ตอนที่ 168: ความต้องการ (1)
แองเจเล่ยังคงคุยกับสมาชิกในกลุ่มต่อไปในขณะที่พวกเขาเดินทาง เขาได้รับข้อมูลทั่วไปเรื่องกฎและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นี่ในระหว่างที่สนทนาในหัวข้อต่างๆ
มีเพียงหญิงสาวคนเดียวชื่ออาซูน่าที่กำลังเล่นมีดและเธอรับผิดชอบในการโจมตีระยะไกล
หัวหน้าชื่อไซเล็น เขาเติบโตขึ้นมาในตระกูลพ่อมดขณะที่สมาชิกคนอื่นๆเป็นพ่อมดฝึกหัดจากภายนอกโนล่า
"ชื่อของเจ้าทำให้ข้านึกถึงเพื่อนเก่า" แองเจเล่พูดแล้วยิ้ม
"เป็นเช่นนั้นหรือ" ไซเล็นยิ้มด้วยเช่นกัน "ปูของข้าก็ชื่อเดียวกับข้า ในภาษาบ้านเกิดของข้ามันหมายถึง'ความหวัง' กรีน ข้าไม่ได้มีโอกาสถามเจ้าว่าทำไมเจ้าถึงมาที่นี่ เราสามารถช่วยเจ้าได้ถ้าเจ้าต้องการบางอย่าง"
แองเจเล่มองเห็นความจริงใจในสายตาของไซเล็น
"ข้ามาที่นี่เพื่อหาวัสดุหายาก ข้าได้ใช้เวลานานมากในการพยายามหาพวกมัน ถ้ามันไม่มีปัญหามากเกินไปสำหรับเจ้าข้าก็มีคำถามบางอย่างที่จะถามและข้าจะจ่ายให้เจ้าแน่นอน"
แองเจเล่พยักหน้า
"ไม่มีปัญหา ตระกูลไซเล็นริเริ่มในโนล่าและพวกเขาคุ้นเคยกับพื้นที่นี้" อาซูน่ากล่าวเสริมและหัวเราะเบาๆ
มีรถม้าปรากฏมากขึ้นบนถนนหินขณะที่พวกเขาเดินทาง นอกจากนี้ยังมีคนเดินเท้าที่มีกระเป๋าหนักอยู่ที่หลังของพวกเขา เสียงจากล้อหมุนและเสียงร้องของม้าเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
รถม้ากำลังขึ้นเนินและแองเจเล่มองเห็นกองหิมะและหินสีเทาที่อยู่ระหว่างต้นหญ้าสีเขียว
เขาเงยหน้าขึ้นไปมอง
สุดถนนมีภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว มีเสาหินทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสสูงอยู่ข้างหน้าทางเข้า มีคนเดินเท้าผ่านทางด้านซ้ายและรถม้าผ่านทางด้านขวา
พื้นผิวของเสาหินดูเหมือนแก้ว มันเรียบเนียนและสะท้อนแสง
แองเจเล่ดึงสายบังเหียนของม้าของเขาและชะลอตัวลง เขาสังเกตเสาหินอย่างระมัดระวัง หลังจากที่พลังจิตของเขาถูกบีบอัดเขาก็สามารถมองเห็นได้ว่ามันล้อมรอบไปด้วยคลื่นที่บิดเบี้ยว
มันเกือบจะเหมือนกับว่าเสาหินเป็นหอสัญญาณและคลื่นก็กระจายไปทุกทิศทุกทางแต่เขาไม่แน่ใจว่าคลื่นทำอะไรได้บ้าง
"ไซเล็นนั่นมันคืออะไร" แองเจเล่ชี้ไปที่เสาหิน
ไซเล็นมองไปทิศทางที่แองเจเล่ชี้และยิ้ม "มันเป็นเสาคริสตัลทมิฬ ข้าได้ยินมาว่ามันใช้ในการตรวจจับการเคลื่อนไหวของพลังงานที่รุนแรงในบางพื้นที่และมันใช้เพื่อป้องกันพ่อมดจากการร่ายคาถาที่ทรงพลัง"
"บางคนบอกว่ามันสามารถทำได้มากกว่านั้น" ชายวัยกลางคนเข้าร่วมการสนทนา
"เฮ้ อาซูน่า มีข้อความจากพ่อของเจ้า เขาอยากพูดคุยกับเจ้าโดยเร็วที่สุด"
อาซูน่าดูแปลกใจ "เกิดอะไรขึ้น ข้ายังต้องขายวัสดุ"
"พวกเราจะทำให้เจ้าเอง ไปหาพ่อของเจ้าก่อนเถอะ ข้าคิดว่ามันอาจจะมีเรื่องด่วน" ไซเล็นเอาหินเวทมนต์ระดับกลางออกมาสองก้อนจากกระเป๋า หินเวทมนต์ระดับกลางหนึ่งก้อนสามารถแลกเปลี่ยนหินเวทมนต์ปกติได้สิบก้อน
เขายื่นหินเวทมนต์ไปให้อาซูน่า
"นี่เป็นส่วนแบ่งของรางวัลตามอัตราตลาดในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามถ้าหากสินค้าถูกขายในราคาที่สูงขึ้นข้าจะเก็บส่วนที่เหลือไว้ หึๆ...."
ไซเล็นมองไปที่อาซูน่าและหัวเราะเบาๆ
"มันมากเกินไป.....ทำไม"
อาซูน่าลังเลแต่ไซเล็นได้โยนหินเวทมนต์ให้เธอดังนั้นเธอจึงรับมันในอากาศ
คนอื่นหัวเราะขณะที่ดูฉากนี้ หัวข้อการสนทนาได้เปลี่ยนไปทันทีและพวกเขาหยุดพูดเรื่องราคาของสินค้า
แองเจเล่รู้แล้วว่าอาซูน่าต้องการเงินและสมาชิกในกลุ่มปฏิบัติกับเธอเหมือนน้องสาวของตัวเอง พวกขามักจะให้รางวัลส่วนใหญ่กับเธอ แองเจเล่ชอบบรรยากาศที่สงบสุขในกลุ่มนี้มาก
"ที่จริงแล้วข้ามีสิ่งที่จะต้องจัดการในภายหลัง อาซูน่าทำไมเจ้าถึงไม่แนะนำสถานที่ให้กรีนล่ะ" ทันใดนั้นไซเล็นก็ถาม
"อืมมม.....แต่ข้าต้องไปพบพ่อของข้าก่อน..."
อาซูน่าขบริมฝีปาก
แองเจเล่ยิ้ม เขาหยิบหินเวทมนต์ระดับกลางออกมาหนึ่งก้อนและโยนไปให้อาซูน่า
"สำหรับเจ้า"
อาซูน่าจับอย่างรวดเร็ว "นี่มันมากเกินไป เพียงแค่ให้หินเวทมนต์ปกติสองก้อนก็พอ ข้าจะให้เจ้าเปลี่ยน...."
เธอรีบแก้กระเป๋าออกจากเข็มขัด
"ไม่เป็นไร เก็บไปเถอะ"
แองเจเล่โบกมือ เขารู้ว่าหินเวทมนต์สำหรับกับพ่อมดฝึกหัดแค่ไหน เขายังมีบัตรดำในกระเป๋าของเขา บัตรทำมาจากหินเวทมนต์ชนิดพิเศษและสามารถแลกหินเวทมนต์ปกติได้ประมาณหนึ่งพันก้อนและเขายังมีหินเวทมนต์ระดับสูงอีกหลายก้อนสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวัน เมื่อเขาต้องการเงินเขาก็สามารถสร้างยาและขายพวกมันได้ รายได้หินเวทมนต์ไม่ได้เป็นปัญหากับเขาอีกต่อไป
ดังนั้นแองเจเล่จึงยืนยันที่จะจ่ายให้อาซูน่าเป็นหินเวทมนต์ระดับกลางและใบหน้าของเธอกำลังแดงขณะที่เธอใส่เข้าไปในกระเป๋าอย่างระมัดระวัง
ความรู้สึกของสมาชิกในกลุ่มเปลี่ยนไปหลังจากที่เห็นเขาโยนหินเวทมนต์ระดับกลางได้อย่างง่ายดาย พวกเขาคิดว่าแองเจเล่เป็นคนร่ำรวยหรือได้รับการสนับสนุนจากตระกูลพ่อมดขนาดใหญ่
อาซูน่านั่งอยู่ในรถม้า เธอก้มหน้าลงและพึมพำ "รางวัลสำหรับภารกิจของเราบวกกำไรจากการขายวัสดุก็ประมาณ 60 ก้อนและชายคนนี้ให้หินเวทมนต์ระดับกลางหนึ่งก้อนกับข้าเพียงเพื่อแนะนำสถานที่ให้เขา....."
"เขาอาจจะเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลขนาดใหญ่" สมาชิกในกลุ่มพยักหน้า "อาซูน่า เจ้าควรพูดกับเขาให้มากขึ้น ข้าขอโทษด้วยแต่ในอัตรานี้เจ้าก็ยังไม่สามารถจ่ายหนี้สำหรับตระกูลของเจ้าได้......นี่เป็นโอกาส......"
อาซูน่าขบริมฝีปากแต่ไม่ได้พูดอะไร เธอรู้ว่าการเข้าใกล้กรีนเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในขณะนี้แต่เธอยังต้องการหาเงินจากการทำภารกิจร่วมกับกลุ่ม
ภายนอกรถม้าแองเจเล่กำลังพูดกับไซเล็นจนกระทั่งรถม้ามาหยุดข้างเสาสีดำ
มันถูกสร้างขึ้นบนพื้นทรงสี่เหลี่ยมซึ่งทำมาจากหินพิเศษบางอย่างที่มีพื้นผิวสีเทา รถม้าหยุดที่ทางเข้าด้านขวาของเสาขณะที่คนเดินเท้าไปทางด้านซ้าย
แองเจเล่หยุดม้าและมองไปที่เสาสีดำ ผิวของมันราบเรียบราวกับกระจกและมันล้อมรอบไปด้วยคลื่นโปร่งใส
จากนั้นเขาก็ก้มหน้าลงและมองไปข้างหน้า พื้นสี่เหลี่ยมสร้างอยู่ในช่องว่างระหว่างภูเขาหิมะ ทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆนี้เป็นสีเทาและด้านหลังเสาดำมันก็เป็นทางเข้าหุบเขา
แองเจเล่ตามคนอื่นเข้าไปในหุบเขาและเขาได้ยินเสียงของน้ำไหล หุบเขารูปถ้วยขนาดมหึมาปรากฏในสายตาของเขาพร้อมกับไอน้ำสีขาวที่ตกลงสู่โขดหิน พวกมันเป็นแหล่งที่มาของเสียง
หน้าผาสูงชันนับไม่ถ้วนปกคลุมพื้นผิวของเทือกเขาสีดำ
มีบ้านหินเก่าแก่สีเทาถูกสร้างขึ้นบนหน้าผาแต่ละแห่งที่เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำสีเขียวและเถาวัลย์ปีนตามผนังของพวกมัน
ทางด้านขวามีถนนภูเขาที่คดเคี้ยวที่นำทางคนเดินเท้าและรถม้าขึ้นเขา
"ไปกันเถอะ"
ไซเล็นกระโดดลงจากรถม้าและจับสายบังเหียนของม้าสองตัว
แองเจเล่สังเกตเห็นว่าถนนเป็นหลุมและบ่อซึ่งหมายความว่ามันจะเป็นความคิดที่ไม่ดีที่จะเดินทางเร็วเกินไปกับฝูงชนดังนั้นเขาจึงกระโดดลงจากม้าและจับสายบังเหียนด้วยเช่นกัน
ทางเข้านั้นกว้าง มันมากพอสำหรับการให้รถม้าเรียงรายกันห้าหรือหกคันพร้อมกัน
"เราจะถึงโนล่าหลังจากผ่านหุบเขานี้ มีตลาดทั่วไปที่ขายแป้ง เนื้อ ผลไม้และเสบียงประจำวัน มีทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าต้องการบนถนน"
อาซูน่ากระโดดลงจากรถม้าด้วยเช่นกันและเดินตามหลังแองเจเล่
"ตลาดเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโนล่า องค์กรใหญ่แต่ละองค์กรมีตลาดใหญ่ของตัวเองคนละแห่ง การค้าขายระหว่างองค์กรพ่อมดจะต้องทำในตลาดเหล่านี้ อย่างไรก็ตามตลาดนี้เป็นของสาธารณะและมันไม่ได้เป็นของตระกูลหรือองค์กรใด"
"มีตลาดกี่แห่งในโนล่า" แองเจเล่สงสัย
"เมื่อรวมตลาดนี้ด้วยก็ก็เป็นห้าแห่ง สามแห่งถูกสร้างขึ้นโดยองค์กรใหญ่และพวกมันจะเปิดให้พ่อมดฝึกหัดหรือพ่อมดทางการจากภายนอกองค์กร องค์กรเล็กนั้นได้สร้างอีกหนึ่งแห่งร่วมกัน"
อาซูน่าชี้ไปที่หน้าผา
"เจ้าเห็นบ้านหินเหล่านั้นหรือไม่ พวกเขาเป็นผู้ขายที่ตลาดและแต่ละคนขายทรัพยากรในบางประเภท พวกเขาได้รับการคุ้มครองโดยองค์กรที่เป็นเจ้าของของพวกมันและราคามักจะยุติธรรม"
"ตลาดนี้เป็นตลาดสาธารณะและมันได้รับการคุ้มครองจากทุกองค์กรเนื่องจากเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเดินทางและผู้คนที่อาศัยอยู่ในโนล่า สิ่งหนึ่งที่ควรทราบก็คือตลาดทั้งสามที่เป็นขององค์กรใหญ่ทั้งสามมีความปลอดภัยสูงมันมีพ่อมดมากมายที่เล่นแง่ที่ต้องระวังตัว"
"อืม" แองเจเล่รู้อย่างน้อยสิบวิธีที่อาจจะทำให้การค้าที่ยุติธรรมเป็นการค้าที่ดูไม่ยุติธรรม
"พวกเจ้าขายวัสดุคาถาที่นี่งั้นหรือ"
"ตามที่ข้าพูดตลาดสาธารณะเพียงขายเสบียงประจำวันเท่านั้น เจ้าจะไม่ได้วัสดุใดๆที่เกี่ยวข้องกับคาถาที่นี่แต่เจ้าสามารถซื้อเสื้อผ้า อาหารและแน่นอนว่ามันไม่มีชุดเวทมนต์ที่นี่"
พวกเขาเดินทางช้าๆผ่านถนนที่แออัด สถานที่นี้ถูกล้อมรอบไปด้วยหุบเขาแต่ด้วยเหตุผลบางอย่างมันก็ยังอุ่นอยู่
ที่แห่งหนึ่งของหน้าผาทางด้านซ้าย มีเกวียนจอดอยู่ข้างหน้าบ้านหินหลายคัน มีคนงานที่แข็งแรงสิบคนกำลังแบกสินค้าเข้าไปในบ้านและมีผู้ควบคุมสองคนที่กำลังตะโกนใส่พวกเขา เสียงของพวกเขาไม่ชัดเจนเนื่องจากมีเสียงของน้ำตก
อาซูน่าสังเกตเห็นว่าแองเจเล่กำลังมองไปที่อะไรและพูด "ผู้ขายรายนั้นขายถั่วเช่นถั่วแดง ถั่วดำและถั่วทะเล พวกมันถูกรวบรวมและส่งมาที่นี่โดยเมอร์โฟล์ค" เธอหยุดชั่วครู่ "ที่จริงแล้วอาหารส่วนใหญ่ของที่นี่จะถูกส่งโดยเมอร์โฟล์ค"
"เมอร์โฟล์คหรือ"
แองเจเล่ตกใจ
"ใช่ ดูใบหน้าของพวกเขา ข้าหมายถึงคนที่กำลังแบกสินค้าลงจากเกวียน"
อาซูน่าลดเสียงลง
แองเจเล่พยักหน้าและเริ่มสังเกตใบหน้าของคนงานเหล่านั้น