Chapter 52 – The Fight Begins
Chapter 52 – เริ่มต่อสู้
“นายท่าน เกิดอะไรขึ้น?”
“น้องลั่วทำไมจึงโกรธมากขนาดนั้น?”
คิ้วของซ่งหยวนหนานขมวดคิ้วเล็กน้อยและเดินเข้าไปถามว่า “น้องลั่วเทียนเกิดอะไรขึ้น?”
ลั่วเทียนกำปิ่นปักผมไว้แน่น มันคุ้นเคยกับมือเขามากมากๆ เพราะมันเป็นสิ่งที่หลี่ซูเอ๋อร์สวมใส่อยู่ เขาไม่คิดเลย...
เขาเข้าใจความน่ารักเกียจของลั่วจินซานมีมากแต่ที่เขาทำ!
ในเวลา8วันก่อนที่เขาฝึกในเทือกเขาวิญญาณ หลี่ซูเอ๋อร์และฟางเล่ยไม่ค่อยได้ประสบปัญหาเท่าไรนักลั่วเทียนคิดว่าลั่วจินซานจะไม่ทำอะไรกับพวกเขาเพราะลูกชายและน้องชายของเขาถูกฆ่าโดยเขา ดังนั้นมันจึงไม่เกี่ยวข้องกับคนอื่น.
แต่...
ลั่วเทียนไร้เดียงสา.
เขาเป็นคนไร้เดียงสาจริงๆ สัญญาณเตือนควรจะบอกเขาเมื่อเห็นลั่วจินซานเมื่อคืนนี้.
เขาจะไม่ลืมเมื่อต้องรับมือกับคนที่น่ารังเกียจอย่างลั่วจินซาน?
ลั่วเทียนรู้สึกว่ามันเป็นความผิดของเขาทั้งหมด ผู้หญิงของเขาถูกกักขังเอาไว้เป็นครั้งที่สองทำให้ความโกรธภายในตัวของเขาระเบิดขึ้นเหมือนภูเขาไฟ.
“นั่นคือปิ่นปักผมของน้องสะใภ้! นายท่านเกิดอะไรขึ้นกับน้องสะใภ้?”ดวงตาของฟางเล่นแปรเป็นความโกรธขณะที่มองปิ่นปักผมเบื้องหน้าเขา.
ซ่งหยวนหนานขมวดคิ้วและถาม “มันเป็นลั่วจินซาน?”
ลั่วเทียนพยักหน้า “ใช่.”
ซ่งหยวนหนานคิดอยู่พักนึง เขากำหมัดแน่นและปล่อยมัน “น้องลั่วเทียนเพียงแค่ขอความช่วยเหลือจากเรา.”
คำเหล่านี้มีนัยยะ.
ซ่งหยวนหนานเป็นผู้นำตระกูลซ่ง คำพูดของเขาเป็นเหมือนคำสั่งตระกูลซ่ง
เขารู้ว่าลั่วจินซานจับคนใกล้ชิดลั่วเทียนเป็นตัวประกัน คำพูดของเขาพูดออกมาชัดเชนหากลั่วเทียนร้องขอ นั่นหมายความว่าตระกูลซ่งจะทำสงครามกับตระกูลลั่ว
ลั่วเทียนขอบคุณอย่างมากและพูดว่า“ขอบคุณสำหรับความตั้งใจของพี่ชายซ่ง แต่นี่เป็นเรื่องส่วนตัวและข้าต้องการที่จะจัดการมันด้วยตัวเอง.”
แน่นอนว่าเขาต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
ถ้าเกิดมีโอกาสที่ลั่วจินซานอาจจะโดนKOโดยตระกูลซ่ง อย่างนั้นลาสบอสก็ไม่มีความหมายกับเขา.
ยิ่งไปกว่านั้น...
เขาต้องเอาชนะไอ้ขี้หมาแก่ๆนี่ ถ้าเขาไม่เห็นมันขี้แตก ไม่มีทางไหนที่เขาจะสบายใจได้.
ในช่วงเวลานั้นคนส่งของก็พูดขึ้นอีกครั้ง “คนนั้นกล่าวว่าเงื่อนไขทั่งสองนั่นยังคงอยู่ ตราบเท่าที่คุณมอบสิ่งของนั่นให้เขา เขาจะปล่อยเด็กผู้หญิงไป.”
“สิ่งของ?”
“สิ่งของอะไร?” ฟางเล่ยคว้าชายประหลาดคนนั้นและยกขึ้นไปบนอากาศ “พูดให้บิดาเข้าใจ! สิ่งของนั่นคืออะไร?”
ชายคนนั้นสั่นสะท้านและพึมพำอย่างตกใจ “เหนือหัว ข้าเป็นคนส่งสาร ข้าไม่รู้ว่าสิ่งของนั่นคืออะไร.”
ลั่วเทียนพูดแผ่วๆ“อย่าทไอะไรเขา เขาเป็นเพียงคนส่งสาร.”
หลังจากคิดอยู่ชั่สครู่ลั่วเทียนจึงตัดสินใจพูดตรงๆว่า“เขาต้องการแกนปีศาจกระทิงเดือดฟ้าคะนอง.”
ตาของซ่งหยวนหนานเปลี่ยนไปเป็นการตกใจ.
ทุกคนในที่นั่นต่างตกใจ.
แกนศาจมีพลังไม่มีที่สิ้นสุด มันมีค่ามากยิ่งกว่าหินหยวนมันเป็นสมบัติที่ล้ำค่ามากที่สุดสำหรับนักบ่มเพาะ
ตาของฟางเล่ยเปลี่ยนไปและล้มตัวลงกับพื้น จากนั้นเขาก็มองไปรอบๆด้วยรอยยิ้มโง่ๆ“งั้นมันก็เป็นแกนปีศาจกระทิงเดือดฟ้าคะนองที่เขาต้องการได้!”
จากนั้นเขาก็ดึงมีดคมๆออกมาซึ่งเขาใช้เวลาทำมันกว่า 8 วัน.
ฟาวเล่ยไม่รีรออะไรยกเสื้อผ้าขึ้นและเตรียมที่จะแทงเข้าไปที่ท้อง.
เขายังเป็นคนโง่ที่ทำโดยไม่สนใจสิ่งที่ตามมา.
ตาของลั่วเทียนเปลี่ยนไปและเขาก็รีบคว้ามีดที่กำลังแทงเข้าไปที่ท้องก่อนจะพูดว่า “อ้วนเล่ยเจ้าเป็นบ้าไปแล้ว? เจ้าคิดว่าจะเอาแกนปีศาจออกมาได้?”
ฟางเล่ยไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก ตราบเท่าที่เขาเอาแกนปีศาจออกจากท้องของเขาได้เขาก็สามารถช่วยหลี่ซูเอ๋อร์ได้ ทุกอย่างจะดี ใครจะสนว่าเขาตายเพราะแทงท้องตัวเอง?
เขาไม่เคยแคร์เรื่องชีวิตของตนเองมาก่อน!
ในใจเขาลั่วเทียนเป็นที่หนึ่งเสมอ อะไรที่เกี่ยวข้องกับลั่วเทียนเขาจะใช้ทั้งชีวิตเพื่อทำให้สำเร็จ นี่คือคำสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อแม่ของลั่วเทียนและมันจะเป็นสิ่งที่เขาจดจำไปตลอดชีวิตของเขา.
“นายท่าน แกนปีศาจถูกข้ากิน เพราะงั้นข้าจึงต้องการเอามันออก”ฟางเล่ยพยายามอธิบาย.
“แล้วจะทำอย่างไงหลังจากเอามันออกมาแล้ว?”
“ไม่เพียงลั่วจินซานต้องการแกนปีซาจของกระทิง แต่เขาต้องการให้ข้าทำลายการบ่มเพาะตัวเองเพื่อให้ข้ากลับไปเป็นขยะอีกครั้ง.”ลั่วเทียนคำรามออกมา.
ไม่เพียงแต่เขาจะเคยพิการ เขาต้องการให้ลั่วเทียนเปรียบเหมือนคนตาบอดเป็นครั้งที่สอง!
ลั่วจินซานเลวมาก!
ฟางเล่ยตะลึงขณะที่เขาพพึมพำ“นายท่านงั้นเราควรจะทำอย่างไรดี? เราจะไม่ช่วยน้องสะใภ้?”
“เขาจะช่วย!”
“แน่นอนว่าเราจะช่วยเธอ ไม่เพียงแค่นั้น แต่เราจะไม่แค่ช่วยเธอเท่านั้นแต่เราจะทำให้มันเป็นสิ่งที่งดงามที่สุด!”ตาของลั่วเทียนเปลี่ยนไปขณะที่เขามองไปที่ชายส่งสาร“กลับไปบอกเขาว่าข้าไม่มีแกนปีศาจกระทิงเดือด แต่ข้าจะเอามันมาจากสัตว์ร้ายที่สนามประลองให้เขาแทน เตือนเขา ว่าอย่าแตะต้องผู้หญิงคนนั้นแม้แต่น้อยไม่อย่างนั้นข้าจะขุดโครตเง้าศักราชของเขาออกมา!”
“เจ้าจำสิ่งที่ข้าพูดไปได้ไหม?”
“ข้า… ข้าได้ยินและจำได้ทุกอย่าง.”
“ตอนนี้ ไปได้!”
ชายส่งสารกึ่งคลานกึ่งวิ่งออกไปจากลาน.
ทันใดนั้น...
ลั่วเทียนมองไปที่ฟางเล่ย“ทำให้แน่ใจว่าพี่เตรียมพร้อมแล้ว เมื่อการต่อสู้จบลงที่สนามประลอง เราจะจัดการทุกสิ่งทุกอย่างกับลั่วจินซาน!”
ฟางเล่ยพยักหน้าและคำราม “ดี!”
ซ่งหยวนหนานมองดูผิวเผินอย่างสงบ แต่หัวใจของเขาสั่นดั่งพายะในทะเล เขาไม่สามารถจิตนาการได้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นเด็กอายุ 16 ปีที่ชื่อว่าลั่วเฉินผู้ที่เคยพิการจากการสูญเสียการบ่มเพาะไป ตอนนี้เขาได้พบเจอกับอะไรเขาถึงเแข็งแกร่งขึ้น?
ดูเหมือนว่าจะมีการแสดงดีๆเริ่มขึ้น
ซ่งหยวนหนานต้องการพูดถึงความช่วยเหลืออีกครั้ง แต่เขาก็หยุดตัวเองขณะที่เขาจะพูด.
เนื่องจากมันเป็นเรื่องภายในของตระกูลลั่ว เขาที่เป็นคนนอกไม่ควรแทรกแซงมันอาจส่งผลเสียต่อลั่วเทียน.
ถ้าเขาไม่สามารถออกแรงช่วยได้ในที่แจ้งเขาจะช่วยที่ลับ
ซ่งหยวนหนานหันไปกระซิบกับคนรับใช้ของเขา “ส่งสาวกชั้นสูงของตระกูลซ่งทั้งหมด ให้พวกเขาปลอมตัวและค้นหาที่อยู่ของหลี่ซูเอ๋อร์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอย่าคลายสายตากับการเคลื่อนไหวของลั่วจินซาน.”
คนรับใช้พยัหน้าและหายเงียบไปกลางฝูงชน
ซ่งหยวนหนานเฝ้ามองด้านหลังของลั่วเทียน เขาค่อยๆหายไปจากระยะไกล เลือกของเขาที่สงบมาหลายปีที่ผ่านมาเริ่มปะทุอีกครั้ง...
--------------
“การต่อสู้ระหว่างสองคนที่มีความเหลื่อมล้ำความแข็งแกร่งมากที่สุดในประวัติศาตร์จะเริ่มขึ้น”
“หนึ่งในตระกูลที่มีชื่อเสียงทั้ง4ของเมืองภูเขาหยก ลั่วเทียนจากตระกูลลั่วกับกิ้งก่าลาวาสัตว์ปีศาจระดับ 4…”
เสียงที่ดังอย่างมากของเจ้าหน้าที่แผ่กระจายทั่วสนามประลอง.
เมื่อได้ยินชื่อ “กิ้งก่าลาวา”ผู้ชมกว่าหมื่นคนก็แสดงความหวาดกลัวอย่างช่วยไม่ได้ ที่ความหวาดกลัวมาจากเบื้องลึกในจิตใจ.
กิ้งก่าลาวาเสมือนฝันร้ายของเมืองภูเขาหยก
ผู้คนหลายแสนตายลงและเมืองอีกครั้งก็เสียหาย แม้ว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน แต่ก็ยังคงมีอยู่หลายแห่งในเมืองภูเขาหยกที่มีร่องรอยของความหายนะในอดีตอยู่.
“ถูกต้อง!”
“กิ้งก่าลาวาตัวนี้เป็นลูกของกิ้งก่าลาวาตัวก่อนที่ได้คร่าชีวิตไปหลายแสนคนในเมืองของเรา.”
ขณะที่คำพูดหลักออกไป...
ผู้ชมเริ่มแตกตื่นด้วยความตื่นเต้น
มีบางส่วนของผู้ชมบางเวทีตื่นตระหนก มีคนยังคงจำภาพอันน่ากลัวที่สยดสยองในอดีต จะเกิดอะไรขึ้นหากกิ้งก่าตัวนี้วิ่งเข้ามาทางผู้ชม?
แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าสนามประลองแห่งนี้ถูกจัดขึ้นโดยองกรณ์ไวโอเลตความกลัวในหัวใขของเขาเริ่มลดลง.
องค์กรไวโอเลตมีวิธีในการควบคุมสัตว์ปีศาจระดับ 10 ที่อยู่ในจุดสุดยอดของมัน นับประสาอะไรกับสัตว์ปีศาจระดับ 4.
หลังจากนั้น...
ที่นั่งของผู้ชมก็เริ่มที่จะหัวเราะและยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง
“55+… เวลานี้บิดาจะรวยแล้ว.”
“ลั่วเทียนจะตายแน่นอน.”
“นี่คือฉากการฆ่าที่บริสุทธิ์ ข้ากล้าที่จะเดิมพันว่าเศษขนะถังเทียนจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้ภายใน 10 วินาที.’
“ทำไมถึงบอกอย่างนั้น เขาอาจจะอยู่ได้ไม่ถึง 1 วินาที 555…”
ผู้ชมทั้งหมดยืนขึ้นจากความตื่นเต้นที่ประทุออกมา ไม่มีข้อกังขาวันนี้ลั่วเทียนจะต้องตาย!
เจ้าภาพกระแอ่มคอก่อนที่จะประกาศ “ตอนนี้เราจะเชิญลั่วเทียนและผู้ติดตามของเขาฟางเล่ยเข้ามาในเวที.”
ประตูขนาดใหญ่ของเวทีเปิดขึ้นลั่วเทียนและฟางเล่ยเดินออกมาไม่ช้าไม่เร็ว.
ลั่วเทียนป้องหูเมื่อได้ยินเสียงเป็นจำนวนมากจากฝูงชน
หลังจากนั้น...
ประตูใหญ่อีกแห่งก็เปิดขึ้นและไม่ต้องรอให้เจ้าภาพแนะนำกิ้งก่าลาวา ด้วยขณะที่มันออกมาแล้วมันก็วิ่งออกมาอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับเสียงคำรามที่ดูเหมือนจะฉีกผู้คนได้
“ก๊าซซซซ~!”
ใบหน้าที่ดูดุร้ายมากโผล่ออกมาพร้อมด้วยพร้อมที่ท่วมท้นอย่างกับสัตว์ร้ายยุคแรกๆ ความโหดร้ายและความเย่อหยิ่งแผ่กระจายออกมาจาจากสนามประลอง
มันเริ่มต้นด้วยการวิ่งไปรอบๆอย่างบ้าคลั่งทันทีเมื่อมันปรากฎตัวออกมา!
น่าสะพรึงกลัว!
น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก!