ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 87 ทัศนคติคือหน้ากากของหัวใจ (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 89 อสรพิษที่พัวพันอยู่รอบขา (อ่านฟรี)

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 88 แสดงอำนาจ รับน้อง กดขี่ (อ่านฟรี)


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 88 แสดงอำนาจ รับน้อง กดขี่

แปลโดย iPAT 

ผู้ใช้วิญญาณทั้งห้าวิ่งไปตามเส้นทางหิมะ

เจียวซานเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า "ใกล้มืดแล้ว ภารกิจของเราคือรวบรวมน้ำแข็งหมัก แม้มันจะง่ายแต่ต้องใช้เวลานาน พวกเราต้องเร่งฝีเท้า ทุกคนตามข้ามา พยายามอย่าให้ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ฟางหยวน หากเจ้าไม่สามารถติดตาม เพื่อแจ้งเรา อย่ากังวล เจ้าเป็นคนใหม่ พวกเราต้องดูแลเป็นพิเศษ"

เจียวซานเผยรอยยิ้มสุภาพ

ฟางหยวนพยักหน้าเบาๆ

สมาชิกอีกสามคนแลกเปลี่ยนสายตากันอย่างมีความนัย ในความเป็นจริงท้องฟ้ายังสว่าง เจียวซานไม่จำเป็นต้องกล่าวถ้อยคำเหล่านี้ อย่างไรก็ตามมันเป็นเพราะเจียวซานต้องการแสดงอำนาจ

สมาชิกทุกคนรู้ความตั้งใจนี้แต่พวกเขาไม่ได้เปิดเผยเจตนาของเจียวซาน

การแสดงอำนาจลักษณะนี้เป็นเรื่องปกติ เมื่อมีสมาชิกใหม่เข้ามา สมาชิกเก่าจะใช้อำนาจออกคำสั่งเพื่อกำจัดความเย่อหยิ่งและควบคุมสมาชิกใหม่

"ไปกันเถอะ" เจียวซานกล่าวเบาๆก่อนจะเร่งฝีเท้าพุ่งไปข้างหน้า

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น เขาเร่งความเร็วและติดตามไปอย่างใกล้ชิด

รองเท้าไม้ไผ่เหยียบลงบนพื้นหิมะและทิ้งรอยเท้าเอาไว้เบื้องหลัง

เส้นทางภูเขาเต็มไปด้วยอุปสรรคโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันถูกปกคลุมด้วยชั้นหิมะ มันเป็นเรื่องง่ายที่จะลื่นล้ม ในเวลาเดียวกันผู้ใดจะรู้ว่ามีหินซ่อนคมอยู่ภายใต้ชั้นหิมะหรือไม่?

หากบางคนเหยียบถูกกับดักของนักล่า มันจะยิ่งลำบาก

การใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย การท่องเที่ยวไปในโลกอาจฟังดูดี แต่ในความเป็นจริงมันต้องอาศัยประสบการณ์ นักท่องเที่ยวหน้าใหม่มักได้รับความทุกข์ทรมานจากมันเสมอ

มีเพียงการฝึกฝนและการทำงานหนักเท่านั้นที่จะทำให้ผู้ใช้วิญญาณสามารถหลีกเลี่ยงอุปสรรคส่วนใหญ่

ลมหนาวพัดเข้าปะทะใบหน้าของฟางหยวนขณะที่เขาวิ่งผ่านพื้นสีขาว

บางครั้งเขาต้องกระโดด บางครั้งต้องหลบออกไปด้านข้าง บางครั้งต้องปีนขึ้นภูเขา

ภูเขาชิงเหมาทั้งหมดกลายเป็นโลกหิมะ

เมื่อกระรอกหรือกวางป่าตระหนักถึงการเคลื่อนไหว พวกมันจะวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว

สามสิบนาทีต่อมาเจียวซานหยุดเท้าเมื่อไปถึงจุดหมาย

เขาหันหน้าไปทางฟางหยวนและเริ่มสรรเสริญด้วยรอยยิ้ม "ทำได้ดี! เจ้าตามข้ามาได้โดยไม่เสียจังหวะ สมกับเป็นอันดับหนึ่งของปีนี้จริงๆ"

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบางตอบ ความตั้งใจในการแสดงอำนาจเป็นสิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจน สำหรับการวิ่ง มันเป็นประเพณีและเป็นวิธีปราบปรามความยโสของเด็กใหม่

ทั้งสองยืนอยู่ที่จุดหนึ่งเพื่อรอสมาชิกอีกสามคน

เมื่อพวกเขามาถึง หน้าผากของพวกเขาเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่ออันเย็นเยียบ ใบหน้าเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ พวกเขาหอบหายใจอย่างหนักหน่วงและทิ้งตัวลงบนพื้นด้วยความเหนื่อยล้า

เจียวซานมองไปพวกเขาด้วยสายตาอันเกรี้ยวกราด "ยืนขึ้น! พวกเจ้าทำให้พวกเราต้องอับอายจริงๆ ดูฟางหยวนและดูพวกเจ้า ฮืม! หลังภารกิจนี้ จงกลับไปฝึกฝนให้มาก!"

สมาชิกทั้งสามคนยืนขึ้นแต่ยังก้มหน้าลงเล็กน้อย พวกเขาถูกดุด่าโดยเจียวซานจนถึงจุดที่ไม่กล้าเงยศีรษะเผชิญหน้า

อย่างไรก็ตามตอนนี้สายตาที่พวกเขามองฟางหยวนเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์

'แปลกมาก เขามีประสบการณ์มากเพียงใด? เหตุใดเขาถึงไม่ล้มลงแม้แต่ครั้งเดียว'

'เห้อ...ความแข็งแกร่งของพวกเราอยู่ในระดับทั่วไป แล้วพวกเราจะแข่งขันกับสัตว์ประหลาดตนนี้ได้อย่างไร?'

'ฮืม ไม่เพียงพวกเราจะไม่สามารถแสดงความสามารถให้เขาเห็นแต่พวกเรากระทั่งกลายเป็นลูกแกะโง่ๆ ชายผู้นี้ช่าง...'

"เอาล่ะ เงยหน้าขึ้น" เจียวซานชี้นิ้วไปข้างหน้า "หุบเขาเล็กๆข้างหน้าคือจุดหมายของเรา ที่นี่มีน้ำแข็งหมักอยู่มากมาย พวกเราจะแยกย้ายกันออกไปเก็บรวบรวมพวกมัน อีกหนึ่งชั่วโมงหลังจากนี้พวกเราจะกลับมารวมตัวกันที่นี่อีกครั้ง กงจิน แจกจ่ายเครื่องมือ"

ชายที่ถูกเรียกว่า กงจิน ยกฝ่ามือขึ้นพร้อมกับแสงสีเหลืองที่จะส่องสว่าง จากนั้นกบสีทองตัวอ้วนกลมก็ปรากฏขึ้น

ฟางหยวนหรี่ตามองและตระหนักถึงวิญญาณดวงนี้

มันคือวิญญาณกบพุงพลุ้ยระดับสอง!

ไม่นานหลังจากนั้นพลังวิญญาณของกงจินก็ถูกดูดกลืนเข้าไปโดยกบพุงพลุ้ยตัวนี้

“อ๊บ!”

กบพุ่งพลุ้ยอ้าปากและสำรอกพลั่วเหล็กขนาดเล็กออกมา

พลั่วเหล็กพุ่งผ่านอากาศและขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ในพริบตามันก็ร่วงลงบนพื้นหิมะ

“อ๊บ! อ๊บ! อ๊บ!”

มันคายอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆออกมาอย่างต่อเนื่อง

พลั่วเหล็กห้าด้ามพร้อมกับกล่องไม้ห้ากล่องวางอยู่ด้านหน้าทุกคน

การเลี้ยงดูวิญญาณเป็นภาระที่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้ใช้วิญญาณ ดังนั้นพวกเขาจึงมีวิญญาณอยู่อย่างจำกัด นี่เป็นเหตุผลที่พวกเขาต้องรวมกลุ่มและสนับสนุนกันในการปฏิบัติภารกิจ

ในกลุ่มเล็กๆ บางคนมีความสามารถในการตรวจสอบ บางคนเชี่ยวชาญการป้องกัน บางคนถนัดโจมตี บางคนเก่งการรักษา และบางคนก็เป็นสายสนับสนุน

กงจินเป็นผู้ใช้วิญญาณสายสนับสนุน กบพุงพลุ้ยของเขาเป็นวิญญาณที่มีมิติเก็บของอยู่ในท้องของมัน

แน่นอนว่าวิญญาณทุกดวงมีข้อดีและข้อเสีย

ข้อเสียของกบพุ่งพลุ้ยคือมันมีพื้นที่เก็บของขนาดเล็ก ทุกครั้งที่มันคายสิ่งของบางอย่างออกมา มันจะต้องส่งเสียงออกมาเนื่องจากความระคายเคือง หากผู้ใช้วิญญาณอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องซ่อนตัว มันอาจเป็นการเปิดเผยที่ซ่อนของพวกเขา

ข้อเสียอีกประการของมันก็คือมันไม่สามารถเก็บวิญญาณไว้ภายใน นอกจากนั้นมันก็ไม่สามารถเก็บยาพิษต่างๆเช่นกัน

หลังจากแจกจ่ายเครื่องมือ สมาชิกแต่ละคนถือพลั่วเหล็กไว้ในมือและแบกกล่องไม้ไว้บนแผ่นหลัง

"ไปกันเถอะ" เจียวซานโบกมือก่อนจะเดินเข้าไปในหุบเขา

ฟางหยวนถือพลั่วเหล็กและแบกกล่องไม้เดินไปอีกทิศทางหนึ่ง

'เด็กใหม่มักจะหุนหันเช่นนี้ ฮ่าฮ่า'

'น้ำแข็งหมักง่ายที่จะรวบรวมงั้นหรือ? หากไม่สามารถแยกแยะความแตกต่าง เขาอาจเก็บสิ่งไร้ประโยชน์กลับมา'

'ความจริงก็คือมันยากที่จะแยกแยะความแตกต่าง สีของน้ำแข็งหมักคล้ายกับน้ำแข็งทั่วไปโดยเฉพาะเมื่อมันถูกปกคลุมด้วยชั้นหิมะ เด็กใหม่สามารถอาศัยเพียงโชคของพวกเขาเท่านั้น'

สมาชิกทั้งสามมองแผ่นหลังของฟางหยวนและลอบหัวเราะอยู่ในใจ

หนึ่งชั่วโมงต่อมาเมื่อพวกเขาเห็นฟางหยวนเดินกลับมาพร้อมกับกล่องไม้ที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งหมัก ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะตะลึง

กระทั่งกล่องไม้ของเจียวซานก็มีน้ำแข็งหมักอยู่เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น นี่ทำให้พวกเขารู้สึกเขินอาย

"มันเป็นน้ำแข็งหมักทั้งหมดจริงๆ" สมาชิกคนหนึ่งตรวจสอบและยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก

"ฟางหยวน เจ้ารวบรวมน้ำแข็งหมักทั้งหมดนี้มาได้อย่างไร?" สมาชิกหญิงผู้หนึ่งไม่สามารถเก็บงำความสงสัยของนางเอาไว้

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น

เขาหัวเราะเบาๆ "อาจารย์อาวุโสเคยกล่าวไว้ น้ำแข็งหมักคือปุ๋ยที่ถูกแช่แข็ง มันจะเรืองแสงสีม่วงอ่อนออกมาในความมืดและมีกลิ่นเหม็นมาก แต่เมื่อมันถูกซ่อนอยู่ในชั้นหิมะ มันจะไม่ส่งกลิ่นออกมา มันเป็นอาหารของหนอนอ้วนจอมผายลม บางครั้งมันจะถูกนำไปผสมกับดินและใช้ปลูกพืช ผัก ผลไม้ ตระกูลมอบภารกิจนี้ให้พวกเรา เหตุผลอาจเป็นเพราะตระกูลต้องการนำมันไปเป็นปุ๋ยให้กับกล้วยไม้จันทราที่ปลูกเอาไว้ในถ้ำใต้ดิน"

คำกล่าวของฟางหยวนทำให้ใบหน้าของคนทั้งสี่กลายเป็นแข็งค้าง

'นี่เป็นทฤษฎีที่ได้รับการสั่งสอนมาจากสถานศึกษา แต่ทฤษฎีกับความจริงเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อมโยง ฟางหยวนผู้นี้เคยเก็บรวบรวมน้ำแข็งหมักมาก่อนหรือไม่?' สมาชิกสามคนลอบมองหน้ากันด้วยความตกใจ

เจียวซานมองฟางหยวนด้วยดวงตาที่ส่องประกาย "ทำได้ดีมาก ฟางหยวน"

เขายกย่องด้วยรอยยิ้มอบอุ่นและอ่อนโยน

จากนั้นเขาก็หันหน้าไปกล่าวกับคนอื่นๆ "ตอนนี้ภารกิจของเราเสร็จสิ้นแล้ว ทุกคนส่งพลั่วและกล่องไม้ให้กงจิน ถึงเวลากลับแล้ว"

เมื่อพวกเขากลับมาถึงหมู่บ้าน มันก็เป็นยามบ่ายแล้ว

ผู้ใช้วิญญาณทั้งห้าเดินออกจากห้องโถงภารกิจพร้อมกับหินวิญญาณหกก้อน เจียวซานเก็บไว้สองก้อนขณะที่แจกจ่ายให้กับคนอื่นๆคนละหนึ่งก้อน

หลังจากได้รับหินวิญญาณมาอย่างง่ายดาย ทุกคนจึงสามารถเผยรอยยิ้มพึงพอใจ

ฟางหยวนเก็บหินวิญญาณเอาไว้และคิด 'เมื่อเด็กใหม่เข้ากลุ่ม ตระกูลจะมอบรางวัลใหญ่ให้กับพวกเขาเพื่อสนับสนุนและให้กำลังใจเด็กใหม่ ภารกิจการรวบรวมน้ำแข็งหมัก รางวัลของมันควรจะเป็นหินวิญญาณสองก้อนต่อคน แต่ด้วยผลงานของข้า มันอาจได้มากขึ้นถึงสามเท่า ตามตรรกะ ข้าควรได้รับหินวิญญาณมากกว่านี้ การวิ่งบนเส้นทางหิมะคือการแสดงอำนาจ การแยกย้ายกันออกไปเก็บรวบรวมน้ำแข็งหมักเพียงลำพังคือการรับน้อง และการแบ่งหินวิญญาณเช่นนี้คือการกดขี่"

หินวิญญาณหนึ่งหรือสองก้อนไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับฟางหยวน แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกแปลกใจคือเขากับเจียวซานไม่เคยรู้จักกัน แล้วเหตุใดเจียวซานถึงต้องกดขี่เขา?

‘เว้นเพียงว่า...’ ความคิดหนึ่งปรากฏขึ้นในใจของฟางหยวน