ตอนที่ 170: การแลกเปลี่ยน (1)
แองเจเล่ตามอินเฟ้นและบอกอาซูน่าว่าเขาจะติดต่อเธอในภายหลังเนื่องจากพวกเขาได้แลกเปลี่ยนตราสื่อสารกันแล้ว
อาซูน่าเข้าใจว่าเธอจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพื้นที่พ่อมดดังนั้นเธอจึงพยักหน้าและจากไป
แองเจเล่ตามอินเฟ้นลงเนินเขาและเขาก็เริ่มเห็นพ่อมดมากขึ้นระหว่างทางหลังจากที่ผ่านทางแยกกับถนนไปภูเขาอื่นหลายครั้ง
"ข้าไม่รังเกียจถ้าเจ้าจะเดทกับผู้ชาย แต่ถ้าเจ้าสนใจข้าข้าก็ต้องขอโทษด้วย" แองเจเล่พูดเสียงเบาขณะที่เขาขมวดคิ้ว
อินเฟ้นยิ้ม "จะเกิดอะไรขึ้นถ้าข้าบอกเจ้าว่าครั้งหนึ่งข้าเคยเป็นผู้หญิงมาก่อนและเกิดอุบัติเหตุขึ้นระหว่างการทดลอง เจ้าจะเชื่อข้าไหม"
แองเจเล่ตกใจ "อะไรนะ เจ้าเป็นผู้หญิงงั้นหรือ"
เขาจ้องไปที่อินเฟ้นและเริ่มสังเกตเขาอีกครั้ง
ใบหน้าของอินเฟ้นหล่อเหลา เขามีผมสั้นสีขาวดูสะอาดและเป็นเส้นตรง ผิวของเขาซีดเล็กน้อยแต่ร่างกายของเขามีความสมดุลและแข็งแรง แองเจเล่ไม่พบอะไรที่บ่งบอกว่าสุภาพบุรุษข้างหน้าเขาเคยเป็นผู้หญิง
"เจ้าจะว่าอะไรไหมถ้าข้าถามว่าเจ้าทดลองเรื่องอะไร"
แองเจเล่พบว่ามันยากที่จะเชื่อแต่เขาเข้าใจว่าพ่อมดทำการทดลองแปลกๆอยู่ตลอดเวลา
"ข้าไม่สามารถบอกรายละเอียดได้แต่ข้าปนเปื้อนพลังงานที่รั่วออกมา บางสิ่งบางอย่างในร่างกายของข้าเปลี่ยนไปและข้าไม่พบวิธีหยุด ลักษณะของข้าได้กลายเป็นเช่นนี้หลังจากที่ผ่านไปหลายปี" อินเฟ้นอธิบาย เสียงของเขาดูหดหู่
แองเจเล่ไม่รู้ว่าเขาควรพูดอะไรหลังจากที่ฟังคำพูดของอินเฟ้น พวกเขาหยุดพูดและเดินไปตามเส้นทางอย่างเงียบๆ
ด้านซ้ายของเส้นทางเป็นภูเขาและด้านขวาเป็นหน้าผาขนาดใหญ่ น้ำตกกำลังตกลงไปโดนโขดหินและน้ำเข้าร่วมกับแม่น้ำในหุบเขาด้านล่าง
ไกลออกไปมีเสาอนุสาวรีย์สูงสีขาวซ่อนอยู่ในหมอกบางๆ ผิวของเสาเหมือนกระจกและมันดูเหมือนเสาดำข้างทางเข้ายกเว้นกรวยเหลี่ยมข้างบนสุด
แองเจเล่เงยหน้าขึ้นและเห็นแสงสีขาวที่ด้านบนสุดของเสาสูง
มีจุดสีดำขนาดเล็กค่อยๆออกจากบนสุดของอนุสาวรีย์บินจากไป อย่างไรก็ตามมันห่างจากแองเจเล่เกินไปทำให้เขามองไม่เห็นว่ามันคืออะไร
อินเฟ้นสังเกตเห็นว่าแองเจเล่กำลังจ้องไปที่อะไรและอธิบาย "เจ้ากำลังมองไปที่อนุสาวรีย์ใช่ไหม มันมีอยู่หกเสาและพวกมันถูกเรียกว่า'สัญญาณอนุสาวรีย์' อนุสาวรีย์ทั้งหกถูกจัดเรียงไว้ในรูปแบบวงกลมขนาดยักษ์ สถานที่นี้มีชื่อว่าหอคอยหกวงแหวนไม่ใช่เพราะชั้นของมันแต่เป็นอนุสาวรีย์แต่ละเสาเป็นแหวนที่รวมตัวกันเป็นวงกลมอย่างสมบูรณ์แบบ(คล้ายๆกับเสาสัญญาณที่มีสัญญาณทับซ้อนกันจนเป็นวงกลมขนาดใหญ่) นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในฝั่งตะวันตก"
เขาชี้ไปที่บริเวณที่ถูกปิดกั้นด้วยภูเขา
"หากไม่มีภูเขาเหล่านี้เจ้าจะมองเห็นหอคอยสัญญาณอีกสองแห่ง พวกมันทั้งมีความสูงเท่ากันและดูคล้ายกับเสาที่เจ้าเพิ่งจ้องไป"
"พวกมันโอฬารยิ่งนัก"
แองเจเล่พยักหน้า
"อนุสาวรีย์เหล่านี้ถูกสร้างขึ้นอย่างน้อยสามพันปีก่อนและเกือบจะถูกทำลายในช่วงสงคราม อย่างไรก็ตามหลังจากที่ซ่อมแซมไปหลายปีตอนนี้พวกมันก็อยู่ในสภาพดี อนุสาวรีย์ได้เป็นพยานของการล่มสลายและการยืนขึ้นของชายฝั่งตะวันตก" อินเฟ้นกล่าวเสริม
มันเป็นครั้งแรกที่แองเจเล่เห็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกนี้
เมื่อทั้งสองคนเดินต่อพวกเขาก็ได้ยินเสียงกระพือปีกด้านข้าง
มีแร้งสีดำขนาดใหญ่ห้าตัวอยู่ในอากาศและกำลังบินลงไปตามภูเขา
แร้งแต่ละตัวมีความยาวประมาณห้าเมตร ขนนกทั้งหมดของพวกมันมีสีดำและช่วงคอของมันก็โล้นเตียน แองเจเล่เห็นคนหลายคนที่สวมชุดคลุมยาวสีเขียวเข้มนั่งอยู่บนหลังของพวกมัน
หนึ่งในแร้งบินผ่านแองเจเล่และแรงลมมันก็พัดชุดคลุมของเขา แร้งกระพือปีกของพวกมันเป็นครั้งคราวขณะที่ร่อนลงไป
อินเฟ้นยิ้ม "พวกเขาอาจจะเป็นสมาชิกของหนึ่งในตระกูลท้องถิ่น พวกเขาเป็นยามของตลาดนี้ ข้าคิดว่าพวกเขาเพิ่งกลับมาจากการลาดตระเวนเนื่องจากมันถึงเวลาเปลี่ยนกะแล้ว"
"เจ้าหมายถึง......พวกเขาส่งพ่อมดทางการเพียงเพื่อลาดตระเวนพื้นที่งั้นหรือ"
แองเจเล่ตกใจเล็กน้อย
"สิ่งเช่นนี้เกิดขึ้นในโนล่าเท่านั้น"
อินเฟ้นหัวเราะเบาๆ
พวกเขาได้ยินพ่อมดคนอื่นพูดเรื่องการลงจอดของแร้ง สถานที่นี้ดังขึ้นภายในไม่กี่วินาที
แองเจเล่ได้ยินภาษาที่แตกต่างกันหลายภาษาผสมผสานกับภาษาท้องถิ่นและพบในฐานข้อมูลของซีโร่เพียงสองภาษาเท่านั้น เขามองไปที่อินเฟ้นและอยากจะถามว่าเขารู้ไหมว่าคนอื่นพูดเรื่องอะไรกัน
คนอื่นเห็นแองเจเล่มองไปที่เขาและยักไหล่ ดูเหมือนว่าเขาไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าพวกเขาพยายามพูดอะไร
พวกเขาหยุดการสนทนาและมาถึงก้นหุบเขาหลังจากที่ผ่านไปหลายนาที
มีจัตุรัสขนาดเล็กปรากฏในสายตาของแองเจเล่
มีประตูหินสีดำสูงบนผิวของหิน ดูเหมือนว่าประตูจะถูกสร้างมานานแล้วองค์ประกอบของมันเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากสภาพอากาศ ด้านบนของประตูมีหินสีขาวรูปรีและมีรูปแกะสลักที่มีลวดลายที่ซับซ้อนอยู่
ประตูสูงประมาณสิบเมตรและกว้างประมาณแปดเมตรและมันปิดอยู่ มีเถาวัลย์สีเขียวอยู่ด้านข้างมันและมีบันไดหินขนาดเล็กอยู่ข้างหน้า ด้านขวาของบันไดมีเตาถ่านที่มีฟืนที่กำลังลุกไหม้อยู่ภายใน
แร้งได้ลงจอดที่จัตุรัสแล้วเมื่อแองเจเล่และอินเฟ้นมาถึงประตู พ่อมดทั้งหมดที่สวมชุดคลุมสีเขียวกระโดดลงจากนกของพวกเขาและเดินไปที่ประตูหิน
อินเฟ้นกระซิบกับแองเจเล่ว่า "เจ้าเห็นชุดคลุมสีเขียวที่นำทีมหรือไม่ คนที่มีดาบสั้นห้อยอยู่ที่หลังของเขา ชื่อของเขาคือเคอร์แมน หนึ่งในพ่อมดที่แข็งแกร่งที่สุดในสามตระกูลใหญ่ที่ควบคุมหอคอยหกวงแหวน นอกจากนี้ยังมีคนบอกว่าเขาเป็นสมาชิกของกองกำลังนักล่า"
"จริงหรือ"
สายตาของแองเจเล่ตกลงไปบนหัวหน้าชุดคลุมเขียว
ชายคนนั้นสูงและแข็งแรง มีดาบสั้นเงินอยู่ที่หลังของเขาและใบหน้าของเขาปกคลุมไปด้วยฮู้ด
มีพ่อมดแสงชราหยุดชุดคลุมเขียวขณะที่พวกเขาเข้าไปใกล้ประตู เคอร์แมนหันกลับไป ดูเหมือนว่าเขารู้จักพ่อมดชราเนื่องจากพวกเขาเริ่มพูดคุยกัน
ในที่สุดแองเจเล่ก็มองเห็นใบหน้าของเคอร์แมน
เขามีจมูกงุ้ม แก้มของเขาบางและผิวของเขาสีเหมือนขี้ผึ้ง ชายคนนี้ดูเย็นชาและเหี้ยมโหดด้วยดวงตาคมสีเขียว
แม้ว่าเขาจะหัวเราะขณะที่พูดกับพ่อมดชราเขาก็ยังให้ความรู้สึกที่อึดอัดกับแองเจเล่
แองเจเล่รู้ว่ามือของชายคนนี้ได้เปื้อนเลือดมากมาย เขาต้องมีประสบการณ์มากมายจากสนามรบ
แองเจเล่หยุดจ้องไปที่เคอร์แมนและเดินไปที่ประตูกับอินเฟ้น
เคอร์แมนหันกลับไปและเดินผ่านประตูหลังจากที่เขาพูดคุยกับพ่อมดชราเสร็จ
ชี่
พ่อมดทั้งหมดที่สัมผัสประตูรวมถึงเคอร์แมนและทีมของเขาได้โปร่งใสและหายตัวไป
.
แองเจเล่และเคอร์แมนจมลงไปในประตูด้วยเช่นกัน แองเจเล่รู้สึกเหมือนว่าเขาเพิ่งผ่านชั้นน้ำบางๆ
มีเมืองขนาดเล็กที่เรียบง่ายอยู่ข้างหลังประตูหิน มีบ้านไม้สีดำที่ผนังของพวกมันถูกทำด้วยอิฐสีเทา สถานที่นี้ค่อนข้างเงียบสงบ
ด้านตรงข้ามประตูมีบ่อที่ล้อมรอบไปด้วยอิฐสีดำและด้านข้างมีถังไม้อยู่
มีหญิงชราสวมชุดคลุมสีแดงเข้มกำลังตักน้ำด้วยถังน้ำข้างบ่อ
แองเจเล่ยืนอยู่ที่ทางเข้าและมองไปทั่วเมือง
ถนนเต็มไปด้วยพ่อมดที่สวมชุดคลุมสีขาว สีเขียวหรือสีแดงเข้ม มันเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นพ่อมดมากมายเช่นนี้ในที่แห่งเดียว พวกเขาทั้งหมดคุยกันและเดินไปรอบๆ
มีต้นเมเปิ้ลหลายต้นที่ปลูกระหว่างบ้านสีดำ
แองเจเล่หันหัวกลับไปมองที่ประตู มันยังคงปิดอยู่
"เจ้าต้องการซื้อวัสดุหายากใช่ไหม ถ้าเจ้าต้องการของหายากเจ้าจะต้องเข้าร่วมองค์กร เจ้ากำลังมองหาอะไร" อินเฟ้นถาม
"สูตรและวัสดุสำหรับยาโบราณ ข้าต้องเข้าร่วมองค์กรจริงๆงั้นหรือเพียงเพื่อมัน มันไม่มีวิธีอื่นหรือ"
แองเจเล่ขมวดคิ้ว
พวกเขาเดินบนถนนที่ปูด้วยหินกรวดตามฝูงชนเข้าเมือง
"มีหลายวิธีที่เจ้าสามารถหลีกเลี่ยงข้อกำหนดดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตามมีพ่อมดไม่กี่คนที่มีสิทธิ์เหล่านั้นในพื้นที่พ่อมดทั้งหมด สูตรและวัสดุอะไรบ้างที่เจ้าต้องการ"
"ยาต้นไม้สังหาร ข้าได้ยินมาว่ามันเป็นยามาจากเรื่องเล่า"
ในที่สุดแองเจเล่ก็เข้าใจว่ายาที่อยู่ในรายการของซีโร่หายากแค่ไหน อย่างไรก็ตามถ้าปราศจากยาโอกาสที่เขาจะก้าวไปขั้นต่อไปก็จะลดลงมากและนั่นเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆในขณะนี้ การเพิ่มอัตราความสำเร็จ 45% จากยาต้นไม้สังหารมันจะเป็นประโยชน์อย่างมาก
"นอกจากนี้ข้ายังต้องการหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการปรุงยา" แองเจเล่กล่าวเสริม
อินเฟ้นขบริมฝีปาก
"ยาต้นไม้สังหาร ถ้าข้าเข้าใจไม่ผิดมันเป็นยาที่จะช่วยเจ้าก้าวไปถึงขั้นต่อไปโดยกระตุ้นสมองของเจ้า.....มันเป็นยาโบราณระดับสูงและมันสร้างยากมาก เจ้าต้องการมันจริงๆหรือ"
"ข้าต้องการ มีอะไรที่เจ้าทำให้ข้าได้บ้างไหม" แองเจเล่พยักหน้า
"เอาล่ะ........ยาใดๆที่ช่วยพ่อมดก้าวไปถึงขั้นต่อไปนั้นหายากนับประสาอะไรกับยาโบราณ......นอกจากนี้แม้ว่าเจ้าจะมีสูตรแล้วเจ้าจะหาวัสดุจากไหน พวกมันอาจจะสูญพันธุ์ไปแล้ว ถ้าเราเพียงแค่ดื่มยาเพื่อไปถึงขั้นต่อไปทำไมเราถึงทำสมาธิทุกวัน..." อินเฟ้นส่ายหัว "ข้ารู้จักพ่อมดขั้นคริสตัลและข้าแน่ใจว่าคนๆนั้นรู้เรื่องนี้ เธอเป็นหนี้ข้าดังนั้นข้าจึงแน่ใจว่าเธอจะช่วย เจ้าคิดว่าอย่างไรเราสามารถไปถามเธอได้"
"มันเป็นสิ่งที่ดีแต่ทำไมเจ้าถึงช่วยข้า" แองเจเล่ถาม "อย่างน้อยในฐานะพ่อมดข้าควรจะให้สิ่งตอบแทนที่มีมูลค่าเทียบเท่ากันกับแก่เจ้าแต่เจ้าไม่ได้พูดอะไร เจ้าทำให้ข้าสับสน"
อินเฟ้นยักไหล่ "มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ข้าช่วยเจ้าตอนนี้ดังนั้นเจ้าจะเป็นหนี้ข้าด้วยเช่นกัน"
แองเจเล่อยากรู้ว่าอินเฟ้นต้องการอะไร เขาต้องการแลกเปลี่ยนที่เป็นธรรม
"เอาน่า ไปกันเถอะ" อินเฟ้นหัวเราะ "ข้าจะทำให้แน่ใจว่ามันเป็นการแลกเปลี่ยนที่เป็นธรรม"
เขาหันกลับไปและเริ่มเดิน แองเจเล่ตามเขาไป
พวกเขาเดินผ่านบ้านหลายหลังจนกระทั่งมาถึงบ้านไม้สีน้ำตาลที่มีชั้นไม้สร้างอยู่ข้างหน้า