เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 86 ความสงสัยและการสอบสวน (อ่านฟรี)
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 86 ความสงสัยและการสอบสวน
แปลโดย iPAT
บนลานประลอง ฟางเจิ้งเอนกายอยู่ที่พื้นโดยไม่เคลื่อนไหว
การแสดงออกของฟางหยวนยังสงบขณะที่ยืนอยู่กลางลานประลอง
หลังจากชั่วครู่ เสียงของฝูงชนปะทุขึ้นอีกครั้ง
"นี่เป็นไปได้อย่างไร?" บางคนยกมือขึ้นกุมศีรษะของตนและรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
"เพียงกำปั้นก็สามารถทำลายการป้องกันของวิญญาณกายาหยกเขียวงั้นหรือ? นี่...นี่..." บางคนรู้สึกพูดไม่ออก
"ป่าเถื่อนนัก เขาชกเกราะหยกเขียว เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดบ้างงั้นหรือ?" เด็กหญิงบางคนสูดหายใจลึก
"ขาสามารถทำลายการป้องกันของวิญญาณกายาหยกเขียวด้วยมือเปล่าโดยปราศจากวิญญาณสายป้องกัน ล้อเล่นหรือไม่?" ดวงตาของผู้ใช้วิญญาณบางคนกระตุก
การไร้ปรานีกับผู้อื่นเป็นเรื่องง่าย แต่การโหดร้ายกับตนเองยากที่จะกระทำ
ฟางหยวนใช้มือเปล่าทุบทำลายเกราะหยกเขียว ไม่เพียงเขาจะไร้ปรานีกับน้องชายของตนแต่เขายังทำเรื่องที่โหดร้ายต่อตัวเองอีกด้วย
"ข้าจะไปดู" อาจารย์อาวุโสไม่สามารถนิ่งเฉย เขากระโดดขึ้นไปบนลานประลอง
เขานั่งลงตรวจอาการบาดเจ็บของฟางเจิ้งก่อนที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อพบว่าฟางเจิ้งไม่ได้อยู่ในสถานการณ์วิกฤต มันเป็นเพียงบาดแผลภายนอกและหมดสติไปด้วยความตกใจเท่านั้น
'ไม่น่าเชื่อ ภายใต้การป้องกันของวิญญาณกายาหยกเขียว เขายังได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีด้วยมือเปล่า' อาจารย์อาวุโสเงยหน้ามองฟางหยวนด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
"ฟางหยวน ข้าจะช่วยรักษาเจ้า" อาจารย์อาวุโสลุกขึ้นและก้าวเข้าไปจับต้นแขนของฟางหยวนเอาไว้
มือของฟางหยวนอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างแย่ มันฉีกขาดและเผยให้เห็นกระดูกที่แตกร้าว
'บาดแผลรุนแรงถึงเพียงนี้ แต่เขากลับไม่แม้แต่จะขมวดคิ้ว' อาจารย์อาวุโสรู้สึกสะดุ้งอยู่ในใจเมื่อเห็นบาดแผลของฟางหยวน
เขาใช้น้ำเสียงที่ค่อนข้างซับซ้อนพูดกับฟางหยวน "อดทนหน่อย การรักษาค่อนข้างเจ็บปวด""
หลังกล่าวจบคำ อาจารย์อาวุโสกางนิ้วทั้งห้าออกและปล่อยคลื่นแสงสีฟ้าออกมา
จากนั้นอาจารย์อาวุโสก็ใช้ฝ่ามือที่ดูราวกับประติมากรรมหยกสีฟ้าสัมผัสบาดแผลของฟางหยวนอย่างแผ่วเบา
ฟางหยวนรู้สึกราวกับหยกอันเย็นเยียบสัมผัสกับกระดูกของเขาโดยตรง มันทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดเหมือนถูกมีดแทงเข้าไปในหัวใจ อย่างไรก็ตามเขายังไม่ส่งเสียงใดๆออกมา
มือของอาจารย์อาวุโสปล่อยแสงสีฟ้าที่อ่อนโยนออกมารักษาบาดแผลของฟางหยวน นั่นทำให้กระดูกที่แตกร้าวและเนื้อหนังของเขาฟื้นฟูขึ้นอย่างรวดเร็ว
ฟางหยวนสูดหายใจลึกเพื่อสะกดข่มอาการคันที่ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง
การแสดงออกของอาจารย์อาวุโสสงบนิ่งขณะรักษาอาการบาดเจ็บของฟางหยวน อย่างไรก็ตามเขาลอบตรวจสอบทะเลวิญญาณของฟางหยวนอย่างลับๆ
ในทะเลวิญญาณสีฟ้าเข้มประกายทองแดง วิญญาณสุราเล่นน้ำอยู่อย่างเพลิดเพลิน
กำแพงที่โอบอุ้มทะเลวิญญาณเป็นกำแพงคริสตัลสีขาวที่งดงาม นี่คือทะเลวิญญาณระดับหนึ่งขั้นสุดยอด
อาจารย์อาวุโสยังตรวจสอบร่างกายของฟางหยวนต่อไป
ในที่สุดเขาก็พบวิญญาณแสงจันทร์และวิญญาณแสงดาวอยู่บนฝ่ามือของฟางหยวน
'ไม่มีวิญญาณดวงอื่น ฟางหยวนใช้ความแข็งแกร่งของตนเองในการทำลายเกราะหยกเขียวจริงๆงั้นหรือ? พลังที่เขาปลดปล่อยออกมาเหนือกว่าความแข็งแกร่งของผู้ใหญ่วัยฉกรรจ์ แต่เขายังเป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุสิบห้า แล้วเขามีความแข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร?' ดวงตาของอาจารย์อาวุโสส่องประกายขึ้น
"ผู้อาวุโส ขอบคุณสำหรับการรักษา" ฟางหยวนป้องหมัดขอบคุณ
หากเป็นโลกมนุษย์ใบเดิม อาการบาดเจ็บดังกล่าวอาจต้องใช้เวลาหนึ่งหรือสองปีในการรักษา แต่ในโลกวิญญาณใบนี้ บาดแผลของฟางหยวนสามารถรักษาได้อย่างรวดเร็ว
ด้วยแง่มุมที่น่าอัศจรรย์ของที่นี่ ตอนนี้มือของฟางหยวนถูกกู้คืนกลับเป็นปกติเรียบร้อยแล้ว แม้เขาจะยังรู้สึกอ่อนแรงอยู่เล็กน้อย แต่ผลข้างเคียงนี้จะหายไปภายในเจ็ดวัน
อย่างไรก็ตามฟางหยวนตระหนักถึงแรงจูงใจที่แท้จริงของอาจารย์อาวุโส มันคือการตรวจสอบทะเลวิญญาณของเขา โดยปกติแล้วบาดแผลของเขาสามารถรักษาได้โดยผู้ใช้วิญญาณสายรักษาทั่วไป นี่ทำให้ในใจของฟางหยวนไม่รู้สึกสำนึกขอบคุณอาจารย์อาวุโสแม้แต่น้อย
ฟางหยวนคาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นเขาจึงทิ้งวิญญาณหมูขาวและวิญญาณกายาหยกเขียวไว้ในถ้ำลับที่สอง สำหรับวิญญาณกาลเวลา กระทั่งอวี๋โป้จะตรวจสอบด้วยตนเอง เขาก็จะไม่พบสิ่งใด
อาจารย์อาวุโสไม่พบสิ่งผิดปกติ นั่นทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด แม้เขาจะสงสัย แต่ต่อหน้าผู้คนมากมายเขาไม่สามารถเปิดปากถามออกมาโดยตรง
"ฟางหยวน เจ้าทำได้ดีมาก จงทำงานหนักต่อไป" อาจารย์อาวุโสตบไหล่ฟางหยวนก่อนจะประกาศ "ผู้ชนะอันดับหนึ่งของการสอบปลายปีคือฟางหยวน!"
ตั้งแต่อาจารย์อาวุโสขึ้นไปบนลานประลอง ผู้ชมทั้งหมดต่างปิดปากเงียบ เพียงเมื่อได้ยินการประกาศนี้ เสียงวิพากษ์วิจารณ์จึงปะทุขึ้นอีกครั้ง
"ฟางหยวนกลายเป็นผู้ที่ได้หัวเราะเป็นคนสุดท้าย"
"เขามีพรสวรรค์นภาที่สามแต่สามารถเอาชนะผู้ใช้วิญญาณระดับสองที่ครอบครองวิญญาณกายาหยกเขียว? เขาโกงหรือไม่?"
"เป็นไปไม่ได้! เขาได้รับการรักษาและตรวจสอบจากอาจารย์อาวุโสโดยตรง หากอาจารย์อาวุโสไม่พบปัญหา นั่นหมายความว่าฟางหยวนไม่ได้โกง"
"กำปั้นของฟางหยวนได้รับบาดเจ็บสาหัส นั่นเป็นเรื่องปกติ แต่เขาเป็นเพียงเด็กอายุสิบห้า แล้วเขามีความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าผู้ใหญ่ได้อย่างไร? นี่เป็นสิ่งที่ยังน่าสงสัย"
"มีสิ่งใดน่าสงสัย ผู้คนมากมายเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ที่แปลกประหลาด ทั้งพละกำลังสุดขีดหรือความฉลาดเฉลียวอันเป็นที่สุด แท้จริงแล้วความแข็งแกร่งของฟางหยวนไม่ใช่สิ่งที่จะเป็นไปไม่ได้ ลองคิดถึงชายผู้นั้น" ผู้ใช้วิญญาณบางคนชี้นิ้วไปที่ซื่อซาน
บางคนเข้าใจทันที "โอ้ ถูกต้อง ซื่อซาน เมื่อเขายังเด็ก เขาก็มีพละกำลังที่เหนือกว่าผู้ใหญ่ไปแล้ว บางทีฟางหยวนอาจเป็นสัตว์ประหลาดเช่นเดียวกับเขา"
"ถูกต้อง ตั้งแต่เด็ก ฟางหยวนก็สามารถแต่งบทกวีจนมีชื่อเสียง ทุกคนคิดว่าเขาต้องมีพรสวรรค์นภาที่หนึ่ง แต่เขากลับมีพรสวรรค์นภาที่สาม อย่างไรก็ตามดูเหมือนสวรรค์จะไม่ได้ทอดทิ้งเขา"
"แต่พรสวรรค์ในการบ่มเพาะของเขายังเป็นนภาที่สาม หากมันเป็นนภาที่สอง เขาอาจกลายเป็นซื่อซานอีกคน ฮืม ไม่มีสิ่งใดต้องอิจฉา การบ่มเพาะของผู้ใช้วิญญาณพึ่งพาวิญญาณ หากข้ามีวิญญาณหมูดำ ข้าจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเขา เขาสามารถยโสได้เพียงชั่วครู่เท่านั้น" บางคนยักไหล่อย่างไม่แยแส
ฟางหยวนเดินลงมาจากลานประลอง เขากวาดตามองผู้คนที่วิพากษ์วิจารณ์เขาพร้อมกับเผยรอยยิ้มเย็นชาอยู่ภายใน
แหล่งที่มาของวิญญาณสุราได้รับการอธิบายอย่างสมบูรณ์แบบจากฟางหยวน แต่เขาไม่สามารถอธิบายการคงอยู่ของวิญญาณกายาหยกเขียว ดังนั้นเขาจึงต้องเก็บมันเป็นความลับและไม่สามารถใช้งานมันในที่สาธารณะ
ฟางหยวนไม่สนใจความคิดของผู้อื่น สำหรับตัวตนระดับสูง พวกเขาจะคิดว่ามันเป็นความช่วยเหลือจากบางคนที่ลอบสนับสนุนเขาอยู่อย่างลับๆ
ผู้นำตระกูลอวี๋โป้ยังไม่ได้นั่งลงแต่ยืนนิ่งและขมวดคิ้วลึก
เรื่องนี้ไปไกลเกินกว่าการควบคุมของเขา
แม้ฟางหยวนจะได้ที่หนึ่งในการสอบปลายปี อวี๋โป้ก็ไม่ได้สนใจมากนักเพราะมันไม่ใช่สิ่งสำคัญ
แต่เขาเป็นห่วงฟางเจิ้ง
ไม่สามารถปฏิเสธว่าฟางเจิ้งจะต้องได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้
บาดแผลทางจิตใจที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตในอนาคตของเขา
'ภายใต้การดูแลสั่งสอนของข้า ฟางเจิ้งสามารถบรรลุระดับสองเป็นคนแรก นั่นทำให้เขามีความเชื่อมั่น แต่ความเชื่อมั่นนั้นอาจถูกทำลายไปจนหมดสิ้น เห้อ...การทำงานหนักของข้ากลายเป็นเพียงหมอกควันที่ลอยหายไปในพริบตา' อวี๋โป้ถอนหายใจกับตนเองและรู้สึกรังเกียจฟางหยวนขึ้นมาเล็กน้อย
หากฟางหยวนแพ้ฟางเจิ้ง มันจะสมบูรณ์แบบ
แต่ความจริงคือฟางหยวนชนะ นี่ทำให้เขารู้สึกโกรธ
ไม่เพียงผู้นำตระกูลแต่ผู้คนในตระกูลต่างมีความรู้สึกที่ซับซ้อนกับเรื่องนี้
‘ความแข็งแกร่งของฟางหยวนไม่ธรรมดาจริงๆ เขาเป็นสัตว์ประหลาดเหมือนซื่อซานงั้นหรือ?’
‘แท้จริงแล้วเขาแปลกประหลาดมาตั้งแต่เด็ก เขาสามารถแต่งบทกวีตั้งแต่อายุห้าขวบ หากเขาเติบโตขึ้นพร้อมกับความแข็งแกร่งนี้ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป’
‘อย่างไรก็ตามมันยังมีความเป็นไปได้อีกประการหนึ่ง นั่นคือบางคนสนับสนุนเขาอยู่อย่างลับๆ’
‘แต่เขาคือผู้ใด?’
หัวใจของกลุ่มผู้อาวุโสสั่นไหวแต่พวกเขายังพยายามรักษาความสงบ
ผู้นำตระกูลนิ่งเงียบอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเผยรอยยิ้มบาง "ฟางหยวนเป็นผู้มีพรสวรรค์นภาที่สามคนแรกที่ได้รับอันดับหนึ่ง นี่เป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เจ้าจะได้รับหินวิญญาณหนึ่งร้อยห้าสิบก้อนและมีสิทธิ์เลือกวิญญาณหนึ่งดวงเป็นรางวัล นอกจากนั้นเจ้าสามารถเลือกเข้าร่วมกลุ่มใดก็ได้ที่เจ้าต้องการ อย่ากังวล เพียงเจ้าเอ่ยปากออกมา เจ้าจะสามารถเข้าร่วมได้ทุกกลุ่ม"
เมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ผู้ใช้วิญญาณระดับสองและศิษย์ทุกคนต่างรู้สึกอิจฉา
กลุ่มเหล่านี้มีความแตกต่างกันมาก หากสามารถเข้าร่วมกับกลุ่มที่ดี มันจะหมายถึงอนาคตที่สดใส เห็นได้ชัดว่าอวี๋โป้ค่อนข้างใจกว้างกับฟางหยวน
"แม้ข้าจะด่วนตัดสินใจ แต่ข้าเชื่อว่าผู้อาวุโสทุกคนจะเห็นด้วย" อวี๋โป้บังคับมุมปากของตนเองให้ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มพร้อมกับกวาตามองกลุ่มผู้อาวุโสที่อยู่ด้านข้าง
ซื่อเหลียงและโม่เฉินในฐานะผู้อาวุโสสูงสุด พวกเขาต่างขมวดคิ้วลึกแต่ไม่มีผู้ใดขัดขวางอวี๋โป้
หัวใจของฟางหยวนกระตุก
ปัญหามาถึงแล้ว!