TXV – 14 เครื่องมือของพระเจ้า !
TXV – 14 เครื่องมือของพระเจ้า !
“คุณรู้อะไรบางอย่างหรอ ?” การแสดงท่าทีของเซี่ยเหล่ยทำให้เจี่ยงหยู่ยี่ประหลาดใจ
เซี่ยเหล่ยยิ้มและพูดว่า “ไม่มีอะไรหรอก เหล่ยมั่นใจว่ากุญแจนี้ต้องเป็นสิ่งสำคัญแน่ๆ”
“คุณยังจำรูปร่างลักษณะของคนร้ายได้มั้ย ?”
“แน่นอน ผมจำได้ ผมสามารถบอกรูปร่างของคนร้ายได้แต่คุณสามารถสเก็ตรูปตามที่ผมพูดได้มั้ยล่ะ ?”
“แน่นอนฉันทำได้อยู่แล้ว ! ตอนที่ฉันยังเรียนอยู่ในโรงเรียนตำรวจฉันได้รับรางวัลด้วย !” เจียงหยู่ยี่หยิบกระดาษและดินสอขึ้นมาและนั่งตรงหน้าเซี่ยเหล่ย “ฉันพร้อมแล้ว เริ่มสเก็ตภาพผู้ชายคนนั้นก่อน”
เซี่ยเหล่ยค่อยๆบรรยายถึงลักษณะของคนร้ายอย่างละเอียดในขณะที่เจียงหยู่ยี่เริ่มสเก็ตภาพคนร้าย
ถ้ามีเครื่องที่สามารถพิมพ์ภาพที่อยู่ในใจของเซี่ยเหล่ยตอนนี้ออกมาได้ ภาพของผู้ชายคนนั้นและผู้หญิงเซ็กซี่ในวันนั้นก็คงจะทำเสร็จภายในเพียงแค่เสี้ยววินาทีเป็นสิ่งที่น่าเสียดายที่ยังไม่มีเครื่องมือสะดวกสบายแบบนั้นเกิดขึ้น
ขณะที่เซี่ยเหล่ยกำลังบอกลักษณะของคนร้ายกับเจียงหยู่ยี่ ความสามารถในการจดจำของตาซ้ายของเซี่ยเหล่ย ค่อยๆพัฒนาขึ้นแม้ว่าความจำของเซี่ยเหล่ยดีอยู่แล้วแต่เมื่อมารวมกับความสามารถของตาซ้ายเช่นนี้ ทำให้ประสิทธิภาพของความจำของเขาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากแถมยังสามารถบันทึกข้อมูลได้ทุกรูปแบบในสิ่งที่เขาเคยเห็นและเก็บมันไว้ในความทรงจำแล้วจะเอาภาพเหล่านั้นออกมาดูเมื่อไหร่ก็ได้
“ด้วยความสามารถแบบนี้เราสามารถจะจดจำคำศัพท์หลายๆคำได้อย่างไม่มีปัญหา เราสามารถที่จะเรียนรู้ภาษาอังกฤษหรือแม้แต่ภาษาต่างประเทศอื่นๆ เราก็ทำได้สบายๆ ทำไมเราไม่ลองทำล่ะ ?” เซี่ยกำลังคิดสิ่งนี้อยู่ในใจของเขา
เจียงหยู่ยี่ได้สเก็ตภาพคนร้ายทั้ง 2 คนเสร็จสิ้น !
เซี่ยเหล่ยดูภาพที่เจียงหยู่ยี่สเก็ตมา มีความคล้ายคลึงกับคนร้ายประมาณ 95 เปอเซ็นต์แต่มันคงเพียงพอที่จะออกหมายจับคนร้ายได้โดยที่ไม่จับผิดคน !
“ใช่พวกโจรใช่มั้ย ? คุณแน่ใจนะ !” เจียงหยู่ยี่จ้องมองไปที่เซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยพยักหน้า “ใช่พวกเขาแน่นอน”
“นั่งรอก่อนสิ ฉันจะเอารูปภาพเหล่านี้ไปใส่ไว้ในฐานข้อมูลเพื่อหาบุคคลที่มีรูปร่างตรงกันมาสอบสวน” เจียงหยู่ยี่หยิบรูปภาพสเก็ตและเดินไปที่ประตู
เซี่ยเหล่ยพูดว่า “เหล่ยขอดูข้อมูลของกุญแจอันนี้ได้มั้ย ?”
“เชิญตามสบาย ถ้าคุณอยากดู” เจียงหยู่ยี่เดินออกไปนอกห้อง
เซี่ยเหล่ยหยิบงานวิจัยของศาสตราจารย์ชางปัวชิงและอ่านไปครึ่งหน้าของงานวิจัย เขาก็มีความคิดผุดขึ้นมาในหัว “ทำไมเราไม่ลองใช้ความสามารถใหม่ที่เพิ่งค้นพบล่ะ !”
ในตอนนี้เซี่ยเหล่ยได้คิดถึงสิ่งต่างๆที่ไกลเกินเอื้อมของเขา แต่เมื่อเขามีตาซ้ายที่มีความารถมากมายเช่นนี้ เขาสามารถฉีดกฏทุกอย่างของเขาที่เขาไม่สามารถทำได้ในเมื่อก่อนได้และในตอนนี้เขาก็สามารถจดจำภาพที่เขาเห็นมาได้ทั้งหมดจากตาซ้าย
เมื่อเซี่ยเหล่ยคิดได้เช่นนี้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องอ่านข้อมูลมากมายเหมือนคนธรรมดาทั่วไป เขาสามารถอ่านข้อมูลที่เขาอยากรู้โดยใช้เวลาในการอ่านน้อยลงมากและเขาสามารถจดจำข้อมูลที่ผ่านสายตาเขาได้ทั้งหมด
หลังจากที่เซี่ยเหล่ยได้อ่านงานวิจัยของศาสตราจารย์ชางปัวชิงจบครึ่งหน้า เขาปิดตาลงและใช้ตาซ้ายของเขาเรียกภาพที่เขาเพิ่งอ่านจะไปเมื่อกี้ขึ้นมา ปรากฏว่าเขาสามารถจดจำได้ทุกตัวอักษรแม้กระทั่งเครื่องหมายจุลภาค เวลาและชื่อสถานที่ทุกอย่างได้ถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นต์
กุญแจนั้นถูกเขียนในงานวิจัยของศาสตราจารย์ชางปัวชิงกุญแจว่าเป็นสิ่งโบราณจากราชวงศ์หมิงและมีอายุมากกว่า 600 ปีในงานวิจัยยังกล่าวอีกว่ากุญแจอันนี้จะสามารถเปิดห้องลึกลับและคลังสินค้าโบราณได้ไม่เพียงแค่นั้นกุญแจอันนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของแผนที่…..
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งลึกลับเป็นอย่างมาก !
ในขณะนั้นเซี่ยเหล่ยไม่สามารถเก็บความตื่นเต้นของเขาได้ เขาจึงหัวเราะอย่างเสียงดังออกมา “ไม่น่าเชื่อ….เรากำลังทำอะไรเนี่ย ? เราควรไปที่ร้านหนังสือเพื่อเลือกหนังสือภาษาอังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น รัสเซียและภาษาอื่นๆ เราจะเรียนรู้ภาษาทั้งหมดในโลกนี้และไม่มีภาษาไหนที่เราไม่สามารถเรียนรู้ได้ !”
เซี่ยเหล่ยไม่เคยคิดแล้วว่าจะมีความสามารถอื่นๆซ่อนอยู่ในดวงตาข้างซ้ายของเขาอีกอย่างไรก็ตามตอนนี้เขาค้นพบแล้วว่าตาซ้ายของเขาสามารถบันทึกภาพและสามารถมองทะลุสิ่งของได้
คนทั่วไปจะต้องใช้ความรู้และความพากเพียรในการเรียนรู้บางสิ่งบางอย่างแต่ด้วยความสามารถที่เซี่ยเหล่ยมีเขาสามารถเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างง่ายดายดวงตาข้างซ้ายของเขาเปรียบเสมือนเครื่องมือของพระเจ้าเขาสามารถเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาอยากเรียนรู้ได้ !
“คุณหัวเราะอะไรหน่ะ ? คุณป่วยหรอ ?” เจียงหยูยี่เดินเข้าไปในห้องและจ้องมองเซี่ยเหล่ยแบบแปลกๆ
เซี่ยเหล่ยหยุดหัวเราะแล้วยิ้มให้เจียงหยู่ยี่ “ใช่ ผมป่วย ผมคงเป็นบ้าไปแล้ว !”
เจียงหยูยี่เดินไปหาเซี่ยเหล่ยและแตะที่หน้าผากของเขา “ตัวคุณไม่ได้ร้อนหนิ ไม่มีไข้ หรือว่า...เหล่ยป่วยเป็นโรคจิต ?”
เมื่อเจียงหยู่ยี่เข้ามาใกล้กลิ่นน้ำหอมที่ช่างน่าอภิรมย์กลิ่นจากตัวของเธอได้ไหลผ่านไปยังปอดของเขา เซี่ยเหล่ยกำลังมองตัวเธออย่างใกล้ชิดด้วยตาซ้ายของเขา เขามองไปและยืนขึ้น “เอาล่ะ เหล่ยช่วยให้หยู่ยี่สเก็ตภาพคนร้ายเสร็จแล้ว หยู่ยี่ไม่ต้องการความช่วยเหลืออะไรจากเหล่ยแล้วใช่มั้ย? ถ้าไม่มีอะไรแล้วเหล่ยขอกลับไปที่ร้านของเหล่ย เพื่อเตรียมตัวเปิดร้านนะ”
“ฉันชอบที่คุณไปเปิดร้านเล็กๆของตัวคุณเองนะ” เจียงหยู่ยี่ยิ้มและพูดว่า “นี่มันเป็นสิ่งที่ดี คุณจะทำธุรกิจเป็นของตัวเองมันดีกว่าไปทำงานก่อสร้างของคนอื่นบอกฉันมานะว่าคุณเอาเงินมากมายมาเปิดร้านจากไหน ?”
“มันเป็นเงินที่ผมสะสมไว้เพื่อที่จะขอผู้หญิงแต่งงาน โอเค ? ผมไม่อยากตอบคำถามอะไรอีกแล้ว ลาก่อน !” เซี่ยเหล่ยเดินจากไป
“เหล่ย ถ้าฉันขอเลี้ยงข้าวเหล่ยอีกสักมื้อจะได้มั้ย ?” เจียงหยู่ยี่กล่าว
เซี่ยเหล่ยหันมองมาที่เจียงหยู่ยี่ “ร้านอาหารสือฉวนที่นั่นอีกหน่ะหรอ ?”
เจียงหยู่ยี่ส่ายหัว “ไม่ใช่เราจะไปร้านอาหารสือฉวนอีกแห่งหนึ่ง !”
เซี่ยเหล่ยไม่ได้พูดอะไรออกมา….
ในขณะนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจวัยกลางคนคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่หน้าทางเข้าของประตูห้องนั้นและยืนขวางทางของเซี่ยเหล่ย !
เซี่ยเหล่ยหลีกตัวออกไปด้านข้างอย่างช้าๆและมองไปยังป้าชื่อของเขา ชื่อของเขาคือ ฮัวชางห่ายและเขาสวมเครื่องแบบชุดหนึ่งทำให้ดูรู้เลยว่าเขาอยู่ในยศเทียบเท่าเจียงหยู่ยี่
ฮัวชางห่ายอยู่ในตำแหน่งรองหัวหน้าสถานีตำรวจแห่งนี้และเขาหวังว่าจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหัวหน้าเมื่อหลีชิงฮัวถูกปลดออกไปแต่ก็มีบางอย่างเกิดขึ้นซึ่งมันทำร้ายจิตใจเขาเป็นอย่างมาก มีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆได้ขึ้นตำแหน่งหัวหน้าแทนเขาและเขาเป็นคนที่ต่อต้านการที่เจียงหยู่ยี่ขึ้นเป็นหัวหน้ามากที่สุด
ฮัวชางห่ายเหลือบมองไปที่เซี่ยเหล่ยหลังจากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในห้องทำงานของเจียงหยู่ยี่และหยิบภาพวาดของเธอบนโต๊ะขึ้นมาและพูดว่า “หัวหน้าเจียงคุณไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะออกหมายจับบุคคลในภาพ 2 คนนี้ !”
ตัวของเจียงหยู่ยี่เริ่มสั่นกับเสียงที่ดุดันของเขาที่พูดกับเธอ “เจ้าหน้าที่ฮัว…. พวกเราต้องหาหลักฐานอะไรเพิ่ม ?... เพื่อนของฉันเห็นพวกเขา เขาคงไม่มองผิดคนหรอก….”
“เพื่อนของคุณ ?” ฮัวชางห่ายหันไปมองที่เซี่ยเหล่ย ทันนั้นเขาก็จำได้ขึ้นมาว่าเด็กหนุ่มคนนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้หลีชิงฮัวถูกปลดออกจากหัวหน้าตำรวจ ?
เจียงหยู่ยี่กวักมือเพื่อเรียกให้เซี่ยเหล่ยกลับมา “เหล่ย บอกเจ้าหน้าที่ฮัวชางห่ายไปสิ ว่าเหล่ยรู้อะไรมาบ้าง ?”
เซี่ยแสดงรอยยิ้มแบบเซ็งๆออกมาและคิดในใจว่า “มันเป็นหัวหน้าที่ไร้ประโยชน์มากทำตัวเหมือนกับเสือต่อหน้าเราในขณะที่เราเป็นเพียงแค่กระต่าย เราจะต้องบอกอะไรกับมันดีนะกับพวกข่มขู่คนที่อ่อนแอกว่า ?” เซี่ยเหล่ยกำลังบ่นพึมพัมในใจของเขาและจากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาว่า “ผู้ต้องสงสัยสองคนนี้มาหาผมเมื่อวานนี้และผมก็ได้เชื่อมกุญแจให้พวกเขาซึ่งมันเป็นกุญแจเก่าแก่ที่โดนขโมยไปจากบ้านของศาสตราจารย์ชางปัวชิง”
“คุณรู้แค่นี้เรอะ ? คุณเป็นใคร ผมถามว่าคุณเป็นใคร !” ฮัวชางห่ายพูดอย่างดุดันใส่เซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยยืนนิ่งสักครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะลุกไฟ “ใครพูดกับคุณ ? คุณเป็นใคร ผมไม่ได้คุยกับคุณ ผมคุยกับหัวหน้าเจียงเท่านั้น ? ผมไม่สนใจตำแหน่งรองหัวหน้าอะไรหรอก !”
“คุณ !” ฮัวชางห่ายโกรธเป็นอย่างมากใบหน้าของเขาในตอนนี้เหมือนมีเงามารร้ายอยู่บนหน้าเขาเกลียดคำว่ารองหัวหน้ามากที่สุด เพราะคำนี้เป็นเหมือนแผลของเขาตอนนี้ คำพูดของเซี่ยเหล่ยเสมือนเอาเกลือไปทาที่แผลของเขา
“อย่า...” เจียงหยู่ยี่พูดอย่างเก้ๆกังๆ
“และคุณก็ด้วย !” เซี่ยเหล่ยกล่าว “คุณอยู่ในตำแหน่งสูงกว่าเขาแต่ทำไมหยู่ยี่ยอมให้เขามาพูดแบบนั้นกับหยู่ยี่ได้ทั้งๆที่เขาต้องเคารพหัวหน้าตำรวจก็คือเธอ ?”
ฮัวชางห่ายชี้ไปที่จมูกของเซี่ยเหล่ย “คุณควรแสดงความเคารพให้ถูกคนเจ้าเด็กน้อย !”
“ผมจะให้ความเคารพคนที่ได้ควรค่ากับคำว่าเคารพของผมเท่านั้น ? ลืมมันไปซะ ! คุณคิดว่าผมไม่รู้หรอว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ ? คุณกลัวเจียงหยู่ยี่ทำคดีนี้สำเร็จภายใน 1 สัปดาห์และผู้บัญชาการจะมอบตำแหน่งหัวหน้าให้กับเธอ ถ้าเหตุการณ์นี้ผ่านไปได้ด้วยดี คุณจะไม่ได้รับตำแหน่งหัวหน้าตำรวจใช่ไหม ?” เซี่ยเหล่ยหัวเราะเยาะเย้ย !
มุมปากของฮัวชางห่ายบิดเบี้ยวเล็กน้อย เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาเป็นเพราะว่าเซี่ยเหล่ยพูดถูกกับเหตุการณ์ที่เขากำลังกำลังทำอยู่ เขาตื่นตระหนกและกลัวว่าเจียงหยู่ยี่ได้รับภาพสเก็ตของคนร้ายแล้วเธอจะทำคดีนี้ได้สำเร็จเขาจึงรีบมาขัดขวางความก้าวหน้าของเธอในคดีนี้
“คุณทำงานเพียงแค่หวังเงินเดือนจากประชาชน คุณทำงานเพื่อตัวเองไม่ได้ทำงานเพื่อประชาชนเลย ? ผมรู้สึกอับอายอย่างมากถ้าผมเป็นคุณ ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงไม่ยอมแก้ไขปัญหาอาชญากรรม ? คุณอยากรู้ไหมว่าทำไมเขาถึงเลือกเจียงหยู่ยี่แทนที่จะเลือกคุณ เพราะว่าเธอไม่คิดจะยอมแพ้ให้กับอุปสรรค เธอต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคและช่วยเหลือประชาชนทุกๆคน” เซี่ยเหล่ยกล่าว
“ได้ ! เราจะได้เห็นดีกัน ! เชิญทำคดีนี้ด้วยตัวเธอคนเดียว ! เจียงหยู่ยี่” ฮัวชางห่ายคว้ารูปภาพสเก็ตของคนร้ายทั้ง 2 คนกระแทกลงบนโต๊ะและขยำมันเป็นลูกบอลจากนั้นโยนทิ้งลงไปในถังขยะและเขาออกจากห้องนั้นด้วยอารมณ์โกรธมาก เขายังจ้องเขม็งไปที่เซี่ยเหล่ยตลอดทางขณะที่เดินออกไป
เจียงหยู่ยี่และเซี่ยเหล่ยเหลือเพียงลำพังขณะอยู่ในห้องสำนักงานและเวลาตอนนี้ก็เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว
“เหล่ย” เจียงหยู่ยี่กล่าวขึ้นมา “ฉันไม่รู้ว่าทำไมเหล่ยถึงพูดคำเหล่านั้นออกมา แต่ทำไมเหล่ยต้องพูดทำให้มันเลวร้ายลงและสูญเสียสิ่งที่เราได้มาแล้ว ?”
เซี่ยเหล่ยหัวเราะอย่างแห้งๆ “คุณกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดนะแล้วทำไมคุณยังถึงมีอารมณ์ขัน ? มันเป็นเรื่องตลกรึไง ?”
“มันอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดยังไง ?” เจียงหยู่ยี่กำลังสับสน
“คุณไม่ได้ยินสิ่งที่ฮัวชางห่ายพูดออกมาหรอ ? แก้ปัญหาด้วยตัวคุณเอง คุณไม่เข้าใจกับความหมายของคำนี้หรอ ? มันเป็นการบ่งบอกว่าการที่คุณจะสั่งให้ลูกน้องในสถานีตำรวจทำอะไรตามคำสั่งคุณ มันก็ทำได้เพียงนายจ้างสั่งลูกน้องพวกเขาไม่มีจิตใจจะทำงานให้กับคุณเลยแม้แต่นิดเดียว”
เจียงหยู่ยี่ถึงกับตกตะลึง !
เซี่ยเหล่ยถอนหายใจ “เฮ้ออ…. เธอนี่ดูไร้เดียงสาจริงๆลองคิดเรื่องนี้ดูดีๆนะผู้คนในสถานีตำรวจแห่งนี้จะฟังคุณหลังจากที่คุณได้รับเลื่อนตำแหน่งจากเสมียนไปเป็นหัวหน้าตำรวจ ? หลังจากหลีชิงฮัวถูกปลดจากหัวหน้าคนต่อไปที่จะได้รับตำแหน่งแทนมากที่สุดก็คือฮัวชางห่าย มันไม่ใช่คุณเลย เขามีอำนาจและรากฐานที่มั่นคงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและเขาก็เป็นคนที่หล่อเลี้ยงสถานีตำรวจแห่งนี้มาตลอด แต่คุณไม่มีอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นทุกคนในสถานีตำรวจแห่งนี้คิดว่าคุณจะอยู่ในช่วงสัปดาห์ทดลองงานถ้าหยู่ยี่ทำไม่ได้ ฮัวชางห่ายจะได้ขึ้นเป็นหัวหน้าแทนคุณอยู่แล้ว คุณคิดว่าพวกเขาจะฟังคุณหรือ ฮัวชางห่าย มากกว่ากัน ?”
เจียงหยู่ยี่ส่ายหัว “ฉันไม่เชื่อเหล่ยหรอก ! งานก็คืองานและผู้คนที่อยู่ที่นี่จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของฉันถึงแม้ว่าฉันเพิ่งได้เป็นหัวหน้าตำรวจเพียงแค่สัปดาห์เดียวแต่ฉันก็ยังเป็นหัวหน้าตำรวจในตอนนี้ ฉันไม่เชื่อว่าฉันจะไม่สามารถสั่งพวกเขาได้ มากับฉันสิ ! ฉันจะพิสูจน์ให้เหล่ยดูว่าคุณคิดผิด”
เซี่ยเหล่ยยิ้มแบบเซ็งๆให้เจียงหยู่ยี่ “ผมเคยทำงานในสังคมแบบนี้มาก่อนในหลายปีที่ผ่านมา ผมได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างกับการทำงานแห่งความเป็นจริงบนโลกนี้ คุณไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรให้เหล่ยเห็นหรอก ผมทำในสิ่งที่เหล่ยทำได้และผมก็ไม่สามารถช่วยคุณได้ เส้นทางของผม ผมเป็นคนลิขิตเอง !”
“เหอะ ! มันใช้เวลาไม่นานหรอกในการพิสูจน์” เจียงหยู่ยี่จับมือเซี่ยเหล่ยและดึงเขาไปที่ห้องของเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นๆ
ขอบคุณครับ แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้า ติดตามข่าวสารและเรื่องราว https://www.facebook.com/Tranxending-Vision-1843606792370694/ ขอเพียงแค่กดไลค์กดติดตาม ก็เป็นกำลังใจให้ผมแปลต่อได้แล้วคร้าบบบ ฝากด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
###################################################################