ตอนที่แล้วTXV – 18 พี่สะใภ้สุดสวย !
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTXV –  20 เข็มทิศลึกลับ !

TXV – 19 หญิงไร้มารยาท !


TXV – 19 หญิงไร้มารยาท !

 

          ครึ่งชั่วโมงต่อมาเจียงหยู่ยี่ขับรถไปที่ร้านอาหารตะวันตกริมทะเลในช่วงเย็น ในเวลาที่เธอไปถึงมีผู้คนในร้านประมาณ 10 คนเท่านั้น

 

          เจียงหยู่ยี่และเซี่ยเหล่ยนั่งอยู่ที่โต๊ะข้างหน้าต่างที่หรูหราเมื่อมองออกไปทำให้พวกเขามองเห็นวิวทิวทัศน์ของทะเลยามเย็นที่สวยงาม

 

          เซี่ยเหล่ยท่าทางลุกลี้ลุกลนเพราะว่าเขาเพิ่งเคยมากินร้านอาหารตะวันตกที่หรูหราแบบนี้ครั้งแรก เขาจึงพยายามปรับตัวให้เร็วที่สุดตอนนี้

 

          “เหล่ย ฉันขอขอบคุณจากใจจริง !” เจียงหยู่ยี่ยกแก้วไวน์แดง “ดื่มเพื่อเป็นการขอบคุณให้เหล่ย !”

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้ม “ถ้าเธอสั่งกุ้งล็อบสเตอร์ให้ผมจะเป็นการขอบคุณที่ดีมากๆ”

 

          เจียงหยู่ยี่ถอดรองเท้าส้นสูงของเธอและยกขาไปเตะบริเวณระหว่างของเซี่ยเหล่ย !

 

          เซี่ยเหล่ยไม่มีเวลาพอที่จะหลบเขาจึงรีบหุบขาอย่างรวดเร็วและพูดอย่างกังวลว่า “เธอจะทำอะไร ? นี่ในร้านอาหารนะ !”

 

          เจียงหยู่ยี่ดึงขาของเธอกลับไปแต่เซี่ยเหล่ยยังหุบขาไว้ด้วยความกลัวว่าจะโดนเธอเตะอีกครั้ง ทั้งสองคนนี้กำลังอยู่ในภวังค์ที่ไม่สามารถบอกได้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ มันน่าอายมากสำหรับเขาในสิ่งที่เจียงหยู่ยี่ทำ ถ้าเธอเหวี่ยงขามาแรงกว่านี้…… มันอาจจะ…..เป็นสิ่งพูดยากสำหรับผู้ชาย..

 

          “เธอ…..” ปากของเซี่ยเหล่ยเริ่มขยับแต่ไม่มีคำพูดอย่างอื่นออกมาการที่เท้านุ่มๆของเธอมาสัมผัสตรงบริเวณนั้นมันทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายและถูกกระตุ้นทางอารมณ์มากจนเขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้

 

          ใบหน้าของเจียงหยู่ยี่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงจากนั้นเธอรีบดึงเท้าของเธอกลับมาเธอพยายามหลีกเลี่ยงการสบตากับเซี่ยเหล่ย เธอกำลังคิดกับตัวเองว่าตอนนี้เธอรู้สึกแปลกๆเมื่อเธอได้สัมผัสสิ่งนั้น ราวกับว่าเธอกำลังโดนไฟฟ้าช็อตและเธอก็มโนภาพขึ้นมาเมื่อเท้าเธอไปสัมผัสนั้นสิ่งลับของเซี่ยเหล่ย มันเหมือนผลไม้เช่นกล้วยหรือแตงกวา....

 

          ท่ามกลางความอับอายที่เกิดขึ้นในขณะนั้นก็มีผู้ชายใส่ชุดสูทเดินมาที่โต๊ะของพวกเขา

 

          ผู้ชายคนนี้ดูสง่างาม หล่อและมีอารมณ์ขัน เขามีรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์แม้แต่เสียงของเขาก็มีเสน่ห์ดึงดูดใจสาวๆเป็นอย่างมาก “หยู่ยี่ ! นี่คุณจริงๆหรอ คุณสวยขึ้นจนผมจำไม่ได้เลย !”

 

          “คุณ…...” เจียงหยู่ยี่มองหน้าชายหนุ่มคนนั้นและพูดด้วยน้ำเสียงดีใจว่า “ซู่หลาง  คุณนี่เอง ! คุณได้ทำงานที่ไหน ?”

