ตอนที่แล้วตอนที่ 161: การปะทะภายในป่า (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 163: ซ่อนตัว (2)

ตอนที่ 162: ซ่อนตัว (1)


"ไม่!"

อริซ่ากรีดร้อง

ปลายลูกศรจมลงไปในหน้าผากของเธอช้าๆ เสียงกรีดร้องค่อยๆหยุด ร่างกายของอริซ่าหลอมละลายไปเหมือนเปลวเทียนที่ลุกไหม้ ผิวของเธอ ใบหน้าและขาเปลี่ยนเป็นขี้ผึ้งสีขาวหรือสีดำขณะที่ร่วงลงพื้น

ขี้ผึ้งตกลงพื้นและหญ้าสีเขียวก็กลายเป็นสีเหลืองภายในไม่กี่วินาที มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวลอยในอากาศหลังจากที่ควันสีเขียวโดนขี้ผึ้ง

อริซ่าหายตัวไปและมีเพียงชุดคลุมดำที่เหลืออยู่บนพื้น

แองเจเล่เก็บธนูยาวไว้ที่หลังและปิดปากด้วยมือซ้าย เลือดได้ออกมาจากดวงตา ปาก จมูกและหูของเขา โดยเฉพาะดวงตาของเขาที่มีรูม่านตาสีน้ำเงินเคลือบด้วยเลือดและพวกมันดูน่ากลัว

แองเจเล่รีบคว้าชุดคลุมดำยาวบนพื้นและสะบัดมัน มีกระเป๋าหนังขนาดเล็กตกลงมาจากกระเป๋าพร้อมกับหนังสือโน๊ตสีดำขนาดเท่าฝ่ามือ

เขาเก็บทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไปในกระเป๋าและวิ่งไปทางตะวันออกของป่า

มีชุดคลุมดำอยู่บนพื้น แองเจเล่หายไปในพุ่มไม้

เขาเม้มปากแน่น เลือดออกมาจากลำคอของเขา เขารู้ว่าอาการบาดเจ็บของเขารุนแรงมาก นอกจากนี้ยังมีใครบางคนหรืออะไรบางอย่างกำลังติดตามเขาอยู่ เขารู้สึกได้ถึงภัยคุกคามที่กำลังใกล้เข้ามาและดูเหมือนว่า'คน'นี้กำลังเดินทางด้วยความเร็วเท่ากับแองเจเล่

"คิ้วแดง......เคราแดง......ข้าจะพบเจ้าในวันหนึ่ง....." แองเจเล่โกรธ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกผลักดันสู่ขีดจำกัดหลังจากที่กลายเป็นพ่อมดทางการ เขาไม่แน่ใจว่าเคราแดงอยู่ขั้นไหนแต่แองเจเล่เดาว่าเคราแดงอย่างน้อยก็อยู่ระดับเดียวกับอาจารย์ลิเลียน่า

แองเจเล่ยังคงไปตามเส้นทางที่เขาเลือก ตอนนี้เที่ยงแล้ว หมอกได้หายไปอย่างสมบูรณ์ มีลำแสงสีทองของแสงอาทิตย์ผ่านช่องว่างระหว่างใบไม้ของต้นไม้

เขาบอกให้ซีโร่ตรวจสอบสภาพร่างกายขณะที่เขาวิ่งไปตามเส้นทาง

หลังและแขนขวาของเขาถูกควันดำมันทำให้หนังถูกกัด ถ้าปราศจากโล่โลหะเขาก็คงจะกลายเป็นแอ่งของเหลวสีดำเหนียว

นอกจากนั้นควันยังมีพิษที่รุนแรงที่ไหลผ่านเส้นเลือดของแองเจเล่ มีเลือดไหลออกมาจากผิวหนังทั่วทั้งร่างกายของเขา

ค่าสถานะของเขาลดลงเกือบครึ่ง แองเจเล่โชคดีที่เขาดูดซึมโลหะที่มีความต้านทานสูงก่อนขึ้นเรือและเขาหลบควันดำส่วนใหญ่ได้ด้วยความช่วยเหลือของชิป นอกจากนี้ค่าสถานะที่สูงของแองเจเล่ยังช่วยเขาในการต่อสู้กับพิษ ถ้าเป็นพ่อมดที่มีความอึดต่ำคงตายไปแล้ว

แองเจเล่เดินทางด้วยความเร็วเต็มที่มากกว่าสิบกิโลเมตรจนกระทั่งภัยคุกคามหยุดไล่ตามเขา

ภูมิทัศน์รอบๆเปลี่ยนไป ต้นไม้มีอายุน้อยกว่าที่เขาเห็นในป่าลึกและในที่สุดเขาก็เห็นรอยเท้าของนักเดินทางบนพื้น

แองเจเล่ดิ้นรนอยู่ชั่วครู่ก่อนที่เขาจะเริ่มเคลื่อนที่อีกครั้ง ในที่สุดเขาก็เดินออกจากป่าและเห็นเส้นทางสำหรับคาราวานที่ปกคลุมไปด้วยโคลน

เขารวบรวมสมุนไพรบางอย่างตามคำแนะนำของซีโร่และยับยั้งพิษจากการทำลายอวัยวะของเขา นอกจากนี้แองเจเล่ยังใช้เจลฟื้นฟูที่หลังของเขาเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

แองเจเล่อยู่ข้างถนนและเช็ดรอยเลือดออกจากใบหน้าของเขา เขารออยู่ชั่วครู่และเห็นรถม้าของพ่อค้า

เขาจ่ายเงินให้คนขับรถม้าหลายเหรียญเงิน คนขับรถม้าบอกเขาว่าจะให้เขาลงที่เมืองที่ใกล้ที่สุด มีเกวียนที่เต็มไปด้วยขนสัตว์ติดกับรถม้าและแองเจเล่อยู่ด้านบนขนสัตว์

มันค่อนข้างสบาย รถม้าเริ่มมุ่งหน้าไปสู่พื้นที่ที่แองเจเล่ไม่คุ้นเคย

*************************

ภายในป่าตรงหอคอยหินสีเทาสูง

ชายชราที่มีเคราแดงยืนอยู่บนยอดหอคอยและสำรวจป่าด้วยท่าทีหดหู่เล็กน้อย

"อาจารย์ ท่านเป็นนักพยากรณ์ที่ดีที่สุดที่ข้ารู้จักแต่ท่านก็ยังไม่พบคนชุดคลุมดำบนเรืองั้นหรือ" แม่มดที่ยืนอยู่ข้างหลังชายชราถาม

"เขาอยู่นอกระยะของข้า" ชายชราเอามือไว้ที่หลัง เขาไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร

"ไม่มีอะไรที่ข้าทำได้แล้ว....." เขาหันกลับไปและมองไปที่แม่มด

"เอลิก้าเจ้ามีข้อมูลของเป้าหมายอื่นๆหรือไม่"

เอลิก้าพยักหน้า "อาจารย์โซฟีน่าเพิ่งส่งข้อความมาว่าเธอตรวจพบการเคลื่อนไหวบางอย่างในเหมือง อาจารย์ท่านอื่นๆคิดว่าพวกมันกำลังพยายามกำลังจัดเราออกไป"

ชายชราพยักหน้า "ดิออร์อยู่ที่ไหน"

"เขายังอยู่ที่รกร้างทางตะวันตก เขากำลังเถียงกับเมอร์โฟล์คเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์เวทมนต์โบราณที่เขาพบ ข้าคิดว่ามันจะใช้เวลาสักพัก......" เอลิก้าตอบและหยุดลงหลังจากที่เห็นชายชราพยักหน้า

"นอกจากนี้การทดลององค์ประกอบในสายเลือดในห้องปฏิบัติการ.....ถ้าท่านไม่ได้ช่วยพวกเขาบาเรียลับอยู่ก็คงจะเสียหายไปแล้ว ข่าวดีคืออาจารย์คนอื่นๆไม่ได้สังเกตเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น"

"เราต้องไปที่เหมืองก่อน" ชายชราถอนหายใจ

"คาเลลโล่และอริซ่า.....มันน่าเสียดายแต่พวกเขาตายเพราะพวกเขาไม่แข็งแกร่งพอ แสงแห่งทอร์และเหมืองเป็นวิธีที่สำคัญ ข้าได้ปลูกเมล็ดพันธุ์ไว้ที่เจ้าเด็กสารเลวนั่นแล้ว ข้าจะจัดการเขาเมื่อข้ามีเวลา นอกจากนี้ไปตั้งค่าหัวของเขา"

"ค่ะอาจารย์" เอลิก้าพยักหน้า

"ตอนนี้ถ้าท่านไม่มีอะไร....."

"ไปซะ"

เอลิก้าหันกลับไปและออกจากห้องจากนั้นก็ปิดประตูอย่างระมัดระวัง

************************

แองเจเล่ตื่นขึ้นมาจากการทำสมาธิเพราะเสียงจากล้อรถม้า

เขาลืมตาขึ้น มันเป็นเวลากลางคืนแล้ว รถม้าเดินทางช้าลง

"คอเวอร์ เราถึงหรือยัง" เขาถามเสียงดัง

"เราเกือบจะถึงแล้วท่าน เมืองที่ปกครองโดยเจ้าเมืองแอสเตอร์อยู่ข้างหน้า" คนขับรถม้าเป็นชายวัยกลางคนที่สวมเสื้อผ้าสีเทาและหมวกฟาง

แองเจเล่เอนตัวไปด้านข้างและมองไปข้างหน้า เขาเห็นแสงไฟและกำแพงเมืองขนาดธรรมดาที่แยกเมืองออกจากป่า มีคบไฟห้อยอยู่บนกำแพงและแองเจเล่ได้ยินเสียงเปลวไฟ ทางเข้าเมืองอยู่สุดถนน มียามหลายคนกำลังคุยกันอยู่ข้างประตูเมืองภายใต้แสงไฟสลัว

แองเจเล่ขมวดคิ้ว เขายกมือขึ้น เศษโลหะดำขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นที่ฝ่ามือของเขาและปกคลุมผิวหนัง

ภายในความมืดทำให้ผิวของเขาเหมือนผิวที่เกรียมจากการตากแดด จากนั้นเขาก็สร้างกรรไกรและตัดผมของเขา นอกจากนี้ใบหน้าของแองเจเล่ก็เปลี่ยนไปหลังจากที่ปกคลุมด้วยโลหะดำ เขาดูเหมือนชายหนุ่มธรรมดาที่สามารถพบได้ทุกที่ในเมือง

"ตอนนี้ข้าอ่อนแอเกินไป ข้าต้องระมัดระวัง" แองเจเล่มีแผนอยู่ในใจแล้ว เขายังนอนอยู่บนขนสัตว์

รถม้าเริ่มช้าลงเมื่อเข้าไปใกล้ทางเข้าของประตู

"หยุด อะไรอยู่ในเกวียน" ยามร่างสูงที่มีหนวดเดินมาทางรถม้าและถามเสียงดัง

คอร์เวอร์กระโดดลงจากรถม้าอย่างรวดเร็วและยิ้ม

"ท่านสุภาพบุรุษ นี่เป็นขนสัตว์คุณภาพดีจากทางตะวันตก นี่เป็นสิ่งที่เจ้าเมืองต้องการ"

ยามเพียงแค่ทำตามปกติ เขาพยักหน้าก่อนที่จะเดินไปที่เกวียนและเห็นแองเจเล่นอนอยู่บนขนสัตว์

แองเจเล่กระโดดลงจากเกวียน เขาได้ซ่อมแซมความเสียหายบนชุดเกราะหนังด้วยชั้นโลหะเงินบางๆ เขายืดหลังตรงและจ้องไปที่ยามเหมือนขุนนาง

ก่อนที่แองเจเล่จะพูดอะไรยามก็ก้าวไปข้างหน้าและยิ้ม

"ท่านมาที่นี่เพื่อเรียนใช่ไหม เรารู้กฎของท่านมาร์โคลอฟ ท่านกำลังมองหาใคร ข้าสามารถเป็นไกด์ให้ท่านได้เนื่องจากข้าคุ้นเคยกับธุรกิจนี้"

แองเจเล่ยืนอย่างสงบและพยักหน้า เขาหยิบเหรียญทองออกมาจากกระเป๋าและโยนไปให้ยาม

"ข้าได้มีปัญหาในป่าและทำแผนที่หาย เจ้าบอกข้าได้หรือไม่ว่าข้าอยู่ที่ไหน ข้าอยากรู้ว่าข้ามาถูกที่หรือไม่"

ยามจับเหรียญทองอย่างระมัดระวัง แม้ว่าเหรียญทองจะน้อยแต่มันก็ยังเป็นเงินที่มาก

"นี่เป็นเมืองแอสเตอร์ ท่านมาร์โคลอฟอาศัยอยู่ที่นี่ ถ้าท่านไปอีกเล็กน้อยท่านสามารถพบท่านเจอราดด์และท่านปาร่า พวกท่านสามารถทดสอบท่านได้ถ้าท่านเป็นขุนนาง โปรดตามข้ามา"

ยามร่างสูงนำแองเจเล่ไปที่กำแพงหินและชี้ไปที่ใบประกาศ

"ลองดูสิ ท่านต้องตรงตามข้อกำหนดเพื่อทดสอบ"

ยามคนอื่นๆอิจฉาหลังจากที่เห็นยามร่างสูงคุยกับแองเจเล่ พวกเขาเพียงโค้งให้แองเจเล่และอยู่ข้างประตู ดูเหมือนว่าพวกเขาได้ทำข้อตกลงบางอย่างกัน มีเพียงยามหนึ่งคนที่สามารถพูดคุยกับ'ลูกค้า'ได้

แองเจเล่ไม่สนใจยามคนอื่นๆ เขาสนใจเพียงแค่ใบประกาศ

มีคำเขียนในภาษาแอนแมค

'เจอราดด์ หินเวทมนต์หนึ่งก้อนต่อปี อายุต่ำกว่า 20 จะต้องเป็นขุนนาง'

'มาร์โคลอฟ หินเวทมนต์หนึ่งก้อนต่อปี อายุต่ำกว่า 20 จะต้องเป็นขุนนาง ยังมองหาคนรับใช้'

'ปาร่า หินเวทมนต์หนึ่งก้อนต่อปี อายุต่ำกว่า 20 จะต้องเป็นขุนนาง'

มีตราสีเทาที่แตกต่างกันข้างชื่อของพวกเขา

เจอราดด์เป็นตราของดอกไม้ มาร์โคลอฟเป็นตราของเปลวไฟและปาร่าเป็นตราของหิน

แองเจเล่จำตราเหล่านี้ได้ทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด