ตอนที่แล้วบทที่ 38 เรือนขิงหอม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 40 ช่วยเหลือ

บทที่ 39 แรกสัมผัสวิชาหลอมกลั่น


“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าจะต้องร่ำเรียนวิชาหลอมกลั่นโอสถกับข้า บททดสอบสำหรับเดือนนี้ง่ายดายยิ่ง เจ้าต้องหลอมกลั่นโอสถราชันธัญพืชจำนวนห้าเม็ด ไม่สำคัญว่าเม็ดยาจะมีคุณภาพสักเท่าใด จงส่งมอบให้แก่ข้าห้าเม็ดตอนสิ้นเดือนนี้” สือฟ่งหรงกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าเตรียมวัตถุดิบไว้ให้เจ้าสิบชุด หากไม่พอ เจ้าจะต้องซื้อเพิ่มเติมด้วยตัวเอง วิธีหลอมกลั่นโอสถราชันธัญพืชจงศึกษาเอาเอง เจ้าสามารถอ่านม้วนหยกทั้งหมดในห้องตำรา แต่ม้วนหยกที่อยู่เหนือระดับพลังบำเพ็ญเพียรของเจ้า เจ้าไม่สามารถมองเห็นได้ ทุกอย่างอยู่ในห้องทางฟากตะวันตก ต่อไปที่นั่นจะเป็นห้องหลอมกลั่นโอสถของเจ้าด้วย เอาละ เจ้าไปได้แล้ว”

กล่าวจบคำ นางก็หมุนตัวหายลับเข้าไปในห้องหลอมกลั่นโอสถของนาง ภายใต้เสียงดังคราหนึ่ง ห้องหลอมกลั่นโอสถก็ปิดสนิทมิดชิด

จั่วม่อเหม่อมองอย่างซึมเซา

...ร่ำเรียน? นี่...นี่เรียกว่าร่ำเรียนวิชาหลอมกลั่นโอสถกับซือฟู่ของมันหรือ?

มันเหลียวมองรอบ ๆ ... ว่างเปล่า ไม่มีผู้ใดแม้สักคน

จั่วม่อแสยะปาก ไฉนมันพบเจอแต่บุคคลเช่นนี้? ยามที่มันเรียนรู้บางสิ่งจากผูเยาก็เป็นเช่นนี้  ไม่เคยมีคำอธิบายใด ๆ และซือฟู่ผู้นี้ถึงกับวิเศษยิ่งกว่า ไม่เพียงโยนมันทิ้งไว้ทางด้านข้าง นางยังกำหนดด้วยว่ามันต้องทำอะไรมากเท่าใด

ครั้นเมื่อจั่วม่อเดินเข้าไปห้องตำรา มันได้แต่ยืนเบิ่งตามองอย่างโง่งม

นี่...เยี่ยงนี้จะหาตำรับโอสถได้อย่างไร?

ภายในห้องตำรานั้น เห็นม้วนหยกหลายร้อยม้วนลอยละล่องอยู่ทั่วห้อง แต่ละม้วนมีทั้งรูปทรงแตกต่าง ทั้งสีสันหลากหลาย พวกมันคล้ายเด็กทารกอันซุกซนฝูงหนึ่ง พากันล่องลอยไป ล่องลอยมา สนุกเฮฮาอยู่ในห้องตำรา ทุกม้วนมีวังวนพลังงานหลากสีสันล้อมรอบคล้ายโอบอุ้มไว้ วังวนพลังงานเหล่านี้เองที่บรรทุกม้วนหยกบินล่องไปมา

หลังจากขบคิดอยู่เป็นนาน “เม็ดยาราชันธัญพืช!” จั่วม่อตะโกนอย่างหมดหนทาง

เหล่าม้วนหยกล่องลอยอย่างเฉยเมย ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอันใด

วิธีการนี้ไม่ถูกต้อง! แต่ก็ไม่เห็นจะมีอะไรอื่นอยู่ในห้องตำรานี่นา จั่วม่อเกาศีรษะแรง ๆ ชักจะจนปัญญาเสียแล้ว

หรือว่า...บางทีมันอาจจำเป็นต้องใช้พลังแห่งจิตสำนึกกระมัง?

ลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง จั่วม่อยื่นมือออกไปพร้อมเคลื่อนพลังจิตสำนึก ครั้นเมื่อจิตสำนึกของมันแตะสัมผัสวังวนพลังงานรอบม้วนหยก ทันใดนั้นบางสิ่งบางอย่างพลันหลั่งไหลเข้ามาในใจ

“แผนภาพพลังงานสมุนไพรปราณ เขียนโดยตงหมิงซ่านเหริน*แห่งเขตปกครองผูกพันน้อย ประกอบด้วยแผนภาพพลังงานสมุนไพรปราณมากกว่าสี่ร้อยชนิด... ...”

(*ซ่านเหริน- ในที่นี้เป็นคำเรียกหาซิวเจ่อประเภทเซียนสัญจร หรือผู้ฝึกตนสายที่เชี่ยวชาญเบญจธาตุนั่นเอง)

จั่วม่อหัวใจโลดขึ้น จิตสำนึกของมันกระจายวาบ ระดมสัมผัสม้วนหยกทั้งหมดในคราวเดียว ข้อมูลในม้วนหยกแต่ละม้วนเผยแพร่อยู่ในใจ อย่างรวดเร็วมาก มันพบว่าในม้วนหยกม้วนหนึ่งบันทึกวิธีหลอมกลั่นโอสถราชันธัญพืชไว้ มีวิธีหลอมกลั่นขั้นพื้นฐานที่แตกต่างกันทั้งหมดสามตำรับโอสถ

เม็ดยาราชันธัญพืชเป็นเม็ดยาขั้นพื้นฐานที่สุด ประโยชน์ใช้งานธรรมดาสามัญยิ่ง คือใช้เพื่อเติมเต็มความหิว เมื่อรับประทานเข้าไปรับรองว่าจะไม่รู้สึกหิวอีกเป็นเวลานาน ถือว่าเป็นเม็ดยาที่มีประโยชน์มากชนิดหนึ่ง จิตสำนึกเปลี่ยนเป็นรวมตัวมุ่งเป้าไปยังม้วนหยกม้วนนั้น ม้วนหยกนั้นพลันพุ่งเข้ามาหาด้วยตัวมันเอง จั่วม่อคว้าม้วนหยก ประจุพลังปราณเข้าไป ตำรับโอสถสำหรับหลอมกลั่นเม็ดยาราชันธัญพืชก็แสดงขึ้นในใจมัน

และแล้วจั่วม่อผู้น่าสงสาร ก็ได้แต่เหม่อมองอย่างโง่งมอีกครั้ง!

“ใบจุนฝู หินเฉินหวง ไฟหลั่งไหล ไหลสามตั้งสามนอน พลังงานกระถางหลอมกลั่นจมลงสู่ก้นบึ้ง......”

แต่ละคำ แต่ละประโยค จั่วม่อคลับคล้ายรู้จัก คล้ายจะเข้าใจ แต่เมื่อรวมแต่ละคำแต่ละประโยคเข้าด้วยกัน มันประหนึ่งติดอยู่ในหมอกหนาทึบ มึนงงหลงทางอย่างสมบูรณ์

สงบใจไว้ มันต้องสงบใจไว้!

จั่วม่อพร่ำบอกกับหัวใจอันคลุ้มคลั่งของมันอย่างดุดัน

มันเคยวาดฝันตลอดมา เมื่อใดกลายเป็นศิษย์ฝ่ายใน ก็หมายความว่าวันคืนอันยากลำบากของมันได้สิ้นสุดลง และวันคืนอันดีงามกำลังจะมาถึง!

แต่ตอนนี้มันทราบกระจ่างว่ามันผิดแล้ว ผิดอย่างบัดซบที่สุด! ที่จริงมันเพียงแค่กระโดดขึ้นจากหลุมหนึ่ง ลงไปยังอีกหลุมหนึ่งที่ลึกยิ่งกว่า จั่วม่ออยากร่ำไห้เป็นกำลัง เพราะมันถึงกับกระโดดอย่างเต็มอกเต็มใจถึงเพียงนั้น ถึงกับทุ่มเททุกอย่างเพื่อกระโดดลงหลุมไปเอง!

