ตอนที่ 175: ทีม (2)
อินเฟ้นแนะนำแองเจเล่แก่คนในกลุ่ม คนอื่นๆเหลือบมองมาที่เขาแต่ไม่ได้พูดอะไร แองเจเล่เดินไปเก้าอี้ว่างและนั่งลง
"มาอีกคนก็จะไปเลย ข้าพบคนใหม่เมื่อหลายวันก่อน เขามาโนล่าไม่นานมานี้เช่นเดียวกับกรีนแต่เขารู้คาถาที่แข็งแกร่ง"
ดูเหมือนว่าอินเฟ้นยังคงค้นหาสมาชิกใหม่อยู่ตลอดเวลา
"หนึ่งในสมาชิกทีมเดิมของเราออกเนื่องจากเรื่องส่วนตัวและต้องรับสมัครคนใหม่"
เขายักไหล่
สมาชิกไม่ได้ตกใจและไม่มีใครพูดอะไร อีกครึ่งชั่วโมงต่อมาประตูก็เปิดอีกครั้ง
มีชายชราหัวล้านที่มีไม้เท้าเดินเข้ามา เขาปกคลุมไปด้วยเสื้อคลุมสีเหลืองเข้มและมีเพียงหัวของเขาที่ถูกอากาศ
"ขอโทษที่มาช้า...."
ชายชรามีเนื้อล่ำสันขณะที่เสียงของเขาทุ้มและดัง เขาจะดูอ่อนวัยกว่านี้มากถ้าไม่มีเคราแพะที่คาง เขามีสีหน้าจริงจังทำให้รู้สึกว่าเขาเป็นคนหัวแข็ง
อินเฟ้นลุกขึ้นยืนและขยิบตาให้ชายชรา
"คุณเบเล็มมาแล้วหรอ ยินดีต้อนรับ!"
"อิน วัสดุของข้าอยู่ไหน"
ดูเหมือนว่าชายชราที่ชื่อเบเล็มชอบอินเฟ้นมากและเขายิ้มหลังจากที่อินเฟ้นทักทายเขา
"ข้าจะบอกให้ตระกูลของข้าเตรียมไว้ให้คุณหลังจากที่ทำภารกิจเสร็จสิ้น ไม่ต้องห่วงข้าจะรักษาสัญญาของข้า" อินเฟ้นตอบด้วยเสียงอ่อนโยน
"ตกลง เยี่ยมมาก"
เบเล็มพยักหน้าและนั่งลงเก้าอี้ว่างตัวสุดท้าย
แองเจเล่นั่งอยู่บนเก้าอี้และเห็นชายชราสัมผัสขาของอินเฟ้นภายใต้โต๊ะ เขาสั่นชั่วครู่และหันหน้าไปอีกด้าน
เมลิสซ่าไอและมองไปรอบๆห้อง
"เราจะเริ่มสนทนากันเรื่องภารกิจเนื่องจากทุกคนมากันแล้ว"
แม่มดแสงที่ชื่ออิซาเบลขยับริมฝีปาก "ข้าจะพาผู้ติดตามไปกับข้าสามคนพวกเขาทุกคนเป็นแกรนด์อัศวิน"
อินเฟ้นมองไปที่เบเล็มและพูด "ข้ามีผู้ติดตามแปดคน พ่อมดฝึกหัดขั้นสาม 5 คนและอัศวินสามคน"
"คนมากเกินไป เราต้องทำข้อตกลงกับเมอร์โฟล์คและเราจำเป็นต้องเก็บตำแหน่งของซากปรักหักพังไว้เป็นความลับ"
เมลิสซ่าขมวดคิ้ว
อินเฟ้นหัวเราะเบาๆ "ไม่ต้องกังวล เจ้าชายนอสดาน่าเป็นเพื่อนที่ดีของข้าและข้อตกลงสามารถทำได้ภายในห้านาที นอกจากนี้เจ้ายังรู้จักผู้ติดตามส่วนใหญ่ของข้า พวกเขาอยู่กับข้าในภารกิจครั้งที่ผ่านมาและเจ้าสามารถเชื่อใจได้อย่างแน่นอน"
"เอาล่ะ"
เมลิสซ่ามองไปที่แองเจเล่และพ่อมดหัวล้านเบเล็ม
เบเล็มหยุดลูบขาของอินเฟ้นและใบหน้าของเขาก็จริงจังอีกครั้ง
"ข้ามีผู้ติดตามสองคน พวกเขาเป็นแกรนด์อัศวินด้วยเช่นกัน"
แองเจเล่มองไปรอบๆ เขาไม่รู้ว่าทุกคนมีผู้ติดตามเป็นของตัวเอง เขามักจะอยู่คนเดียวเนื่องจากเขามีความลับอยู่มากมายและเขาเกรงว่าผู้ติดตามของเขาจะทรยศต่อเขา เขาต้องการคนที่เขาไว้ใจแต่คนๆนั้นก็ต้องแข็งแกร่ง คนเช่นนี้ยากที่จะพบเจอดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะไม่รับผู้ติดตาม
"ข้าไม่มีผู้ติดตาม" เขาพูดเบาๆ
คนอื่นๆในห้องมองด้วยความตกใจเล็กน้อยหลังจากที่ได้ยินคำตอบของเขา
พ่อมดส่วนใหญ่จะรับผู้ติดตามหรือคนรับใช้หลังจากที่พวกเขาถึงขั้นแก๊ส
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรู้ว่าแองเจเล่จะใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีในการไปถึงขั้นแก๊ส
"ไม่เป็นไร" เมลิสซ่าชี้ไปที่แผนที่บนโต๊ะ "ตอนนี้เรามาหารือเกี่ยวกับแผนการและเส้นทางของเรา ข้ามีแผนอยู่สามแผน...."
*************************
สิบวันต่อมา
พื้นที่สาธารณะ ท่าเรือบูล(มันแปลว่า'วัว' ขอทับนะครับ)
แองเจเล่ยืนอยู่บนดาดฟ้าของเรือที่เทียบท่าและมองไปรอบๆ
ท่าเรือบูลนั้นเล็กและเปล่าเปลี่ยว มีเพียงสะพานหินสีขาวหลายที่สร้างขึ้นอยู่ข้างน้ำ
มีเรือมากกว่าสิบลำจอดข้างสะพานขนาดของแต่ละลำนั้นแตกต่างกันไป พวกมันนั้นเล็กกว่าฟิวเจอร์ที่เขาเคยใช้เดินทางกลับบ้านและมีรูปพิณสีขาวอยู่บนธงของเรือเหล่านั้น
มีทีมทหารสวมชุดเกราะสีขาวกำลังขึ้นเรือขณะที่พ่อมดกำลังสั่งจากดาดฟ้า
"ท่านเมลิสซ่าจะอยู่บนเรือนำ เรือของเราจะปลอมเป็นเรือขนส่งทหาร เราไม่อยากมีปัญหาใดๆระหว่างทางไปที่นั่น" มีเสียงเย็นชามาจากข้างหลัง
แองเจเล่หันกลับไปและเห็นอิซาเบลจ้องมาที่เขาเงียบๆ ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรบนใบหน้าที่สวยของเธอ
"ข้าเห็นอินเฟ้นและเบเล็มขึ้นเรือลำเดียวกัน....."
แองเจเล่ขบริมฝีปาก
"ข้ารู้ ครั้งนี้พวกเขาจะใช้เรือลำเดียวกัน" อิซาเบลพยักหน้าเล็กน้อย "เคอร์แมนก็นำเรือมาด้วยเช่นกัน ข้าอยู่บนเรือของเจ้าเพราะข้าต้องการคุยเรื่องการแลกเปลี่ยนกับเจ้าระหว่างที่เราไปที่นั่น"
"เจ้ามีน้ำมันดอกกุหลาบดำใช่ไหม" สีหน้าของแองเจเล่จริงจัง "เจ้าต้องการอะไร"
"ข้ามีน้ำมันดอกกุหลาบดำประมาณสี่กิโลกรัม เจ้ามีอะไรบ้าง ข้าต้องการอะไรบางอย่างที่มีค่าเท่ากับน้ำมัน แม้ว่าจะไม่มีอะไรที่มีประโยชน์กับข้าข้าก็ยังต้องปฏิบัติตามกฎ"
"แน่นอน ตัวกลางแจ็คเกอลีนหนึ่งขวดเป็นอย่างไร" (ถ้าคาถาไหนหรือยาไหนมีชื่อต่อท้ายมันเป็นชื่อของผู้สร้างสูตรหรือคาถานั้นๆนะครับ ตัวกลางนี้เคยโผล่มาตอนที่ 119 (ผมลบคำว่า'ของ'ออกไป) ที่แองเจเล่เคยแลกเปลี่ยนกับเดเลนย่าเจ้าหญิงของลิเลียโด้)
แองเจเล่พูดไม่ออก เขาเหลือเพียงยาธรรมดาหนึ่งขวด เขาสร้างมันขึ้นมาในขณะที่ฝึกซ้อมไม่นานมานี้และมันก็เป็นของมีค่าเพียงอย่างเดียวที่เขามี
"เดี๋ยวก่อน เจ้าสร้างมันด้วยตัวเองงั้นหรือ เจ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญการทำยาหรือ"
อิซาเบลตกใจ
"ใช่ ข้าเป็น"
แองเจเล่พยักหน้า แม้ว่าเขาจะไม่เคยเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญการทำยา แต่เขาก็ยังสร้างวิธีการทำเป็นของตัวเองด้วยการจำลองที่ชิปสามารถทำได้
"ข้าได้ยินมาว่าตัวกลางแจ็คเกอลีนนั้นธรรมดาแต่มันทำได้ยากมาก อย่างไรก็ตามมันสามารถใช้ทำยาได้เท่านั้นดังนั้นมันจึงไม่มีมูลค่าต่อข้า ที่จริงแล้วข้ามีสูตรพิเศษ ถ้าเจ้าสามารถสร้างยาให้ข้าได้ข้าจะให้น้ำมันดอกกุหลาบดำเป็นของตอบแทน" อิซาเบลพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ดูเหมือนยาที่เธอกล่าวถึงมีความสำคัญ
"เจ้าต้องการให้ข้าทำยาอะไร"
แองเจเล่ขมวดคิ้ว
"มีผู้เชี่ยวชาญยาไม่มากนักแม้แต่ในโนล่า การฝึกเป็นผู้เชี่ยวชาญยามันจะต้องใช้ทรัพยากรเป็นตันๆและแม้แต่สามองค์กรใหญ่ก็ไม่สามารถจัดการได้ ข้าได้ไปเยี่ยมผู้เชี่ยวชาญยามากกว่าห้าสิบคนแล้วแต่ไม่มีใครที่เติมเต็มคำขอของข้าได้ ถ้าเจ้าสามารถทำยาให้ข้าประสบความสำเร็จข้าจะจ่ายเพิ่มนอกเหนือจากน้ำมันดอกกุหลาบดำที่สัญญาไว้"
นี่เป็นคำพูดที่ยาวที่สุดที่ออกมาจากปากอิซาเบลตั้งแต่ที่แองเจเล่พบเธอ
"ไม่มีอะไรที่ข้าสามารถทำได้ถ้าปราศจากวัสดุและอุปกรณ์"
แองเจเล่ค่อนข้างอยากรู้ เขาอยากรู้ว่าสูตรนี้ซับซ้อนแค่ไหน
"ไม่มีปัญหา"
อิซาเบลเดินไปที่อีกด้านของดาดฟ้า แกรนด์อัศวินสามคนกำลังคุยกันอยู่ข้างห้องโดยสาร เป็นผู้ชายสองคนและผู้หญิงหนึ่งคน พวกเขาทุกคนสวมชุดเกราะหนังสีดำ
ทั้งสามหยุดพูดหลังจากที่เห็นอิซาเบลเดินมาหาพวกเขา
อิซาเบลกระซิบกับผู้ติดตามของเธอและหนึ่งในนั้นก็พูดกับทหารที่ยังอยู่บนสะพาน ทหารพยักหน้าและวิ่งไปที่เกวียนที่มีเสบียง
หลังจากผ่านไปหลายนาทีทีมทหารก็ขึ้นเรือพร้อมกับกล่องดำในมือของพวกเขา
กล่องถูกเรียงรายอยู่บนดาดฟ้า อิซาเบลพยักหน้าและเดินมาหาแองเจเล่อย่างพอใจ
"เราตัดสินใจที่จะใช้ผงนอนหลับหลังจากที่เรือเริ่มออกเดินทาง เราต้องทำให้แน่ใจว่าไม่มีใครทำตำแหน่งรั่วไหล เจ้าสามารถเริ่มทำยาได้หลังจากนั้น" เธอพูดเสียงเบา
"ผงนอนหลับหรือ ทำไมล่ะ แม้แต่พ่อมดก็มีปัญหากับซากปรักหักพัง ทำไมเราถึงนำทหารและผู้ติดตามมามากขนาดนี้" แองเจเล่สงสัย
"ไม่ใช่พวกเราทุกคนที่สามารถต่อสู้ได้เหมือนพ่อมดมืด" อิซาเบลตอบเบาๆ "ข้าคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าต้องการอยู่ที่นี่ อุปกรณ์ทำยาและวัสดุที่จำเป็น ต้องลองดูก่อน"
"มันไม่ใช่เรื่องง่าย ข้าต้องการวัสดุพิเศษ...." แองเจเล่พูดไม่ออก "ข้าอาจจะพบวัสดุที่ดีกว่านี้ที่จะใช้ในระหวางกระบวนการทำยา สูตรนั้นสำคัญอย่างแน่นอนแต่มันไม่ได้หมายความว่าข้าไม่สามารถปรับปรุงมันได้ วัสดุที่นี่อาจจะเป็นหัวใจของมันแต่ข้าต้องการมากกว่านี้"
"เช่นนั้นหรือ"
อิซาเบลกำลังสับสน แองเจเล่สันนิษฐานว่าผู้หญิงคนนี้ไม่เคยอ่านอะไรเกี่ยวกับการทำยา
"เอาล่ะ ให้ข้าเห็นตัวอย่างก่อน บางทีข้าสามารถทำมันได้โดยไม่ใช้วัสดุพิเศษ ข้าไม่สามารถสัญญากับเจ้าได้"
เขามองไปที่อิซาเบล
"ตกลง"
เธอรีบเอาขวดคริสตัลขนาดเล็กออกมาจากถุงกระเป๋าตรงเข็มขัดของเธอ
ขวดมีขนาดเท่านิ้วมีของเหลวสีแดงอยู่ภายใน อิซาเบลยื่นขวดให้แองเจเล่
"นี่คือตัวอย่าง"
แองเจเล่เอาจุกออกและสูดกลิ่นของเหลว มันมีกลิ่นหอมเหมือนเลม่อนผสมกับดอกไม้ จากนั้นเขาก็เทของเหลวเข้าไปในปาก รสชาติมันขมและเผ็ด
"นี่มันเลือดของ.....แรดดินใช่ไหม"
แองเจเล่ไม่แน่ใจว่าเขาเดาถูกหรือไม่
"เจ้าพูดถูก มันมาจากแรดดินที่เป็นตัวเมียโตเต็มวัย"
อิซาเบลพยักหน้า
"เจ้าอยากให้ข้านำสิ่งนี้ทำเป็นยางั้นหรือ มันไม่เสถียรเลย ข้าไม่สงสัยเลยว่าเจ้าไม่พบผู้เชี่ยวชาญยาที่ยอมรับคำขอของเจ้า....." แองเจเล่ขมวดคิ้ว "เลือดแรดมักจะใช้ในการทำยาราคาแพง เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าต้องการทำให้มันเป็นกลางและใช้ทำยาธรรมดา"
"มีอะไรที่เจ้าสามารถทำได้ไหม"
อิซาเบลจ้องที่เขา
"ข้าสามารถลองทำให้มันเสถียรมากขึ้นได้แต่ข้าไม่แน่ใจว่าข้าจะสามารถทำได้ดี"
แองเจเล่ส่ายหัว
อิซาเบลดูผิดหวัง
"ไม่เป็นไร ถ้างั้นทำให้ข้าแต่ต้องทำให้แน่ใจว่าเลือดยังใช้งานได้"
"ไม่มีปัญหา" แองเจเล่ชี้ไปที่กล่อง "ส่งอุปกรณ์ไปห้องของข้า นอกจากนี้หารากสดจากต้นหนังดำให้ข้าด้วย"
เขาหันกลับไปและเดินเข้าไปในห้องโดยสารของเขาพร้อมกับขวดในมือ
อิซาเบลส่งคำพูดของเธอไปหาแองเจเล่โดยใช้อนุภาคพลังงาน "ข้าจะเตรียมน้ำมันดอกกุหลาบดำให้เจ้า"
"ข้าจะต้องใช้เวลาสักพักกว่าที่ข้าจะทำเสร็จ นอกจากนี้ถ้าเจ้าพบหัวใจของต้นไม้ในซากปรักหักพังก็เก็บมันไว้ให้ข้าด้วย" แองเจเล่ตอบข้อความโดยใช้อนุภาคพลังงานเช่นกัน
".......หัวใจของต้นไม้....." อิซาเบลตอบ "....นี่มันแทบจะเป็นไปไม่ได้......"
การแลกเปลี่ยนของพวกเขาเสร็จสิ้น น้ำมันดอกกุหลาบดำนั้นมีมูลค่ามากกว่าขวดเลือดแรด
แองเจเล่ยังไม่รู้ว่าอิซาเบลต้องการทำอะไรกับเลือด แต่ดูเหมือนการที่ทำให้เลือดแรดเสถียรจะความสำคัญของเธอ