ตอนที่แล้วตอนที่ 186: หลบหนี (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 188: หลงทาง (1)

ตอนที่ 187: หลบหนี (2)


คลื่นที่รุนแรงล้อมรอบเกาะชนเข้ากับฝั่งขณะที่งูคำราม

เรือของพวกเขาถูกผลักออกไปโดยคลื่นที่เกรี้ยวกราดและเกือบจะถูกทำลาย

น้ำของทะเลตกลงมาบนผิวของดาดฟ้าเหมือนฝนตก

แองเจเล่ยืนอยู่ข้างหางเสือและป้องกันน้ำไม่ให้เข้าดวงตาของเขาด้วยมือ สายโลหะที่เขาสร้างช่วยทำให้เขายืนนิ่ง

เรือทั้งลำกำลังสั่น แองเจเล่พยายามอย่างดีที่สุดที่จะควบคุมสมดุลของเรือ

มีคลื่นขนาดยักษ์อยู่ข้างหลังพวกเขาสูงประมาณสิบเมตรที่ดูเหมือนกำแพงสีน้ำเงินขนาดมหึมาและกำลังจะกลืนเรือ

แองเจเล่หันหัวไปมองบนท้องฟ้า

มีฉากสีน้ำเงินสูงอยู่เหนือศีรษะของเขาและเงาของมันก็ปกคลุมเรือทั้งลำ

ตูมมม

น้ำจากทะเลกระจายบนดาดฟ้าและเริ่มทำลายพื้นผิวของดาดฟ้า

เสากระโดงเรือแตกเป็นชิ้นๆและจมลงไปในทะเลภายในไม่กี่วินาที

แองเจเล่ไม่ได้ป้องกันน้ำด้วยสนามพลังดังนั้นชุดคลุมของเขาจึงเปียก มันรู้สึกเย็นและไม่สบาย นอกจากนี้น้ำยังโดนผมของเขา

"เจ้าพร้อมหรือยัง" แองเจเล่ใช้อนุภาคพลังงานส่งคำพูดของเขาไปท้ายเรือแต่การไหลเวียนของพลังงานแปลกๆรอบๆเกาะขัดขวางข้อความ

"เสร็จแล้ว!" อิซาเบลตอบหลังจากผ่านไปหลายวินาที

ทันใดนั้นก็มีแสงสีขาวกะพริบขึ้นที่ท้ายเรือ

เริ่มจากดาดฟ้าที่น้ำบนเรือถูกแช่แข็งเป็นน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว

ห้องโดยสาร บันไดและเสาที่แตก ทุกสิ่งทุกอย่างปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งเรืองแสง

บาเรียน้ำแข็งถูกสร้างโดยอิซาเบลและมันปกป้องตัวเรือ

ผิวของทะเลได้สงบลงหลังจากที่คลื่นกระแทกเรือ แองเจเล่พยายามใช้อนุภาคพลังงานไฟเพื่อทำให้ชุดของเขาแห้ง

โอกกกก

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรงูก็เริ่มขยับร่างกายของมันอีกครั้ง

มีคลื่นเริ่มพุ่งมาทางเรืออีกครั้ง

คลื่นไล่ตามเรือหลังจากที่เรือถูกดันไปข้างหน้าเล็กน้อย

ตูม

คลื่นกระจายบนเรืออีกครั้ง อย่างไรก็ตามครั้งนี้บาเรียน้ำแข็งดูดซึมความเสียหายส่วนใหญ่

ในที่สุดเรือก็ออกจากพื้นที่อันตราย แองเจเล่ยืนข้างราวตรวจสอบเกาะ สายโลหะกลับเข้าไปในร่างกายของเขา

อิซาเบลเดินไปหาแองเจเล่ มีวงเวทสีน้ำเงินกะพริบภายใต้ฝ่าเท้าของเธอ

แองเจเล่ถอนหายใจ เขารู้สึกโล่งใจ "เจ้ายังใช้บาเรียได้อยู่ไหม"

อิซาเบลพยักหน้า ชุดคลุมของเธอเปียกทำให้เห็นร่างกายที่เซ็กซี่ของเธอแต่เธอไม่ได้ดูกังวล

"บาเรียน้ำแข็งจะทำให้เรือเสถียรภาพ สิ่งมีชีวิตใดๆที่เจตนาจะโจมตีมันจะได้รับความเสียหายน้ำแข็ง พวกมันจะถูกแช่แข็งเป็นก้อนน้ำแข็งจนกว่าพวกมันจะมีความต้านทานเวทมนต์พอ"

"มีระยะและระยะเวลานานแค่ไหน" แองเจเล่ปัดฝุ่นออกจากชุดคลุมของเขาและเริ่มอบเสื้อผ้าด้วยอนุภาคพลังงานไฟทำให้มีไอน้ำลอยออกมาจากร่างกายของเขา

"ข้ารักษามันไว้ได้ 15 วัน หลังจากนั้นข้าจำเป็นต้องฟื้นฟูพลังจิตของข้า ในระยะ 50 เมตร" อิซาเบลตอบ "คาถาควรร่ายบนคน.....มันเป็นครั้งแรกที่ข้าทำอะไรแบบนี้"

แองเจเล่พยักหน้า ถ้าปราศจากบาเรียน้ำแข็งเรือก็คงจะไม่รอดจากคลื่นลูกที่สอง พวกเขาหันกลับไปและจ้องไปที่เกาะที่เปลี่ยนเป็นจุดสีดำขนาดเล็กในสายตาของพวกเขา

"ตอนนี้มีเพียงเจ้าและข้า....ข้าได้ยินว่าเมลิสซ่าและอินเฟ้นได้สำรวจซากปรักหักพังหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้มีบางอย่างที่ทำให้พวกเขาตกใจ...." อิซาเบลส่ายหัว "ขอบคุณสำหรับ.....การช่วยเหลือ น่าเศร้าที่ข้าไม่พบหัวใจของต้นไม้เพื่อให้เจ้า ไม่ต้องห่วง ข้าจะบอกตระกูลของข้าให้มองหาหัวใจและข้าจะส่งไปให้เจ้าถ้าเราพบมัน"

เธอโบกมือ "มาร์การิต้า นำข้า...." อิซาเบลหยุดหลังจากที่ตระหนักได้ว่าไม่มีใครอยู่รอบๆ มีเพียงผู้ติดตามสองคนที่รอดตายที่ยังไม่ได้ตื่นขึ้นมา

การแสดงออกของอิซาเบลเปลี่ยนไป เธอดูหดหู่

"เกิดอะไรขึ้นในซากปรักหักพัง เจ้าได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร" แองเจเล่เปลี่ยนหัวข้อ

อิซาเบลลังเลชั่วครู่จากนั้นเธอก็เริ่มอธิบาย

"เราติดอยู่ในความมืด มีเพียงสิ่งเดียวที่ข้ามองเห็นคือบันไดหิน....เราสามารถก้าวไปข้างหน้าได้เท่านั้นเพราะบันไดข้างหลังเราหายไป มันรู้สึกเหมือนเดินบนไดที่ลอยอยู่ในอากาศโดยไม่มีแสงสว่าง" อิซาเบลลดเสียงลง "หลังจากนั้นก็มีมอนสเตอร์แปลกๆเหมือนเงาปรากฏขึ้นข้างหน้าเรา พวกมันเริ่มโจมตีเราจากทุกทิศทุกทางและไม่ว่าข้าจะร่ายคาถาไหนพวกมันก็ไม่เคยจากไป...."

"สิ่งที่เกิดกับข้าก็เป็นเช่นเดียวกัน" แองเจเล่ลูบคาง เขาไม่ได้พูดว่าเขาไม่เห็นสัตว์อสูรใดๆ

"อุโมงค์มันขยับ ข้าคิดว่าข้าอยู่ใกล้ๆทางเข้าแต่ในวินาทีต่อมาข้าก็เห็นอุโมงค์ที่มืดมิดข้างหน้าข้า ไม่กี่วินาทีต่อมาข้าก็กลับมาที่บันไดหิน"

