ตอนที่ 186: หลบหนี (1)
ท้องฟ้าเหนือเกาะปกคลุมไปด้วยเมฆสีเข้ม อากาศเปลี่ยนแปลงไป
บนหน้าผาสูงชัน
มีนาฬิกาแดดสีเทาที่มีทางเข้าโปร่งแสงสามทางที่ดูเหมือนว่าจะหายไปได้ตลอดเวลา
ทันใดนั้นก็มีมือจับขอบทางเข้าหนึ่ง
มีคนสองคนกระโดดออกมาจากอุโมงค์พร้อมกัน
คนที่กำลังยืนข้างหน้าเป็นชายหนุ่มผมสีน้ำตาล ผมของเขายุ่งจากเหงื่อและมันก็ติดหน้าผาก ชายหนุ่มมีดวงตาคมสีน้ำเงินและชุดคลุมที่สวมดูใหญ่กว่าตัวเขา
มีผู้หญิงสวมชุดคลุมสีขาวตามหลังชายหนุ่ม ผมสีดำยาวของเธอยาวถึงไหล่และมีรอยหลายรอยบนใบหน้าสวยๆของเธอ
ในที่สุดแองเจเล่และอิซาเบลก็ออกจากอุโมงค์หลังจากที่วิ่งอย่างบ้าคลั่งหลายนาที
"อย่าหยุด! เรือของเราควรจะปลอดภัย ข้าได้ทิ้งคนเพื่อคุ้มกันที่นั่น เราต้องออกจากเกาะนี้!" อิซาเบลตะโกน เธอดูกระวนกระวายขณะที่เธอวิ่งไปที่บันไดยาวทางขึ้นภูเขา
แองเจเล่พยักหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไร เขามองไปที่อุโมงค์เป็นครั้งสุดท้ายและตามอิซาเบล
ทางเข้าทั้งสามค่อยๆหายไปจากนาฬิกาแดดและทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับสู่สภาพเดิม
โนมอนของนาฬิกาแดดเปลี่ยนเป็นสีขาวหลังจากผ่านไปหลายวินาที
ซูมมม
ลำแสงสีขาวยิงจากปลายของโนมอนยาวขึ้นสู่ท้องฟ้า
สายสีขาวเชื่อมต่อหน้าผากับท้องฟ้า
แองเจเล่สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นกับนาฬิกาแดดและเร่งฝีเท้าของเขา
ทั้งสองยังคงวิ่งลงเนินเขา พวกเขาหันไปมาหลายครั้งเพื่อหาทางลัด
สิบนาทีต่อมาพวกเขาก็กลับไปที่ชายหาดที่เรือเข้าเทียบท่า
"เป็นไปไม่ได้! เรืออยู่ที่ไหน"
อิซาเบลจ้องไปที่ชายหาดที่ว่างเปล่า เธอดูตกใจ
ราวกับว่าเรือได้นำทีมมาและหายไปอย่างสมบูรณ์โดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆไว้บนผิวของทะเล
คลื่นสีน้ำเงินได้โดนชายหาดสีเหลืองเป็นครั้งคราวแต่นอกเหนือจากนั้นสถานที่นี้ก็เงียบ
น้ำจากทะเลล้อมรอบช่องว่างของแนวปะการัง
"เรืออยู่ที่ไหน!"
อิซาเบลเริ่มตื่นตระหนก เธอวิ่งไปที่ทะเลและวนไปรอบๆบริเวณที่เรือทอดสมอแต่ไม่พบอะไร
"บัดซบ"
การแสดงออกของแองเจเล่เริ่มเคร่งเครียด
พวกเขาเดาว่าที่เรือหายไปเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ลึกลับที่เกิดขึ้นในซากปรักหักพัง ถ้าภาพลวงตาพ่อมดสีน้ำเงินทำลายเรือมันก็จะเป็นปัญหาใหญ่
แองเจเล่หยุดที่ขอบของชายหาดและเริ่มตรวจสอบสภาพแวดล้อม
"มีวิธีที่เจ้าจะติดต่อกับคนบนเรือไหม" เขาถามขณะที่หันหน้าไปทางเธอ
อิซาเบลหายใจเข้าลึกๆและสงบลง เธอดูแตกต่างออกไป ใบหน้าของเธอไร้อารมณ์ใดๆ เธอรีบเอาลูกสีทองขนาดเล็กออกมาจากถุงกระเป๋าหลังจากที่ฟังคำพูดของแองเจเล่
เคร๊ง (หลงแคร๊งไปตั้งหลายตอน หลอน)
มีเข็มสีดำหลายเล่มออกมาจากผิวของลูกบอล
อิซาเบลหยิบขึ้นมาเข็มหนึ่งและบิดมัน
ฟิ้ว
ลูกสีทองหายไปจากฝ่ามือของเธอพุ่งเป็นเส้นสีทองบินขึ้นไปในอากาศ
เข็มได้ทะยานขึ้นไปในอากาศและบินไปในทิศทางต่างๆจากนั้นเข็มก็หายไปทั้งหมดหลังจากผ่านไปหลายวินาที
"ฮาร์-ริม-ลาส!" อิซาเบลร่ายคาถาเสียงดัง คำที่เธอพูดหมายถึง 'แม่แห่งแสง' ในภาษาแอนแมค
พวกเขารออยู่ครู่หนึ่งจนกระทั่งพวกเขาเห็นเส้นสีทองมาจากทางซ้าย
"ทางนั้น!" อิซาเบลตะโกนและเริ่มวิ่ง
แองเจเล่พยักหน้าและตามเธอ
ทั้งสองวิ่งไปตามแนวชายฝั่งและพบเรือใต้หน้าผาหินหลังจากผ่านไปประมาณสิบนาที
เรือสีดำขนาดเล็กติดอยู่ระหว่างแนวปะการังและมีสายสีทองอยู่บนเรือ
สายลมและคลื่นเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ
เมฆในท้องฟ้าเริ่มหนาขึ้นและปิดกั้นแสงแดดอย่างสมบูรณ์ มันเป็นเวลาเที่ยงวันแต่มันดูเหมือนตอนเย็น
แองเจเล่และอิซาเบลก้าวเข้าไปในน้ำและวิ่งไปที่เรือ
อิซาเบลลูบแหวนสีขาวที่เธอมีและมีวงเวทสีขาวปรากฏภายใต้ฝ่าเท้าของเธอ วงเวทค่อยๆยกเธอขึ้นและเธอก็กระโดดขึ้นไปบนดาดฟ้าอย่างง่ายดายหลังจากผ่านไปหลายวินาที
แองเจเล่ชี้ไปที่เรือและมีสายโลหะเงินยาวออกจากปลายนิ้วของเขาไปปักที่ราว เขาดึงสายและกระโดดขึ้นราวแล้วปีนขึ้นไปบนดาดฟ้า
ตัวเรือนั้นเงียบ เขามองไม่เห็นใครรอบๆ
อิซาเบลเดินตรงไปยังห้องโดยสารหลังจากที่ก้าวขึ้นมาบนดาดฟ้า
หลังจากผ่านไปหลายนาทีเธอก็ลากชายสองคนออกมา
ทั้งสองสวมชุดเกราะหนังสีแดงเข้มและทั้งสองคนหมดสติ แองเจเล่เห็นอาวุธในมือของพวกเขา มีเลือดหยดลงจากใบดาบ
"หนึ่งในนี้เป็นผู้ติดตามของอินเฟ้นและพวกเขาทั้งคู่ถูกโจมตีด้วยภาพลวงตา ภาพลวงตาทำให้พวกเขาคิดว่าทั้งสองคนเป็นศัตรูกัน คำสาปมันแข็งแกร่งเกินไป เราต้องไป" อิซาเบลพูดอย่างใจเย็น เธอหายใจเข้าลึกๆอีกครั้งและพยายามคิดแผนว่าจะทำอะไรต่อ
"ไม่ต้องกังวล ข้าเชื่อว่าคำสาปมีผลต่อเป้าหมายที่เป็นกลุ่ม นอกจากนี้ข้ายังมีวิธีพิเศษในการจัดการกับมัน"
แองเจเล่ได้ทดสอบพลังของตรามาแล้วหลายครั้งและมั่นใจว่าเขาสามารถช่วยผู้คนรอบๆเขาได้
"ข้ารู้ว่าเจ้าอาจจะยกเลิกคำสาปให้ข้าได้ชั่วคราว แต่สิ่งนี้มันซับซ้อนกว่าที่เจ้าคิด" อิซาเบลพูดเสียงเบา
"ดูนี่สิ"
เธอโยกหัวไปทางซ้ายและดึงปกคอขวาเผยให้เห็นไหล่ขาวๆของเธอ
แองเจเล่เห็นลวดลายสีดำรูปนาฬิกาแดดบนไหล่ของอิซาเบลซึ่งดูคล้ายรอยสัก
"ลวดลายนี้หมายความว่าคำสาปยังไม่ได้ถูกยกเลิกและนี่เป็นเพียงหนึ่งในลวดลายที่ปรากฏบนร่างกายของข้า" อิซาเบลส่ายหัว "เราต้องขับเรือไปยังตำแหน่งเดิมและรอกลุ่มของเมลิสซ่า ถ้าพวกเขาไม่กลับมาภายในครึ่งชั่วโมงเราก็จะต้องไป"
แองเจเล่ตกใจเล็กน้อยหลังจากที่เห็นลวดลาย เขาขยับมือซ้ายเล็กน้อย มันดูเหมือนว่าตราสามารถยกเลิกคำสาปได้อย่างสมบูรณ์ให้กับเจ้าของเท่านั้น
เลือดจากฮาร์ปี้โบราณได้ผล พวกมันเป็นผู้เชี่ยวชาญในการควบคุมภาพลวงตาและพวกมันสามารถต่อต้านคาถาภาพลวงตาส่วนใหญ่ได้
แองเจเล่ได้ยินเสียงคนกรีดร้องเมื่อเขากำลังจะพูด
"มันเป็นเมลิสซ่า!" อิซาเบลตะโกน เธอเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ท้องฟ้า "โอ้! พระเจ้า!"
เธอปิดปากด้วยมือขวา มันดูเหมือนว่าเธอไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น
แองเจเล่ได้ยินคำพูดของอิซาเบลและรีบเงยหน้าขึ้นไปตรวจสอบสถานการณ์
เหนือภูเขาสีดำมีแผ่นสีเงินโปร่งใสขนาดมโหฬารหมุนอย่างช้าๆและมีเงาเบลอสีขาวลอยอยู่ตรงกลางของแผ่น มันเป็นเมลิสซ่า แขนของเธอเปิดกว้างและมีรากเรืองแสงสีขาวนับไม่ถ้วนออกมาจากด้านหลังของเธอ รากเหล่านั้นปีนขึ้นไปที่ขอบของแผ่นสีขาวและอนุภาคพลังงานสีขาวก็ถูกฉีดเข้าไปในแผ่นโปร่งใส
"นั่นคือ.....กวาดล้างขั้นสุดท้าย....." อิซาเบลพึมพำ "มันเป็นคาถาชำระล้างที่แข็งแกร่งที่สุดที่เมลิสซ่ารู้และนอกจากนี้.....มันยังเป็นคาถาสุดท้ายที่เธอจะใช้...."
แองเจเล่ขมวดคิ้ว เขารู้สึกถึงการปรากฏตัวของอนุภาคพลังงานมากมาย พวกมันกำลังหมุนเหมือนสายลมที่กำลังจะพัดอนุภาคพลังงานเชิงลบออกจากร่างกายของเขา
แผ่นเงินค่อยๆหมุนช้าลงและมีรูนสีขาวที่แตกต่างกันมากกว่าหมื่นกะพริบอยู่
"ข้าควรจะทำความสะอาดเกาะนี้ด้วยพลังงานที่บริสุทธิ์ที่สุด" เสียงของเมลิสซ่าดังก้องในท้องฟ้า
แสงสว่างจากแผ่นได้ทำให้เกาะทั้งเกาะสว่างขึ้น แสงนั้นอ่อนโยน แม้แต่เมฆสีเข้มตอนนี้ก็ดูขาว คลื่นแผ่กระจายผ่านอากาศและเปลี่ยนการไหลเวียนของอากาศรอบเกาะ
สายลมที่มาจากจานทำให้ทุกๆมุมของเกาะอุ่นขึ้น แองเจเล่รู้สึกผ่อนคลายและความคิดของเขาก็สงบลง
มันเป็นคาถาที่มีขนาดใหญ่และคาถาเช่นนี้มักจะถูกร่ายระหว่างสงคราม ความเสียหายต่อเป้าหมายมักจะต่ำแต่ระยะของมันก็กว้างอย่างไม่น่าเชื่อ
โฮกกกก
ทันใดนั้นก็มีปากขนาดยักษ์ปรากฏและกัดแผ่นใส สิ่งมีชีวิตนี้เหวี่ยงหัวและกลืนไปทั้งหมด
เสียงที่เกิดขึ้นในขณะที่กลืนมันดังเหมือนฟ้าผ่าพื้นดิน
เมลิสซ่าถูกกลืนไปพร้อมกับแผ่นใสก่อนที่เธอจะตอบสนอง
งูทะเลสีน้ำเงินเรืองแสงได้ปรากฏขึ้นจากที่ไหนสักแห่ง มันมีหูที่คล้ายปีกค้างคาวและมีลำแสงออกมาจากดวงตาของมัน มันเกือบจะเหมือนกับลูกตาถูกแทนที่ด้วยเปลวไฟที่กำลังเผาไหม้
แองเจเล่และอิซาเบลไม่เข้าใจว่ามันเพิ่งเกิดอะไรขึ้น
หลังจากผ่านไปหลายวินาทีแองเจเล่ก็ตะโกน
"หนี!"
อิซาเบลตื่นขึ้นด้วยเสียงของแองเจเล่และพวกเขาก็รีบออกเรือ
แองเจเล่ไปควบคุมหางเสือขณะที่อิซาเบลหยิบถุงกระเป๋าสีเหลืองออกมาและเทอะไรบางอย่างในอากาศ ฝุ่นสีเขียวได้กระจายไปบนใบเรือหลักและกลายเป็นพายุทอร์นาโดขนาดเล็ก
เรือส่ายหลายครั้งและเคลื่อนที่ผ่านแนวปะการัง มันเริ่มไปด้านตรงข้ามของเกาะอย่างรวดเร็ว
ฟู่
มีวงกลมแสงสีเขียวปรากฏขึ้นเหนือเรือและแผ่กระจายไปทั่วตัวเรืออย่างรวดเร็ว
ความเร็วของเรือเพิ่มขึ้นอย่างมาก มันกำลังเคลื่อนที่ออกจากเกาะเหมือนลูกธนูออกจากสายธนู
งูยาวมากกว่าพันเมตร มันค่อยๆเลื้อยไปรอบๆเกาะและยกหัวขึ้น เสียงที่รุนแรงออกมาจากปากของมันเหมือนสัตว์ร้ายกำลังคำราม
เปรี้ยง
มีฟ้าแลบกะพริบบนเกาะและเมฆสีเข้มก็ได้ปิดกั้นลำแสง พื้นที่ทั้งหมดจมลงสู่ความมืดมิด
ร่างกายของงูสีน้ำเงินที่กำลังเรืองแสงเป็นสิ่งสุดท้ายที่มองเห็นได้เหนือทะเล