เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 92 อนาคตในกำมือ (อ่านฟรี)
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 92 อนาคตในกำมือ
แปลโดย iPAT
"ฟางหยวน เรามาช่วยเจ้าแล้ว!" เจียวซานตะโกนเสียงดังขณะก้าวเท้าเข้าไปในห้อง
แต่เขากลับตกตะลึง เพราะเขาพบเพียงความว่างเปล่า
เงียบกริบ
"เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? เขาอยู่ที่ใด?" เจียวซานทำลายความเงียบด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิด
เขาแสดงละครฉากใหญ่อยู่หน้าห้องมานาน แต่ฟางหยวนกลับไม่เคยอยู่ที่นี่
อีกสามคนมองหน้ากันด้วยความงุนงงเมื่อพบสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
"แปลกมาก ฟางหยวนไม่ได้อยู่ที่นี่ แล้วเหตุใดเขาต้องเขียนข้อความติดไว้หน้าประตู" กงจินกล่าวออกมาอย่างระมัดระวัง
"ไปหาเจ้าของบ้านเร็วเข้า!" เจียวซานแตะบานประตูกระเด็นออกไปอีกครั้ง
"พวกเจ้ากำลังมองหาข้างั้นหรือ? ฮืม ข้าพึ่งพาพวกเจ้าเข้ามาในบ้านของข้า แต่พวกเจ้ากลับสร้างความวุ่นวายกระทั่งทำลายบ้านของข้า เด็กน้อย เจ้าแน่ใจแล้วหรือว่านี่เป็นสิ่งที่ดี" ชายชราเจ้าของบ้านเช่าเดินเข้ามาและตำหนิด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
เจ้าของบ้านเช่าในหมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาลทุกคนล้วนเป็นผู้ใช้วิญญาณ มนุษย์ธรรมดาไม่สามารถครอบครองที่ดินในหมู่บ้านแห่งนี้
กล่าวอีกอย่าง ทรัพย์สินของตระกูลแสงจันทร์มีไว้สำหรับผู้ใช้วิญญาณของตระกูลเท่านั้น สำหรับมนุษย์ธรรมดาที่อาศัยอยู่ที่นี่ พวกเขาเป็นเพียงชาวนาหรือทาสรับใช้ของตระกูลทั้งสิ้น
"ผู้อาวุโส เรามาที่นี่เพื่อตามหาสมาชิกกลุ่มของเรา" เผชิญหน้ากับเจ้าของบ้าน เจียวซานต้องสะกดข่มอารมณ์ของตนเอง
ผู้ใช้วิญญาณชราเจ้าของบ้านเช่าอายุมากแล้ว เขาจึงไม่ให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจมากนัก แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับคนชั้นสูง แม้เขาจะเกษียณแล้ว ความสามารถของเขาก็ไม่สามารถดูแคลน
เจ้าของบ้านเช่าส่ายศีรษะ "ข้าไม่สนใจเรื่องของผู้เช่า แต่ข้ารู้ว่าพวกเจ้าทำลายทรัพย์สินของข้า ดังนั้นจงชดใช้มา"
"โอ้ นี่เป็นความผิดของเราจริงๆ ข้าจะชดใช้ให้ท่าน" เจียวซานหัวเราะขมขื่น แม้เขาจะโกรธแต่เขาก็ยังมอบหินวิญญาณให้กับชายชราเป็นค่าชดใช้และกระทั่งมอบให้เป็นพิเศษอีกด้วย
การแสดงออกของเจ้าของบ้านเช่าดูดีขึ้นเล็กน้อย "หากเด็กหนุ่มที่เช่าห้องนี้คือคนที่พวกเจ้ากำลังตามหา เขาไม่ได้กลับมาที่นี่อีกหลังจากชำระค่าเช่าและจับจ่ายสิ่งของเครื่องใช้มาเก็บไว้ที่นี่เมื่อวานนี้ เขายังถามข้าว่ามีที่ใดขายถ่านหินราคาถูก ข้าตอบเขาไปว่าไม่จำเป็นต้องซื้อ เพราะมันมีอยู่ที่หุบเขานอกหมู่บ้านทางทิศเหนือ เขาสามารถไปขุดมันมาจากที่นั่น เขาขอบคุณข้าก่อนจะจากไปและยังไม่กลับมาจนถึงเวลานี้"
"โอ้ เป็นเช่นนั้น" เจียวซานกวาดตามองสิ่งของที่อยู่ภายในห้อง
มีฟูกและชุดเครื่องนอนชิ้นใหม่ มีโต๊ะและเก้าอี้ที่ดูแข็งแรง
มีเตาไฟแต่ไม่มีถ่านหิน
เมื่อเห็นเช่นนี้เจียวซานจึงสามารถถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
"ดูเหมือนฟางหยวนจะไปขุดถ่านหิน เอาเป็นว่าพวกเราจะรอจนถึงพรุ่งนี้" หลังกล่าวจบคำ เขาก็เดินจากไปทันที
แต่ในวันที่สามฟางหยวนก็ยังไม่ปรากฏตัว
เจียวซานและสมาชิกคนอื่นๆยืนอยู่ในห้องด้วยความลังเล
"ขุดถ่านหินต้องใช้เวลานานถึงเพียงนี้งั้นหรือ? แม้ฟางหยวนจะต้องการถ่านหินจำนวนมากสำหรับการปิดประตูเพาะบ่ม แต่นี่ก็นานเกินไปแล้ว เกิดสิ่งใดขึ้นกับเขาหรือไม่?" กงจินกล่าว
เจียวซานพยักหน้าก่อนจะชี้ไปที่เตียง "เด็กผู้นี้จ่ายค่าเช่ารายเดือนและยังซื้อเครื่องเรือนมากมาย เขาติดป้ายประกาศหน้าห้องเพราะต้องการปิดประตูบ่มเพาะอยู่ที่นี่ น่าเสียดายที่เขาโชคไม่ดี หลายวันมานี้มีฝูงหมาป่าออกล่าเหยื่อรอบๆหมู่บ้าน บางทีเขาอาจพบพวกมัน"
"ท่านหัวหน้าช่างหลักแหลมนัก" สมาชิกหญิงสองคนเร่งประจบประแจง
เจียวซานเงยศีรษะหัวเราะเสียงดัง "ฮ่าฮ่าฮ่า เดิมทีข้ายังปวดหัวว่าจะจัดการกับเขาอย่างไร แม้พวกเราจะมีภารกิจล่ากวางป่าค้างอยู่ แต่มันไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน หากพวกเราพบเขาในป่า บางทีพวกเราอาจต้องช่วยเขา"
"ถูกต้อง ฮ่าฮ่าฮ่า" สมาชิกทั้งสามร่วมวงหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
วันที่สี่
คลื่นน้ำฟ้าเข้มประกายทองแดงพุ่งเข้าปะทะกำแพงคริสตัลอย่างไม่หยุดยั้ง
บนกำแพงคริสตัลเต็มไปด้วยรอยแตกร้าวที่เชื่อมต่อกัน
นี่คือผลลัพธ์ของการทำงานหนักตลอดสามวันสามคืนที่ผ่านมาของฟางหยวน
กระทั่งวันนี้เขาก็ยังโจมตีกำแพงคริสตัลอยู่อย่างไม่หยุดยั้ง หลังจากผ่านไปชั่วระยะเวลาหนึ่งทะเลวิญญาณของเขาก็ลดลงเหลือสิบสามส่วนก่อนจะถึงขีดจำกัดในที่สุด
ทันใดนั้น
“แค่ก!”
กำแพงคริสตัลเริ่มแตกเป็นชิ้นๆ และร่วงหล่นลงสู่ทะเลวิญญาณอย่างช้าๆ ชิ้นส่วนคริสตัลที่ตกลงมาทำให้เกิดระลอกคลื่นแผ่กระจายออกไปก่อนที่ชิ้นส่วนคริสตัลเหล่านั้นจะกลายเป็นจุดแสงสีขาวและเลือนหายไปในที่สุด
สิ่งที่เกิดขึ้นแทนที่กำแพงคริสตัลคือกำแพงแสงสีขาวว
มันเป็นกำแพงแสงสีขาวของผู้ใช้วิญญาณระดับสอง แม้มันจะดูไม่ต่างจากกำแพงแสงของผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่ง แต่มันยังส่องประกายสว่างไสวมากกว่า
ในเวลาเดียวกันทะเลวิญญาณของเขาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองแดง
นี่คือทะเลวิญญาณระดับสองขั้นต้น!
“ข้าก็ประสบความสำเร็จในที่สุด” ฟางหยวนเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างกะทันหัน
แต่ในจังหวะนี้อาการเวียนศีรษะกลับพุ่งเข้าโจมตีเขาอย่างรุนแรง
"ข้าบ่มเพาะมาตลอดสี่วันสามคืนโดยไม่หยุดพัก มันมากเกินไปสำหรับร่างกายของข้า" ฟางหยวนหัวเราะขมขื่น "แต่การบ่มเพาะของข้ากลับไม่ถูกรบกวนแม้แต่น้อย ดูเหมือนแผนการของข้าจะเป็นไปได้ด้วยดี"
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ความง่วงก็พุ่งเข้าโจมตีเขาอีกครั้ง
ฟางหยวนพยายามดึงผ้าห่มขึ้นมารัดพันร่างกายของตนเองก่อนจะหมดสติไปในที่สุด
เขานอนยาวไปถึงบ่ายวันที่สอง
ฟางหยวนเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้งและตระหนัว่าพลังวิญญาณของเขาฟื้นฟูขึ้นครึ่งหนึ่งแล้ว
เขาเปิดประตูและเดินออกไปจากห้องเป็นครั้งแรกในรอบห้าวัน
สิ่งนี้ดึงดูดความสนใจของบางคนทันที
คนผู้นี้มีดวงตาที่เรียวแหลมและร่างที่ผอมบาง เขาก็คือพี่ชายของเจียงหยา เจียงอี้
เห็นฟางหยวนเดินออกมา เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก "เจ้าออกมาในที่สุด! ข้าจะบุกเข้าไปหากเจ้ายังไม่ออกมาภายในไม่กี่วันนี้ หากเจ้าตกตายอยู่ที่นี่ คนที่ต้องรับผิดชอบก็คือข้า!"
ฟางหยวนหัวเราะแต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใด
แสงแดดในฤดูหนาวเล็ดลอดผ่านช่องหน้าต่างเข้ามาปะทะกับใบหน้าของเขาทำให้มันดูซีดขาวมากขึ้นไปอีก
ห้าวันก่อนเขาสอบถามเรื่องราวเกี่ยวกับถ่านหินกับเจ้าของบ้านเช่าเป็นเหตุให้เจียวซานเข้าใจไปในทิศทางนั้น แต่ในความเป็นจริงเขาออกจากหมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาลและเดินทางมายังหมู่บ้านเล็กๆที่ตีนเขา
เหตุการณ์ของนักล่าหวังทำให้เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจียงอี้และสามารถอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้เพื่อทะลวงเข้าสู่ระดับสอง
แน่นอนว่าถ้ำลับอาจลึกลับกว่าหมู่บ้านของเจียงอี้ แต่มันยังไม่ปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ ฟางหยวนพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่เจียวซานจะออกตามหาเขาอย่างไม่หยุดยั้งและอาจค้นพบถ้ำลับในที่สุด
แม้ความเป็นไปได้จะไม่สูงนัก แต่หากมรดกของนักบวชปีศาจสุราดอกไม้ถูกเปิดเผย ชีวิตของเขาจะตกอยู่ในอันตราย
ฟางหยวนเป็นคนรอบคอบและระมัดระวัง เขาไม่ต้องการเสี่ยงกับเรื่องนี้
นอกจากนั้นมันยังปลอดภัยกว่าหากอยู่ในสถานที่ของเจียงอี้ อย่างน้อยเจียงอี้ก็จะไม่ลอบสังหาร
ทั้งหมดก็คือมันมีความเสี่ยงและความยากลำบากมากเกินไปในการสังหารผู้ใช้วิญญาณ สิ่งสำคัญคือเจียงอี้ไม่มีแรงจูงใจมากพอที่จะทำเช่นนั้น ในความเป็นจริงเพื่อเก็บความลับ เขายังต้องดูแลความปลอดภัยของฟางหยวนเป็นอย่างดีอีกด้วย
หากฟางหยวนตาย ห้องโถงพิพากษาจะสืบสวนและอาจล่วงรู้ไปถึงความจริงเกี่ยวกับหวังต้าในที่สุด
เห็นฟางหยวนปลอดภัย เจียงอี้จึงสามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เป็นเพียงเวลานี้ที่เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่เปลี่ยนแปลงไปของฟางหยวน "โอ้ เจ้าประสบความสำเร็จและกลายเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสองเรียบร้อยแล้ว"
นี่ทำให้เขารู้สึกตกใจ ห้าวันก่อนหน้า ฟางหยวนเดินทางมาหาเขาและบอกความตั้งใจของตนเองอย่างชัดเจน
การดูดซับพลังงานจากหินวิญญาณอย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดพักเพื่อทะลวงเข้าสู่ระดับสองจำเป็นต้องใช้ความอดทนและยังต้องใช้ประสบการณ์
มันต้องอาศัยการคำนวณที่แม่นยำเพื่อให้เกิดความสอดคล้องระหว่างการใช้พลังวิญญาณทำลายกำแพงคริสตัลกับการดูดซับพลังงานจากหินวิญญาณอย่างเหมาะสมและยังต้องทำซ้ำกระบวนการนี้อย่างต่อเนื่อง
ในความคิดเห็นของเจียงอี้ ฟางหยวนไม่มีโอกาสประสบความสำเร็จ แต่โดยไม่คาดคิด เขากลับคว้ามันมาอยู่ในกำมือได้จริงๆ
ฟางหยวนหัวเราะอย่างไม่แยแส "ข้าเพียงโชคดี ข้าวางแผนที่จะกลับหมู่บ้านวันนี้ แต่ก่อนหน้านั้นข้าต้องกินอาหารมื้อใหญ่"
"ฮ่าฮ่าฮ่า น้องชายฟางหยวน ตั้งแต่เจ้าอยู่ที่นี่ ข้าย่อมต้องดูแลเรื่องอาหารการกินของเจ้า" เจียงอี้ยกมือตบหน้าอกของตนเองและแสดงออกด้วยความเป็นมิตรมากขึ้นกว่าก่อนหน้า
ฟางหยวนอาจดูไม่มีอนาคตมากนัก แต่เมื่อเขาบรรลุเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสอง มันหมายความว่าพวกเขามีสถานะเท่าเทียมกันแล้ว
หลังจากกินดื่มอาหารมื้อใหญ่ เจียงอี้ออกมาส่งฟางหยวน
"น้องชายฟางหยวน เจ้าต้องระวังตัวให้มาก ช่วงนี้ฝูงหมาป่ากำลังขยายอาณาเขต มันค่อนข้างอันตราย อา...หิมะตก!" เจียงอี้หยุดกล่วเมื่อเห็นหิมะเริ่มโปรยปรายลงมา "ในความคิดเห็นของข้า เจ้าควรพักอยู่ที่นี่อีกสักคืน"
อย่างไรก็ตามฟางหยวนยังยืนกรานที่จะจากไป เขากล่าวลาเจียงอี้ก่อนจะรีบเดินทางกลับหมู่บ้าน
เกล็ดหิมะโปรยปรายลงมาพร้อมกับแสงอาทิตย์ที่สาดส่อง
ฟางหยวนยืนอยู่ท่ามกลางหิมะและมองขึ้นไปบนยอดเขาอย่างเงียบๆ