"มันเป็นเพียงภาพลวงตา..." แองเจเล่ขมวดคิ้ว

"ข้าคิดว่ามันเป็นภาพลวงตาด้วยเช่นกันแต่ข้าเกือบตาย.....และข้าแน่ใจว่ามอนสเตอร์เหล่านั้นทำร้ายข้าโดยตรง" อิซาเบลพูดด้วยการแสดงออกเคร่งเครียด

ทันใดนั้นเธอก็หยุดและจ้องที่แองเจเล่

"กรีน เจ้าชื่ออะไร"

"แองเจเล่ ทำไม" แองเจเล่ตอบ

"เจ้าเอาข้าออกมาจากภาพลวงตาได้อย่างไร เจ้าช่วยข้าใช่ไหม" เธอส่ายหัวอีกครั้ง "ไม่เป็นไร ข้าต้องการพักผ่อน ข้าหวังว่าห้องจะรก"

แองเจเล่เฝ้าดูเธอเดินเข้าไปในห้องโดยสาร

"ข้าควรพักบ้าง...."

อิซาเบลพูดซ้ำ เสียงเธอดูหมดแรง

เขาขบริมฝีปากหลังจากที่อิซาเบลเดินลงบันไดไม้และกลับไปที่ห้องโดยสารของเธอ

แองเจเล่ไม่อยากไปห้องโดยสาร เรือทั้งลำถูกแช่แข็งและข้างล่างนั่นจะต้องเย็นแน่ๆ

เขาอยู่บนดาดฟ้าและเอากุญแจออกมาจากเข็มขัด

มันมีกุญแจอยู่ประมาณสิบดอกและแองเจเล่พบพวกมันในห้องทดลอง

'ข้าไม่คิดว่าข้าคงไม่ได้ใช้พวกมันสักพักหนึ่ง' มีรอยยิ้มขมขื่นบนใบหน้าของแองเจเล่ เขาอยู่ใกล้พื้นที่ 4 แต่เขาก็ต้องหนีและมันดูเหมือนว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด

ถ้าเขาไม่พบอิซาเบลเขาอาจจะหนีไม่สำเร็จ แองเจเล่ยังไม่รู้ว่างูนั้นมาจากไหนแต่เขามั่นใจว่าระเบิดหัวใจไม่สามารถสร้างความเสียหายใดๆแก่มันได้

แองเจเล่ส่ายหัวอีกครั้ง มีเรื่องลึกลับมากมายที่จะต้องแก้แต่เขาไม่คิดว่าเขาจะกลับมาที่นี่ในเร็วๆนี้

****************************

ภายในอุโมงค์ของซากปรักหักพัง

ห้องทดลอง

มีชายคนหนึ่งก้าวเข้ามาในห้องและเดินไปยังไพลินเรืองแสงในมุมหนึ่ง

เขายกมือขึ้นและกดผิวของไพลิน มันเป็นมือที่มีเลือดที่ปราศจากผิวหนัง เนื้อสีแดงและกล้ามเนื้อสีขาวถูกสัมผัสกับอากาศ

กึก

ไพลินหลวมและเริ่มเคลื่อนที่ไปทางซ้ายเผยให้เห็นช่องสี่เหลี่ยม

ไดอารี่และกุญแจไม่ได้อยู่ที่นั่นอีกต่อไป สิ่งที่เหลือก็คือกองขี้เถ้าสีดำ

ชายคนนี้ยืนอยู่หน้าช่องจนไพลินกลับตำแหน่งเดิม

แคร๊ก

ทันใดนั้นไพลินเรืองแสงทั้งห้องก็แตกเป็นชิ้นๆ

แสงจากห้องดับลงและห้องทดลองก็อยู่ในความมืด

************************

แองเจเล่โยนกุญแจขึ้นไปในอากาศและจับด้วยมือทั้งสองข้าง เขาตัดสินใจที่จะผูกไว้กับเข็มขัดอีกครั้ง

ทันใดนั้นกุญแจสีดำก็เริ่มเรืองแสง

พวกมันเปลี่ยนเป็นสายสีดำและเข้าไปในตราบนฝ่ามือซ้ายของเขา

"โอ้ย" มีความเจ็บปวดอย่างรุนแรงบนฝ่ามือซ้ายของเขา แองเจเล่ยกมือซ้ายขึ้นและเห็นสายสีดำบิดอยู่ตรงกลางของตราที่เหมือนงู

"เกิดอะไรขึ้น"

สายตาของเขาเริ่มเบลอและเห็นกุญแจสีดำวางอยู่บนฝ่ามือของเขาเงียบๆ

"นี่เป็นภาพลวงตางั้นหรือ.....น่าสนใจ" แองเจเล่คิดว่าเขาได้รับสิ่งที่ไม่น่าเชื่อและเขาอยากรู้ว่ากุญแจเหล่านี้ทำมาจากอะไร

เขาโยนกุญแจขึ้นไปในอากาศอีกครั้งและตราที่อยู่บนฝ่ามือซ้ายของเขาก็ร้อนขึ้น มันหมายความว่ากุญแจจะต้องเป็นแหล่งกำเนิดของภาพลวงตา

หลังของแองเจเล่สั่น เขาได้ยินเสียงสัตว์อสูรหายใจอยู่ข้างหลังคอของเขา

แล้วภายลวงตาก็หายไปอีกครั้งหลังจากที่สายตาของเขาเบลอ

มันทำให้แองเจเล่สนใจกุญแจมากขึ้น

เขาโยนกุญแจขึ้นไปในอากาศอีกครั้ง

โฮกกกกกกก

สัตว์อสูรใกล้ขึ้น แองเจเล่เอนตัวไปด้านข้างและมีบางอย่างที่หนาวเย็นผ่านข้างใบหน้าของเขา

มันรู้สึกเหมือนแก้มของเขาถูกถูด้วยใบดาบและภาพลวงตาก็หายไปอีกครั้ง

"เดี๋ยวนะ.....ข้าเคยอ่านเรื่องนี้ในหนังสือ..." มีความเป็นไปได้เดียว ดวงตาของเขาส่องแสง

อย่างไรก็ตามมีบางอย่างหยดลงไปที่คางของเขา เขาลูบแก้มของเขาด้วยมือขวา มันมีบาดแผล

การแสดงออกของแองเจเล่เปลี่ยนไป เขามองไปที่มือ

นิ้วของเขาปกคลุมไปด้วยเลือด

"เรื่องเล่าเป็นความจริง....ข้าจะต้องเริ่มทดลองหลังจากที่ข้ากลับไป" แองเจเล่พึมพำ

'ซีโร่ ทำไมเจ้าถึงไม่เตือนข้าเรื่องการโจมตี' แองเจเล่ถาม

[ไม่พบภัยคุกคาม] เสียงของซีโร่ดังก้องอยู่ในหัวของเขา

'สแกนและวิเคราะห์กุญแจเหล่านี้' แองเจเล่จับกุญแจอย่างระมัดระวังในมือ เขาตัดสินใจที่จะระมัดระวังในครั้งนี้

มีจุดแสงสีน้ำเงินกะพริบในดวงตาของเขาและหลังจากผ่านไปหลายวินาทีแถวข้อมูลก็เรียงด้านข้างโฮโลแกรมของกุญแจสีดำ รายการข้อมูลเปลี่ยนไปทุกๆวินาที

แองเจเล่ข้ามข้อมูลส่วนใหญ่ที่ไม่จำเป็นและเริ่มจ้องที่ข้อมูลที่สำคัญ

[น้ำหนักของกุญแจ 0 กรัม]

[พบสนามพลัง]

[พบคลื่นพลังจิต]

[โครงสร้างของมันไม่สามารถสแกนได้]

'ซีโร่' แองเจเล่รู้สึกถึงน้ำหนักของกุญแจมันมีประมาณ 500 กรัมแต่ชิปบอกว่ามันหนัก 0 กรัม

ข้อมูลของกุญแจยังเปลี่ยนไปเรื่อยๆในสายตาของแองเจเล่ หลังจากผ่านไปประมาณสองนาทีในที่สุดการวิเคราะห์ก็เสร็จสมบูรณ์

แถวสุดท้ายระบุวัสดุที่ใช้สร้างกุญแจเหล่านี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด