าตกใจ


Chapter 23 – คลื่นพลังงานที่น่าตกใจ

 

 

“พี่ใหญ่ น้องสาวสีม่วงบาดเจ็บและยังไม่ได้เยียวยาเลย” สหายตัวน้อยดูน่าสงสารมากๆ ขณะที่ยื่นแขนออกมา มีบาดแผลบางแห่งจากกระบี่และกลิ่นเน่าเปื่อยจากพิษบางส่วน

 

 

มองไปยังสหายตัวน้อย ซือเฟิงได้แต่รู้สึกเห็นอกเห็นใจอย่างช่วยไม่ได้

 

ตอนนี้เถาวัลย์ม่วงได้สูญเสียลำต้นใต้ดินของมันไปแล้ว มันสูญเสียแก่นแท้แห่งชีวิต ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงมันก็จะตาย

 

“อย่าได้กังวล พี่ใหญ่จะไม่ปล่อยให้เจ้าตาย!” สายตาแห่งความมุ่งมั่นแวบผ่านดวงตาของเซี่ยวหยุนขณะที่เขานึกถึงวิธีการ

 

“จริงหรือ?” น้องสาวสีม่วงกระพริบตาที่ใสเหมือนคริสตัลขณะที่มองไปยังเซี่ยวหยุน

 

เซี่ยวหยุนไม่สามารถพูดอะไรได้ขณะที่เขาเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขา

 

บุซ!

 

ทันใดนั้นแสงหยกสีเขียวได้ปรากฏขึ้นระหว่างคิ้วของเขาขณะที่เถาวัลย์หยกสีเขียวยืดออกมา

 

กิ่งหยกสีเขียวประกายแสงห้อมล้อมไปด้วยหมอก ที่ดูเหมือนพืชแห่งสวรรค์บางประเภท

 

เมื่อแสงหยกสีเขียวส่องออกมา  ดวงตาของสหายตัวน้อยก็สว่างขึ้นขณะที่น้ำลายสีม่วงเริ่มไหลออกมาจากปาก “นี่คือนมรสชาติดี มันเต็มแก่นแท้แห่งชีวิตของชีวิต!(ตรงนี้ประมาณแก่นแท้ที่เหนือไปอีกขั้น)” มันห่อหุ้มแขนทั้งสองข้างๆรอบข้าของเซี่ยวหยุนขณะที่มันพูดด้วยเสียงของเด็กทารกว่า “ข้าอยากิน ข้าอยากกิน”

 

เจ้านักกินตัวน้อยคนนี้!

 

เซี่ยวหยุนกลอกตาของเขาขณะพูดว่า “อย่าใจร้อน พี่ใหญ่จะไปพาเจ้าไปยังสถานที่ที่ดี”

 

หลังจากพูด กิ่งหยกสีเขียวก็ยืดออกและห่อหุ้มตัวมันรอบๆเถาวัลย์สีม่วงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำใดๆจากมันกะทันหัน

 

แม้จะถูกผูกมัดโดยกิ่งไม้ เถาวัลย์ม่วงดูเหมือนจะไม่เป็นไร มันใช้ปากเล็กๆของมันเพื่อดูดซับแก่นแท้แห่งชีวิตของหยกสีเขียวอย่างขยันขันแข็ง นี้คือแก่นแท้แห่วชีวิตของชีวิตที่หนาแน่นอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งทำให้กลิ่นอายของมันฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง มันดูเหมือนเด็กที่กำลังโตขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น

 

แสงหยกสีเขียวได้เปล่งประกายขณะที่วิญญาณของเถาวัลย์ม่วงได้ถูกนำไปด้วยจิตวิญญาณการต่อสู้เพื่อเข้าสู่ทะเลแห่งจิตสำนึกของเซี่ยวหยุน

 

เดิมทีมันเป็นวิญญาณอยู่แล้ว ดังนั้นมันจึงสามารถนำเข้ามาภายในทะเลแห่งจิตสำนึกของผู้คนได้

 

ภายในทะเลแห่งจิตสำนึกของเซี่ยวหยุน เถาวัลย์ม่วงยังคงดูดซับแก่นแท้แห่งชีวิตของหยกสีเขียวอย่างต่อเนื่อง แขนของมันได้จับรอบๆกิ่งอย่างหนาแน่น ราวกับเป็นเด็กที่คว้าขวดนมไว้ ดวงตาสีม่วงของมันเปล่งประกายอย่างต่อเนื่องแล้วแคบลงด้วยความสุขสำราญและความมัวเมา

 

มันดูเหมือนแก่นแท้แห่งชีวิตของจิตวิญญาณการต่อสู้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับวิญญาณของเถาวัลย์ม่วง

 

ความคิดของเซี่ยวหยุนเข้าสู่ทะเลแห่งจิตสำนึกของเขา กลิ่นอายของสหายตัวน้อยได้ดีขึ้นอย่างมาก จากแสงสีม่วงสุกสกาวที่เปล่งออกมา มันดูเหมือนจะเต็มไปด้วยชีวิตอีกครั้ง

 

จิตวิญญาณการต่อสู้เคลื่อนไหวและแล้วยื่นสหายตัวน้อยลงมา

 

“ไอ๊ย๊า ข้ายังไม่อิ่มเลย” สหายตัวน้อยไม่พอใจอย่างเหลื่อเชื่อ ดูเหมือนคนมากขึ้นไปอีกแล้วดวงตาและขนตาก็ดูเหมือนของเด็กวัยหัดเดิน

 

“สหายตัวน้อยคนนี้รู้จักแค่การกินเท่านั้น” เซี่ยวหยุนคิดขณะที่เขามองไปยังร่างของเถาวัลย์ม่วง เขาก็ยังคงรู้สึกเห็นอกเห็นใจบางส่วน

 

ถึงแม้ว่าเถาวัลย์ม่วงจะฟื้นฟูแก่นแท้แห่งชีวิตได้ไม่น้อยแล้วก็ตาม แต่แผลก็ยังคงมีอยู่และพิษบางส่วนก็ยังหลงเหลืออยู่

 

“บางทีหยดน้ำค้างเหล่านี้อาจจะช่วยได้” เซี่ยวหยุนมองไปยังหยดน้ำค้างบนใบของจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขา เขาใช้จิตใจของเขาในการควบคุมหยดน้ำและพรมไปบนแผลของเถาวัลย์ม่วง ดูว่ามันสามารถรักษาบาดแผลได้หรือไม่

 

ทันใดแผลจากกระบี่เริ่มถูกรักษาในอัตราที่สามารถสังเกตุได้ด้วยตาเปล่า

 

แม้กระทั่งพิษก็เริ่มถูกถอนออกอย่างช้าๆ

 

“พี่ใหญ่ ท่านมหัศจรรย์มาก แผลของข้าได้ดีขึ้นมาก” น้องสาวสีม่วงกระพริบตาเมื่อมันมองไปยังจิตวิญญาณการต่อสู้อย่างหลงใหล น้ำลายของมันเริ่มไหลอีกครั้งขณะที่กิดจิตวิญญาณการต่อสู้และดูดซับแก่นแท้แห่งชีวิตอย่างไว

 

“อร่อย มันอร่อยมากเลย พี่ใหญ่ข้าจะอยู่ที่นี่นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป” สหายตัวน้อยพูดด้วยรอยยิ้ม

 

หลังจากรักษาบาดแผลของเถาวัลย์ม่วง เซี่ยวหยุนได้ถอนหายใจอยู่ในใจด้วยความโล่งอก

 

 

ด้วยวิธีนี้ วิญญาณของเถาวัลย์ม่วงจะอยู่กับเขาจนกระทั่งเขาได้กลับไปยังเขตเมฆาม่วง หลังจากนั้นเขาจะส่งมอบมันให้กับพี่สาวซือเฟย

 

เซี่ยวหยุนขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้กับสหายตัวน้อยที่กำลังกินอย่างตะกละตะกลาม

 

“ว้าว กลิ่นอายชีวิตหนาแน่นกว่าที่นั่น” ภายในทะเลแห่งจิตสำนึกของเซี่ยวหยุน วิญญาณของเถาวัลย์ม่วงกอดจิตวิญญาณการต่อสู้ขณะที่มันปีนขึ้นไป ไปยังหยดน้ำค้างบนใบ 2 ใบ หยดน้ำค้างเหล่านี้ได้รวบรวมแก่นแท้แห่งจิตวิญญาณการต่อสู้และเพิ่งจะมีรูปร่างเมื่อเร็วๆนี้

 

“ข้าไม่สามารถดูแลเรื่องแบบนี้ได้” เซี่ยวหยุนสาปแช่งเงียบๆ

 

เมื่อตอนนั้น สหายตัวน้อยได้เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อเขาก็เพราะว่ามันสนใจแก่นแท้แห่งชีวิตที่เขาสามารถให้ได้

 

ตอนนี้มันกลับไม่ได้ยึดถือเหมือนตอนนั้นเลย

 

มันดูเหมือนว่าสหายตัวน้อยที่ไร้เดียงสาคนนี้จะฉลาดอย่างมาก

 

ปัง!

 

ก่อนที่เซี่ยวจะทำอะไร หนึ่งในกิ่งของจิตวิญญาณการต่อสู้ฟาดออกมา แล้วเฆี่ยนสหายตัวน้อยให้ตกลงบนพื้น

 

สหายตัวน้อยหมุนตัวกลับขึ้นมาขณะที่มันชี้ไปที่จิตวิญญาณการต่อสู้และร้องไห้ไปยังเซี่ยวหยุน “ไอ๊หย๊า พี่ใหญ่ มันรังแกน้อยสาวสีม่วง”

 

“เจ้าตะกละเกินไปแล้ว ถ้าเจ้ายังทำเช่นนี้อีก พี่ใหญ่จะโยนออกเจ้าออกไป” เซี่ยวหยุนรู้สึกว่าเขาไม่สามารถอนุญาตให้สหายตัวน้อยกินเช่นนี้ได้อีกต่อไป หลังจากทั้งหมดที่จิตวิญญาณต่อสู้ของเขาได้ควบแน่นแก่นแท้แห่งชีวิตจากการดูดซับแก่นแท้ปราณแห่งสวรรค์และโลก

 

“วู้ อย่าทิ้งน้องสาวสีม่วงนะพี่ใหญ่ น้องสาวสีม่วงจะทำตัวให้ดี” สหายตัวน้อยคนนี้เหมือนมนุษย์อย่างมาก และดวงตาสีม่วงของมันกระพริบขณะที่มองไป มีคลื่นพลังกระเพื่อม ซึ่งนั่นเป็นพลังวิญญาณของเซี่ยวหยุน

 

ถึงแม้ว่าสหายตัวน้อยจะพูดเช่นนี้ แต่น้ำลายยังไหลออกมาจากปากของมันอย่างต่อเนื่อง

 

เซี่ยวหยุนรู้สึกโมโหอย่างมาก เขาไม่คิดว่าเขาจะถูกเกาะติดโดยคนตะกละตัวน้อย

 

“พี่ใหญ่ ปล่อยน้องสาวสีม่วงอยู่ที่นี่” สหายตัวน้อยดูเหมือนจะรู้ว่าเซี่ยวหยุนไม่พอใจกับมัน “ข้าช่วยท่านหาโอสถได้ และข้าก็รู้ว่ามีพระราชวังมรดกของเซียนอยู่ในระยะไกล”

 

“เจ้ารู้เกี่ยวกับพระราชวังมรดกของเซียน?” เซี่ยวหยุนรู้สึกตื่นเต้นมาก

 

น้องสาวสีม่วงพยักหน้า และเริ่มบอกเซี่ยวหยุนเกี่ยวสิ่งที่มันรู้เกี่ยวกับบริเวณนี้ของภูเขา

 

หลังจากได้ฟังคำพูดของสหายตัวน้อย เซี่ยวหยุนพยักหน้าขณะที่คิ้วของเขาคลายลง

 

เถาวัลย์ม่วงอาศัยอยู่ในภูเขาเมฆาม่วงมาเป็นเวลานั้นและนานนับตั้งแต่ได้รับจิตสำนึก มันก็คุ้นเคยกับบริเวณนี้อย่างน่าเหลือเชื่อ และหลังจากได้ยินที่มันพูด เซี่ยวหยุนก็เข้าใจว่าทำไมสัตว์อสูรที่ทรงพลังของภูเขาเมฆาม่วงจึงถูกไล่ออกไป

 

นี้เป็นเพราะเซียนระดับสูงได้ปรากฏตัวขึ้นภายในส่วนลึกของภูเขา

 

ไม่เพียงแค่นี้ เซียนคนนั้นก็แข็งแกร่งมากจากกลิ่นของเขาหรือนางก็ทำให้หมอกของภูเขาเมฆาม่วงกระจายไป

 

ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ ลำธารเมฆาม่วงจะเป็นพื้นที่ที่อันตรายอย่างเหลือเชื่อและผู้ฝึกตนสามัญส่วนใหญ่จะไม่แม้แต่จะนึกถึงการเข้าไปยังสถานที่แห่งนี้

 

เถาวัลย์ม่วงยังรู้ถึงตำแหน่งที่แม่นยำของพระราชวังมรดกของผู้ฝึกตนโบราณอีกด้วย

 

เซี่ยวหยุนยิ้ม “เยี่ยม ไปกันเถอะไปที่แก่นแท้ต้นกำเนิดเป็นอันดับแรก”

 

“พี่ใหญ่ไม่โยนน้องสาวสีม่วงออกไปข้างนอกอีกแล้วใช่ไหม?” สหายตัวน้อยกระพริบตา ดวงตาสีม่วงของมันดูน่ารักอย่างเหลือเชื่อ มันทำให้ผู้คนต้องการจะหยิกแก้มของมัน มันเป็นวิญญาณที่น่าสงสัยที่ไม่ได้อยู่ในรูปร่างมนุษย์อย่างสมบูรณ์แบบและใบหน้าของมันก็ไม่ได้สมบูรณ์นัก

 

“ได้ แต่เจ้าต้องทำตัวดี” เซี่ยวหยุนตอบ

 

“อือ...” สหายตัวน้อยพยักหน้าอย่างกระฉับกระเฉง ถึงแม้ว่ามันอยากจะปีนขึ้นไปบนใบและดูดซับ 'นม' นั่น แต่มันก็ต้องยับยั้งตัวเอง กลับกันมันเกาะแง่งของจิตวิญญาณการต่อสู้ซึ่งเพียงพอสำหรับการฟื้นฟูและเติบโตของมัน

 

เซี่ยวหยุนไม่ได้หยุดมัน

 

จิตวิญญาณการต่อสู้เรืองแสงสุกสกาว และแก่นแท้แห่งชีวิตที่มีอยู่ก็เหมือนกับทะเล มันไม่ได้ขาดแคลนแก่นแท้แห่งชีวิตที่น้องสาวสีม่วงกำลังดูดซับ

 

ขณะที่เซี่ยวหยุนลงไปยังส่วนลึกอย่างมากของภูเขา แก่นแท้แห่งปราณก็เริ่มหนาแน่นมากยิ่งขึ้น

 

เซี่ยวหยุนค้นพบสถานที่ที่แก่นแท้ปราณหนาแน่นอย่างยิ่งและเริ่มบ่มเพาะที่นี่

 

เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของแก่นแท้ปราณ จิตวิญญาณการต่อสู้จึงยืดกิ่งของมันออกมาด้วย และดูดซับแก่นแท้ปราณบางส่วนสำหรับตัวมันเอง

 

 

หลังจากถูกยกระดับ จิตวิญญาณการต่อสู้ก็ดูเหมือนจะความสามารถมากขึ้น

 

ในระยะเวลาเพียง 5 วัน เซี่ยวหยุนก็ทะลวงผ่านจากระดับ 8 ขั้นหลอมร่างกายเข้าสู่ระดับ 9 ขั้นหลอมร่างกาย และจิตวิญญาณการต่อสู้ก็หนาและทรงพลังมากยิ่งขึ้น

 

ไม่ใช่เพียงแค่ใบทั้ง 2 บนจิตวิญญาณการต่อสู้มีขนาดมากขึ้นเท่าตัว และหยดน้ำค้างได้ใหญ่ขึ้นและนั่งอยู่กึ่งกลางของใบ

 

หยดน้ำค้างได้มีสีเป็นหยกสีเขียว และพวกมันดูเหมือนกับหยกที่สวยงาม

 

วิญญาณของเถาวัลย์ม่วงเกาะติดกับจิตวิญญาณการต่อสู้และด้วยอัตราการดูดซับแก่นแท้แห่งชีวิตที่น่าประหลาดใจ ทำให้มันได้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ขนตาของมันเดิมทีดูแปลกตาเล็กน้อย ตอนนี้พวกมันได้เหมือนกับขนตาของมนุษย์แล้ว และเปลือกตาก็น่ารักขึ้นอย่างมากเช่นกัน

 

ใบหน้าเล็กๆก็ดูเหมือนใกล้เป็นรูปร่างแล้ว

 

อย่างไรก็ตามสหายตัวน้อยจ้องไปยังหยดน้ำค้างบนใบที่ทำให้น้ำลายออกอย่างต่อเนื่อง

 

แก่นแห่งชีวิตของชีวิตที่มากจากหยดน้ำค้างนั้นยั่วยวนใจจนเกินไป มันสามารถทำได้เพียงต่อต้านต่อความกลัวจากการที่เซี่ยวหยุนจะโยนมันออกไปเท่านั้น

 

วันนี้ หยดน้ำค้างหยดอื่นได้ปรากฏบนใบของหยกสีเขียว และน้องสาวสีม่วงไม่สามารถต่อต้านได้อีกต่อไปแล้ว

 

“พี่ใหญ่ มีนมมากมายเช่นนี้ ท่านจะไม่ตระหนี่ต่อน้องสาวสีม่วงใช่ไหม?” ขณะที่เซี่ยวหยุนกำลังมุ่งเน้นไปที่การบ่มเพาะ สหายตัวน้อยได้ปีนขึ้นไปบนจิตวิญญาณการต่อสู้ ขณะเช็ดน้ำลายอย่างงุ่มง่าม มันต้องการที่จะขโมยหยดน้ำค้าง

 

พ่ะ!

 

เป็นผลให้มันถูกตบลงมาโดยกิ่งหยกสีเขียว

 

“น้องสาวสีม่วงซนอีกแล้ว” เสียงของเซี่ยวหยุนดังออกมา

 

“น้องสาวสีม่วงหิวเล็กน้อย” สหายตัวน้อยกล่าวขณะที่มันถูไปที่ท้องและทำให้ดูน่าสงสาร

 

“เมื่อเจ้าพาข้าไปยังแก่นแท้ต้นกำเนิด ข้าจะมอบมันให้เจ้าหนึ่งหยด” เซี่ยวหยุนควบคุมหนึ่งในหยดน้ำค้างหยกสีเขียว และมอบมันให้กับสหายตัวน้อย ใบหน้าของน้องสาวสีม่วงกลายเป็นสีแดงและพุดด้วยความกระอักกระอ่วน “ขอบคุณพี่ใหญ่” แม้จะมีเรื่องเช่นนี้ มันก็ยังรีบยอมรับหยดน้ำค้าง

 

หลังจากที่ดื่มหยดน้ำค้าง ร่างกายของสหายตัวน้อยเริ่มเปลี่ยนไป หนึ่งในกิ่งและเถาวัลย์บนร่างกายของมันเริ่มเป็นระเบียบมากขึ้น และมองดูเหมือนคนมากขึ้น

 

แน่นอนว่ามันยังคงเป็นมนุษย์ต้นไม้ตัวน้อย

 

ขณะที่เซี่ยวหยุนรุดหน้าอย่างต่อเนื่อง เขาก็ไปถึงข้างหน้าแก่นแท้ต้นกำเนิด

 

แก่นแท้ปราณหนาแน่นอย่างเหลือเชื่อและยืนอยู่ตรงหน้ามัน เซี่ยวหยุนรู้สึกราวกับว่าเขากำลังจะทะลวงผ่าน

 

เซี่ยวหยุนยังพบถ้ำอื่นและบ่มเพาะที่นั้นอย่างต่อเนื่อง

 

10 วันต่อมา เซี่ยวหยุนได้ก้าวเข้าสู่ขั้นสมบูรณ์ของขอบเขตหลอมร่างกาย

 

 

มันเป็นเรื่องน่าเสียการทะลวงผ่านเข้าสู่ขอบเขตต้นกำเนิดนั้นเป็นเรื่องยากเกินไป อย่างน้อยที่สุดเขาก็ยังคงรู้สึกว่าขาดบางอย่างอยู่

 

ไม่คำนึงถึง จิตวิญญาณการต่อสู้และเขาที่เป็นผู้ครอบครองทักษะกลืนกินสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองได้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

“ดูเหมือนว่าการก้าวเข้าสู่ขอบเขตต้นกำเนิดไม่ได้ต้องการเพียงแค่แก่นแท้ปราณที่สมบูรณ์ แต่ยังต้องมีความเข้าใจในสวรรค์และโลก” หลังจากบ่มเพาะอย่างอุตสาหะมา 10 วัน สุดท้ายเซี่ยวหยุนก็หยุดเพราะว่าเขาได้มาถึงคอขวดแล้ว มันดูเหมือนว่าเขาต้องการความเข้าใจไม่ใช่แค่การบ่มเพาะ

 

ตอนนี้เขาอยู่ที่นี่มาเกือบ 1 เดือนแล้ว

 

เซี่ยวหยุนส่ายศีรษะขณะที่เดินออกจากถ้ำนั้น

 

 

ขณะที่เขาเดินออกจากถ้ำ คลื่นพลังที่ล้นหลามได้พุ่งมายังเขา

 

 

“คลื่นพลังมหึมาอะไรกัน” ภายใต้การโจมตีจากคลื่นพลัง ร่างกายของเซี่ยวหยุนสั่นสะท้านอย่างไม่รู้ตัวขณะที่เขารีบล่าถอย

 

ผู้ฝึกตนทั่วไปจะหมดหนทางโดยสมบูรณ์เมื่อเผชิญหน้ากับคลื่นพลังเช่นนี้ แต่สิ่งที่น่าตกใจที่สุดสำหรับเซี่ยวหยุนคือ ต้นกำเนิดของคลื่นพลังนั้นอยู่ค่อนข้างไกลออกไป เขาสงสัยว่าเซียนประเภทใดกันที่สามารถปล่อยกลิ่นอายเช่นนี้ออกมาได้

 

เซี่ยวหยุนเริ่มมุ่งหน้าไปยังต้นกำเนิดของคลื่นพลังขณะที่เต็มไปด้วยความอยากรู้

 

วิญญาณของเถาวัลย์ม่วงกระจายจิตสำนึกของมันและทันทีที่มันรู้สึกถึงคลื่นพลังได้ มันร้องออกมา “มันเป็นเซียนระดับสูง!”

 

ถึงแม้ว่าเสียงร้อนดังกล่าวจะเหมือนกับเต็มทารก แต่ความตกใจและความกลัวที่เกิดภายในตัวมันก็ไม่อาจปฏิเสธได้

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด