ตอนที่แล้วReincarnation Of The Strongest Sword God ตอนที่ 19 – แส้แห่งความชั่วร้าย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReincarnation Of The Strongest Sword God ตอนที่ 21 – เสือหมอบมังกรซ่อน

Reincarnation Of The Strongest Sword God ตอนที่ 20 – คำสาปของดาบอเวจี


Chapter 20 – คำสาปของดาบอเวจี

 

ซือเฟิงรู้สึกประหลาดใจเมื่อมาสเตอร์แจ็คหยุดเขา

 

“หนุ่มน้อย นายยินดีที่จะให้ฉันดูดาบนี้ไหม?”มาสเตอร์แจ็คมองไปที่ซือเฟิงด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า เสียงของเขาไม่ได้เฉยเมยอีกต่อไปแต่แทนที่ด้วยการกระซิบเล็กน้อย

 

“นี่....” ซือเฟิงได้ขาดทุนกับคำร้องขอริเริ่มที่กะทันหันของมาสเตอร์แจ็ค

 

อย่างไรก็ตาม มันดูเหมือนว่าตามเหตุผลหลังจากที่ซือเฟิงได้ให้ความคิดบางอย่าง

 

ความมีค่าของอาวุธเวทมนตร์นั้นไม่ต้องพูดถึงดาบที่มีชื่อเสียงที่ถูกตีขึ้นโดยเจ้าแห่งช่างเหล็ก โดยไม่ต้องบอกดาบที่มีชื่อเสียงคือการแสวงหาตลอดชีวิตของเจ้าแห่งการตีขึ้นรูปทุกคน พวกเขาต้องการประสบการณ์หลังที่เห็นมันอย่างแน่นอน

 

เห็นซือเฟิงลังเล มาสเตอร์แจ็ครีบพูด “นายสามารถสบายใจได้ ฉันแค่อยากจะดูมันเท่านั้นและฉันจะไม่ปล่อยให้มันเป็นอะไร ถ้านายมีขอใดๆ พูดมันออกมาได้เลย”

 

เมื่อซือเฟิงได้ยินประโยคนี้ เขากลายเป็นตื่นเต้นอย่างมาก

 

นี่คือเจ้าแห่งการตีขึ้นรูป!

 

เพียงแค่การตีขึ้นรูป เขาสามารถสร้างชิ้นส่วนอุปกรณ์ระดับเหล็กลี้ลับ , แม้กระทั่งเงินเร้นลับได้ คำขอร้องของเขาก็แค่การได้ดูดาบของซือเฟิง ซือเฟิงได้ตกลงโดยไม่ลังเล เขาได้ส่งดาบอเวจีไปยังมาสเตอร์แจ็ค

 

NPCs ไม่สามารถขโมยไอเทมจากผู้เล่นได้ ดังเขาจึงไม่ได้กังวลเลยว่ามาสเตอร์แจ็คจะทำอะไรดาบอเวจีบ้าง เขาอนุญาตให้มาสเตอร์มองดูมันอย่างไรก็ได้ตามที่เขาต้องการ หลังจากนั้นซือเฟิงจะร้องขอดาบมือเดียวระดับเงินเร้นลับ จากนั้นเขาจะสามารถแสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของนักดาบได้

 

มาสเตอร์แจ็คถือดาบอเวจีที่ดูเหมือนเหล็กเกี่ยวประตู ทั้งยังยกยอความละเอียดลออของดาบและแปลกใจกับความแข็งแกร่งของมัน หลังจากมองไปที่มันมากกว่าสิบนาที มาสเตอร์แจ็คคืนดาบอเวจีให้ซือเฟิงอย่างไม่เต็มใจ

 

“หนุ่มน้อย นี่คือดาบที่ดีและทรงพลังอย่างเหลือหลาย อย่างไรก็ตามคำสาปของดาบเล่มนี้นั้นชั่วร้ายอย่างมาก ยิ่งนายปลดปล่อยพลังของดาบนี้มากเท่าไหร่ ความแข็งแกร่งของคำสาปก็จะมากขึ้นตาม ในท้ายที่สุด ผู้ถือครองของมันจะถูกขังอยู่ในนรกที่ไม่มีที่สิ้นสุด มันจะเป็นเรื่องยากมากเกินไปถ้านายต้องการที่ควบคุมดาบนี้ด้วยความแข็งแกร่งของนายและคำสาปจะกลืนกินนายอย่างง่ายดาย” มาสเตอร์แจ็คเตือนสติอย่างจริงจัง

 

ซือเฟิงรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ดี มิฉะนั้นเขาจะไม่ลังเลใจเป็นเวลานานก่อนจะผูกมัดดาบอเวจี

 

“มาสเตอร์แจ็ค คุณอาจจะมีวิธีในการทำให้คำสาปอ่อนแอลง?” ซือเฟิงถาม

 

แม้ว่าเขาจะรู้วิธีการทำให้อ่อนลงบางอย่าง แต่เขาไม่มีคุณสมบัติพอที่จะดำเนินการมันได้ในตอนนี้

 

“หนุ่มน้อย นายควรรู้ไว้เจ้าแห่งช่างตีเหล็กโอลีซิสตีดาบนี้ที่มีเพียงแค่หนึ่งเดียวใน God's Domain เท่านั้นและมีเพียงแค่หนึ่งในดาบที่ชื่อเสียงอีกสามสิบห้าเล่มเท่านั้นจะสามารถจับคู่กับมันได้ มีหลายการดำรงอยู่ที่น่ากลัวอย่างเหลือล้น มีคนที่ถูกฆ่าตามคำสั่งเพื่อดาบที่มีชื่อเสียงเหล่านี้เพื่อครอบครองพลังที่ไร้ผู้ต้าน หลังจากตายการดำรงอยู่เหล่านี้ได้ถูกผนึกภายในดาบแต่ละเล่มโดยเจ้าแห่งช่างตีเหล็ก มันเป็นไปไม่ได้ที่จะปราบปรามดาบเหล่านั้นโดยปราศจากพลังที่ยิ่งใหญ่อย่างมาก” โทนเสียงของมาสเตอร์แจ็คเต็มไปด้วยความเคารพนับถือที่หาตัวจับยาก แต่เขาก็ยิ้มทันทีและพูดว่า “อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางในการทำให้คำสาปอ่อนลง”

 

“ผมขอถามได้ไหนว่าวิธีการแบบไหนกันกัน?” ซือเฟิงรีบถาม

 

“ถ้านายต้องการที่จะปราบปรามพลังอันยิ่งใหญ่ นายต้องมีพลังที่ยิ่งใหญ่ทัดเทียมกัน พลังที่ถูกปิดผนึกอยู่ในดาบก็คือคำสาป ถ้านายต้องการจะทำให้มันอ่อนแอลง นายจำเป็นต้องมีโชคที่ยิ่งใหญ่พอสมควร” มาสเตอร์แจ็คเสียใจ “ในทวีปของ God's Domain ได้มีก้อนหินบางก้อนที่รวบรวมโชคของ God's Domain เอาไว้ ก้อนหินพวกนั้นชื่อว่าหินแห่งโชค ตราบเท่าที่นายมีหินแห่งโชค นายจะสามารถคานอำนาจกับคำสาปได้ ถึงแม้ว่าหินก้อนนี้สามารถพบได้ทั่วทั้งทวีป แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับแม้ แม้กระทั่งฉันก็ยังไม่เคยได้เห็นมันมาก่อน พยายามหามันสักก้อนเป็นเรื่องที่ยากอย่างแท้จริง ถ้านายสามารถหาหินก้อนนี้ได้ จากนั้นฉันก็จะสามารถช่วยทำให้คำสาปบนดาบนายอ่อนแอลงได้”

 

เห็นการแสดงออกที่เงียบเหงาของซือเฟิง มาสเตอร์แจ็คส่ายหัวของเขาด้วยการปลอบโยนเขาพูดว่า “หนุ่มน้อย นายต้องรู้ว่าหินแห่งโชคนั้นหายากอย่างมาก นายไม่ควรที่จะรู้สึกหมดกำลังใจ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่สามารถหามันสักก้อนได้ มีเพียงเหล่าผู้คนที่ได้รับพรจากพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถได้รับหินแห่งโชคและพวกเขาเป็นคนที่พวกเราไม่สามารถเปรียบเทียบด้วยได้”

 

“มาสเตอร์แจ็ค มันคือหินก้อนนี้รึเปล่า?” ซือเฟิงยิ้มเล็กน้อยขณะที่เขาหยิบเอาคริสตัลดาราสีเขียวเข้มออกมา

 

“ใช่นี่แหละหินแห่งโชค....” มาสเตอร์แจ็คพยักหน้าหลังจากที่เห็นคริสตัลดาราสีเขียวเข้ม อย่างไรก็ตามเขาก็ตกตะลึงในเวลาต่อมา เขามองไปยังซือเฟิงราวกับว่าเขากำลังมองมอนสเตอร์

 

ซือเฟิงยักไหลของเขา แสดงให้เห็นว่าไม่มีอะไร

 

ซือเฟิงเคยเอื่อยเฉื่อยมาก่อนหน้านี้เพราะเขาพบว่ามาสเตอร์แจ็คสามารถใช้หินแห่งโชคเพื่อยับยั้งดาบอเวจีได้ ควรจะรู้ว่าเจ้าแห่งการตีขึ้นรูปมีไม่มากในราชอาณาจักรสตาร์มูน อย่างไรก็ตามจำนวนของเจ้าแห่งการตีขึ้นรูปที่สามารถใช้หินแห่งโชคเพื่อยับยั้งคำสาปของอาวุธเวทมนตร์นั้นนับได้ด้วยมือเดียว ซือเฟิงไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ามาสเตอร์แจ็คด้านหน้าเขาจะเป็นหนึ่งในนั้น

 

“มาสเตอร์แจ็ค คุณสามารถทำให้คำสาปอ่อนแอลงตอนนี้เลยได้ไหม?” ซือเฟิงถามด้วยความมุ่งหวัง

 

หลังจากนั้นชั่วครู่ สุดท้ายมาสเตอร์แจ็คก็ฟื้นคืนความสงบก่อนหน้านี้มาได้ แกล้งทำเป็นไม่แยแส เขาพูดว่า “โอเค ไม่มีปัญหา ฉันจะสามารถทำมันเสร็จภายในครึ่งชั่วโมง”

 

ด้านข้างแบล็คกี้กุมไปยังท้องของเขาขณะที่เขาพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อที่จะไม่หัวเราะ อย่างไรก็ตาม การแสดงออกที่ไม่รู้สึกตัวของมาสเตอร์แจ็คเป็นเรื่องที่มากเกินจริงๆสำหรับแบล็คกี้ เขาอยากจะหนีไปในป่าก่อนที่จะหัวเราะเสียงดังลั่น

 

 

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ซือเฟิงได้รับดาบอเวจี เขาค้นพบว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไปในคำแนะนำของดาบอเวจี

 