 

          “ผมได้รับมอบหมายให้ทำงานในเมืองชิงตู่หลังจากผมสำเร็จการศึกษาและตอนนี้ผมได้ย้ายกลับมาประจำการที่นี่แล้ว” ซู่หลางยังคงยิ้มในณะที่พูด “ผมได้ยินมาว่าคุณสามารถคลี่คลายคดีใหญ่จนได้กลายเป็นหัวหน้าตำรวจของสถานีตำรวจทางเหนือ มันน่าทึ่งมาก ! ทำไมผมไม่เคยเห็นคุณแสดงความสามารถของคุณแบบนี้ตอนอยู่ในโรงเรียนตำรวจเลย ?”

 

          จากการสนทนากันสองคนนี้ทำให้เซี่ยเหล่ยสรุปได้ว่าผู้ชายคนที่ชื่อว่าซู่หลาง คนนี้คงเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกับเจียงหยู่ยี่ พวกเขาเป็นเพื่อนกัน เขาจ้องมองไปที่เจียงหยู่ยี่และกำลังหาข้ออ้างเพื่อที่จะออกไปจากโต๊ะแต่ในขณะนั้นซู่หลางก็จับมือของเขาไว้

 

          “คุณเป็นแฟนกับเจียงหยู่ยี่หรอ ?” ซู่หลางพูดอย่างสภาพ “สวัสดี ผมชื่อซู่หลาง ผมขอถามชื่อของคุณหน่อยได้มั้ย ?”

 

          ในขณะที่ซู่หลางยืนอยู่นั้นเซี่ยเหล่ยกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะจากนั้นเขาก็ยืนขึ้นเพื่อให้เกียรติซู่หลางและเขาก็ยื่นมือออกมาจับมือกับซู่หลางและพูดว่า “ผมชื่อ เซี่ยเหล่ย” เขายิ้มและพูดต่อว่า “เจียงหยู่ยี่ไม่ใช่แฟนของผมพวกเราเป็นเพื่อนเล่นกันในสมัยเด็ก”

 

          “ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” ซู่หลางยื่นมือออกมาและพูดอย่างสุภาพ แต่ดวงตาของซู่หลางกำลังดูตั้งแต่หัวจรดเท้าของเซี่ยเหล่ย

 

          เซี่ยเหล่ยไม่ใช่ลูกของคนร่ำรวยหรือลูกของผู้มีอิทธิพลที่มีสายการทำงานที่ยิ่งใหญ่ เขาสัมผัสได้จากฝ่ามือของเซี่ยเหล่ย มือของเขาหยาบกร้านเพราะถูกใช้งานอย่างหนักในการทำงาน ซู่หลางสังเกตเห็นได้เลยว่าเซี่ยเหล่ยเป็นคนที่ทำงานหนักและดูไม่ค่อยมีฐานะซักเท่าไหร่ !

 

          ซู่หลางดูเหมือนว่าเขาจะคาดเดาตัวตนของเซี่ยเหล่ยเกือบถูกต้องทั้งหมดจากนั้นคิ้วของเขาก็เริ่มขมวดเล็กน้อย

 

          ความรู้สึกที่เปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อยเขาสัมผัสได้จากสายตาของเซี่ยเหล่ยที่เปลี่ยนไป เซี่ยเหล่ยเริ่มไม่พอใจซู่หลางหลังจากที่เขามองมือของเขาและทำหน้าตาแบบนั้นกับเขา เขารู้เลยว่ามันหมายถึงอะไร…..

         

          เป็นพฤติกรรมที่แย่มากซึ่งเซี่ยเหล่ยไม่เคยพบเจอในขณะเขาทำงานมาหลายปี ? ซู่หลางคนนี้ท่าทีภายนอกของเขาดูสุภาพอ่อนน้อมแต่ลึกๆจิตใจของเขาเป็นคนชอบเหยียดฐานะ เขาชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบคนที่ฐานะด้อยกว่าแต่ว่าอย่างไรก็ตามเซี่ยเหล่ยก็ไม่ได้ใส่ใจ….

 

          “นั่งก่อนสิ !” เจียงหยู่ยี่เชิญซู่หลางมานั่งร่วมโต๊ะอาหารกับเธอ “คุณทานข้าวมารึยัง ? มากินด้วยกันสิ มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง”

 

          ซู่หลางยิ้ม “ผมกำลังจะมากินข้าวอยู่พอดีเลยแต่ว่า...จะให้ผู้หญิงเลี้ยงข้าวได้ยังไงล่ะ ? ผมไม่ได้มาคนเดียว ผมกำลังรอลุงลองผมอยู่”

 

          “ลุงของคุณ ?” เจียงหยู่ยี่หยุดคิดสักครู่หนึ่ง “ฉันจำได้แล้ว ! ลุงของคุณเป็นผู้บัญชาการซู่เจิงยี่ใช่มั้ย ? เขากำลังมาหรอ ? ไหนล่ะเขามารึยัง ?”

 

          ในขณะนั้นซู่เจิงยี่ก็เดินเข้ามาอย่างประตูร้านแล้วซู่หลางก็โบกมือเรียกให้เขาเดินมาทางที่พวกเขานั่งอยู่

 

          “สวัสดีค่ะ ผู้บัญชาการ ซู่” เจียงหยู่ยี่ยืนและทักทายกับซู่เจิงยี่

 

          ซู่เจิงยี่โบกมือเบาๆแล้วพูดว่า “ไม่ต้องเป็นทางการมากหรอกนี่มันนอกสถานที่ทำงาน ทำตัวตามสบายเถอะ”

 

          เจียหยู่ยี่ยิ้มอย่างเก้ๆกังๆและเตรียมเก้าอี้สำหรับซู่เจิงยี่

 

          ซู่หลางพูดว่า “ลุง ผมไม่ได้คิดเลยว่าจะมาเจอเจียงหยู่ยี่ที่นี่พวกเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนในโรงเรียนตำรวจ เรามานั่งร่วมโต๊ะกับเธอดีมั้ย ?”

 

          ซู่เจิงยี่พยักหน้าและนั่งลงที่โต๊ะ เขามองมาที่เซี่ยเหล่ยในขณะที่เซี่ยเหล่ยก็ไม่ได้กล่าวทักทายเขา

 

          เซี่ยเหล่ยก็อยากทักทายซู่เจิงยี่แต่เขาคิดว่าการทักทาย 2 ครั้งซ้อนกันมันคงไม่ดีเขาเลยไม่ได้กล่าวทักทายซู่เจิงยี่และอีกอย่างเขาไม่อยากประจบสอพลอซู่เจิงยี่ถึงแม้ว่าซู่เจิงยี่จะมีตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการ

 

          ซู่หลางโบกมือเรียกพนักงานเสิร์ฟเพื่อที่จะนำเมนูมาให้เขาดู

 

          “คุณต้องการอะไรครับคุณลูกค้า ?” พนักงานเสิร์ฟพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ

 

          “กุ้งล็อบสเตอร์และไวน์แดงเอดินเบรอะ 3 ที่” ซู่หลางกล่าว

 

          “ครับผม !” พนักงานเสิร์ฟกำลังจดสิ่งที่ซู่หลางสั่ง

 

          ซู่หลางมองไปที่เซี่ยเหล่ยและพูดว่า “นี่เป็นการเจอกันครั้งแรกบนโต๊ะอาหารผมไม่ทราบว่าคุณชอบทานอะไร คุณจะทานอะไรล่ะ ? เดี๋ยวผมจะสั่งให้คุณ”

 

          เซี่ยเหล่ยพูดอย่างใจเย็นว่า “ขอบคุณ ผมทานข้าวมาแล้วไม่เป็นไร”

 

          “เอาแค่นี้แหละ” ซู่หลางพูดกับพนักงานเสิร์ฟ

 

          “ขอบคุณครับ ผมจะนำรายการไปที่ห้องครัวเพื่อทำอาหารทันทีครับ !”

 

          เจียงหยู่ยี่เรียกพนักงานเสิร์ฟก่อนที่เขาจะเดินออกไป “เดี๋ยวก่อน เอารายการกุ้งล็อบสเตอร์ออกไป 1 ที่ฉันอิ่มแล้ว” เจียงหยู่ยี่ยิ้มและพูดว่า “ฉันต้องน้ำหนักเพิ่มแน่ๆถ้ากินมากกว่านี้”

 

 

          จริงๆแล้วถ้าซู่หลางกุ้งล็อบสเตอร์มาทั้ง 4 จาน เซี่ยเหล่ยคงได้กินกุ้งล็อบสเตอร์ไปพร้อมกับพวกเขา แต่ลักษณะแบบนี้ซู่หลางจงใจแกล้งเซี่ยเหล่ย ทำให้เจียงหยู่ยี่รู้สึกไม่พอใจกับการกระเช่นนี้ของซู่หลาง

 

          “หยู่ยี่ พวกเราไม่ได้เจอกันนานแล้วนะ เราเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกันมาตั้งนานแล้ว ในตอนนี้ฉันได้ย้ายมาจากเมืองชิงตู่แล้ว ผมอยากจะชวนเธอดื่มไวน์และกินอาหารดีๆสักหน่อย” ซู่หลางกล่าวอย่างงุ่มง่าม

 

          “ฉัน…..” เจียงหยู่ยี่มองไปทางเซี่ยเหล่ย

 

          เซี่ยเหล่ยมัวแต่คิดข้ออ้างจะแยกตัวไปจากโต๊ะโดยไม่สังเกตเห็นการกระทำของเธอเลย

 

          ซู่เจิงยี่ก็พูดขึ้นมาว่า “ใช่แล้ว หยู่ยี่ ซู่หลางเพิ่งจะกลับมาทำงานในกระทรวงเทคโนโลยีโนโลยีและคุณก็จะเป็นเพื่อนร่วมงานของเขาอีกครั้งนอกจากนี้เราก็ไม่ค่อยได้อยู่กันครบแบบนี้บ่อยๆดังนั้นอย่าปฎิเสธเลย”

 

          ตั้งแต่ซู่เจิงยี่พูด เจียงหยู่ยี่ก็แสดงความเคารพและพยักหน้า !

 

          เซี่ยเหล่ยค่อยๆลุกขึ้น “ผมมีเรื่องที่ต้องไปจัดการที่ร้านของผม ผมไม่อยากรบกวนเวลาของพวกคุณทั้ง 3 คนผมขอไปทำงานก่อนนะครับ”

 

          “เหล่ย….” เจียงหยู่ยี่อยากจะพูดแต่เธอกำลังลังเล เพราะเธอไม่อยากให้เซี่ยเหล่ยกลับไป

 

          ซู่หลางยิ้ม “ผมหวังเราจะพบกันอีก ในโอกาสหน้านะ ถ้ามีโอกาส !”

 

          ซู่เจิงยี่มองไปที่เซี่ยเหล่ยแต่เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา

 

          ในขณะนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินมาในร้านเธอสวมชุดสีดำ รองเท้าส้นเตี้ยแว่นตากันแดดสีดำและกระเป๋าถือที่หรูหรา จากความสูงและขาที่เรียวยาวของเธอทำให้เธอดูเหมือนนักฆ่าหญิงจากภาพยนตร์ เธอเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่เยือกเย็นและอันตราย จากนั้นเธอก็จ้องมองมาที่เซี่ยเหล่ยราวกับว่าทุกคนในร้านอาหารไม่มีตัวตนอยู่

 

          แม้ว่าเธอกำลังจะสวมแว่นตากันแดดปกปิดดวงตาของเธอแต่เซี่ยเหล่ยก็จำได้โดยทันทีว่าผู้หญิงคนนี้คือ หลงบิง

 

          “ทำไมเธอถึงมาที่นี่ ?” เซี่ยเหล่ยรู้สึกแปลกใจมาก

 

          อย่างไรก็ตามซู่หลางยังมองไม่เห็นหลงบิง เขาเห็นเซี่ยเหล่ยยืนนิ่งจากนั้นเขาก็เริ่มสงสัยว่าเซี่ยเหล่ยทำไมยังไม่ออกไปจากร้านอีก !

 

          เซี่ยเหล่ยกำลังอึ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อหลงบิงเดินไปนั่งที่โต๊ะเธอก็หันมามองที่เซี่ยเหล่ยคำพูดที่เขาจะพูดต่อกลับกลืนลงไปในคอของเขาทันที

 

          ซู่หลาง ซู่เจิงยี่ และเจียงหยู่ยี่ ในที่สุดพวกเขาก็เห็นหลงบิง

 

          เจียงหยู่ยี่เริ่มมีอาการไม่พอใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอทันทีเพราะเธอเห็นหลงบิงเข้ามาและรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงที่เก่งกาจและลึกลับเป็นอย่างมาก เธอกำลังจะกล่าวทักทายหลงบิงแต่เมื่อเธอเห็นว่าหลงบินกำลังมองที่เซี่ยเหล่ยอยู่ ทำให้เธอรู้สึกหึงหวงเซี่ยเหล่ย

 

          “ผมขอถามได้ไหม เธอเป็นใครหรอ ?” ซู่หลางรู้สึกประหลาดใจกับผ ผู้หญิงคนนี้มาก

 

          ทันใดนั้นซู่เจิงยี่ก็ยืนขึ้น “คุณหลงพวกเราติดหนี้คุณ”

 

          จากนั้นหลงบิงก็หันไปทางซู่เจิงยี่และพูดอย่างเสียงดังว่า “อ๊ะ ผู้บัญชาการซู่ ฉันมาที่นี่เพื่อจะคุยอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเซี่ยเหล่ย”

 

          “คุณลุงรู้จักเธอหรอ ?” ซู่หลางยิ้ม “ทำไมลุงไม่แนะนำให้ผมรู้จักล่ะ ?” เขายืนขึ้นและยื่นออกไปที่หลงบินอย่างสุภาพ “ผมชื่อ ซู่หลางยินดีที่ได้ร้จัก ผมขอถามชื่อคุณได้มั้ย ?”

 

          หลงบิงไม่ได้ยื่นมือออกไปแต่เธอดึงเก้าอี้ข้างๆเซี่ยเหล่ย

 

          เซี่ยเหล่ยรู้สึกงงงวยกับสิ่งที่เกิดขึ้น “คุณจะทำอะไร ?”

 

          “ฉันไม่ได้กินอาหารดีๆแบบนี้มา 3 ปีแล้ว ดังนั้นฉันจะมากินให้เต็มอิ่มในวันนี้นั่งก่อนสิเซี่ยเหล่ย”  หลงบิงกล่าว

 

          เซี่ยเหล่ยลังเลอยู่สักครู่หนึ่งก่อนจะนั่งลง

 

          ซู่หลางไม่พอใจเป็นอย่างมากกับการกระทำเช่นนั้นของหลงบิงเขาคิดในใจว่าผู้หญิงคนนี้ไร้มารยาทที่สุด เขาพร้อมจะระเบิดความโกรธออกมาต่อหน้าทุกคน ทันใดนั้นซู่เจิงยี่ได้เตะที่ขาของซู่หลางใต้โต๊ะเพื่อให้ซู่หลางหันมา....

 

          ซู่หลางไม่ใช่คนโง่และเขาเข้าใจในทันทีว่าผู้หญิงคนนี้ทำให้คุณลุงของเขานั่งนิ่งๆได้แสดงว่าเธอต้องมีอะไรอย่างแน่นอน สิ่งที่เขาเห็นในตอนนี้ก็คือผู้หญิงคนนี้สงบนิ่งและเยือกเย็นราวกับว่าเธอมีพลังอะไรบางอย่างอยู่ในตัว

 

          “ขอโทษนะ พวกคุณย้ายไปโต๊ะอื่นได้หรือเปล่า ? ฉันต้องการคุยกับเซี่ยเหล่ยเพียงลำพัง” หลงบิงกล่าว

 

          “อื#@ม…….” ซู่เจิงยี่เริ่มแสดงความไม่พอใจบนใบหน้าของเขา แต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้เขายังคงยิ้มและพูดว่า “ได้สิ พวกเราจะไม่รบกวนเวลาของคุณ เราจะย้ายไปนั่งโต๊ะอื่น”

 

          หลงบิงมองที่เซี่ยเหล่ย “นั่งลงสิ”

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้มอย่างสบายใจแล้วเขาก็นั่งลง เขาพยายามเดาว่าจุดประสงค์ของหลงบิงที่มาหาเขา นั้นคืออะไรแต่เขาก็ไม่สามารถเดาได้จริงๆ

 

          อีกฟากหนึ่งซู่หลางถามอย่างเงียบๆว่า “คุณลุง ผู้หญิงคนนั้นใหญ่โตมาจากไหน ?”

 

          ซู่เจิงยี่พูดด้วยเสียงที่เบามากๆว่า “ลุงก็ไม่รู้จริงๆแต่เธอเคยมีเรื่องกับหัวหน้าหลีก่อนหน้านี้ เธอกล้าจ่อปืนไปที่หัวหน้าตำรวจในสถานีตำรวจ แล้วซู่หลางคิดว่าเธอใหญ่มาจากไหนล่ะ ?” เขาหยุดพูดชั่วครู่หนึ่งและเดินไปกระซิปข้างหูของซู่หลาง “หลังจากนั้นเจียงหยู่ยี่ได้เป็นหัวหน้าตำรวจทันที ซึ่งเป็นความต้องการของเธอนี่แหละข่าวลือที่ลุงได้ยินมา ระวังตัวด้วย  ! ลุงคิดว่าเธอไม่น่าไว้ใจสักเท่าไหร่”

 

          ซู่หลางรู้สึกเย็นสันหลังวาบขึ้นมาทันที …..

         

          ขอบคุณครับ แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้า ติดตามข่าวสารและเรื่องราว https://www.facebook.com/Tranxending-Vision-1843606792370694/ ขอเพียงแค่กดไลค์กดติดตาม ก็เป็นกำลังใจให้ผมแปลต่อได้แล้วคร้าบบบ ฝากด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

 

###################################################################

 

         

         

         

         

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด