TXV – 23 งานชิ้นสำคัญ !
TXV – 23 งานชิ้นสำคัญ !
ประกายไฟที่เกิดจากการเชื่อมมันส่องแสงระยิบระยับราวกับว่าเขากำลังเล่นกับดวงดาวอยู่หลังจากนั้น 15 นาทีเซี่ยเหล่ยวางอุปกรณ์การเชื่อมลง จากนั้นเขาจับเฟืองที่ทำการเชื่อมแล้วด้วยมือซ้ายและลองทำการชั่งน้ำหนักดู
ฮัวเว่ยกั่ว หนิงจิง หลงบิง และเจ้าหน้าที่คนนั้นก็เดินเข้ามาดูด้วยความประหลาดใจดวงตาทั้ง 4 คู่จ้องมองลงไปที่เฟืองที่เชื่อมติดกันอย่างสมบูรณ์ เมื่อเขาเห็นเฟืองที่เชื่อมครั้งแรก พวกเขาถึงกับมองที่เซี่ยเหล่ยด้วยสายตาที่ตกตะลึงเป็นอย่างมาก
เฟืองที่เซี่ยเหล่ยทำการเชื่อมเสร็จแล้วมันสมบูรณ์แบบและไม่มีร่องรอยผิดพลาดบนผิวของเฟืองอันนั้นเลย และสิ่งที่น่าชื่นชมมากที่สุดเซี่ยเหล่ยไม่เคยเรียนรู้เทคนิคการเชื่อมโลหะด้วยวิธี TIG มาก่อนแต่เขาสามารถเชื่อมแต่ละส่วนของเฟืองเข้าด้วยกันทั้ง 3 จุด เรื่องที่ 2 ที่ปลายของเฟืองแต่ละด้านถูกเชื่อมติดกันโดยที่มีความหนาไม่เกิน 0.8 มิลลิเมตรทั้ง 3 ด้านซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มาก
นี่เป็นวิธีเป็นที่ชาญฉลาดในการเลือกที่จะเชื่อมทั้ง 3 จุดนี้ติดกัน เขาจงใจใช้วิธีนี้เพื่อทำให้น้ำหนักของเฟืองที่เพิ่มเข้ามาจะไม่มากเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นชิ้นส่วนอันนี้ก็ดูแข็งแรงมากๆ
“ลองชั่งน้ำหนังดูสิ !” ฮัวเว่ยกั่วบอกเจ้าหน้าที่คนนั้น
พนังงานนำชิ้นส่วนไปชั่งบนเครื่องชั่งอิเล็กทรอนิกส์และมันแสดงน้ำหนักรวมออกมาทั้งหมดคือ 11.5 กรัม
เขาดูตัวเลขจากเครื่องชั่งและพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ศาสตราจารย์ฮัวชิ้นส่วนอันนี้ก่อนทำการเชื่อมมันน้ำหนัก 10 กรัม การเชื่อมครั้งนี้น้ำหนักเพิ่มขึ้นแค่ 1.5 กรัม !”
ฮัวเว่ยกั่ว ต้องการน้ำหนักหลังการเชื่อมไม่เกิน 2 กรัมจากน้ำหนักเดิม น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจากการเชื่อมของเซี่ยเหล่ยมีเพียงแค่ 1.5 กรัมเท่านั้น มันเป็นไปตามข้อกำหนดของฮัวเว่ยกั่วที่พูดไว้คือห้ามเกิน 2 กรัม แต่สิ่งที่น่าประทับใจมากที่สุดก็คือการที่เขาสามารถเชื่อมปลายของเฟืองแต่ละจุดมีน้ำหนักเพียง 0.5 กรัมเท่านั้น !
มันดูคล้ายกับการเชื่อมเฟืองเล็กๆให้ติดกันแบบธรรมดาแต่น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาแค่ 1.5 กรัมเป็นสิ่งที่ยากมาก แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเซี่ยเหล่ยว่าเขามีความสามารถมากขนาดไหน
ฮัวเว่ยกั่วนำสิ่งที่เซี่ยเหล่ยเชื่อมเสร็จแล้วมาไว้ในมือของเขาจากนั้นเขาใช้แรงทั้งหมดเพื่อที่จะทำลายให้มันแยกออกจากกัน เขาโยนมันขึ้นฟ้าและกระแทกมันลงพื้นก็ไม่มีร่องรอยของการแตกออกของเฟืองเหล่านั้นเลย
เซี่ยเหล่ยยิ้มและกล่าวว่า “ศาสตราจารย์ฮัวคุณมีเข็มทิศอยู่ในมือนับร้อยชิ้นผมคิดว่ามันเป็นสิ่งนี้ไม่ต้องทนแรงกระแทกมากมายขนาดนั้น มันมีไว้เพื่อค้นหาอะไรบางอย่างด้วยความแม่นยำ คุณไม่ต้องกลัวหรอกว่าการเชื่อมของผมจะไม่มีความเข็งแรงผมเชื่อมมันด้วยวิธีการพิเศษของผมและทำให้น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ เพื่อทำให้เข็มทิศนั้นแสดงประสิทธิภาพออกมาได้มากที่สุด !”
“ฮ่าฮ่า ใช่แล้วคุณเซี่ย ฝีมือของคุณช่างวิเศษยิ่งกว่าจะหาคำพูดใดๆมาพูดความคิดของคุณก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องมากๆน้ำหนักที่น้อยมันหมายถึงความถูกต้องของเข็มทิศก็จะมีมากขึ้นตาม พวกเราอาจจะค้นพบสิ่งลึกลับจากเข็มทิศอันนี้มากขึ้น”
“ศาสตราจารย์ฮัว สิ่งที่คุณพูด ? หมายความว่าจะให้ผมทำงานนี้ใช่ไหม ?”
ศาสตราจารย์ฮัวหัวเราะ “แน่นอน ! ไม่จำเป็นต้องทดสอบอะไรอีกแล้ว การเชื่อมชิ้นส่วนของเฟืองเหล่านั้นเพียงพอแล้วที่เราต้องการจะทดสอบฝีมือของคุณ”
ทันใดนั้นหนิงจิงพูดขึ้นมาว่า “ศาสตราจารย์ฮัว ฉันมีความคิดดีๆบางอย่าง !”
ฮัวเว่ยกั่วหันไปมองหนิงจิงและถามว่า “ความคิดอะไร ?”
“คุณเซี่ยคุณมีเวิกค์ช็อปของตัวเองใช่ไหม ? คุณสามารถผลิตชิ้นส่วนแบบเดียวกับเข็มทิศอันนี้ได้ไหม ? เราจะให้เขาซ่อมเข็มทิศอันนี้พร้อมกับทำเข็มทิศเลียนแบบขึ้นมาในเวลาเดียวกันด้วยวิธีการนี้เราจะมี 2 ทางเลือกสำหรับเราสามารถใช้ชิ้นส่วนจากของเดิมหรือลองใช้ชิ้นส่วนอันใหม่ได้” หนิงจิงกล่าว
เซี่ยเหล่ยคิดสักครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดแทรกขึ้นมาว่า “ด็อกเตอร์หนิงคุณหมายความว่าจะให้ผมทำชิ้นส่วนเลียนแบบให้มีน้ำหนักเท่ากันกับเข็มทิศราชวงศ์หมิงอันนั้นใช่มั้ย ?”
หนิงจิงยิ้มออกมา “ใช่แล้ว นี่คือความคิดของฉัน”
ฮัวเว่ยกั่วปรบมือด้วยความยินดี “ดีมาก หนิงจิงผมจะช่วยให้คุณทำสิ่งนี้ได้ง่ายขึ้นพวกเราจะนำชิ้นส่วนเหล่านี้ไปยังเวิกค์ช็อปของคุณเซี่ยและให้คุณช่วยเลียนแบบและซ่อมเข็มทิศอันนี้ไปในเวลาเดียวกัน เราจะไขควมลับของเข็มทิศทั้งสองอันนี้ได้อย่างแน่นอน”
“คุณเชื่อใจฉันได้ !” หนิงจิงตอบตกลงอย่างรวดเร็ว
“เอาล่ะ คุณเซี่ยคุณอยากได้ค่าจ้างเท่าไหร่ ?” ฮัวเว่ยกั่วกำลังพูดถึงค่าตอบแทนในการซ่อมเข็มทิศอันนี้
“จ่ายให้ผมตามความเหมาะสมที่คุณคิดเลย ศาสตราจารย์ฮัว” เซี่ยเหล่ยกล่าว
“เท่าไหร่ดีล่ะ ? งั้นสำนักงานโบราณคดีจะจ่ายให้คุณ 50,000 หยวน หลังจากที่คุณซ่อมเข็มทิศอันนี้เสร็จแล้ว ตกลงมั้ย ?”
“ตกลง ! ผมจะทำ” เซี่ยเหล่ยตอบรับอย่างรวดเร็ว
50,000 หยวนอาจจะดูเหมือนเป็นจำนวนที่มากแต่มันไม่คุ้มค่าสำหรับเซี่ยเหล่ย ถ้าฮัวเว่ยกั่วจ้างช่างเชื่อมคนอื่นๆพวกเขาคงจะเรียกค่าจ้างมากกว่านี้แน่ แต่เซี่ยเหล่ยไม่ได้สนใจกับเงินจำนวนนี้เลยถึงแม้ว่าเขาจะทำหน้าที่เชื่อมชิ้นส่วนได้อย่างยอดเยี่ยมและเชื่อมมันอย่างปราณีตอย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน !
บุคคลที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดก็คือฮัวเว่ยกั่ว ไม่ใช่เซี่ยเหล่ยแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตามเซี่ยเหล่ยไม่ได้อยากได้เงินมากมาย แต่สำหรับร้านอาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อปที่เพิ่งเปิดให้บริการนี่คืองานชิ้นแรกของอาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อป 50,000 หยวนนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เขาไม่ได้คาดหวังที่จะได้เงินมากมาย เขาต้องการแค่ทำงานอย่างมีความสุขเท่านั้นเอง
“อย่าเสียเวลาเลย ! หนิงจิงไปช่วยจัดชิ้นส่วนเข็มทิศลงในกล่องและไปที่เวิกค์ช็อปของคุณเซี่ย” ฮัวเว่ยกั่วกล่าว
“ได้เลย” หนิงจิงรีบไปนำชิ้นส่วนของเข็มทิศจากตู้นิรภัยออกมาทันที
ในขณะนั้นโทรศัพท์มือถือของหลงบิงดังขึ้นมา จากนั้นเธอก็เดินไปนอกประตูเพื่อรับสายโทรศัพท์
เซี่ยเหล่ยมองไปที่หลงบิงที่ประตู “เธอดูเหมือนจะมีเรื่องวุ่นวายตลอดเวลา ? เธอทำอะไรอยู่กันแน่ ? เธอให้เรามาที่สำนักงานโบรานคดีนี้แต่ทำไมเธอดูมีงานยุ่งตลอดเวลา ?”
“ไปกันเถอะ ฉันเก็บชิ้นส่วนเข็มทิศลงในกล่องแล้ว คุณเซี่ย” หนิงจิงกล่าว
เซี่ยเหล่ยพยักหน้า “ผมขอเป็นคนถือกล่องใบนั้นเอง”
หนิงจิงรีบปฎิเสธอย่างรวดเร็ว “ไม่ ! ฉันจะเป็นคนถือมันเองฉันรู้สึกปลอดภัยกว่าถ้ามันอยู่ในมือของฉัน”
“อะไร ? คุณกลัวหรอ ? คุณกลัวว่าผมจะคว้ากล่องเข็มทิศของคุณและวิ่งหนีไป ?” เซี่ยเหล่ยหัวเราะออกมา
ระหว่างที่พวกเขากำลังหยอกล้อกันหลงบิงเดินกลับเข้ามาในห้องและเดินตรงไปที่เซี่ยเหล่ย “ฉันมีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องไปทำดังนั้นฉันคงไม่ได้ไปที่เวิกค์ช็อปของคุณฉันจะกลับไปหาคุณอีกครั้งหลังจากที่คุณซ่อมเข็มทิศเสร็จแล้ว”
“ได้เลย ดูเหมือนคุณมีงานยุ่งกับอะไรบางอย่าง ?” เซี่ยเหล่ยกล่าว
หลงบิงเธอไม่ได้พูดอะไร เธอหันหลังเดินออกไปจากห้องทันที
เซี่ยเหล่ยเดินตามเธอออกไปนอกห้องและเกิดคำถามมากมายขึ้นในหัวเขา “ทำไมต้องมาหาเราอีกครั้งทำไมต้องเป็นเรา ? เธอกำลังติดตามการใช้ชีวิตของเราตั้งแต่ออกมาจากมาเก๊า เธอต้องการทำอะไรกันแน่ ?”
“คุณเซี่ย เธอไปแล้วทำไมคุณต้องตามเธอไป พวกเราไปกันเวิกค์ช็อปของคุณได้แล้ว” หนิงจิงกล่าว
เซี่ยเหล่ยยิ้มอย่างเก้ๆกังๆและเดินตามหนิงจิงออกไป
หลังจากนั้นไม่นานหนิงจิงขับรถไปถึงร้านอาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อปเมื่อเธอออกจากรถของเธอและเห็นร้านค้าซึ่งอยู่ริมถนนและมันยังไม่เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ
“นี่คือเวิกค์ช็อปของคุณเซี่ยหรอ ?” มันเป็นเพียงร้านเล็กๆในสายตาของเธอ มันต่างจากสิ่งที่เธอจินตนาการไว้ว่ามันต้องเป็นเวิกค์ช็อปที่ยิ่งใหญ่อลังการ
“ใช่ เวิกค์ช็อปของผมเอง ไม่ได้อ่านป้ายที่เขียนไว้หรอ ? ‘อาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อป’”
“ฉันคิดว่า….” หนิงจิงกำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
หม่าเสี่ยวอันเดินออกมาจากร้านและเห็นหนิงจิงยืนอยู่ข้างเซี่ยเหล่ย เขามองไปที่เซี่ยเหล่ยและถามว่า “ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ?”
“นี่คือด็อกเตอร์หนิงจากสำนักงานโบราณคดี” เซี่ยเหล่ยกล่าวจากนั้นเขาชี้ไปที่หม่าเสี่ยวอันและพูดว่า “นี่คือเพื่อนของผม เขาชื่อ หม่าเสี่ยวอัน”
“ยินดีที่ได้รู้จัก คุณหม่า” หนิงจิงยื่นมืออออกไปเพื่อที่จะทักทายเขา
หม่าเสี่ยวอันยื่นมือออกไป เขากำลังยิ้มแย้มอย่างมีความสุขแต่เขาก็ดึงมือกลับไปและพูดว่า “ฮี่ฮี่...มือของผมสกปรกคงไม่เหมาะที่จะมือคุณหรอก”
หนิงจิงดึงมือของเธอกลับ เธอเป็นหญิงสาวที่รักความสะอาดถ้าหม่าเสี่ยวอันยื่นมือที่สกปรกมาจับที่มือของเธอ เธอจะรู้สึกขยะแขยงทันที เธอมองไปที่เซี่ยเหล่ยยืนอยู่ตรงมุมของร้านแต่เธอก็ไม่ได้พูดออกมา เธอกำลังเปรียบเทียบพวกเขาทั้งสองคน 2 คนนี้เหมือนอาจารย์กับลูกศิษย์ในขณะที่คนนึงแต่งตัวมอมแมม สกปรกส่วนอีกคนดูสง่างามและสะอาดสะอ้าน ทำไมพวกเขาถึงแตกต่างกันมากขนาดนี้ ?
“เสี่ยวอัน นายไปบอกพวกช่างซ่อมทีว่าให้หยุดงานได้เลยในวันนี้ ผมจำเป็นต้องใช้เครื่องกลึงให้เขากลับมาใช้ใหม่ในวันพรุ่งนี้” เซี่ยเหล่ยกล่าว
“ได้เลย ผมจะบอกพวกเขาทันที” จากนั้นหม่าเสี่ยวอันเดินเข้าไปในร้านเพื่อพูดคุยกับช่างซ่อมคนอื่นๆ
“คุณเซี่ย คุณมีฝีมือที่ยอดเยี่ยมมากคุณควรจะมีเวิกค์ช็อปที่ใหญ่มากกว่านี้เพื่อสนับสนุนทักษะของคุณ เวิกค์ช็อปแห่งนี้มันเล็กเกินไปฉันคิดว่ามันไม่เหมาะกับคุณเลย” หนิงจิงกล่าว
“หือ ?” เซี่ยเหล่ยหัวเราะออกมาว่า “เวิกค์ช็อปที่ใหญ่กว่านี้ ? ผมไม่รู้จักผู้คนในวงการอุตสาหกรรมเลยคุณช่วยแนะนำให้ผมรู้จักหน่อยได้ไหมล่ะ ?”
“พวกเราก็ไม่ใช่คนแปลกหน้ากันอีกแล้วนะ รึป่าว ? หยุดเรียกฉันว่า”ด็อกเตอร์หนิงได้แล้ว ฉันแก่กว่าคุณ 3 ปี ทำไมคุณไม่เรียกฉันว่าพี่หนิงล่ะ ?” หนิงจิงยิ้มออกมาในขณะที่เธอพูด
“ได้เลย พี่หนิง” เซี่ยเหล่ยกล่าวทันที
หนิงจิงหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข “คุณเรียกฉันว่าพี่หนิงแล้ว แต่ฉันคงไม่สามารถช่วยคุณได้เพราะฉันไม่รู้จักผู้คนในวงการนี้เลยฉันแค่บอกคุณว่าจะต้องเพิ่มขนาดร้านเพื่ออนาคตในอาชีพการงานของคุณ”
คงไม่มีใครที่ไม่อยากพัฒนาในอาชีพของตัวเองเพื่อไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้นหรอก... เซี่ยเหล่ยก็อยากพัฒนาร้านของเขาให้เติบโตมากกว่านี้แต่มันก็คงไม่มีประโยชน์อะไรที่ทำเช่นนี้ ปัจจุบันเขาอยู่บนความเป็นจริงและเขาก็คิดว่าเขามีทักษะที่ยอดเยี่ยมในตัวอยู่แล้วคงไม่จำเป็นจะต้องมีร้านขนาดใหญ่เพื่อพัฒนาตนเองไปมากกว่านี้ เซี่ยเหล่ยพอใจในสิ่งที่ตนเองมีและเขาจะทำในสิ่งที่เขามีให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
หม่าเสี่ยวอันพูดคุยกับช่างเหล่านั้นจากนั้นพวกเขาก็ได้ขึ้นรถสามล้อกลับบ้านไปหลังจากที่บอกลาเซี่ยเหล่ยเสร็จ หลังจากนั้นเซี่ยเหล่ยและหนิงจิงนำเครื่องไม้เครื่องมือเข้าไปยังอาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อปเพื่อเริ่มทำงาน.....
***** เซี่ยเหล่ยมีอายุ 23 ปี หนิงจิงอายุ 26 ปีครับขออภัยในตอนก่อนหน้านี้ด้วยเดี๋ยวผมจะไปแก้ในตอนก่อนหน้านี้ครับ ^^
ขอบคุณครับ แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้า ติดตามข่าวสารและเรื่องราว https://www.facebook.com/Tranxending-Vision-1843606792370694/ ขอเพียงแค่กดไลค์กดติดตาม ก็เป็นกำลังใจให้ผมแปลต่อได้แล้วคร้าบบบ ฝากด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
###################################################################