ดาบอเวจีถูกสร้างขึ้นโดยเจ้าแห่งช่างตีเหล็กโอลีซีส ใช้เขี้ยวของราชาดังมังกรดำเป็นวัสดุ มันเป็นหนึ่งใน 36 ดาบที่มีชื่อเสียงและมันเป็นอันดับที่ 31 อย่างไรก็ตามดาบนี้ได้ถูกสาปโดยราชามังกรดำ นอกเหนือจากความสามารถในการให้ความแข็งแกร่งอันยิ่งใหญ่กับผู้ถือครองแล้ว จะมีสะท้อนกลับอย่างรุนแรงทุกครั้ง อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้รับการปรับปรุงโดยแจ็คโดยใช้คริสตัลดารา ความรุนแรงของการสะท้อนกลับอย่างรุนแรงได้ลดลงอย่างมาก ถ้าผู้ถือครองไม่สามารถปราบปรามสะท้อนกลับอย่างรุนแรงได้ ผู้ถือครองจะได้รับคำสาปแช่งแห่งราชามังกรดำ ลดคุณสมบัติทั้งหมดลง 50% อย่างถาวร

 

หัวใจของซือเฟิงผ่อนคลายลงมากหลังจากเห็นคำอธิบายในย่อหน้านี้แล้ว อย่างน้อยที่สุดการสะท้อนกลับอย่างรุนจะไม่ทรงพลังในช่วงเวลาสั้นๆ

 

ซือเฟิงเก็บดาบอเวจี ทันใดนั้นเขาสังเกตเห็นข้อความจำนวนมากที่ถูกส่งมาโดยหิมะผู้โดดเดี่ยว ข้อความทั้งหมดถามว่าทำไมซือเฟิงยังมาไม่ถึง และกว่าเขาจะไปถึงป่าแห่งความตาย(เปลี่ยนชื่อ)ต้องใช้เวลานานแค่ไหน

 

“แบล็คกี้ไปลงดันเจี้ยนกัน” ซือเฟิงส่งข้อความตอบกลับระบุว่าเขาจะไปในทันที

 

เพราะว่าปัญหาของดาบอเวจี ซือเฟิงถึงได้ลืมเกี่ยวกับเรื่องกำหนดเวลาโดยสมบูรณ์  เขาปล่อยให้หิมะผู้โดดเดี่ยวรออีกประมาณครึ่งชั่วโมง อย่างไรก็ตามซือเฟิงจะชดเชยให้เหมาะสมภายในป่าแห่งความตาย

 

“โอเค ผมกังวลว่าผมจะไม่มีโอกาสได้ทดลองเวทมนตร์ใหม่ๆของผมพอดี” แบล็คกี้พูดอย่างตื่นเต้น

 

เมื่อซือเฟิงและแบล็คกี้มาถึงบริเวณดันเจี้ยนของป่าแห่งความตายแล้ว ทั้งป่าแห่งความตายเต็มไปด้วยผู้เล่น ผู้เล่นเลเวล 2 มีเต็มไปทั่วทุกที่และผู้เล่นจำนวนกำลังจัดปาร์ตี้เข้าดันเจี้ยน

 

“เปิดตี้สำหรับป่าแห่งความความตาย ยินต้อนรับตัวสร้างความเสียรุนแรง 4 รอ 2”

 

“ปาร์ตี้ที่มีประสิทธิภาพสำหรับป่าแห่งความตาย พวกเราขาดแค่ผู้รักษาทรงพลัง รับประกันว่าเคลียร์ได้”

 

เห็นฉากดังกล่าว ซือเฟิงส่ายหัวเบาๆ เขาเดินไปยังหิมะผู้โดดเดี่ยวผู้โบกแขน ในชีวิตก่อนของซือเฟิง เคยมีผู้เล่นที่ติดอยู่ในป่าแห่งความตายเป็นเวลานาน เพราะดันเจี้ยนจะเคลียร์ได้เมื่อมีผู้เล่นเลเวลจำนวนมากแล้วเท่านั้น

 

“พี่ชายผู้เชี่ยวชาญ ในที่สุดพี่ก็มาถึงที่นี่ บรรดาเพื่อนของผมกำลังจะหมดความอดทนในการรอ เรารีบกันเถอะ” หิมะผู้โดดเดี่ยวกำลังเผาไหม้ไปด้วยความวิตกกังวลเมื่อเขาเห็นซือเฟิงเดินสบายๆ

 

หลังจากนั้นหิมะผู้โดดเดี่ยวนำซือเฟิงและแบล็คกี้มารวมตัวกันที่จุดปาร์ตี้

 

“โดดเดี่ยว นี่คือผู้เชี่ยวชาญที่นายพูดถึง? ฉันคิดว่าเขาจะเป็นคนที่มีสามหัวหกแขนซะอีก แต่มันดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีอะไรไปมากกว่านี้นะ” พระหนุ่ม ค่ำคืนหน้าร้อนอันไร้ถ้อยคำ( Wordless Summer Night ชื่อมัน) เห็นซือเฟิงสวมอุปกรณ์เริ่มต้น นอกจากยังมีเหล็กเกี่ยวประตูที่แขวนอยู่รอบเอวเขาอีก มันดูราวกับว่าเป็นอาวุธขยะบางอย่างที่เขาสุ่มหยิบขึ้นมา เมื่อค่ำคืนหน้าร้อนอันไร้ถ้อยคำเห็นดังนี้ เขาจึงประชดอย่างช่วยไม่ได้

 

“พี่ชายไร้ถ้อยคำ พี่พูดอย่างนี้กับพี่ชาย ‘ผู้เชี่ยวชาญ’ ได้อย่างไร? เขาเป็นผู้ทดสอบเบต้าที่ทรงเกียรติ ดังนั้นแน่นอนว่าเขาจะต้องมี 'บางอย่างที่ไม่ธรรมดา' มิฉะนั้นเขาจะกล้าเอาอุปกรณ์ทั้งหมดของนักดาบและโครแมนเซอร์?” นักรบโล่ ต่อสู้เพื่อจุดสิ้นสุด(Battle To The End) ยืนอยู่ข้างๆและหัวเราะเยาะ

 

ทั้งสองคนรู้สึกไม่พอใจกับซือเฟิงอยู่แล้ว นี้เป็นเพราะว่าซือเฟิงต้องการเอาเกราะนักรบโบาณและอุปกรณ์ผู้วิเศษไปทั้งหมดทันทีหลังจากเข้าร่วม จะให้พวกเขาทำงานโดยไม่ได้อะไร? ถ้ามันไม่ใช่เพราะบอสของพวกเขาต้องการจะดูซือเฟิง พวกเขาจะเชิญผู้เล่นคนและลงดันเจี้ยนไปนานแล้ว ตอนนี้พวกเขาได้เห็นซือเฟิงกับอุปกรณ์ยากจนแล้ว พวกเขาสามารถวิพากษ์วิจารณ์เขาและบังคับให้เขาออกไปได้

 

หิมะผู้โดดเดี่ยวต้องการจะตอบกลับเนื่องจากซือเฟิงเป็นที่คนเขาเชิญมาเป็นการส่วนตัว อย่างไรก็ตามอุปกรณ์ของซือเฟิงไม่ให้โอกาสหิมะผู้โดดเดี่ยวทำแบบนั้น เขาทำได้แค่จ้องอยู่ในความเงียบเท่านั้น

 

“เอาล่ะ มาปาร์ตี้กันเถอะ คนจำนวนมากได้เข้าไปยังป่าแห่งความตายแล้ว ถ้าเราไม่ลงล่ะก็ เราจะไม่ได้โอกาสความสำเร็จการฆ่าครั้งแรก” ในฐานะที่เป็นผู้นำปาร์ตี้ เรนเจอร์ผู้ชายที่หล่อเหลา สัญญาณช้า(ชื่อหลังจากตอนนี้ผมจะทับศัพท์เอาล่ะชื่อไทยมันแปลกๆ)แต่อย่างแน่นอนขัดจังหวะในขณะที่เขากล่าว

 

แบล็คกี้ต้องการจะโต้กลับแต่ซือเฟิงหยุดเขาไว้ ซือเฟิงคิดว่ามันไม่มีอะไรเลยสำหรับการประชดของคนสองคน ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรก็ตาม เขาและแบล็คกี้ได้ปล่อยให้พวกเขารอมากว่าครึ่งชั่วโมง ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมให้พวกเขาพูดอีกสักสองสามประโยค?

 

ค่ำคืนหน้าร้อนอันไร้ถ้อยคำมองไปยังเรนเจอร์ สัญญาณช้าแสดงความไม่พอใจของเขา

 

หิมะผู้โดดเดี่ยวตกใจอย่างมากเมื่อเห็นเลเวลของซือเฟิง

 

ควรทราบว่าผู้เล่นหลายคนได้ขึ้นเลเวล 2 กันแล้ว แล้วเป็นไปได้อย่างไรที่ผู้ทดสอบเบต้าจะยังไม่เลเวล 2?

 

 

 

ขณะที่พวกเขาปาร์ตี้เสร็จ นักรบโล่กล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว “เชี้ย นี่แม่งมือใหม่ที่เพิ่งเลวล 1 เขามาที่นี่เพื่อโกงอุปกรณ์!”

 

“หัวหน้า ป่าแห่งความตายเป็นดันเจี้ยนเลเวล 2 ถ้าเราพามือใหม่เลเวล 1 เข้าดันเจี้ยน เราจะไม่ได้แต่รอเพื่อถูกฆ่าทิ้งเหรอ?” ค่ำคืนหน้าร้อนอันไร้ถ้อยคำมองไปยังเรนเจอร์ที่โบกมือช้าๆ แสดงความไม่พอใจของเขา

 

หิมะผู้โดดเดี่ยวตกใจอย่างมากเมื่อเห็นเลเวลของซือเฟิง

 

ควรทราบว่าผู้เล่นหลายคนได้ขึ้นเลเวล 2 กันแล้ว แล้วเป็นไปได้อย่างไรที่ผู้ทดสอบเบต้าจะยังไม่เลเวล 2?

 

หัวหน้าสัญญาณช้ามองไปยังซือเฟิงก่อนหน้านี้เขายังมีความหวังให้กับซือเฟิงแต่ตอนนี้มันได้หายไปหมดแล้ว เขาได้พูดด้วยเสียงเย็นชาทันที “นายได้ตายมาครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้รึเปล่า?”

 

“ไม่” ซือเฟิงส่ายหัวของเขา พุดอย่างตรงๆว่า “เข้าป่าแห่งความตายเลเวล 1 ก็พอแล้ว”

 

“ตอนนี้นายสามารถไปได้เรา เราไม่จำเป็นต้องมี ‘ผู้เชี่ยวชาญ’ เหมือนนายที่นี่ เราหวังว่านายจะเข้าใจ” สัญญาณช้ากล่าวเย็นชา คิ้วของเขาย่นเล็กน้อย

 

“หัวหน้านี้ต้องเป็นควาเข้าใจผิด ทำไมเราไม่ลองก่อนเป็นอันดับแรกล่ะ?” หิมะผู้โดดเดี่ยวอธิบาย

 

“ลองดูก่อน” ค่ำคืนหน้าร้อนอันไร้ถ้อยคำหัวเราะเย็นชา “แล้วใครจะรับผิดชอบถ้าเราตาย? นายควรรู้ว่าเรายังสูญเสียค่าประสบการณ์ถ้าตายในดันเจี้ยน แม้ว่ามันจะต่ำแต่ก็ยังเป็น 10% ไอ้มือใหม่นี้มันรับผิดชอบความสูญเสียได้ไหม?”

 

“ไร้ถ้อยคำ อย่างสร้างเรื่องยุ่งยากให้โดดเดี่ยว” สัญญาณช้าพูดซ้ำ ๆ “โดดเดี่ยว ฉันรู้ว่านายพยามยามที่จะดูแลนักดาบคนนี้ แต่ฉันต้องมีความรับผิดชอบต่อปาร์ตี้ของเรา ฉันจะหาเพียงคนที่มีประสบการณ์เท่านั้นเพื่อเข้าสู่ดันเจี้ยน ฉันจะไม่ยอมเสียเวลารวมปาร์ตี้กับพวกเริ่มต้น นายมีสองตัวเลือกตอนนี้ หนึ่งคือตามเราเข้าดันเจี้ยน สองคืออกจากปาร์ตี้ร่วมกับพวกเขา”

 

“ฉันจะออกปาร์ตี้” ซือเฟิงไม่ได้ต้องการจะสร้างปัญหาให้กับหิมะผู้โดดเดี่ยว เขารีบออกจากปาร์ตี้และรีบออกไป “แบล็คกี้จะเราปาร์ตี้กับคนอื่นๆและเข้าสู่ดันเจี้ยน”

 

“ได้สิ” แบล็คกี้ยิ้มด้วย ‘ฮิฮิ’ ออกจากปาร์ตี้โดยไม่ต้องคิดซ้ำสอง

 

“ฮึ่ม ฮึ่ม 'ผู้เชี่ยวชาญ' ที่มีเอกลักษณ์ถูกมองออก อย่างน้อยเขาก็ยังตระหนักในตัวเองที่ออกไปหลังจากรู้ว่าเขาไม่สามารถโกงอุปกรณ์ได้อีก” นักรบโล่ยิ้มและพูดเยาะเย้ย, “โดดเดี่ยว นายนี่หลอกง่ายจริงๆ ไอ้มือใหม่แบบนี้จะหลอกลวงนายเท่านั้น นายจำเป็นต้องเรียนรู้อย่างเหมาะสมจากหัวหน้าสัญญาณช้าในอนาคตนะ”

 

ใบหน้าของหิมะผู้โดดเดียวกลายเป็นซีดหลังจากได้ยินเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้รู้สึกว่าเขาเข้าใจผิด ซือเฟิงจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญแน่นอน

 

“หัวหน้าสัญญาณช้าขอโทษสำหรับสิ่งนี้ด้วย” หิมะผู้โดดเดี่ยวเลือกที่จะออกจากปาร์ตี้ เขาพร้อมที่จะเข้ากับซือเฟิงเพื่อพิจารณาว่าคำตัดสินของเขาถูกต้องหรือไม่

 

“นาย!” สัญญาณช้าตะลึงไปในทันที เขาไม่เคยคิดเลยว่าหิมะผู้โดดเดี่ยวจะแตกหักแบบนั้น มันเป็นการตัดสินใจที่โง่เขลามาก เขาคงจะไล่ล่าหิมะผู้โดดเดี่ยวนานแล้ว ถ้ามันไม่ได้เป็นเพราะว่าเขามีเทคนิคที่ดี

 

ค่ำคืนหน้าร้อนอันไร้ซึ่งถ้อยคำ มองไปยังหิมะผู้โดดเดี่ยว พูดด้วยรอยยิ้มเย็นชา “โดดเดี่ยว มันจะดีกว่าถ้านายไม่เสียใจกับทางเลือกที่นายทำ นายจะเสียใจเมื่อเราเคลียร์ป่าแห่งความตายและได้รับอุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยม นายจะต้องเสียใจเป็นเวลาสิบปี ยี่สิบปีที่นายไม่ได้ติดตามหัวหน้าสัญญาณช้า”

 

**ตั้งแต่ตอนหน้าทับศัพท์ชื่อหมดนะครับไม่แปลแต่จะมีวงเล็บชื่อไทยไว้ให้ ที่ไม่แปลเพราะว่าเซนส์การตั้งชื่อผมห่วยครับ

***เกินตอนที่ 30 ไป เรื่องชื่อผมเริ่มจะโอเคล่ะ มีแนวทางล่ะครับ แต่ตอนแปลช่วงตอน 20 ไปนี่ผมยังคิดเรื่องชื่อไม่ออกครับ

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด