TXV – 15 มองไม่เห็นอะไรเลย...
TXV –15 มองไม่เห็นอะไรเลย...
เจียงหยู่ยี่ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนถึงโต๊ะตำรวจคนอื่นๆ
ในสถานีตำรวจแห่งนี้ไม่มีใครอยู่เลยนอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงเพียงไม่กี่คน
เจียงหยู่ยี่เดินไปที่โต๊ะทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงและถามว่า “วันนี้เกิดอะไรขึ้น ? ทุกคนหายไปไหนกันหมด ?”
เจ้าหน้าคนนั้นก็ตอบกลับไปว่า “พวกเขาถูกส่งออกไปโดยรองหัวหน้าฮัว”
“ส่งออกไปทำอะไร ?”
“บางคนก็ออกไปสอบสวนคดีเก่าๆที่เกิดขึ้น ส่วนบางคนก็ไปลาดตะเวน บางคนก็ไปติดตามคดีการลักขโมยต่างๆ พวกเขาออกไปเพิ่งออกไปเมื่อไม่นานมานี้ !”
เจียงหยู่ยี่โกรธจัด “พวกสวะ ! ผู้บัญชาการบอกว่าถ้าฉันไม่สามารถปิดคดีนี้ได้ภาย 1 อาทิตย์ ฉันจะโดนปลดออกจากหัวหน้าแล้วทำไมพวกเขาถึงทิ้งฉันไปทำคดีอื่นในเวลานี้ ?”
“อืม…” ฮัวชางห่ายปรากฏตัวขึ้นในสถานีตำรวจแห่งนี้พร้อมกับถ้วยแบล็คคาโรที่สวยงามอยู่ในมือของเขาและมองไปที่หน้าของพวกเรา “หวาง มาดื่มชากับผมสิ !”
“ค่ะ !” เจ้าหน้าที่หวางยืนอยู่หน้าโต๊ะของรองหัวหน้าฮัว ทำให้ทัศนคติของเธอจงรักภักดีต่อเขามากขึ้นและคงเคารพรองหัวหน้าฮัวมากกว่าเคารพต่อเจียงหยู่ยี่เสียอีก
“เรื่องนี้มันหมายความว่ายังไง มันเกี่ยวอะไรกับรองฮัว ? แล้วใครจะมาสอบสวนคดีของศาสตราจารย์ชางปัวชิงล่ะ ถ้าเจ้าหน้าที่ทุกคนออกไปทำคดีกันหมด ?” เจียงหยู่ยี่ถามด้วยน้ำเสียงที่กำลังโกรธ
ฮัวชางห่ายตอบมาว่า “ผม….ผมจะเป็นผู้สืบสวนคดีนี้เอง ผมจะทำให้ดีที่สุดในการสืบสวนคดีฆาตกรรมของศาสตราจารย์ชางปัวชิง” เขาหยุดนิ่งสักครู่หนึ่งและก็ยิ้มออกมาจากนั้นเขาก็พูดต่อมาว่า “หัวหน้าเจียง เธอไม่เคยนำทีมไปสืบสวนคดีใดๆเลย ดังนั้นเธอคงไม่มีสบการ์ประสบการณ์สำหรับเรื่องนี้ ให้เธอนั่งรอพวกเราสืบสวนคดีอย่างสบายๆในสถานีตำรวจแห่งนี้เถอะ เดี๋ยวพวกเราจะมุ่งหน้าสืบสวนคดีนี้โดยทีมของพวกเราเอง”
“ฮัวชางห่ายคุณตั้งใจแกล้งฉัน !” เจียงหยู่ยี่โกรธจัดมาก “ผมจะรายงานให้ผู้บัญชาการทราบเอง !”
ฮัวชางห่ายหัวเราะเบาๆ “ก็ตามที่ผมพูดนั่นแหละตอนนี้ผมเป็นหัวหน้าทีมการสืบสวนคดีฆาตกรรมของศาสตราจารย์ชางปัวชิง คุณจะให้ผมทำอะไรเพิ่มอีกไหมล่ะ ? ถ้าคุณมีความสามารถพอคุณก็ทำเองเลยสิ !”
“คุณ….” เจียงหยู่ยี่โกรธจัดจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้
“อะไรล่ะ …. ? คุณ..หมายถึงว่าคุณไม่มีความสามารถพอที่จะสืบสวนคดีนี้เองใช่หรือไม่ ?” คำพูดของฮัวชางห่ายจงใจยั่วยุให้เจียงหยู่ยี่โกรธ
เซี่ยเหล่ยไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแม้แต่น้อยแต่เขาก็ทนไม่ได้เมื่อเห็นเจียงหยู่ยี่กำลังโดนรังแก “ฮัวชางห่ายคุณคิดว่าคุณจะสามารถหยุดการสืบสวนคดีของเจียงหยู่ยี่ ได้หรอ ? ผมจะบอกคุณให้นะ ใบหน้าของคนร้ายที่สเก็ตภาพไว้มันเป็นที่ประจักษ์แน่นอนอยู่แล้ว ถ้ามองในกรณีนี้ก็คือคดีนี้ถูกสืบสวนไปครึ่งนึงของคดีทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว”
ฮัวชางห่ายยิ้มอย่างเยาะเย้ย “ทั้งสองคนนี้คุณมั่นใจได้ไงว่าเป็นคนร้าย ? เด็กก่อสร้างตัวน้อยคุณคิดว่าคุณเจอกับคนร้ายทั้ง 2 คนที่เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมของศาสตราจารย์ชางปัวชิง ? คำพูดของคุณน่าเชื่อถือแค่ไหนหรอ ? คุณมีหลักฐานไหมล่ะ ? ผมคิดว่าคุณได้สร้างผู้ต้องสงสัยปลอมๆขึ้นมา 2 คนเพื่อที่คุณจะได้ใกล้ชิดกับหัวหน้าเจียงเพื่อสร้างความสนิทสนมซะอีก ผมพูดถูกมั้ย ?”
เซี่ยเหล่ยยิ้มออกมาอย่างร่าเริง “อย่ามาแสดงความเป็นไก่อ่อนให้คนอื่นเห็นเลย คุณสามารถหัวเราะเยาะเย้ยได้แค่ในเวลานี้เท่านั้นแหละ เมื่อเจียงหยู่ยี่สามารถสืบสวนคดีนี้ได้สำเร็จภายใน 1 สัปดาห์ คุณควรที่จะเริ่มร้องไห้ได้แล้วนะ กับการที่คุณจะได้เป็นหัวหน้าของตำรวจแห่งนี้คงจะเป็นเรื่องที่ฝันไป ตอนแรกผมกำลังจะกลับไปดูแลร้านค้าของผม แต่ตอนนี้ผมคิดว่าผู้ชายคนนี้มันดูน่ารังเกียจเกินไป ผมเลยตัดสินใจที่จะช่วยคุณสืบสวนดคีนี้”
เซี่ยเหล่ยมองไปที่เจียงหยู่ยี่ “คุณต้องสัญญากับผมนะ ห้ามไล่รองฮัวออกลดตำแหน่งให้เขาเป็นยามตัวน้อยๆ เฝ้าสถานีตำรวจนะ !”
“ได้เลย ! ฉันสัญญา” เสียงของเจียงหยู่ยี่เต็มไปด้วยความสบายใจ มีรอยยิ้มปรากฏบนหน้าของเธอเล็กน้อยและมองไปที่เซี่ยเหล่ยด้วยสายตาที่รู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก
“อะไรนะ ! จะให้ใครเป็นยามตัวน้อยๆในที่แห่งนี้ !” รอยยิ้มทั้งหมดได้หายออกไปจากหน้าฮัวชางห่ายทันที
เซี่ยเหล่ยไม่ได้สนใจกับคำพูดของเขา เขายิ้มและพูดว่า “พวกเราไปกันเถอะ”
หลังจากที่ทั้งสองคนเดินออกมาจากสถานีตำรวจเจยงหยู่ยี่ดึงมือเซี่ยเหล่ยออกมา “เหล่ย...ขอบคุณมากๆเลยนะฉันเกือบจะสูญเสียความมั่นใจและชื่อเสียงของตัวเองไปแล้วถ้าคุณไม่ช่วยพูดคำเหล่านั้นแทน ฉันคงจะเป็นตัวตลกของที่นี่”
“คุณกำลังถูกรังแก แน่นอนอยู่แล้วที่ผมต้องช่วย” เซี่ยเหล่ยกล่าว
เจียงหยู่ยี่ยิ้มให้เซี่ยเหล่ยอย่างน่ารักและถามว่า “ตอนที่ รองฮัวพูดว่าคุณต้องการจะอยู่ใกล้ๆกับฉันนี่ มันเป็นเรื่องจริงหรือป่าว ?”
“ห๊ะ !” เซี่ยเหล่ยตกใจมาก “ไม่มีทาง ! เหล่ยที่ไม่ทำแบบนั้นกับคุณเด็ดขาดถึงแม้ว่าคุณจะเป็นผู้หญิงคนสุดท้ายบนโลกนี้ เหล่ยไม่มีทางที่จะคบเพื่อนร่วมชั้นเรียนตั้งแต่สมัยเด็กมาเป็นแฟนเด็ดขาด”
เจียงหยู่ยี่ต่อยเซี่ยเหล่ย “คุณไม่พอใจฉันที่แย่งกินขนมของเหล่ยเมื่อตอนยังเด็กเนี่ยนะ ไอ้คนใจแคบ !”
เซี่ยเหล่ยหลบกำปั้นของเธอ จากนั้นเขาก็หัวเราะแล้วพูดว่า “เอาล่ะๆ หยุดล้อเล่นได้แล้ว ทำงานกันต่อหยู่ยี่มีแผนอะไรมั้ยล่ะ ? กับคดีนี้”
อารมณ์ของเจียงหยู่ยี่กลับมาสงบอีกครั้ง “ฉันไม่รู้จริงๆว่าจะทำอย่างไรต่อ สิ่งที่ฮัวชางห่ายพูดมันก็ถูกต้อง ฉันไม่มีประสบการณ์ในคดีแบบนี้จริงๆ” เจียงหยู่ยี่มองไปทีเซี่ยเหล่ย “บอกฉันหน่อย ฉันไม่มีประโยชน์อะไรเลยใช่มั้ย ?”
“อย่าไปดูถูกตัวเองเลย การที่คุณเป็นหัวหน้าตำรวจ ผมก็ไม่รู้ว่าข้อดีของคุณคืออะไรดูเหมือนว่าหัวหน้าของคุณน่ะมีความคิดอะไรบางอย่าง”
เจียงหยู่ยี่มองที่เซี่ยเหล่ยด้วยดวงตาที่เป็นประกาย “คุณกำลังชมหรือกำลังด่ากันแน่เนี่ย ?”
“ชมอยู่แล้ว !” เซี่ยเหล่ยหัวเราะ “เอาล่ะพวกเราไปที่บ้านของศาสตราจารย์ชางปัวชิง เพื่อดูบริเวณรอบๆบ้านเผื่อจะมีเบาะแสอะไรเพิ่มเติม ผมจะช่วยคุณในการสืบสวนคดีครั้งนี้”
เจียงหยู่ยี่ขมวดคิ้ว “ทีมงานตำรวจมืออาชีพเขาได้เข้าไปแล้วแต่ก็ไม่พบเบาะแสหรือร่องรอยของคนร้ายเลย เราจะเสียเวลาไปที่นั่นทำไมล่ะ ?”
“เผื่อมีเบาะแสที่พวกเขาหาไม่เจอ ? ลองไปดูรอบๆสถานที่เกิดเหตุกัน เราอาจจะเจอเบาะแสเพิ่มเติม ถ้าพวกเราโชคดี”
เจียงหยู่ยี่ยืนคิดสักครู่หนึ่ง “ตกลง ไปกันเถอะ ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มหาเบาะแสของคนร้าย 2 คนนั้นจากที่ไหน”
เซี่ยเหล่ยเข้าไปในรถของเจียงหยู่ยี่และโทรหาหม่าเสี่ยวอัน เพื่อบอกว่าเขามีงานต้องทำ
หม่าเสี่ยวอันหัวเราะคิกคัก “อย่ากังวลไปเลยเดี๋ยวผมจะจัดการกับทุกอย่างในร้านเอง เหล่ยผ่อนคลายและสนุกกับภรรยาของเหล่ยในอนาคตเถอะ อ้อ...อย่าลืมพกถุงยางอนามัยไปล่ะ ฮ่าๆ”
“พกตรีนกูนี่แหละ !” เซี่ยเหล่ยรีบวางสายจากหม่าเสี่ยวอัน
เจียงหยู่ยี่มองไปทีเซี่ยเหล่ยก่อนจะถามว่า “เหล่ยโทรหาใคร ? เขาบอกให้เหล่ยทำอะไร ?”
“หม่าเสี่ยวอันหน่ะ เขาเตือนให้เหล่ย…..” เซี่ยเหล่ยเกือบจะพูดคำที่หม่าเสี่ยวอันบอก “เขาให้เหล่ยนำเงินติดตัวไปด้วย” เซี่ยเหล่ยรีบเปลี่ยนประโยคทันที
“นำเงินสด ? เพื่อ ?” เจียงหยู่ยี่ยิ้มอย่างอ่อนหวาน “เหล่ยจะพาฉันไปเลี้ยงข้าวหรอ ? พาฉันไปที่ร้านอาหารสไตล์ตะวันตกสิ ฉันรู้ว่าที่มันมีเสต็กรสชาติดีอยู่ที่นั่น”
เซี่ยเหล่ยเหลือบตาไปมองเจียงหยู่ยี่ “ฝันไปเถอะ ! ตั้งใจขับรถต่อไป”
“เจ้าคนขี้งก !” เจียงหยู่ยี่บ่นพึมพัม “พี่ใหญ่คนนี้กำลังสอนเหล่ยจีบสาว เหล่ยจะหาแฟนด้วยวิธีเป็นคนขี้งกได้ยังไง ?”
เซี่ยเหล่ยไม่พูดะไร….
บ้านของศาสตราจารย์ชางปัวชิงเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ที่ดูหรูหราอย่างมาก ครึ่งชีวิตของเขาที่ผ่านมาเขาได้อยู่ที่นี่ เขาไม่มีลูกเลย สมบัติของเขาที่มีทั้งหมดจึงลอยเคว้งคว้างไปหลังจากที่เขาเสียชีวิต
เจียงหยู่ยี่ฉีกเทปกั้นของตำรวจและพาเซี่ยเหล่ยเข้าไปในบ้าน สภาพบ้านในตอนนี้ไม่อนุญาตให้ผู้อื่นเข้ามาทำลายหรือฉีกเทปตำรวจออกแต่เธอสามารถทำได้เพราะเธอมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าตำรวจ เธอก็ต้องการที่จะคลี่คลายคดีนี้เช่นกัน
ภายในห้องนั่งเล่นนี้มันดูสะอาดสะอ้านเป็นอย่างมากและทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติเลย
“ห้องนี้ถูกทำความสะอาดหลังจากเกิดเหตุฆาตกรรมหรือไม่ ?” เซี่ยเหล่ยถาม
“มันเป็นแบบนี้ตั้งแต่พวกเรามาถึงแล้วหลังจากได้รับรายงานจากแม่บ้าน เธอบอกว่าจะปลุกศาสตราจารย์ชางปัวชิงก่อนที่จะทำความสะอาดบ้านเสียอีกแต่เธอพบว่าเขานอนตายอยู่ในห้องนอนของเขาเธอจึงเรียกตำรวจทันทีและบอกว่าไม่ได้สัมผัสอะไรหลังจากเกิดเหตุทั้งสิ้น” เจียงหยู่ยี่กล่าว
“พาผมไปที่ห้องนอนหน่อย”
เจียงหยู่ยี่นำเสี่ยเหล่ยไปที่ห้องนอนชั้น 2
ห้องนอนแห่งนี้ก็ไม่มีอะไรผิดสังเกตมากนัก ไม่มีคราบเลือดอะไรเลยบนพื้น ผ้าห่มถูกผลักออกไปเหมือนกับว่าศาสตราจารย์ชางปัวชิงเพิ่งลุกอกจากเตียง สิ่งของที่อยู่ในห้องนี้ก็ปกติทุกอย่างไม่มีอะไรเสียหายเลยไม่ได้น้อย
สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ภายในแห่งนี้ก็คือภาพวาดโครงร่างของศาสตราจารย์ชางปัวชิงบริเวณข้างหน้าต่างบนพื้นไม้ หลังจากที่พบศพของศาสตราจารย์ชางปัวชิง
เจียงหยู่ยี่ถอนหายใจออกมา “นี่มันดูเหมือนไม่ใช่การฆาตกรรมเลย ฉันไม่สามารถเห็นเลยว่าคนร้ายทั้งสองคนมันกระทำการได้ยังไงโดยที่ไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้เลย”
“ถึงแม้ว่าจะมีลมพัดฝุ่นเข้ามาภายในห้องและมีผู้ชายคนเดียวในห้อง ฆาตกรมันก็คงต้องทิ้งอะไรไว้บางส่วนแหละเพียงแต่ว่าทีมงานกรมตำรวจยังไม่พบมันแค่นั้นเอง” เซี่ยเหล่ยกล่าว
“ทีมงานตำรวจมีช่างเทคนิคมืออาชีพพวกเขามีอุปกรณ์ที่เพียบพร้อมทุกอย่างพวกเขาทำการตรวจสอบบ้านหลังนี้ทั้งหมดแล้ว พวกเราจะมาหาเบาะแสอะไรอีกล่ะ ?” เจียงหยู่ยี่กล่าว
เซี่ยเหล่ยไม่ได้สนใจกับสิ่งที่เจียงหยู่ยี่กำลังอธิบายอยู่เลยและเขาก็ถามเธอว่า “โอ๊ ใช่สิ ! มันไม่มีร่องรอยฆาตกรรมแม้แต่น้อยและพวกคุณยืนยันได้ยังไงล่ะว่าการเสียชีวิตของศาสตราจารย์ชางปัวชิงเป็นการฆาตกรรม”
“สิ่งเหล่านั้นมันบ่งบอกอยู่ในร่างกายของเขา คอของเขาหักและไม่มีร่องรอยการต่อสู้แม้แต่น้อย” เจียงหยู่ยี่กล่าว “ถ้าเขาคอไม่ได้หักเช่นนี้พวกเราก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเขาโดนฆาตกรรม”
“เหล่ยจะหาเบาะแสด้วยตัวเอง !” เซี่ยเหล่ยเดินไปที่หน้าต่างและก้มลงไปมองเส้นวาดร่างกายของศาสตราจารย์ชางปัวชิงบนพื้น เขาก้มลงไปมองประมาณ 1 นาทีโดยเขาค่อยๆก้มลงไปใกล้มากๆจนหน้าเขาเกือบจะติดพื้น
ช่างเทคนิคของกรมตำรวจมีอุปกรณ์เช่นแว่นขยายและผงเรืองแสงทำให้พวกเขาเห็นร่องรอยอย่างชัดเจนแต่เมื่อเทียบกับเซี่ยเหล่ยแล้วเขามีตาข้างซ้ายที่น่าทึ่ง เขาสามารถเห็นฝุ่นที่ลอยอยู่ในอากาศได้ด้วยตาเปล่า โดยตาซ้ายที่เขามีในตอนนี้มันมีประโยชน์มากกว่าอุปกรณ์เหล่านั้นของตำรวจซะอีก !
เจียงหยู่ยี่มองไปที่เซี่ยเหล่ยอย่างแปลกใจ “เหล่ย ทำอะไรอยู่ ?”
“กำลังหาเบาะแสอยู่” เซี่ยเหล่ยตอบขณะที่เขาจ้องมองไปที่พื้นด้วยตาเปล่า
“เหล่ยกำลังมองหามด ?” เจียงหยู่ยี่กล่าว เธอยกขาขึ้นและจากนั้นเล็งไปที่ก้นของเซี่ยเหล่ย
ทันใดนั้นซี่ยเหล่ยหันหลังมองไปที่เจียงหยู่ยี่กำลังยกขาพร้อมที่จะเตะก้นของเขา เธอยกขาขึ้นสูงกว่าปกติทำให้เขามองเห็นชุดชั้นในที่อยู่ใต้กระโปรงของเธอภาพเหล่านั้นมันได้ไปกระตุ้นจิตใจของเขาอีกครั้ง
“เหล่ยอยากตายเรอะ !” ใบหน้าของเจียงหยู่ยี่กลายเป็นสีแดงเหมือนลูกตำลึงที่ใกล้สุกทันทีหลังจากที่เธอเห็นเซี่ยเหล่ยจ้องมองไปที่กระโปรงของเธอ เธอรีบหุบขาโดยทันทีราวกับว่าเธอกลัวว่าเซี่ยเหล่ยจะเห็นชุดชั้นในของเธอ
เซี่ยเหล่ยกระแอมแบบเก้ๆกังๆ “อืม…. ผมไม่เห็นอะไรนะ !”
“หุบปากไปเลย !”เจียงหยู่ยี่รู้สึกอายมากๆจนอยากจะมุดดินหนีไปตอนนี้
เซี่ยเหล่ยปิดปาก เขาคิดในใจว่า “เสื้อผ้าของเธอไม่สำคัญสำหรับเราหรอก เรามองไปที่ร่างกายของเธอไม่ใช่เสื้อผ้าของเธอ แต่..เธอคงไม่รู้หรอก”
อากาศในห้องนั้นก็เริ่มอึดอัดขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ ในที่สุดเซี่ยเหล่ยก็รอดพ้นจากสายตาอาฆาตของเจียงหยู่ยี่และเธอเดินไปที่หน้าต่างและใช้มือผลักหน้าต่างบานหนึ่งออกไป…..
ขอบคุณครับ แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้า ติดตามข่าวสารและเรื่องราว https://www.facebook.com/Tranxending-Vision-1843606792370694/ ขอเพียงแค่กดไลค์กดติดตาม ก็เป็นกำลังใจให้ผมแปลต่อได้แล้วคร้าบบบ ฝากด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
###################################################################