ตอนที่30
ระหว่างอยู่บนรถทุกอย่างเงียบมาก ฉันต้องโทรไปบอกนรินก่อนว่าฉันไม่สามารถที่จะกลับไปทำงานได้ ขอฉันพักก่อนดูเสื้อผ้าของฉันสิเละมากเลย
“นรินเธอกลับบ้านได้เลยนะไม่ต้องรอฉันวันนี้ฉันติดธุระกลับไปที่ทำงานไม่ได้...จ้าไว้เจอกันพรุ่งนี้นะนริน”
ฉันหยิบโทรศัพท์เก็บไว้ที่กระเป๋าของตัวเองอีกครั้ง
“ทำไมเธอถึงไม่บอกความจริงกับเขาไปล่ะว่าเธอโดนอะไรบ้าง เธอจะไปบอกว่าติดธุระทำไม”
อยู่ๆพี่เบสก็พูดขึ้นมา ฉันหันไปหาพี่เขาพี่เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ
“มันจะเป็นเรื่องใหญ่โตแล้วมันจะเป็นข่าวยังไงล่ะ ฉันไม่อยากให้มันเป็นข่าวเพราะถ้าเป็นข่าวมันก็จะมีนักข่าวเยอะฉันไม่ชอบให้เป็นแบบนั้น อยู่สงบๆอะดีแล้ว”
พี่เบสพยักหน้าก่อนที่จะขับรถไปที่บ้านของฉัน ซึ่งบ้านของฉันก็เป็นคอนโดเพราะฉันอยู่คนเดียวไม่ได้อยู่กับใคร เมื่อมาถึงที่คอนโดของฉันรถได้จอดที่หน้าคอนโดพอดี
“ถึงแล้ว” พี่เบสพูดขึ้นก่อนที่จะจอดรถแล้วดับรถตรงข้างหน้าคอนโดของฉัน ฉันหยิบกระเป๋าแล้วเก็บของทุกอย่างให้หมดเพื่อที่จะเอาออกจากรถของพี่เบส
“ขอบคุณที่มาส่งค่ะงั้นลาก่อนนะคะฝันดีค่ะ” แล้วฉันก็เดินออกมากำลังจะปิดประตูรถแต่อยู่ๆพี่เบสก็ยื่นใบอะไรสักอย่างให้กับฉัน
“อะไรหรอคะ ??” ฉันถามพี่เบสไปด้วยความสงสัย
“เบอร์โทรฉันไงเอาไว้เรียกฉันเวลาที่เจออะไรไม่ดี” ฉันมองไปที่พี่เบสถึงแม้จะดูไม่ชอบขี้หน้าฉันก็เถอะแต่ก็ยังเป็นห่วงฉันอยู่เหมือนกัน ฉันหยิบนามบัตรยื่นให้พี่เบสคืน
“อันนี้เป็นเบอร์ฉันมีอะไรให้ช่วยเหลือโทรมาถือว่าเป็นการตอบแทนก็แล้วกันนะคะ”
ฉันยิ้มให้พี่เบสแล้วปิดประตูในทันทีเพราะไม่อยากฟังพี่เบสบ่นอะไรให้กับฉันอีก จากนั้นฉันก็ขึ้นไปยังห้องของฉันก่อนจะล้มตัวลงนอนในทันที เจอแบบนี้ฉันก็เหนื่อยเป็นเหมือนกันแล้ววันพรุ่งนี้ก็มีงานอีกเยอะที่ฉันจะต้องแก้ไขอีกมากมาย ฉันนอนหลับลงไปโดยที่ยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเลย //กริ้ง กริ้ง// เสียงโทรศัพท์ของฉันได้ดังขึ้นมาก่อนที่ฉันจะกดรับในทันที
“ตอนนี้มันสายมากแล้วนะคะคุณปอยมาที่ทำงานเถอะค่ะงานเยอะมากเลยค่ะ”
ฉันได้ยินเช่นนั้นฉันส่างในทันทีก่อนที่ฉันจะรีบวิ่งเข้าไปอาบน้ำอาบท่าแล้วนั่งวินไปเอารถตัวเองก่อนจะกลับมาที่ทำงาน
“วันนี้มาช้าระครับคุณปอย” ฟิวพูดขึ้นก่อนที่จะยิ้มให้กับฉัน
“พอดีว่าติดธุระเมื่อคืนดึกไปหน่อยก็เลยมาสายมากวันนี้ ขอโทษทีนะจ๊ะ”
ฉันรีบวิ่งเข้าไปในห้องแล้วตั้งใจทำงานส่งให้มันเสร็จอีกครั้งต้องทนฝืนทำไปแบบนี้ทุกครั้งมันเหนื่อยแต่มันต้องทำ แข็งแกร่งต้องแข็งแกร่งให้มากกว่านี้ ใช้เวลายันเย็นในการทำงานทุกอย่างลืมแม้แต่กินข้าว ลืมไปเข้าห้องน้ำอีกลืมทุกอย่างเพื่อทำงานนี้ให้เสร็จ
“งั้นนรินกลับบ้านก่อนนะคะไว้เจอกันค่ะคุณปอย”
ตอนนี้นรินก็กลับบ้านแล้วส่วนฉันก็กำลังจะกลับบ้านเช่นกันแต่ว่าคงต้องนั่งพักสักพักหนึ่งหน่อยแหละ //กริ้ง กริ้ง// เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้น ใครโทรมากันนะ ??
“ฮัลโหลสวัสดีค่ะไม่ทราบใครโทรมากันคะ” สายนี้ไม่มีชื่อด้วยฉันไม่รู้ว่าใครที่โทรมาหาฉัน
[ฉันเองอะชื่อเบส พอดีว่าฉันไม่มีอะไรทำเลยโทรมาเฉยๆ ว่างคุยหรือเปล่า??]
พี่เบสโทรมาหาฉันหรอ ฉันรู้สึกหัวใจเต้นแรกอีกครั้งหนึ่งเมื่อได้ยินว่าพี่เบสโทรมา
“เอิ่มก็ว่างนะคะทำงานเสร็จหมดแล้วกำลังจะกลับบ้านพอดีเลย”
[อ๋อหรอโอเคกลับบ้านดีๆล่ะ] ฉันลุกขึ้นมาตอนแรกกะว่าจะกดวางสายแต่อยู่ๆก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมากระทบที่หัว ฉันเวียนหัวมากหน้ามืดไม่ไหวแล้ว //ตุบ//
[เสียงอะไรน่ะ ฮัลโหลเป็นอะไรฮัลโหลลล ]
เสียงสุดท้ายที่ฉันได้ยินก่อนที่จะไม่ได้ยินอะไรอีกแล้วทุกอย่างก็มืดลงไปเลย ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นอีกจนกระทั่งฉันลืมตาขึ้นมาก็พบว่าฉันอยู่ในห้องที่ไหนสักแห่งของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
“ตื่นแล้วหรอ” เสียงพี่เบสนี่ฉันหันไปมองที่พี่เบสเห็นว่าพี่เบสกำลังเฝ้าฉันเอาไว้อยู่
“มันเกิดอะไรขึ้นทำไมฉันถึงมาที่นี่ได้ล่ะแล้วทำไมคุณถึงมาที่นี่ได้ล่ะ ??” ฉันถามพี่เบสด้วยความสงสัย
“ก็เธอเป็นลมน่ะสิฉันนี่แทบจะตามไปหาเธอถึงที่แทบไม่ทัน ดีนะที่ไม่กดวางสายก่อนไม่อย่างนั้นคงไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรจนถึงเช้าแน่ๆเลย”
ฉันเป็นลมหรอทำไมฉันถึงเป็นลมได้ล่ะ. . บ้าที่สุดเลยฉันเนี่ย
“แล้วหมอบอกไหมว่าฉันเป็นอะไรถึงเป็นลม” ฉันถามพี่เบสไปเพราะอยากรู้ว่าทำไมฉันถึงเป็นลมได้
“หมอบอกว่าไม่ได้ทานอะไรเลยแล้วก็ทำแต่งานหักโหมเกินขีดจำกัดของตัวเองน่ะสิ”
นี่ฉันทำถึงขนาดนั้นเลยหรอฉันไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าฉันทำถึงขนาดนี้
“นอนพักซะให้หายค่อยตื่นขึ้นมา” พี่เบสพูดขึ้นมีความเป็นห่วงกันด้วยปากไม่ตรงกับใจเลยจริงๆนะ เปลี่ยนไปเยอะมากเลยนะพี่เบส . .