ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 91 เป็นห่วงมาก (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 93 ฝูงหมาป่า (อ่านฟรี)

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 92 อนาคตในกำมือ (อ่านฟรี)


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 92 อนาคตในกำมือ 

แปลโดย iPAT 

"ฟางหยวน เรามาช่วยเจ้าแล้ว!" เจียวซานตะโกนเสียงดังขณะก้าวเท้าเข้าไปในห้อง

แต่เขากลับตกตะลึง เพราะเขาพบเพียงความว่างเปล่า

เงียบกริบ

"เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? เขาอยู่ที่ใด?" เจียวซานทำลายความเงียบด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิด

เขาแสดงละครฉากใหญ่อยู่หน้าห้องมานาน แต่ฟางหยวนกลับไม่เคยอยู่ที่นี่

อีกสามคนมองหน้ากันด้วยความงุนงงเมื่อพบสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด

"แปลกมาก ฟางหยวนไม่ได้อยู่ที่นี่ แล้วเหตุใดเขาต้องเขียนข้อความติดไว้หน้าประตู" กงจินกล่าวออกมาอย่างระมัดระวัง

"ไปหาเจ้าของบ้านเร็วเข้า!" เจียวซานแตะบานประตูกระเด็นออกไปอีกครั้ง

"พวกเจ้ากำลังมองหาข้างั้นหรือ? ฮืม ข้าพึ่งพาพวกเจ้าเข้ามาในบ้านของข้า แต่พวกเจ้ากลับสร้างความวุ่นวายกระทั่งทำลายบ้านของข้า เด็กน้อย เจ้าแน่ใจแล้วหรือว่านี่เป็นสิ่งที่ดี" ชายชราเจ้าของบ้านเช่าเดินเข้ามาและตำหนิด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

เจ้าของบ้านเช่าในหมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาลทุกคนล้วนเป็นผู้ใช้วิญญาณ มนุษย์ธรรมดาไม่สามารถครอบครองที่ดินในหมู่บ้านแห่งนี้

กล่าวอีกอย่าง ทรัพย์สินของตระกูลแสงจันทร์มีไว้สำหรับผู้ใช้วิญญาณของตระกูลเท่านั้น สำหรับมนุษย์ธรรมดาที่อาศัยอยู่ที่นี่ พวกเขาเป็นเพียงชาวนาหรือทาสรับใช้ของตระกูลทั้งสิ้น

"ผู้อาวุโส เรามาที่นี่เพื่อตามหาสมาชิกกลุ่มของเรา" เผชิญหน้ากับเจ้าของบ้าน เจียวซานต้องสะกดข่มอารมณ์ของตนเอง

ผู้ใช้วิญญาณชราเจ้าของบ้านเช่าอายุมากแล้ว เขาจึงไม่ให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจมากนัก แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับคนชั้นสูง แม้เขาจะเกษียณแล้ว ความสามารถของเขาก็ไม่สามารถดูแคลน

เจ้าของบ้านเช่าส่ายศีรษะ "ข้าไม่สนใจเรื่องของผู้เช่า แต่ข้ารู้ว่าพวกเจ้าทำลายทรัพย์สินของข้า ดังนั้นจงชดใช้มา"

"โอ้ นี่เป็นความผิดของเราจริงๆ ข้าจะชดใช้ให้ท่าน" เจียวซานหัวเราะขมขื่น แม้เขาจะโกรธแต่เขาก็ยังมอบหินวิญญาณให้กับชายชราเป็นค่าชดใช้และกระทั่งมอบให้เป็นพิเศษอีกด้วย

การแสดงออกของเจ้าของบ้านเช่าดูดีขึ้นเล็กน้อย "หากเด็กหนุ่มที่เช่าห้องนี้คือคนที่พวกเจ้ากำลังตามหา เขาไม่ได้กลับมาที่นี่อีกหลังจากชำระค่าเช่าและจับจ่ายสิ่งของเครื่องใช้มาเก็บไว้ที่นี่เมื่อวานนี้ เขายังถามข้าว่ามีที่ใดขายถ่านหินราคาถูก ข้าตอบเขาไปว่าไม่จำเป็นต้องซื้อ เพราะมันมีอยู่ที่หุบเขานอกหมู่บ้านทางทิศเหนือ เขาสามารถไปขุดมันมาจากที่นั่น เขาขอบคุณข้าก่อนจะจากไปและยังไม่กลับมาจนถึงเวลานี้"

"โอ้ เป็นเช่นนั้น" เจียวซานกวาดตามองสิ่งของที่อยู่ภายในห้อง

มีฟูกและชุดเครื่องนอนชิ้นใหม่ มีโต๊ะและเก้าอี้ที่ดูแข็งแรง

มีเตาไฟแต่ไม่มีถ่านหิน

เมื่อเห็นเช่นนี้เจียวซานจึงสามารถถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

"ดูเหมือนฟางหยวนจะไปขุดถ่านหิน เอาเป็นว่าพวกเราจะรอจนถึงพรุ่งนี้" หลังกล่าวจบคำ เขาก็เดินจากไปทันที

แต่ในวันที่สามฟางหยวนก็ยังไม่ปรากฏตัว

เจียวซานและสมาชิกคนอื่นๆยืนอยู่ในห้องด้วยความลังเล

"ขุดถ่านหินต้องใช้เวลานานถึงเพียงนี้งั้นหรือ? แม้ฟางหยวนจะต้องการถ่านหินจำนวนมากสำหรับการปิดประตูเพาะบ่ม แต่นี่ก็นานเกินไปแล้ว เกิดสิ่งใดขึ้นกับเขาหรือไม่?" กงจินกล่าว

เจียวซานพยักหน้าก่อนจะชี้ไปที่เตียง "เด็กผู้นี้จ่ายค่าเช่ารายเดือนและยังซื้อเครื่องเรือนมากมาย เขาติดป้ายประกาศหน้าห้องเพราะต้องการปิดประตูบ่มเพาะอยู่ที่นี่ น่าเสียดายที่เขาโชคไม่ดี หลายวันมานี้มีฝูงหมาป่าออกล่าเหยื่อรอบๆหมู่บ้าน บางทีเขาอาจพบพวกมัน"

"ท่านหัวหน้าช่างหลักแหลมนัก" สมาชิกหญิงสองคนเร่งประจบประแจง

เจียวซานเงยศีรษะหัวเราะเสียงดัง "ฮ่าฮ่าฮ่า เดิมทีข้ายังปวดหัวว่าจะจัดการกับเขาอย่างไร แม้พวกเราจะมีภารกิจล่ากวางป่าค้างอยู่ แต่มันไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน หากพวกเราพบเขาในป่า บางทีพวกเราอาจต้องช่วยเขา"

"ถูกต้อง ฮ่าฮ่าฮ่า" สมาชิกทั้งสามร่วมวงหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

วันที่สี่

คลื่นน้ำฟ้าเข้มประกายทองแดงพุ่งเข้าปะทะกำแพงคริสตัลอย่างไม่หยุดยั้ง

บนกำแพงคริสตัลเต็มไปด้วยรอยแตกร้าวที่เชื่อมต่อกัน

นี่คือผลลัพธ์ของการทำงานหนักตลอดสามวันสามคืนที่ผ่านมาของฟางหยวน

กระทั่งวันนี้เขาก็ยังโจมตีกำแพงคริสตัลอยู่อย่างไม่หยุดยั้ง หลังจากผ่านไปชั่วระยะเวลาหนึ่งทะเลวิญญาณของเขาก็ลดลงเหลือสิบสามส่วนก่อนจะถึงขีดจำกัดในที่สุด

ทันใดนั้น

“แค่ก!”

กำแพงคริสตัลเริ่มแตกเป็นชิ้นๆ และร่วงหล่นลงสู่ทะเลวิญญาณอย่างช้าๆ ชิ้นส่วนคริสตัลที่ตกลงมาทำให้เกิดระลอกคลื่นแผ่กระจายออกไปก่อนที่ชิ้นส่วนคริสตัลเหล่านั้นจะกลายเป็นจุดแสงสีขาวและเลือนหายไปในที่สุด

สิ่งที่เกิดขึ้นแทนที่กำแพงคริสตัลคือกำแพงแสงสีขาวว

มันเป็นกำแพงแสงสีขาวของผู้ใช้วิญญาณระดับสอง แม้มันจะดูไม่ต่างจากกำแพงแสงของผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่ง แต่มันยังส่องประกายสว่างไสวมากกว่า

ในเวลาเดียวกันทะเลวิญญาณของเขาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองแดง

นี่คือทะเลวิญญาณระดับสองขั้นต้น!

“ข้าก็ประสบความสำเร็จในที่สุด” ฟางหยวนเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างกะทันหัน

แต่ในจังหวะนี้อาการเวียนศีรษะกลับพุ่งเข้าโจมตีเขาอย่างรุนแรง

"ข้าบ่มเพาะมาตลอดสี่วันสามคืนโดยไม่หยุดพัก มันมากเกินไปสำหรับร่างกายของข้า" ฟางหยวนหัวเราะขมขื่น "แต่การบ่มเพาะของข้ากลับไม่ถูกรบกวนแม้แต่น้อย ดูเหมือนแผนการของข้าจะเป็นไปได้ด้วยดี"

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ความง่วงก็พุ่งเข้าโจมตีเขาอีกครั้ง

ฟางหยวนพยายามดึงผ้าห่มขึ้นมารัดพันร่างกายของตนเองก่อนจะหมดสติไปในที่สุด

เขานอนยาวไปถึงบ่ายวันที่สอง

ฟางหยวนเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้งและตระหนัว่าพลังวิญญาณของเขาฟื้นฟูขึ้นครึ่งหนึ่งแล้ว

เขาเปิดประตูและเดินออกไปจากห้องเป็นครั้งแรกในรอบห้าวัน

สิ่งนี้ดึงดูดความสนใจของบางคนทันที

คนผู้นี้มีดวงตาที่เรียวแหลมและร่างที่ผอมบาง เขาก็คือพี่ชายของเจียงหยา เจียงอี้

เห็นฟางหยวนเดินออกมา เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก "เจ้าออกมาในที่สุด! ข้าจะบุกเข้าไปหากเจ้ายังไม่ออกมาภายในไม่กี่วันนี้ หากเจ้าตกตายอยู่ที่นี่ คนที่ต้องรับผิดชอบก็คือข้า!"

ฟางหยวนหัวเราะแต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใด

แสงแดดในฤดูหนาวเล็ดลอดผ่านช่องหน้าต่างเข้ามาปะทะกับใบหน้าของเขาทำให้มันดูซีดขาวมากขึ้นไปอีก

ห้าวันก่อนเขาสอบถามเรื่องราวเกี่ยวกับถ่านหินกับเจ้าของบ้านเช่าเป็นเหตุให้เจียวซานเข้าใจไปในทิศทางนั้น แต่ในความเป็นจริงเขาออกจากหมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาลและเดินทางมายังหมู่บ้านเล็กๆที่ตีนเขา

เหตุการณ์ของนักล่าหวังทำให้เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจียงอี้และสามารถอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้เพื่อทะลวงเข้าสู่ระดับสอง

แน่นอนว่าถ้ำลับอาจลึกลับกว่าหมู่บ้านของเจียงอี้ แต่มันยังไม่ปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ ฟางหยวนพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่เจียวซานจะออกตามหาเขาอย่างไม่หยุดยั้งและอาจค้นพบถ้ำลับในที่สุด

แม้ความเป็นไปได้จะไม่สูงนัก แต่หากมรดกของนักบวชปีศาจสุราดอกไม้ถูกเปิดเผย ชีวิตของเขาจะตกอยู่ในอันตราย

ฟางหยวนเป็นคนรอบคอบและระมัดระวัง เขาไม่ต้องการเสี่ยงกับเรื่องนี้

นอกจากนั้นมันยังปลอดภัยกว่าหากอยู่ในสถานที่ของเจียงอี้ อย่างน้อยเจียงอี้ก็จะไม่ลอบสังหาร

ทั้งหมดก็คือมันมีความเสี่ยงและความยากลำบากมากเกินไปในการสังหารผู้ใช้วิญญาณ สิ่งสำคัญคือเจียงอี้ไม่มีแรงจูงใจมากพอที่จะทำเช่นนั้น ในความเป็นจริงเพื่อเก็บความลับ เขายังต้องดูแลความปลอดภัยของฟางหยวนเป็นอย่างดีอีกด้วย

หากฟางหยวนตาย ห้องโถงพิพากษาจะสืบสวนและอาจล่วงรู้ไปถึงความจริงเกี่ยวกับหวังต้าในที่สุด

เห็นฟางหยวนปลอดภัย เจียงอี้จึงสามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เป็นเพียงเวลานี้ที่เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่เปลี่ยนแปลงไปของฟางหยวน "โอ้ เจ้าประสบความสำเร็จและกลายเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสองเรียบร้อยแล้ว"

นี่ทำให้เขารู้สึกตกใจ ห้าวันก่อนหน้า ฟางหยวนเดินทางมาหาเขาและบอกความตั้งใจของตนเองอย่างชัดเจน

การดูดซับพลังงานจากหินวิญญาณอย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดพักเพื่อทะลวงเข้าสู่ระดับสองจำเป็นต้องใช้ความอดทนและยังต้องใช้ประสบการณ์

มันต้องอาศัยการคำนวณที่แม่นยำเพื่อให้เกิดความสอดคล้องระหว่างการใช้พลังวิญญาณทำลายกำแพงคริสตัลกับการดูดซับพลังงานจากหินวิญญาณอย่างเหมาะสมและยังต้องทำซ้ำกระบวนการนี้อย่างต่อเนื่อง

ในความคิดเห็นของเจียงอี้ ฟางหยวนไม่มีโอกาสประสบความสำเร็จ แต่โดยไม่คาดคิด เขากลับคว้ามันมาอยู่ในกำมือได้จริงๆ

ฟางหยวนหัวเราะอย่างไม่แยแส "ข้าเพียงโชคดี ข้าวางแผนที่จะกลับหมู่บ้านวันนี้ แต่ก่อนหน้านั้นข้าต้องกินอาหารมื้อใหญ่"

"ฮ่าฮ่าฮ่า น้องชายฟางหยวน ตั้งแต่เจ้าอยู่ที่นี่ ข้าย่อมต้องดูแลเรื่องอาหารการกินของเจ้า" เจียงอี้ยกมือตบหน้าอกของตนเองและแสดงออกด้วยความเป็นมิตรมากขึ้นกว่าก่อนหน้า

ฟางหยวนอาจดูไม่มีอนาคตมากนัก แต่เมื่อเขาบรรลุเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสอง มันหมายความว่าพวกเขามีสถานะเท่าเทียมกันแล้ว

หลังจากกินดื่มอาหารมื้อใหญ่ เจียงอี้ออกมาส่งฟางหยวน

"น้องชายฟางหยวน เจ้าต้องระวังตัวให้มาก ช่วงนี้ฝูงหมาป่ากำลังขยายอาณาเขต มันค่อนข้างอันตราย อา...หิมะตก!" เจียงอี้หยุดกล่วเมื่อเห็นหิมะเริ่มโปรยปรายลงมา "ในความคิดเห็นของข้า เจ้าควรพักอยู่ที่นี่อีกสักคืน"

อย่างไรก็ตามฟางหยวนยังยืนกรานที่จะจากไป เขากล่าวลาเจียงอี้ก่อนจะรีบเดินทางกลับหมู่บ้าน

เกล็ดหิมะโปรยปรายลงมาพร้อมกับแสงอาทิตย์ที่สาดส่อง

ฟางหยวนยืนอยู่ท่ามกลางหิมะและมองขึ้นไปบนยอดเขาอย่างเงียบๆ