มันเคยคิดว่าวันคืนที่ผ่านมายากลำบาก เพราะไม่มีผู้ใดคอยแนะนำสั่งสอน แต่เวลานี้มันเข้าเป็นศิษย์ฝ่ายใน มีท่านอาจารย์เป็นตัวเป็นตน แต่นี่มีอันใดแตกต่างไปจากเดิม?

หลังจากคร่ำครวญอยู่ครู่ใหญ่ อารมณ์ของจั่วม่อค่อยมั่นคงขึ้น

ในเมื่อซือฟู่ของมันละเลยมันอย่างสิ้นเชิง ความดื้อรั้นในสายเลือดก็พลุ่งพล่านขึ้นอีกครั้ง จะเป็นไร? นี่ไม่ใช่แค่เม็ดยาราชันธัญพืชหรอกหรือ? ไม่ใช่แค่การหลอมกลั่นโอสถเท่านั้นเองหรือ? ก็แค่ไม่มีผู้ใดสนใจสอนสั่งมันเท่านั้นเองไม่ใช่หรือ?

เมื่อใดที่มันเคยต้องพะวงกับเรื่องเช่นนี้?

จั่วม่อใช้เวลาครึ่งวันอย่างคุ้มค่า ทุ่มเทความพยายามไล่สัมผัสม้วนหยกในห้องตำราไปทีละม้วน ตรวจดูอย่างละเอียดรอบคอบ จำนวนรวมทั้งสิ้นห้าร้อยสิบเจ็ดม้วน ในทั้งหมดนี้ มันสามารถมองเห็นเนื้อหารายละเอียดภายในได้เพียงยี่สิบเอ็ดม้วน

ม้วนหยกยี่สิบเอ็ดม้วนนั้น เวลานี้ล้วนถูกดึงเข้ามาลอยอยู่เบื้องหน้ามัน

[บทเม็ดยาเพลิงเมฆา] ไม่ใช่สิ่งที่มันต้องการ โยนไปทางหนึ่ง

[บทเม็ดยาน้ำแข็งคราม] ไม่ใช่! โยนไปอีกทาง

[บทเม็ดยาสร้างละออง] โยนทิ้ง

……

จนกระทั่งมันพบ[พื้นฐานการหลอมกลั่นโอสถ] จั่วม่อจิตใจพลุ่งพล่าน รีบคว้าม้วนหยกไว้ในมือ นี่คือสิ่งที่มันต้องการอย่างแท้จริง

ก้มหน้าก้มตาอ่านพื้นฐานการหลอมกลั่นโอสถอย่างตะกรุมตะกรามราวกับกำลังหิวโหย ในไม่ช้าก็กลายเป็นปิติยินดีอย่างรวดเร็ว เนื้อหาภายในม้วนหยกแปลกใหม่มากสำหรับมัน ราวกับเป็นโลกใหม่อีกใบหนึ่งรอคอยให้มันสำรวจ ไม่มีเนื้อหาอันซับซ้อนอยู่ภายในพื้นฐานการหลอมกลั่นโอสถ ทุกประโยคทุกย่อหน้าอธิบายปัจจัยพื้นฐานเกี่ยวกับการหลอมกลั่นโอสถ อย่างเช่นการจับคู่สมุนไพร วิธีใช้กระถางหลอมกลั่น หรือวิธีควบคุมไฟ เป็นต้น

ครั้นเมื่อจั่วม่อเงยหน้าขึ้นจากม้วนหยก พบว่าท้องฟ้าถูกม่านรัตติกาลคลี่คลุมลงมา มันถึงกับจมอยู่ในห้องตำราเป็นเวลาหลายชั่วยามโดยไม่รู้ตัว

ถอนหายใจยาวเยือก จั่วม่อลุกขึ้นเหยียดแข้งเหยียดขา บิดคอยืดเส้นยืดสาย ดวงตายังคงมึนซึมอยู่บ้าง ความคิดของมันวนเวียนอยู่กับพื้นฐานการหลอมกลั่นโอสถ สิ่งนี้ไม่ใช่ม้วนหยกระดับสูงนัก แต่รายละเอียดของเนื้อหาก็ไม่ใช่สิ่งที่สามารถซื้อหาตามท้องตลาดทั่วไป ด้วยประสบการณ์ในการเป็นศิษย์ฝ่ายนอกของมัน จั่วม่อเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงคุณค่าของโอกาสอันดีงามนี้

เรื่องที่ว่าซือฟู่จะสั่งสอนมันหรือไม่นั้น ถูกโยนทิ้งไปด้านหลังอย่างไม่แยแส ไม่สลักสำคัญอะไรอีกแล้ว มันราวกับได้ค้นพบขุมสมบัติมหาศาล เริ่มตั้งหน้าตั้งตาอ่านบันทึกในม้วนตำราหยกอีกครั้ง

หลายวันถัดมา มันยังคงใช้เวลาดื่มด่ำไปกับวิชาความรู้ในห้องตำรา ม้วนหยกที่มันสามารถอ่านได้ มันไม่ยอมพลาดแม้แต่ม้วนเดียว วิชาความรู้เหล่านี้อาจใช้ประโยชน์ได้ในอนาคต เพียงอดทนมานะบากบั่นบ้างเล็กน้อยในเวลานี้ ต่อไปภายภาคหน้ามันก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอีก หากสามารถแปลงวิชาความรู้ในม้วนหยกเหล่านี้เป็นจิงสือได้ มันจะมีจิงสือมากพอให้ซื้อจั่วม่อถึงสิบคนทีเดียว

หากวันหนึ่งมันยากจนข้นแค้นขึ้นมา ก็สามารถขายเนื้อหาเหล่านี้เพื่อหาจิงสือได้

ภายในห้องตำรา จั่วม่อหัวร่อฮิฮะอยู่ในใจ

หลังจากท่องจำม้วนตำราหยกจนรู้สึกหน้ามืดวิงเวียน จั่วม่อในที่สุดจดจำเนื้อหาทั้งหมดภายในม้วนหยกยี่สิบเอ็ดม้วนจนครบถ้วน ตอนนี้มันนึกขึ้นได้ว่าห้องหลอมกลั่นโอสถที่อยู่ทางปีกขวา ซือฟู่ได้ยกให้มันใช้งาน มันรีบวิ่งอย่างตื่นเต้นไปยังห้องปีกขวา

สิ่งที่สะดุดตาที่สุดในห้องนั้น คือกระถางหลอมกลั่นโอสถทองแดงที่วางอยู่ตรงกลางห้อง สูงเกือบสองช่วงตัวคน ขาทั้งสามขายื่นออกมาจากส่วนท้อง เสื่อจำนวนหนึ่งวางไว้รอบ ๆ กระถาง ข้างผนังจัดวางโต๊ะสองสามตัว มีหลายสิ่งวางกองอยู่บนโต๊ะ วัตถุดิบสิบชุดที่ซือฟู่จัดเตรียมไว้ให้ก็รวมอยู่ในนั้นด้วย

จั่วม่อเดินวนรอบกระถางหลอมโอสถ พึมพำเบา ๆ “ตระหนี่กระไรปานนี้”

อย่าได้เห็นเพียงแค่ขนาดอันใหญ่โตมโหฬารของเจ้าสิ่งนี้ แต่ที่จริงมันเป็นเพียงกระถางหลอมกลั่นโอสถระดับที่หนึ่ง ส่วนสำคัญที่สุดของกระถางคือค่ายกลยันต์เวทไฟหลี* ซึ่งจะให้กำเนิดไฟหลีออกมา ด้านข้างตัวกระถางเป็นแผ่นจานหยินหยางแปดทิศ เมื่อประจุพลังปราณผ่านลงไปในแผ่นจาน จะสามารถควบคุมค่ายกลยันต์เวทไฟหลีชุดนี้ได้

(*หลี – เป็นตำแหน่งไฟในแผนภูมิแปดของจีนโบราณ ในที่นี้ไฟหลีเป็นไฟประเภทหนึ่ง อาจจะดีกว่าไฟธรรมดา แต่ก็ไม่ใช่ระดับสูงนัก)

การควบคุมไฟเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดในการหลอมกลั่นโอสถ ยกตัวอย่างเช่น ไฟหลั่งไหลสามตั้งสามนอน สามตั้งสามนอนหมายถึงควบคุมไฟให้ไหลเวียนเป็นแนวตั้งสามแถว แนวนอนอีกสามแถว ไฟหลั่งไหลเป็นรูปแบบไฟพิเศษชนิดหนึ่ง เปลวเพลิงหลักของมันจะม้วนไปตามช่องทางเฉพาะที่อยู่ใต้กระถาง

จั่วม่อทาบมือลงบนแผ่นจานแปดทิศ ประจุพลังปราณเข้าไป อย่างที่คาดไว้ กลุ่มก้อนเปลวไฟลุกวาบขึ้นที่ใต้ท้องกระถางหลอมกลั่นโอสถ

ตามวิธีการที่บันทึกไว้ในพื้นฐานการหลอมกลั่นโอสถ จั่วม่อควบคุมค่ายกลยันต์เวทไฟหลีอย่างระมัดระวัง ค่ายกลยันต์เวทไฟหลีในกระถางหลอมกลั่นระดับหนึ่งไม่ใช่สิ่งที่จะมีประสิทธิภาพสูงนัก มีลักษณะการเปลี่ยนแปลงเพียงหกแปลงเท่านั้น จั่วม่อทำความคุ้นเคยกับกระบวนการนี้อย่างรวดเร็ว

ขณะที่มันเล่นกับเปลวเพลิง จั่วม่อพลันรู้สึกขึ้นมาอย่างกะทันหัน ว่าความรู้สึกในการควบคุมไฟนั้น ช่างคล้ายคลึงกับตอนที่มันใช้เคล็ดอัคคีสีชาดอย่างยิ่ง

ห้าเวทวิชาพื้นฐานของเกษตรกรปราณ ทั้งรวมอยู่ในเบญจธาตุ และสังกัดหยินหยาง แนวคิดของเกษตรกรปราณเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลก แม้สามารถแบ่งเป็นหยินหรือหยาง แต่ยังคงเป็นส่วนประกอบของธาตุทั้งห้าด้วย

เคล็ดอัคคีสีชาดเป็นธาตุไฟในห้าเวทวิชาพื้นฐาน หากกล่าวจากมุมมองด้านนี้ ทั้งสองมีบางอย่างที่เหมือนกันและเชื่อมโยงกัน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเบญจธาตุและหยินหยางเคยเป็นวิถีทางซึ่งเป็นที่นิยม แต่ด้วยการรุ่งเรืองขึ้นของซิวเจ่อประเภทเซียนกระบี่ พวกมันก็ค่อย ๆ กลายเป็นระบบที่แยกต่างหากออกไป และผู้ฝึกปรือวิถีทางสายนี้ ส่วนใหญ่ยังเป็นซิวเจ่อประเภทเซียนสัญจร

ไม่ว่านักหลอมกลั่นโอสถจะมีความคล้ายคลึงกับเกษตรกรปราณหรือไม่ จั่วม่อไม่อาจบอกได้ชัดเจน

แต่ในเมื่อเจตจำนงกระบี่สามารถผสานรวมเข้ากับเคล็ดทองคำคร่ำคร่า มันจะไม่แปลกใจอันใด หากจะมีความเกี่ยวพันกันระหว่างการควบคุมเปลวไฟกับเคล็ดอัคคีสีชาด

น่าเสียดายที่เคล็ดอัคคีสีชาดที่มันซื้อหามานั้น เนื้อหาหยาบกระด้างคลุมเครือมากเกินไป สามารถฝึกปรือจนเข้าถึงขั้นที่สามได้สำเร็จ ถือว่าถึงขีดสุดของม้วนหยกนั้นแล้ว ไม่มีคำแนะนำอันใดเพิ่มเติม สิ่งที่มันเข้าใจได้มีเพียงแค่สามระดับแรกเท่านั้น

จั่วม่อหลับตาลง สองมือกางแผ่อยู่บนแผ่นจานแปดทิศด้านข้างตัวกระถาง พยายามทำความเข้าใจกับรายละเอียดปลีกย่อยของค่ายกลยันต์เวทไฟหลีอย่างถี่ถ้วน

หลังจากทดลองอยู่นาน จั่วม่อไม่ได้มีการพัฒนาใหม่ ๆ อันใด มันเพียงรู้สึกว่าทั้งสองอย่างนี้สมควรหลอมรวมเข้าด้วยกันได้ แต่ไม่ว่าจะลองเปลี่ยนแปลงอย่างไร ก็ยังไม่บังเกิดปฏิกิริยาขึ้น เมื่อมองไม่เห็นทางออก มันได้แต่โยนเรื่องนี้ไว้ทางด้านข้างชั่วคราว ในด้านการหลอมกลั่นโอสถ มันเป็นเพียงคนใหม่ที่ไม่สามารถใหม่ไปกว่านี้ได้อีก จะกล่าวถึงการพัฒนาประดิษฐ์คิดค้น นับว่ายังเร็วเกินไปมาก

ยามนี้มันสมควรหลอมกลั่นโอสถราชันธัญพืชอย่างเชื่อฟัง มิเช่นนั้นหากเดือนนี้หมดเวลาลง มันไม่สามารถส่งมอบเม็ดยาห้าเม็ดออกไป ไม่ทราบว่าซือฟู่หน้าเย็นชาจะลงโทษมันอย่างไร

วิธีการหลอมกลั่นเม็ดยาราชันธัญพืชมันย่อมจดจำได้ขึ้นใจ แต่สิ่งที่ยังขาดไปคือประสบการณ์จริง

มีวัตถุดิบสิบชุดกองสุมอยู่บนโต๊ะ พวกมันได้รับการดูแลจัดเตรียมมาเป็นอย่างดี หนึ่งในภาระงานของเหล่าศิษย์สตรีในเรือนขิงหอม คือการดูแลจัดเตรียมส่วนประกอบของโอสถทุกชนิดในขั้นตอนง่าย ๆ เม็ดยาราชันธัญพืชเป็นเม็ดยาขั้นพื้นฐานที่สุด และเป็นธรรมดาที่ไม่ได้มีการจัดเตรียมที่ซับซ้อนมากนัก

จั่วม่อค่อย ๆ ใส่วัตถุดิบแต่ละประเภทตามสัดส่วน ลงไปในกระถางหลอมกลั่นอย่างพิถีพิถัน นั่งเผชิญหน้ากับกระถางหลอมกลั่นโอสถ มันปรับสภาพจิตใจ ทาบสองมือลงบนแผ่นจานแปดทิศ ประจุพลังปราณเข้าไปไม่ขาดสาย

แสงสีแดงอ่อนเรืองรองออกมาจากใต้กระถาง จั่วม่อบังคับใช้พลังปราณอย่างระมัดระวังระคนกระวนกระวาย

หนึ่งชั่วยามผ่านไปอย่างเชื่องช้า จั่วม่อเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ เกาะซึมบนหน้าผาก

มันรู้สึกว่าการควบคุมไฟกลายเป็นยากเย็นแสนเข็ญขึ้นเรื่อย ๆ การเติมพลังปราณเข้าไปในปริมาณสม่ำเสมออย่างต่อเนื่องยาวนาน เป็นเรื่องลำบากตรากตรำอย่างคาดไม่ถึง บัดซบ! ผ่านไปแล้วหนึ่งชั่วยามเต็ม ๆ แต่ส่วนผสมในกระถางดูเหมือนเพิ่งจะเริ่มหลอมรวมเข้าด้วยกัน ด้วยระดับความคืบหน้าเช่นนี้ หากต้องใช้เวลาอีกหลายชั่วยาม เกรงว่าคงไม่มีความหวังแล้ว

คำนึงถึงว่าต้องคงสภาพระดับพลังปราณไว้ยาวนานหลายชั่วยาม จั่วม่อรู้สึกว่าเป็นปัญหาใหญ่อยู่ไม่น้อย

หลังจากผ่านไปอีกหนึ่งชั่วยาม เหงื่อเย็นไหลท่วมลงไปตามแผ่นหลังมัน

ในที่สุดพลังปราณของมันแปรปรวน กลายเป็นไม่มั่นคง เกิดช่องโหว่ขึ้นมาวูบหนึ่ง

บึ้ม!

กลุ่มควันดำฟุ้งกระจายออกมาจากกระถางหลอมกลั่น กลิ่นเหม็นไหม้ตลบอบอวลไปทั่วห้อง

ฮู่ว ฮู่ว ฮู่ว ไม่มีกระทั่งเวลาจะโมโห จั่วม่อรั้งพลังปราณกลับคืนสู่ร่าง กระแทกนั่งลงบนพื้น หอบหายใจอย่างหนักหน่วง ทั้งร่างชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ ด้านหนึ่งเป็นความเหนื่อยล้าจากการปลดปล่อยพลังปราณออกมาอย่างยาวนาน ส่วนอีกด้านหนึ่ง เป็นเพราะมันอยู่ใกล้กับกระถางหลอมกลั่นมากเกินไป เปลวเพลิงในกระถางปรุงกลั่นตัวมันราวกับต้มกุ้งสักตัวหนึ่ง ผิวหนังร้อนเห่อแดงก่ำไปทั้งตัว

จั่วม่อไม่ได้เริ่มหลอมกลั่นโอสถต่อในทันที มันกระเสือกกระสนลุกขึ้นยืน ปีนขึ้นไปพังพาบบนหลังห่านจะงอยเทา พาร่างกลับไปยังหุบเขาลมตะวันตก โชคดีที่มันเป็นศิษย์ฝ่ายใน และสามารถขี่พาหนะบินในเขตภูเขาได้ แต่จังหวะนี้มันไม่ได้คำนึงถึงเรื่องยิบย่อยเช่นนี้อีก นอนแผ่หลาอยู่บนหลังห่านจะงอยเทา มันรู้สึกเพียงเหนื่อยล้าสิ้นเรี่ยวแรงถึงที่สุด กระทั่งนิ้วสักนิ้วยังไม่อยากจะยกขึ้น

จั่วม่อไม่เคยรู้สึกอ่อนเปลี้ยจากส่วนลึกของร่างกายถึงเพียงนี้มาก่อน การดิ้นรนรวบรวมกำลังทั้งหมดในร่างกายและใช้มันหลอมกลั่นโอสถ ไม่ผิดอันใดกับการปั่นใยไหมออกจากรังไหม ทีละเล็กทีละน้อย ทีละเส้นทีละสาย จนกระทั่งรีดเค้นเส้นใยปราณสายสุดท้ายออกจากร่างกายไปจนเกลี้ยงฉาด ถึงแม้ว่าพลังปราณของมันในตอนนี้จะไม่อ่อนแอ แต่เมื่อต้องเผชิญกับการปลดปล่อยพลังปราณออกไปอย่างหฤโหดเช่นนี้ มันย่อมทนทานรับไม่ไหว อีกประการหนึ่ง ระหว่างกระบวนการหลอมกลั่น หากเกิดเผลอไผลไปเพียงชั่ววูบ ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านั้นจะสูญเปล่าไปในทันที

จั่วม่อทอดถอนอย่างเศร้าโศก ในมุมมองของมัน --- อย่างที่คาดไว้ หากมีวิธีการใดที่สามารถทำกำไรจิงสือจำนวนมาก ก็ไม่มีวิธีใดในนั้นที่เรียบง่ายธรรมดาเลย

จิงสือนั้นหายาก ต้องลำบากลำบนไป!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด