Chapter 56 – ลุยเลย กลับไปตระกูลลั่วเพื่อสู้กับบอส
Chapter 56 – ลุยเลย กลับไปตระกูลลั่วเพื่อสู้กับบอส
“ติ้ง!”
ในตอนนี้โลกดูเหมือนจะเงียบลง.
ลั่วเทียนอดทนรอ.
“ขอแสดงความยินดีด้วยผู้เล่น ลั่วเทียน ได้ฆ่ากิ้งก่าลาวา ได้รับค่าประสบการณ์20,000แต้มและพลังปราณ 300 หน่วย…”
“ขอแสดงความยินดีด้วยผู้เล่น ลั่วเทียน ได้รับสายเลือดของ กิ้งก่าลาวา คุณต้องการดูดซับมันหรือไม่?”
“ขอแสดงความยินดีด้วยผู้เล่น ลั่วเทียน ได้รับกระดูกสันหลังของกิ้งก่าลาวา.”
“ขอแสดงความยินดีด้วยผู้เล่น ลั่วเทียนได้รับความสามารถของกิ้งก่าลาวา แมกม่าไฟ คุณต้องการบ่มเพาะหรือไม่?”
“โอ้ เลือดตรูเดือดอย่างกับนรก!!”
เสียงแจ้งเตือนต่อเนื่องดังออกมาหลังจากที่ลั่วเทียนได้ระเบิดกิ้งก่าลาวา มันทำให้เขารู้สึกมีความสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึง แมกม่าไฟ ทักษะนี้มันน่ากลัวอย่างแท้จริง
ถึงแม่ว่าเขาจะหลบทักษะของกิ้งก่าลาวามาได้ แต่มันก็ต้องใช้การเคลื่อนไหวอย่างมาก กลิ่นอายระยิบระยับ,แมกม่าที่กลิ้งไปรอบๆ,และความสามารถในการทำลายอย่างน่าเหลือเชื่อ หาไม่ได้เปิดใช้งาน level 2 Berserk ก็ไม่มีทางที่ลั่วเทียนจะหลบมันได้.
Level 2 Berserk เพิ่มความสามารถเป็นสี่เท่า ให้พลังที่ไม่มีสิ้นสุดกับเขา
ลั่วเทียนรู้สึกว่าเขาแทบจะไม่สามารถจัดการกับพลังอย่างนั้นได้ ส่วนใหญ่แล้วสิ่งเหล่านี้คือขีดจำกัดของร่างกายเขา
พลังที่มาพร้อมกับBerserk Level 2 มีความแข็งแกร่งมาก ดังนั้นร่างกายของเขาที่อยู่ในขั้น 3 ปราณเชี่ยวชาญไม่สามารถจัดการกับพลังที่ปะทุออกมาได้ เมื่อพลังสี่เท่าหายไปร่างกายของลั่วเทียนก็อ่อนอย่างกับข้าวต้ม เขาได้ล้มลงและรู้สึกพลังชีวิตขาดหายไป ร่างกายของเขารู้สึกอึดอัดจนไม่สามารถพูดออกมาได้.
พลังปราณหนึ่งแสนหน่วยมันค่อนข้างมากที่ลั่วเทียนต้องถูกบังคับให้ใช้เพื่ออัพเลเวลBerserk.
แต่ถ้าเขาไม่เพิ่มเลเวลBerserk คนที่นอนอยู่บนพื้นจะเป็นเขาแทน!
ในจุดนี้ดูเหมือนจะคุ้มค่า เพียงแค่ทักษะแมกม่าไฟทำให้ลั่วเทียนได้คะแนนมากขึ้นอย่างแน่นอน เขาคิดทันทีและตอบว่า “ใช่” เพื่อเรียนทักษะนั้น.
“ติ้ง!”
“ขอแสดงความยินดีด้วยลั่วเทียนได้เรียนสกิลใหม่ - แมกม่าไฟ.”
ทักษะการต่อสู้: แมกม่าไฟ
ระดับ: 3
ความชำนาญ: 0/100
สิ่งที่ต้องการ: 100 พลังปราณ
รายละเอียดสกิล:สกิลที่สามารถปลดปล่อยการโจมตีด้วยแมกม่าซึ่งจะเพิ่มพลังมากขึ้นหากว่าระดับสูงขึ้น ในระดับความสมบูรณ์การโจมตีด้วยแมกม่าจะเหมือนกับการปะทุของภูเขาไฟระเบิด!(super volcanic eruption)
“โอ้ ตรูอยากตาย!”
“ปะทุของภูเขาไฟระเบิด?”
“มันจะทำลายโลกได้ไหมนะ?” ลั่วเทียนตกใจมาก บนดาวโลกเขารู้ว่าการปะทุแบบภูเขาไฟระเบิดจะสามารถจัดการสิ่งมีชีวิตได้ทั้งหมด.
ถ้าเขาสามารถก้าวเข้ามาในช่วงว่างนี้แล้วและเดินทางไปยังดางดวงใหม่ จากนั้นเขาก็โจมตีเพียงครั้งเดียวและกวาดล้างสัตว์ปีศาจทั้งหมด แถบประสบการณ์จะต้องเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน...
เขาไม่กล้าที่จะเพ้อฝันอีก
เจ๋งฝุดๆ นี่มันโค-ตะ-ระ-สวดยอด
ลั่วเทียนไม่กล้าคิดถึงฉากนั้นอีกต่อไป
“เจ้าอ้วน…”
“เอ่อ?”
“เป็นห่าอะไรเจ้าอ้วน เจ้าคิดอะไรให้มันเร็วๆหน่อย.”ลั่วเทียนหัวเราะเบาๆเพียงไม่กี่วินาทีจากการเรียนรู้ทักษะใหม่ของเขาและก็ได้หันหัวของเขาไปยังร่างกายของกิ้งก่าลาวา.
เขากำลังดื่มเลือดอย่างบ้าคลั่งและรูปลักษณ์ที่ดุร้ายบนศรีษะของเขาก็แสดงท่าทางที่หิวกระหายเมื่อดูดซึมมันทั้งหมด
ทันใดนั้น...
ความคิดถึงเรื่องสำคัญแว่บเข้ามาทำให้เขารีบเตือนฟางเล่ย “เจ้าอ้วน ทำให้แน่ใจว่าเจ้าไม่ได้กินแกนปีศาจ สิ่งนี้จำเป็นต้อการช่วยเด็กสาว.”
ฟางเล่ยยกหัวของเขาและหัวเราะด้วยเสียงโง่ๆก่อนจะพูด“ไม่ต้องห่วง นายท่าน คราวนี้ข้าจะไม่กินแกนปีศาจแน่นอน”
หลังจากนั้นไม่นาน ฟางเล่ยก็พบแกนปีศาจที่เรืองแสงอย่างกับมีชีวิตชีวา.
แกนปีศาจ!
แกปีศาจของกิ้งก่าลาวา.
ในเวลานั้นเอง...
ผู้ชมที่ตะลึงกับการจัดการของลั่วเทียนก็ตกอยู่ในความวุ่นวาย.“โอ้พระเจ้า เขาชนะได้ไง?”ฮี่ ฮี่… ฮี่…”
“แม่ บอกข้าหน่อยว่ามันเป็นเรื่องไม่จริง...เงินของข้า ...เงินของข้า…!”
“555 บิดาคนนี้ได้ลงข้างลั่วเทียนไว้ โชคดีที่ข้าไม่ได้เปลี่ยนข้าง 5555!”
“แกนปีศาจ แกนปีศาจ! มันเป็นแกนปีศาจของกิ้งก่าลาวา…!”
“ลั่วเทียนสามารถรอดออกมาได้อย่างไร?”ตาของลั่วจินซานเริ่มขุ่นเคืองขณะที่เขากำหมัดแน่นที่อยู่ในแขนเสื้อ แต่เมื่อเขาได้เห็นแกนปีศาจในมือฟางเล่ยการแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่เย็นชา.
ข้างๆเขาโจวไทเหรินมีหน้าตาที่น่าเกลียดอย่างมากเขาไม่อาจจะพูดได้แม้แต่คำเดียว
“5555…”
“น้องลั่วเทียนมีพลังถึงขนาดฆ่ากิ่งก่าลาวาได้ ข้าแทบไม่ยากเชื่อสายตาตัวเองจากการชื่นชมเขา
”ซ่งหยวนไคว่หัวเราะด้วยความเต็มใจ.
ซ่งหยวนหนานยิ้มอ่อน เมื่อนึกถึงพลังที่ลั่วเทียนระเบิดออกมาจากร่างกายของลั่วเทียนจิตใจของเขาก็วิ่งพล่าน ในขณะที่เขารู้สึกโชคดีมากที่ได้ตัดสินใจร่วมมือกับลั่วเทียน.แม่ว่าเราจะตายเราก็ไม่อาจทำร้ายบุคคลนั้นได้ผู้ชมที่มีใบหน้าที่น่าเกลียดที่สุดในเหล่าฝูงชนคือซูเม่ยจากผู้คนนับหมื่น.
รอยยิ้มก่อนหน้าของเธอเหมือนกับดอกไม้บาน แต่ตอนนี้มันบิดเบี้ยวอย่างกับตับหมู หน้าตาน่าเกลียดบนใบหน้าทำให้เธอน่าเหียกอย่างมาก.
หมัดน้อยๆของเธอที่กำแน่ก่อนที่จะคลี่ออกและกระพริบตาไม่กี่ครั้งก่อนที่จะสายตาของเธอจะเปลี่ยนไป จากนั้นเธอก็พึมพัม “ดีใจด้วยที่เจ้าไม่ตาย เพราะพี่ใหญ่จะกลับมาเร็วๆนี้ ถึงตอนนั้นฆ่าจะฆ่าเจ้ากับมือเอง!”
ในห้องพนักงาน.
เกิดความเงียบขึ้น หลี่กุยจ้องมองไปยังเสียงที่อึกทึกคึกโครม.
ลุ่ยหยูก็แข็งเหมือนกับตุ๊กตา.
เขาไม่อาจแม้กระทั้งกระพริบตาได้ขณะที่มองไปยังลั่วเทียน เขาไม่เชื่อว่าสิ่งที่เขาเห็นนั้นเป็นความจริงและรู้สึกว่าทุกอย่างมันเป็นภาพลวงตา.
ภาพลวงตา ทั้งหมดเป็นภาพลวงตา ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นห่าแบบนี้ได้อย่างไร!
มันเป็นไปได้อย่างไร?
คนที่อยู่ขั้น 3 ปราณเชี่ยวชาญสามารถต่อกรกับกิ้งก่าลาวาที่อยู่ในสภาวะบ้าคลั่งได้?
ลั่วเทียนบ่มเพาะทักษะใดกันแน่? มันมีพลังขนาดฆ่ากิ้งก่าลาวาได้?
เขากำลังขยี้ตาจำกระทั่งมันแดง แต่ความจริงก็อยู่ตรงหน้า.
“หินหยวน 10 ก้อนที่เดิมพัน…”
“อัตราต่อรอง 1:10…”
“ผู้จัดการหลี่ เรา....เราไม่ได้มีหินหยวนมากมายนัก อย่างไร....เราควรทำอย่างไรดี?”คนหนึ่งถามอย่างช่วยไม่ได้
.
หลี่กุยหลับตาลงและหอบหายใจอย่างหนัก.โดยไม่ต้องรอคำตอบ ดวงตาของลุ่ยหยูก็เปลี่ยนไปและก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับพูดว่า “ผู้จักการหลี่ แกนปีศาจกิ้งก่าลาวา...เด็กคนนี้ลั่วเทียนควรจะใช้พลังปราณของเขาหมดแล้วและอยู่ในสภาพที่บาดเจ็บสาหัส ตราบเท่าที่เราได้รับแกนปีศาจนั่น…”ผลัก~!”
หลี่กุยหันกลับไปตบก่อนจะพูดว่า “ลุ่ยหยู เจ้าต้องการทำลายกฏขององค์กรไวโอเล็ตงั้นหรอ?!”
ห้านิ้วที่อยู่บนใบหน้าสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน หลี่กุยโกรธขณะที่ลุ่ยหยูกุมหน้าล้มลงร่างกายของเขาสั่นและไม่กล้าที่จะหายแรงเกินนัก ในตอนนี้
พวกเขาไม่สนใจเกี่ยวกับชีวิตความเป็นตายในสนามประลอง.
ถ้ามนุษย์ชนะทุกสิ่งของสัตว์ปีศาจจะเป็นของพวกเขา.
ถ้าปีศาจชนะ มนุษย์ก็ตาย!
นี่คือกฏขององค์กรไวโอเล็ตที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง กฎได้ถูกทำลายไปแล้วเมื่อพวกเขาตระหนักได้ว่ากิ้งก่าลาวาได้โดยยาทำให้มันบ้าคลั่งเมื่อมันปรากฎตัว พวกเขาควรจะยุติการต่อสู้ตามกระบวนการ แต่เนื่องจากตาที่มืดบอดกับเรื่องส่วนตัวของหลี่กุยไม่ได้ทำอย่างนั้นและเขารู้ว่ามันผิดพลาด ถ้าพวกเขาวางแผนที่จะเอาแกนปีศาจกิ้งก่าลาวาไปเท่ากับผิดต่อเบื้องบน!
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมหลี่กุยจึงโกรธมาก.
“รายงานไปที่สำนักงานใหญ่!”
“นอกจากนี้เราจะรายงานความผิดพลาดด้วยเช่นกัน…”
“รายงานกับหัวหน้าผู้คุมกฏในเรื่องนี้ ข้าจะยอมรับการลงโทษทุกอย่างทั้งหดม.”หลี่กุยพูดเบาๆ.
-------------
“แกร๊ก~!”
“ตูม~…”
เส้นเลือดดำปรากฎบนร่างของฟางเล่ยทั่วทุกอณูทำให้เขาน่าเกลียดอย่างมาก ได้ยินเสียงที่แตกหักอย่างต่อเนื่องและภาพสัตว์ร้ายที่หัวของเขาก็ดูน่ากลัวมากยิ่งขึ้น
“5555…”
“นายท่าน ตอนนี้ข้าทะลวงผ่านปราณพื้นฐาน ขั้น 7 แล้ว.”ฟางเล่ยยิ้มกว้าง.
“
บัดซบ!”
ลั่วเทียนยิ้มสุดปากและพูดอย่างมีความสุข “การบ่อเพาะของข้าแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าการบ่มเพาะของเจ้าจะน่าสนใจยิ่งกว่า.”ดูดซับเลือดของสัตว์ร้ายและเพิ่มระดับ...ฟางเล่ยสามารถเป็นสัตว์ร้ายได้เหมือนกัน?ความคิดเหล่านี้วาบผ่านใจของลั่วเทียนก่อนที่เขาจะหัวเราะข้างใน “ใครจะสนว่าเขาเป็นสัตว์ร้ายหรือไม่ตราบเท่าที่เขายังคงเป็นพี่ชายของข้า!”
หลังจากนั้นทันที...
ลั่วเทียนโบกมือและปากของเขาก็เผยให้เห็นรอยยิ้มกว้าง. “ไปกัน กลับตระกูลลั่ว!”
คำพูดเหล่านี้จริงๆมันไม่ได้ออกไป ลั่วเทียนไม่ได้พูดออกมา.
ประโยคที่สมบูรณ์ควรจะเป็นแบบนี้
“ลุบเลย กลับไปที่ตระกูลลั่วและสู้กับบอส!”