ตอนที่แล้วตอนที่ 158: ผลที่ตามมา (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 160: การปะทะภายในป่า (1)

ตอนที่ 159: ผลที่ตามมา (2)


ในช่วงบ่ายที่มีแสงแดงปกคลุมดาดฟ้า ทะเลแวววาวอยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์และมีคลื่นกระแทกตัวเรือ

แองเจเล่นำศพข้างตัวเรือและนำก้อนโลหะที่หนักเข้าไปในปากของพวกเขาแล้วทิ้งลงทะเล

ตู้ม

ศพจมลงไปในทะเลภายในไม่กี่วินาที แองเจเล่ทำความสะอาดมือของเขาด้วยเศษผ้าและเดินไปรอบๆดาดฟ้าแต่ก็ไม่มีใคร

เขาขมวดคิ้วขณะที่เขามองไปที่บันไดจากนั้นเขาก็รีบเดินลงไปที่พื้นที่ห้องโดยสาร

โคมไฟน้ำมันบนผนังยังส่องสว่างแต่สถานที่นี้เงียบ

เสียงฝีเท้าของแองเจเล่ดังก้องอยู่ที่ทางเดิน

พื้นที่ห้องโดยสารมีอยู่ห้าชั้น แองเจเล่อยู่ชั้นแรกและมีพ่อมดฝึกหัดอยู่ที่ชั้นสี่หรือห้า ชั้นเหล่านี้ถูกสงวนไว้สำหรับลูกเรือและพ่อมดฝึกหัด

แองเจเล่ได้กลิ่นของเลือดในอากาศหลังจากที่เดินลงบันได

เขาเห็นกองศพอยู่สุดทาง พ่อมดฝึกหัดทั้งหมดถูกฆ่า มีแองเลือดขนาดใหญ่อยู่บนพื้นและสีของเลือดก็แสดงให้เห็นว่าอย่างน้อยเขาก็ถูกฆ่าตายอย่างน้อยหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้

แองเจเล่รู้ว่าคาเลลโล่เป็นคนทำ

'แผนของเขาคือการกำจัดทุกคนบนเรือ คาเลลโล่ฆ่าพ่อมดฝึกหัดในขณะที่ข้าต่อสู้กับพ่อมดแสงสองคน เขารู้ว่ามันจะต้องใช้เวลาสักพักในการจบการต่อสู้' แม้ว่าแองเจเล่จะเป็นพ่อมดมืดเช่นกันแต่เขาก็ละเว้นจากการฆ่าผู้บริสุทธิ์

แองเจเล่เดินไปที่ศพและเริ่มสังเกต ดูเหมือนว่าร่างกายเหล่านี้จะมีส่วนที่ขาดหายไป

แขนของพ่อมดฝึกหัดและกล้ามเนื้อหน้าอกของพวกเขาหายไปขณะที่แม่มดฝึกหัดหน้าอกหายไป ดูเหมือนว่าพวกมันจะถูกกินไปโดยสัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง แองเจเล่ตรวจสอบบาดแผลและตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง

'ร่างกายของคาเลลโล่เป็นซอมบี้....นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเข็มถึงไม่ได้ผล' แม้ว่าแองเจเล่จะทำให้ร่างของเขาเกิดความเสียหายเขาก็ยังเกือบหลบหนีไปได้โดยการเปลี่ยนตัวเองเป็นแก๊สแปลกๆ 'ลูกไฟเล็กสร้างความเสียหาย 40 หน่วยกับเขา ข้าคิดว่าแม้แต่แกรนด์อัศวินก็ไม่สามารถรับมือได้ มันอาจจะเป็นคาถาพิเศษของเขา.......น่าเศร้าที่เชี่ยวชาญโลหะของข้ามีเพียงความต้านทานกายภาพและเวทมนต์เท่านั้น'

แองเจเล่ค้นร่างกาย เขาต้องการรวบรวมพยานหลักฐาน นอกจากนี้เขายังพบร่างของหญิงสาวที่พูดกับเขาก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าคาเลลโล่ได้นำอุปกรณ์เวทมนต์ของเธอไป

แองเจเล่ตรวจสอบชั้นอื่นๆและยืนยันได้ว่าทุกคนบนเรือลำนี้ถูกกำจัดโดยคาเลลโล่

ซอมบี้คาเลลโล่กินกล้ามเนื้อของซากศพและตัดแขนเพื่อทำเนื้อแห้งหรืออะไรสักอย่าง อย่างไรก็ตามเขาคงไม่ได้คาดหวังว่าแองเจเล่จะมีพลังเช่นนี้

แองเจเล่ตรวจสอบเรือทั้งลำอีกครั้งและยืนยันได้ว่าเขาเป็นเพียงคนเดียวที่เหลือรอดในปัจจุบัน

เขาพบขนมปังที่เหลือและชีสก่อนที่จะกลับไปที่ห้องโดยสารของเขา เขาฆ่าคาเลลโล่และพ่อมดแสงสองคนดังนั้นเขาจึงต้องหาวิธีหลีกเลี่ยงองค์กรของพวกเขา

องค์กรหรือตระกูลพ่อมดส่วนใหญ่จะแก้แค้นให้กับสมาชิกของตน แม้ว่าพ่อมดแสงจะมาจากองค์กรที่อ่อนแอแองเจเล่ก็ยังตัดสินใจที่จะระมัดระวัง เขาวางแผนที่จะลงเรือก่อนถึงท่าเรือที่จะไปหนึ่งท่าและเดินทางไปหอคอยหกวงแหวนทางบก

เรือจะถึงจุดหมายปลายทางด้วยตัวเองดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องง่ายที่แองเจเล่จะออกไป วาฬในห้องเครื่องจะเคลื่อนที่ด้วยตัวมันเอง

*******************

หลายเดือนต่อมา.....

ในตอนเย็น

เรือขนาดใหญ่ค่อยๆแล่นผ่านทะเลที่ไร้ที่สิ้นสุด ในขณะนี้กำลังมีคลื่นอย่างแรง

แองเจเล่ยืนอยู่บนเรือและรู้สึกเหมือนทั้งโลกกำลังสั่น เขาผูกตัวเองกับเสาหลักที่สูงและกว้าง

ผมยาวและชุดคลุมของเขากำลังกระพืออย่างแรง ความหนาวเย็นและความชุ่มชื้นทำให้เขารู้สึกไม่ดี ร่างกายของเขาเอนไปด้านข้างเมื่อเรือโดนคลื่น

"พายุบัดซบ!" เขาด่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากที่ต่อสู้กับพ่อมดสามคน ตอนนี้เรือกำลังใกล้ท่าเรือต่อไป

แองเจเล่ยืนอยู่ที่หัวเรือเกือบตลอดเวลา เขาต้องการที่จะพบกับเหล่าฮาร์ปี้อีกครั้งเมื่อเขามาถึงพื้นที่ที่ถูกโจมตีบนฟิวเจอร์ แผนของเขาคือการรวบรวมเลือดฮาร์ปี้ให้มากขึ้นและนี่คือโอกาสที่ดีที่สุดที่เขามี

น่าเศร้าที่ฮาร์ปี้ไม่มาแต่พายุมาแทน

พลังของตราเกินความคาดหวังของแองเจเล่แต่เขาไม่เห็นฮาร์ปี้แม้แต่ตัวเดียว พวกมันจะต้องจำรูปร่างของเรือได้และตัดสินใจที่จะไม่โจมตีหลังจากที่ถูกสังหารหมู่

แองเจเล่หยุดคิด เขาคว้าราวและโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ข้างหน้า

เปรี้ยง

ฟ้าแลบทำให้ท้องทะเลสว่างขึ้น

ฝนหยดขนาดเท่าถั่วโดนหลังศีรษะของแองเจเล่

หลังจากผ่านไปหลายวินาทีของการตกอย่างหนักมันก็ทำให้ผิวของแองเจเล่เย็น

ชุดคลุมดำของแองเจเล่เปียกโชก แม้ว่าฝนจะตกบนร่างของเขาแต่เขาก็ไม่ได้กังวลกับการเป็นหวัด

เขาจับราวแน่นขณะที่เขามองไปข้างหน้า

ทะเลที่มืดดูเหมือนพื้นที่ไร้ที่สิ้นสุด บางครั้งมันก็เอนไปทางซ้ายและขวา เกือบจะเหมือนกับโลกจะพลิกคว่ำ

แองเจเล่พบสิ่งผิดปกติข้างหน้า

หลังของสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาบางอย่างค่อยๆปรากฏขึ้นบนผิวของทะเล

มันเป็นปลาวาฬที่ยาวเป็นพันเมตรมีแถบหนามสีดำที่หลังของมันซึ่งมีขนาดพอๆกับหอกธรรมดาและมันก็แหลมคมมาก ตาของปลาวาฬแคบและถูกเคลือบด้วยแสงสีเหลือง

เรือดูเหมือนกล่องขนาดเล็กเมือเทียบกับสิ่งมีชีวิตนี้

แองเจเล่หายใจอย่างแรง เขารู้สึกราวกับว่ามีก้อนหินขนาดใหญ่ทุบหน้าอกของเขา

เขาจ้องไปที่ปลาวาฬในขณะที่ใบหน้าของเขาค่อยๆซีดลง

"วาฬอีไคเนต! มันเป็นไปได้อย่างไร....." แองเจเล่จำมอนสเตอร์ที่น่ากลัวนี้ได้

"วาฬที่ยาวเป็นพันเมตร.......ข้าคิดว่าหนังสือพูดเล่นซะอีก...." เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาเพิ่งเห็น เขาไม่เคยคิดว่าข้อมูลของวาฬอีไคเนตในหนังสือจะเป็นเรื่องจริง

