ตอนที่ 1 ออกเดินทางสู้มหาสมุทร
ณ มหาสมุทรอันแสนกว้างใหญ่น้ำสีฟ้าใสพร้อมกับฝูงปลามากมายหลากหลายพันธ์ ผมมีชื่อว่า อดัม ทรัมเบอร์ เรื่องราวของผมเกิดขึ้นมาจากการที่ผมเป็นเด็กที่ถูกทิ้ง ตั้งแต่เกิดสงครามมหาสมุทรขึ้นมาทุกคนต่างพากันทิ้งทุกอย่างเหลือไว้แต่เพียงตัวของพวกเขา เหมือนกับพ่อกับแม่ของผมที่ทิ้งผมไปตั้งแต่เด็กๆ ตอนแรกผมก็ว่าผมจะตายตั้งแต่ตอนยังเป็นทารกแล้วล่ะ ผมดันไม่ตายเสียได้เพราะดันมีชายแก่คนหนึ่งมาเจอผมแล้วเก็บผมไปเลี้ยง ตอนนี้ผมโตขึ้นมามากแล้วอายุก็ไม่ใช่เด็กๆแล้ว และผมก็เป็น “โจรสลัดด้วยเช่นกัน”
“เอาล่ะพวกแกทุกคนในวันนี้ไม่ว่าอย่างไรจะตายกันกี่ครั้งพวกเราก็จะไม่มีทางที่จะยอมแพ้ต่อการหาสมบัติของเราเป็นอันขาด”
ผมพูดขึ้นที่พูดขึ้นได้ก็เพราะว่าผมเป็นหัวหน้าโจรสลัดนั่นเอง อาจจะงงกันเป็นแถบๆว่าทำไมผมถึงเป็นหัวหน้าของพวกโจรสลัดได้ ก็เพราะว่าชายแก่คนนั้นนั่นแหละที่เป็นหัวหน้าโจรสลัด แล้วยกการเป็นหัวหน้าให้แก่ผมอีกทีมันอาจจะไม่น่าเชื่อเสียเท่าไหร่ แต่ว่าถ้าคุณได้มาเห็นกับตาผมว่าพวกคุณคงจะเชื่ออย่างแน่นอน
“หัวหน้าครับพวกเราพบอะไรบางอย่างตรงฝั่งทางนู้นเป็นเหมือนเกาะเลยครับผม!!”
ผมได้ยินเช่นนั้นจึงเดินไปหาต้นหนเรือก่อนที่จะหยิบกล้องส่องทางไกลที่คาดอยู่ตรงเอวของผม แล้วลองส่องดูว่าสิ่งที่ต้นหนเรือของผมพูดมันเป็นความจริงหรือเปล่า พอเห็นว่ามันมีเหมือนแท่งแหลมๆเหมือนมีอะไรทางฝั่งนั้นจริงๆผมก็รู้สึกว่าพวกเราจะได้สัมผัสสู่ผืนดินอีกสักครั้งหนึ่ง
“เราจะไปที่เกาะนั่นกันทุกคนเตรียมตัวพวกเราจะไปสัมผัสผืนดินอีกครั้งหนึ่ง !!”
“เย่!!!!!!!!!” เสียงโฮดังก้องไปทั่วทั้งเรือทั้งท้ายหรือยันมาข้างหน้าของเรือ แต่ละคนต่างมีความหวังที่จะได้สัมผัสผืนดินทรายและเจอต้นไม้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่รู้สึกดีใจเช่นกัน เพราะตั้งแต่ที่ผมเดินทางมานั้นผมก็เจอแต่น้ำทะเลสีใสมาหลายเดือนแล้ว ได้เจอสีเขียวกับสีเหลืองหน่อยมีคงจะรู้สึกดีใจมากๆเลยล่ะ พวกเราทุกคนพากันดึงใบเรือขึ้นแล้วกก็ใช้กระแสลมเพื่อที่จะไปให้ถึงเกาะแห่งนั้น อาจจะใช้เวลาเสียนิดหนึ่งแต่ผมคิดว่าอย่างไรก็ตามเดี๋ยวมันก็คงถึงเองนั่นแหละ
“หัวหน้าครับผมคิดว่าพวกเรากำลังจะไปถึงที่เกาะนั่นในไม่ช้าแล้วล่ะครับ แต่ผมขอถามหน่อยได้ไหมครับว่ามันคือเกาะอะไร”
นั่นสิพูดถึงผมก็ยังไม่ได้ดูแผนที่เลยมัวแต่ดีใจ ผมเดินไปหยิบแผนที่ขึ้นมาจากโต๊ะแล้วลองเปิดดู ในตอนนี้เรากำลังขึ้นเหนือเกาะทางเหนือสินะเกาะทางเหนือมีอะไรบ้างไหนดูซิ . . . ผมใช่เวลาดูเกาะทางเหนือไม่นานมากนักผมก็รู้เลยว่าไอ้เกาะที่เรากำลังจะไปมันไม่มีอยู่ในแผนที่ ไม่ใช่ไม่มีสิมันไม่ได้บอกเชื่อเอาไว้เพียงแต่มันกากบาท!!! ผมรีบพับแผนที่เข้าเสื้อเชิดของผมแล้วก็เก็บมันไว้อย่างดี
“ทุกคนฉันมีข่าวดีมาบอกเกาะที่เราไปนั้นเป็นเกาะที่ถูกกากบาทเอาไว้ ฉันคิดว่ามันจะต้องมีอะไรอยู่เป็นแน่แท้ เตรียมตัวเฮกันเถอะนะ”
ผมฉีกยิ้มออกมาและดีใจเป็นที่สุดถ้าผมได้สมบัติพวกนี้มาแล้วก็ผมคงไม่ต้องทำอะไรไปตลอดชีวิตไม่ต้องหาไม่ต้องแล่นเรือแบบนี้ อยู่บ้านแบบคนรวยได้แล้ว!
“ผมว่ามันชักจะแปลกๆแล้วนะครับหัวหน้า. . เกาะมันดูคุ้นๆน่ากลัวๆอย่างไรก็ไม่รู้”
สิ่งที่ลูกเรือของผมได้พูดมาทำให้ผมต้องหันไปดูที่เกาะนั่น ใช่ครับมันดูแปลกไปจริงมันเหมือนมีหมอกอยู่ตลอดเวลาขนาดแสงแดดจ้าเสียขนาดนี้แล้ว หมอกพวกนั้นก็ยังคงปกคลุมอยู่แค่บริเวณนั้น
“มันคงไม่มีอะไรหรอกมั้งแถวนั้นน่าจะอุณหภูมิต่างกันกับแถวบริเวณนี้ก็ได้มั้ง อย่าไปซีเรียสเดินหน้าเรือต่อไป”
ผมยังยืนยันคำเดิมว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตามผมจะต้องไปถึงเกาะแห่งนั้นให้ได้ผมไม่อยากที่จะอยู่แบบนี้อีกแล้ว แต่ยิ่งเข้าไปใกล้มันยิ่งทำให้ผมขนลุกขึ้นมาเรื่อยๆ พอเข้าไปในอาณาเขตของกลุ่มหมอกผมรู้สึกได้เลยว่าที่นี่มันต้องมีอะไรบางอย่างแน่ๆ แต่ผมแค่ไม่แน่ใจว่าอะไรบางอย่างที่ว่ามันดีหรือว่ามันไม่ดีกันแน่
“นี่มัน!!!” เสียงของลูกเรือผู้หนึ่งได้ดังขึ้น ซึ่งลูกเรือของผมคนนี้ก็แก่มากแล้วล่ะเขาอาจจะดูแปลกๆหน่อย เพราะแบบนี้ผมจึงรีบเขาเข้ามาเป็นลูกเรือเนื่องจากเขามีเรื่องเล่ามากมายมาให้ฟังไม่เว้นวันเลย
“เป็นอะไรทำไมถึงทำเสียงเช่นนั้นล่ะเฒ่าแก่บิลลี่ ???”
ผมถามเขาไปด้วยความสงสัยเพราะสีหน้าของเขาที่มองไปที่เกาะแห่งนี้มันดูขนลุกสุดๆไปเลย
“นะ..นี่มันน..เกาะต้องสาปใครสั่งให้มาที่นี่กัน !! พวกเราต้องออกจากที่นี่เดี๋ยวนี้ไม่อย่างนั้นพวกเราจะโดนต้องสาปแน่ ออกจากที่นี่ฉันต้องการออกจากที่นี่เดี๋ยวนี้”
อยู่ๆบิลลี่ก็สติแตกขึ้นมาในทันทีมันทำให้พวกเราบนเรือเงียบลงพร้อมมองหน้ากัน
“หยุดเรือก่อนอย่าพึ่งเข้าไปที่เกาะแห่งนั้น ฉันขอฟังเรื่องเกี่ยวกับเกาะแห่งนี้จากปากของบิลลี่ก่อน”
พวกเราจอดเรือกันอยู่กลางทางเข้าของเกาะ แล้วเราก็นั่งล้อมวงกันเพื่อจะฟังในสิ่งที่บิลลี่กำลังจะเล่าให้กับพวกเราฟัง แน่นอนว่าผมก็อยากจะฟังเหมือนกันว่าเขาจะพูดเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้แบบไหนบ้าง
“เรื่องที่ฉันจะเล่ามันก็มีอยู่ว่านี่เป็นสิ่งที่ฉันได้ฟังมาจากทวดอีกทีหนึ่ง เกาะนี้มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดพร้อมกับคำสาปที่อยู่ในหมู่เกาะนี้มากมาย พวกคำสาปกับสัตว์ประหลาดเกิดขึ้นเพราะเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น. . .”