ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 92 อนาคตในกำมือ (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 94 ความแข็งแกร่งที่สูญหาย (อ่านฟรี)

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 93 ฝูงหมาป่า (อ่านฟรี)


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 93 ฝูงหมาป่า

แปลโดย iPAT 

"เร็ว!"

"สมาชิกตระกูลอยู่ในการต่อสู้นองเลือด พวกเขากำลังรอพวกเราอยู่"

"อย่าทิ้งระยะห่าง มันง่ายที่จะหลงทางในยามค่ำคืน โดยเฉพาะเด็กใหม่ ระวังตัวให้มาก"

บนเส้นทางกลับหมู่บ้าน กลุ่มผู้ใช้วิญญาณห้าคนวิ่งผ่านฟางหยวนไปอย่างเร่งร้อน

"เกิดสิ่งใดขึ้น?" ฟางหยวนสงสัย แต่หลังจากเดินทางต่อไปอีกเพียงไม่ถึงห้าร้อยเมตร เขาก็พบกับผู้ใช้วิญญาณสิบสามคน

เขาครุ่นคิดอยู่อย่างเงียบๆ ความทรงจำห้าร้อยปีมากเกินไป แม้ฟางหยวนจะสามารถกำเนิดใหม่พร้อมกับความทรงจำทั้งหมด

แต่ความทรงจำของเขายังค่อนข้างคลุมเครือราวกับถูกปกคลุมไปด้วยชั้นเมฆหมอก มีเพียงไข่มุกล้ำค่าบางชิ้นที่สามารถส่องประกายขึ้นท่ามกลางม่านหมอกแห่งความทรงจำของเขาเท่านั้น

อย่างไรก็ตามมเห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ไข่มุกดังกล่าว

ชีวิตในหมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาลเป็นเพียงจุดเริ่มต้นในช่วงชีวิตอันยาวนานของเขาเท่านั้น

‘มีความเป็นไปได้ที่เหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นในชีวิตก่อนหน้าของข้า แต่เนื่องจากผลกระทบปีกผีเสื้อ มันทำให้หลายสิ่งเปลี่ยนแปลงไป’

ฟางหยวนเดินทางมาถึงประตูเมืองทางทิศเหนือ แต่เขากลับพบผู้ใช้วิญญาณอีกกลุ่มหนึ่งกำลังรีบร้อนเดินทางออกจากหมู่บ้าน

"หือ?" หนึ่งในกลุ่มผู้ใช้วิญญาณหยุดเท้าเมื่อมองเห็นฟางหยวน "ฟางหยวน เหตุใดเจ้ายังอยู่ที่นี่?"

"เกิดสิ่งใดขึ้น?" ฟางหยวนมองคนผู้นี้

เขาคือสหายร่วมชั้นเรียนของฟางหยวน ซื่อเฉิน

ซื่อเฉินตอบกลับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด "โอ้ เจ้ายังไม่รู้งั้นหรือ? มีสัตว์อสูรฝูงเล็กๆปรากฎตัวขึ้นรอบๆหมู่บ้าน หากปล่อยไว้ พวกมันอาจขยายพันธุ์จนกลายเป็นฝูงใหญ่ เมื่อเวลานั้นมาถึง มนุษย์ธรรมดาที่หมู่บ้านตีนเขาจะไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ หมู่บ้านของเราก็จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นกัน"

"โอ้ เป็นเช่นนั้น" ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น

ความทรงจำของเขาย้อนกลับมาทันที

ในโลกใบนี้มนุษย์มีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก ทุกๆสองหรือสามปี ฝูงสัตว์อสูรจะปรากฎขึ้น มนุษย์ต้องการทรัพยากรและที่อยู่อาศัย สัตว์อสูรก็เช่นกัน

มันคือสงครามแย่งชิงทรัพยากรระหว่างมนุษย์กับสัตว์อสูร

ทุกสามปีฝูงหมาป่าจำนวนมากจะบุกโจมตีหมู่บ้านที่อยู่บนภูเขาชิงเหมา

'ตามการคำนวณของข้า การรุกรานของฝูงหมาป่าจะเกิดขึ้นในปีหน้า อย่างไรก็ตามหมาป่าฝูงเล็กๆเหล่านี้จะเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายมันจะส่งผลกระทบต่อสัตว์น้อยใหญ่มากมายที่อยู่ในป่า'

'พวกมันจะทำให้สัตว์ชนิดอื่นย้ายถิ่นฐาน แม้มันจะไม่เป็นอันตรายต่อหมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาล แต่เมื่อสัตว์น้อยใหญ่จากไป สุดท้ายมันจะทำให้หมู่บ้านขาดแคลนทรัพยากรและอ่อนแอลง'

'เดี๋ยว! หากเป็นเช่นนั้น...ฮ่าฮ่าฮ่า...' ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น เขาต้องก้มหน้าลงและลอบหัวเราะอยู่ภายใน

ซื่อเฉินกล่าว "ตอนนี้ห้องโถงภารกิจฝ่ายนอกและฝ่ายในกำลังระดมผู้ใช้วิญญาณ มันถูกประกาศเป็นภารกิจเร่งด่วน ฟางหยวน เจ้ากำลังคิดสิ่งใดอยู่ กลุ่มของเจ้าออกไปนานแล้ว ตัวเจ้าก็ต้องออกไปเช่นกัน แต่..."

ซื่อเฉินหยุดก่อนกล่าวต่อ "อันตรายซุกซ่อนอยู่ทุกที่ สัตว์อสูรเตร็ดเตร่ไปทั่ว การต่อสู้ในยามค่ำคืนยิ่งอันตรายกว่าเวลากลางวัน เจ้าเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่งตัวเล็กๆที่แตกต่างจากผู้ใช้วิญญาณระดับสองเช่นข้า เจ้าต้องระวังตัวให้มาก"

ซื่อเฉินกล่าวถ้อยคำเหล่านี้ด้วยความภาคภูมิใจและสนุกสนาน

ตอนนี้หัวเข็มขัดของเขาไม่ใช่เลขหนึ่งอีกต่อไปแต่มันเปลี่ยนเป็นเลขสอง

ต้องขอบคุณปู่ของซื่อเฉินที่ช่วยยกระดับการบ่มเพาะให้เขาเมื่อไม่นานมานี้

"ข้าพึ่งทราบข่าว หากเป็นกรณีนี้..." ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบาง "ข้าจะออกไปพร้อมกับพวกเจ้า เมื่อถึงแนวหน้า ข้าจะแยกตัวกลับเข้ากลุ่มของข้า"

"อันใด? ฮืม ผู้ใดจะพาเจ้าไปด้วย" ซื่อเฉินไม่พอใจ

เสียงของฟางหยวนดังขึ้นอีกครั้ง "ตามกฎของตระกูล ผู้ใช้วิญญาณที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังต้องเข้าร่วมกับกลุ่มที่อยู่ใกล้ที่สุดเพื่อทำภารกิจต่อไป ซื่อเฉิน เป็นไปได้หรือไม่ว่าเจ้าไม่รู้เรื่องนี้?"

"เจ้า!" ซื่อเฉินโกรธเมื่อได้ยินเช่นนี้

"แท้จริงแล้วเป็นเช่นนั้น" ซื่อซานที่มองอยู่อย่างเงียบๆเปิดปากกล่าว

เขามีความสูงเกือบสองเมตร ร่างกายส่วนบนของเขาเปลือยเปล่าและเผยให้เห็นผิวสีทองแดงที่ดูแข็งแกร่งของเขา

เขาคือหัวหน้าของคนกลุ่มนี้

เมื่อซื่อซานเปิดปากกล่าว ซื่อเฉินจึงไม่สามารถโต้แย้ง

ซื่อซานกวาดตามองฟางหยวนก่อนออกคำสั่ง "ตามเรามา"

เสียงทุ้มต่ำและหนักแน่นของเขาเป็นทำให้ผู้คนไม่สามารถตั้งคำถามใดๆ

ฟางหยวนยักไหล่และไม่ได้กล่าวสิ่งใด

ซื่อเฉินหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แปลกประหลาด "เช่นนั้นเจ้าก็จงตามพวกเรามาให้ดี"

ฟางหยวนไม่ตอบ

"ฮืม เหตุใดเราต้องลากเขาไปรอบๆ เพียงแค่ผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่ง" ซื่อเฉินพึมพำด้วยความโกรธ แต่เขาก็ไม่สามารถต่อต้านซื่อซาน

ทันทีที่กลุ่มหกคนเริ่มออกเดินทาง พวกเขาก็วิ่งลงเนินเขาไปอย่างรวดเร็ว

ซื่อซานวิ่งนำกลุ่มคนทั้งหมด แม้ร่างกายของเขาจะใหญ่โต แต่ความเร็วของเขากลับไม่ช้า นอกจากเขาและซื่อเฉิน ยังมีสมาชิกชายอีกสองและหญิงอีกหนึ่ง การแสดงออกของพวกเขานิ่งเฉยและไม่แยแสตั้งแต่ต้นจนจบ

เมื่อพวกเขาออกวิ่ง พวกเขาแสดงให้เห็นถึงความสามารถของหนึ่งในสามกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาทันที

ทุกคนหายใจอย่างเป็นจังหวะ เท้าของพวกเขาก้าวออกไปอย่างมั่นคงและรวดเร็ว มีเพียงซื่อเฉินที่ดูเหมือนกำลังพบกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก เขาต้องใช้วิญญาณจิ้งหรีดมังกรเป็นครั้งคราวอย่างไม่เต็มใจ อย่างไรก็ตามชัดเจนว่าเขาได้รับการสั่งสอนมาเป็นอย่างดี นั่นทำให้เขาสามารถหลบเลี่ยงอุปสรรค้และยังไม่เคยล้มลงแม้แต่ครั้งเดียว

เมื่อพวกเขามาถึงตีนเขา ซื่อซานยกมือขึ้นเป็นสัญญา สมาชิกกลุ่มหยุดเท้าลงทันที

“ฟุบ ฟุบ”

ซื่อเฉินถูกทิ้งไว้ข้างหลังห่างออกไปสามร้อยเมตร เขาเป็นคนสุดท้ายที่มาถึง ใบหน้าของเขาซีดขาวและยังหอบหายใจอย่างหนักหน่วง

ฟางหยวนสามารถติดตามคนกลุ่มนี้มาได้อย่างกระชั้นชิดและดูไม่เหมือนเด็กใหม่

"ซื่อเฉิน จำไว้ จงควบคุมความแข็งแกร่งทางกายภาพของเจ้าให้ดี" ซื่อซานหันกลับไปให้คำแนะนำซื่อเฉินก่อนจะกวาดตามองฟางหยวนด้วยสายตาชื่นชม

ตอนนี้สมาชิกกลุ่มเริ่มมองฟางหยวนต่างจากก่อนหน้าเล็กน้อย

"พวกเราเข้ามาในอาณาเขตของฝูงหมาป่าแล้ว ซื่อเฉิน ฟางหยวน พวกเจ้ามาอยู่ตรงกลาง" ซื่อซานกวาดตามองรอบๆก่อนกล่าว

ประโยคนี้ทำให้ฟางหยวนต้องประเมินซื่อซานใหม่อีกครั้ง

แท้จริงแล้วชายผู้นี้เป็นคนใจกว้าง ตรงกลางเป็นจุดที่ปลอดภัยที่สุด แม้ฟางหยวนจะไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับเขาและไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวสกุลซื่อ แต่ซื่อซานก็ยังปกป้องเขา ชัดเจนว่าเจียวซานไม่สามารถเปรียบเทียบ

ท้องฟ้าเริ่มมืด เมฆดำทับซ้อนกันเป็นชั้นๆ ทำให้หิมะบนพื้นเปลี่ยนเป็นสีดำ

ความเร็วของพวกเขาลดลงอย่างมากขณะที่วิ่งผ่านภูมิประเทศอันซับซ้อน

ฟางหยวนและซื่อเฉินอยู่ตรงกลาง ด้านซ้ายเป็นซื่อซาน ด้านขวาเป็นชายชรา ด้านหลังเป็นหญิงสาวที่มีเส้นผมสีฟ้า

สำหรับด้านหน้า เขาคือผู้ใช้วิญญาณที่มีชื่อ ซื่อเช่อ

คนผู้นี้เป็นผู้ใช้วิญญาณสายตรวจสอบของกลุ่ม เขาจะขยับจมูกเป็นครั้งคราวสลับกับการแลบลิ้นออกมาสัมผัสกับอากาศ บนลิ้นของเขามีรอยสักเล็กๆรูปอสรพิษสีแดงปรากฏอยู่

เมื่อพวกเขามาถึงส่วนลึกของป่า เสียงคำรามของสัตว์อสูรเริ่มดังขึ้นเป็นระยะ

เป็นเพียงเวลานี้ที่ซื่อเช่อเปิดปากกล่าว "ด้านหน้ามีสัตว์ขนาดกลางสามตัว พวกมันควรเป็นกวางป่า"

"ไล่พวกมันไป" การแสดงออกของซื่อซานไม่เปลี่ยนแปลงขณะออกคำสั่ง

กลุ่มคนทั้งหกไม่เปลี่ยนทิศและยังเดินหน้าต่อไป กวางป่าปรากฎตัวขึ้นก่อนจะถูกขับไล่ออกจากเส้นทางของพวกเขา

ไม่นานหลังจากนั้นใบหน้าของซื่อเช่อพลันเปลี่ยนสี "ฝูงสิ่งมีชีวิตขนาดกลาง มันควรเป็นวานรหลังดำ"

"เปลี่ยนทาง" ซื่อซานออกคำสั่งอีกครั้ง

กลุ่มเล็กๆของพวกเขาหลบออกไปทางซ้ายเพื่อหลีกเลี่ยงฝูงลิงที่รับมือได้ยาก

นี่คือข้อดีของการมีผู้ใช้วิญญาณสายตรวจสอบอยู่ในกลุ่ม

'ซื่อเช่อใช้วิญญาณลิ้นอสรพิษที่มีความสามารถในการตรวจจับความร้อน แต่มันมีข้อบกพร่องสามประการ หนึ่ง มันมีระยะการตรวจจับค่อนข้างสั้น สอง มันง่ายที่จะเกิดข้อผิดพลาด สาม มันไม่สามารถตรวจจับสิ่งมีชีวิตเลือดเย็น แต่มันก็ยังดีกว่าไม่มีสิ่งใดเลย ข้าเข้าสู่ระดับสองแล้ว ในอนาคต เพื่อเอาชีวิตรอดในป่า ข้าต้องมีวิญญาณสายตรวจสอบเช่นกัน' ฟางหยวนคิด

ซื่อเช่อแจ้งเตือน "สิ่งมีชีวิตขนาดกลาง ดูเหมือนจะเป็นเสือขาว มันกำลังใกล้เข้ามาด้วยความเร็วสูง"

"เตรียมต่อสู้" ซื่อซานกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

"โฮก..."

เสือขาวกระโจนออกมาจากพุ่มไม้อย่างกะทันหัน หากปราศจากการแจ้งเตือนของซื่อเช่อ พวกเขาอาจไม่ตระหนักถึงการคงอยู่ของมัน

แต่ตอนนี้พวกเขาเตรียมตัวพร้อมแล้ว

ผู้ใช้วิญญาณชราพ่นของเหลวสีขาวเหนี่ยวหนืดออกไป มันขยายใหญ่ขึ้นเป็นตาข่ายใยแมงมุมติดอยู่บนใบหน้าของเสือขาว

เสือขาวดิ้นรนต่อสู้

ซื่อซานพุ่งเข้าไปและใช้กำปั้นทุบลงบนศีรษะของเสือขาว

กำปั้นของซื่อซานส่องประกายสีทองออกมา ด้วยเสียง "ปัง" กะโหลกศีรษะของเสือขาวแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในครั้งเดียว

คนทั้งหมดไม่ได้หยุดเท้า พวกเขาวิ่งผ่านซากศพของเสือขาวไปอย่างไม่แยแส

กระบวนการทั้งหมดลื่นไหลราวกับสายน้ำ สมาชิกทุกคนแสดงออกด้วยความเข้าใจที่ตรงกัน

'กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาไม่เกินสามวินาที หากข้าต้องเผชิญหน้ากับเสือขาวตัวนี้เพียงลำพัง ข้ายังต้องใช้เวลาอย่างน้อยห้านาทีในการต่อสู้กับมัน’ ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น

สมาชิกทุกคนของกลุ่มนี้เป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสองเช่นเดียวกับเขา แต่มันมีความแตกต่างในด้านวิญญาณ

พวกเขาครอบครองวิญญาณระดับสองที่มีประสิทธิภาพขณะที่ฟางหยวนมีเพียงวิญญาณระดับหนึ่ง

วิญญาณคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้ใช้วิญญาณ

'แม้ข้าจะก้าวเข้าสู่ระดับสองเรียบร้อยแล้ว แต่ข้ายังขาดวิญญาณระดับสอง อย่างไรก็ตามตอนนี้ข้าเหลือหินวิญญาณไม่มาก เพื่อยกระดับวิญญาณ ข้าต้องใช้หินวิญญาณจำนวนมาก'

ฟางหยวนคิดสิ่งเหล่านี้ในขณะที่ซื่อเช่อกล่าวออกมาอีกครั้ง "พบกลุ่มเจ้างูป่วยแล้ว"