วาฬผ่านไปอย่างช้าๆ โชคดีที่หนามของมันไม่โดนเรือ เรืออาจจะเป็นเพียงแค่แพลงตอนของวาฬเพราะดูเหมือนมันจะไม่สนใจ

ฝนได้ตกลงทะเลอย่างหนัก แองเจเล่ยืนอยู่หัวเรือและเฝ้าดูวาฬผ่านไป เรืออยู่ห่างจากกลางหลังของมันแต่คลื่นที่ก็ยังทำให้เรือหมุนหลายครั้ง

สองชั่วโมงต่อมาวาฬก็หายไปจากสายตาของแองเจเล่ เขาสูดหายใจลึกๆด้วยความโล่งใจ เขากังวลว่าวาฬจะขยี้เรือ

นอกจากนี้พายุจากไปพร้อมกับวาฬและทะเลก็สงบลงอีกครั้ง แม้แต่ลมก็อ่อนลง

'ถ้าเช่นนั้นตำนานก็เป็นความจริง วาฬอีไคเนตสามารถดูดพลังของพายุ ข้าไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริง.....' เขาพึมพำ

เรือได้รับการคุ้มครองโดยบัพของเมอร์โฟล์คและมีบาเรียพลังงานที่ขับไล่มอนสเตอร์ทะเลปกติออกไป อย่างไรก็ตามสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวแบบวาฬอีไคเนตก็สามารถทำลายบาเรียได้อย่างง่ายดายและขยี้เรือได้ถ้ามันต้องการ

เขาเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพ่อมดฝึกหัดที่เคยทำร้ายวาฬและเรือก็ถูกกระแทกเป็นเสี่ยงๆ วาฬขนาดมหึมานี้มีเลือดที่โบราณที่สุดในหมู่สิ่งมีชีวิต แม้ว่าพวกมันจะแข็งแกร่งพวกมันก็มักจะไม่โจมตีก่อน พ่อมดฝึกหัดโจมตีวาฬขนาดเล็กที่เป็นญาติของวาฬอีไคเนตและวาฬอีไคเนตก็ฆ่าทุกคนบนเรือรวมทั้งพ่อมดทางการหลายคน

หลังจากที่ท้องฟ้าโล่งดวงจันทร์สองดวงก็ส่องแสงสีขาวลงมาบนท้องฟ้า ทะเลยังคงเงียบสงบ

มันเกือบจะเหมือนกับว่าพายุไม่เคยเกิดขึ้น แองเจเล่รู้สึกโล่งใจ เขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าวาฬมุ่งเป้าไปที่เรือ

แองเจเล่ตระหนักว่ามีคนจำนวนมากหรือสิ่งมีชีวิตจำนวนมากที่แข็งแกร่งกว่าเขาในโลกนี้ เขาต้องแข็งแกร่งขึ้น

**********************

สามวันต่อมา

ในช่วงบ่าย

เรือหยุดลงที่ท่าเรือที่รกร้างอย่างช้าๆ

มีชายหนุ่มผมยาวสีน้ำตาลลงมาจากเรือพร้อมกับกระเป๋าขนาดใหญ่ในมือ

ตุ้บ

เขาลงบนชายหาดที่ปกคลุมไปด้วยหิน

เขาหันหัวไปมองรอบๆและมองที่เรืออยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะเดินไปที่ป่าอย่างรวดเร็ว

หลังจากผ่านไปหลายวินาทีก็มีควันดำบนดาดฟ้าและเปลวไฟก็ถูกจุดในห้องโดยสาร เสากระโดงและใบเรือเริ่มไหม้ เปลวไฟพุ่งสู่ท้องฟ้า

มีไฟลุกโชติช่วงท่าเรือ

แองเจเล่ไม่ได้มองกลับไป เขาขึ้นไปบนเนินและหายไปในพุ่มไม้

แองเจเล่วางแผนที่จะเดินทางไปท่าเรือแรกที่เขาหยุดเมื่อเขาอยู่บนฟิวเจอร์ ชื่อของท่าเรือคือเหยี่ยวทะเลและมันอยู่ใกล้กับหอคอยหกวงแหวน

เขาได้พูดคุยกับนักเดินเรือของฟิวเจอร์มาก่อนและได้รู้ว่าเขาจะต้องข้ามอาณาจักรขนาดกลางสองอาณาจักรก่อนที่จะไปถึงท่าเรือเหยี่ยวทะเล

นอกจากนี้ยังมีองค์กรพ่อมดหลายแห่งอยู่แถวๆนี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด