ตอนที่22
ฉันมองลงไปที่หน้าต่างในทุกวันๆ ซึ่งในทุกๆวันพี่เบสก็จะมาเฝ้าฉันอยู่ที่ข้างหน้าแต่ฉันไม่สนใจและเดินผ่านเหมือนพวกเราไม่รู้จักกันเลย ฉันไม่สามารถที่จะมองหน้าของพี่เขาได้อีก เพราะอยากให้พี่เขาลืมฉันไปได้แล้วไม่อยากให้พวกเรามาตกอยู่ในสภาพแบบนี้อีก พี่เบสอยากที่จะเข้ามาจับเข้ามาแตะต้องตัวของฉันเข้ามาพูดกับฉันมาก แต่ก็ไม่สามารถที่จะทำได้เนื่องจากมีพ่อของฉันเดินข้างๆอยู่ในทุกๆครั้งที่ออกไปข้างนอก ฉันไม่สบตาของพี่เบสเลยเพราะยิ่งมองไปที่พี่เขามันยิ่งทำให้ฉันเจ็บ เจ็บปวดกับสิ่งที่พี่เบสทำกับฉัน ฉันควรที่จะพอกับพี่เขามันก็ถูกต้องแล้วนี่อย่าคิดว่าตัวเองทำผิดเลยนะยัยปอย วันนี้ฉันเดินทางไปที่โรงเรียนกับคุณพ่อและคุณแม่เพื่อที่จะไปลาออกจากโรงเรียน เนื่องจากว่าฉันจะต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นพร้อมกับไปเรียนที่อื่นด้วยเช่นกัน คือว่าฉันจะต้องไปอยู่ต่างประเทศแล้วล่ะเพราะถ้าเกิดมีคนรู้ว่าฉันเลิกกับพี่เบสแล้วก็ มันคงจะออกเป็นข่าวไปทั่วประเทศ ฉันคงไม่มีทางตอบคำถามกับนักข่าวทุกคนหมดหรอกนะ
“คือว่าดิฉันจะพาลูกสาวของดิฉันมาลาออกจากโรงเรียนนี้น่ะค่ะ พอดีว่ามีงานที่ต่างประเทศเลยจะเทียบโอนลูกไปเรียนที่ต่างประเทศแทนน่ะค่ะ”
พร้อมเราสามคนมาคุยกับ ผู้อำนวยการโรงเรียนโดยตรงเลยในทันที ซึ่งเมื่อผู้อำนวยการได้ยินเช่นนั้นต้องทำหน้าตาตื่นตกใจที่ได้ยินเช่นนั้น
“ทำไมล่ะครับน้องก็ออกจะเรียนเก่งมากเลยนะครับผมอยากจะให้น้องเรียนให้จบก่อนจังเลย แต่ว่าถ้าเกิดเป็นเหตุที่จำเป็นจริงๆผมก็จะเซ็นไปเทียบโอนให้ไปเรียนที่นู่นก็แล้วกันนะครับ”
ผู้อำนวยการยิ้มให้กับฉันแล้วก็เอากระดาษมาก่อนจะเซ็นลายเซ็นให้กับฉัน แล้วพวกเราก็ลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไปจากที่นี่ในทันที ฉันต้องขอโทษด้วยนะพี่เบสฉันอยู่ไม่ได้จริงๆ ฉันไม่สามารถที่จะอยู่แบบนี้ได้อีกต่อไป ฉันเดินออกมาจากโรงเรียนในตอนที่ทุกคนกำลังอยู่แล้วก็ขึ้นรถไปตรงไปที่บ้านแล้วก็จ้างรถบรรทุกมาบรรทุกของ ตอนนี้ก็คงรอรอที่จะผ่านจุดๆนี้ไปให้ได้ ฉันเก็บของทีละอย่างเก็บเข้าไปๆเอาออกไปแล้วก็เอาออกไป นี่มัน. . .ของที่พี่เบสให้ในวันเกิดมันเป็นของขวัญชิ้นแรกที่พี่เบสให้ในวันเกิดของฉันนี่นา ตุ๊กตาหมีที่น่ารัก. .ฉันเก็บมันใส่ไว้ในกล่องและฉันไม่อยากจะคิดถึงเรื่องนั้น นี่มัน. . .นาฬิกาทรายราคาโคตรพ่อโคตรแม่แพงที่พี่เบสซื้อให้ในวันครบรอบ ฉันยังนึกถึงวันที่ฉันตอบตกลงพี่เบสครั้งแรกอยู่เลยมันทำให้ฉันคิดถึงพี่เขามาก
“เสร็จหรือยังลูกรักรีบเอาใส่แล้วเราก็ไปกันเถอะ พวกพี่เขาขนของเสร็จกันหมดแล้วนะ”
เสียงของแม่ฉันดังขึ้นมาทำให้ฉันต้องหันไปดู แล้วก็รีบเก็บของทุกอย่างลงไปในกล่องของที่สำคัญๆในชีวิตของฉัน แล้วก็วิ่งไปลงไปที่รถก่อนจะรีบเอากล่องใส่ลงไปในรถ ฉันควรจะเอาของบางอย่างที่ฉันซื้อมาให้กับพี่เบสวางไว้ตรงประตูหน้าบ้านดีกว่า เอามันเก็บไว้เป็นความทรงจำของพี่นะพี่เบส ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาตลอดจนสองปีกว่าแล้วขอบคุณมากเลยนะคะ ถึงว่ามันจะยังไม่ถึงวันเกิดของพี่แต่มันคือของขวัญล่วงหน้าของพี่นะ ฉันหยิบของที่ฉันซื้อมาให้พี่เบสเอาวางไว้ตรงข้างหน้าบ้านแล้วเขียนแปะคำบางอย่างเอาไว้ ก่อนจะมองไปที่พ่อกับแม่แล้วก็เดินเข้าไปกอด
“หนูขอบคุณจริงๆนะคะที่คุณป๊ากับคุณแม่ยังอยู่กับหนูมาตลอดไม่เคยเปลี่ยนแปรงไปไหน ไม่เคยคิดจะโกหกและให้อภัยหนูตลอด หนูรักป๊ากับแม่มากๆเลยค่ะ”
แม่กับพ่อของฉันใช้มือข้างหนึ่งมาโอบตัวของฉันพร้อมๆกัน ก่อนที่ฉันและครอบครัวของฉันจะเดินขึ้นรถกันแล้วรถก็เริ่มเคลื่อนที่ไป ฉันมองไปที่นอกหน้าต่างก่อนจะมองลงไปที่ข้างหลังของหน้าต่างเพื่อที่จะดูของที่ฉันเก็บเอาไว้ให้กับพี่เบส ฉันเอาไว้ให้พี่นะแล้วจงลืมปอยให้ได้อย่าหันหลังกลับมาคิดอะไรกับปอยอีกต่อไป เพราะนับจากนี้เราอาจจะไม่มีวันได้รู้จักกันอีกต่อไปแล้วพี่คงจะได้สมใจกับพี่นิ้งนะคะ ขอให้มีความสุขกันทั้งสองคน ; ) ฉันหันกลับมาที่หน้าต่างรถแล้วก็มองรถที่เคลื่อนที่ผ่านบ้าน ร้านค้า และถนนไป. . . ฉันเคยรักเคยผูกพันกับพี่เบสมาแล้ว แล้วตอนนี้ฉันไม่สามารถที่จะกลับไปรักพี่เขาได้อีกครั้ง ถ้าเกิดเราเป็นเนื้อคู่มันเป็นพรมลิขิตจริงๆแล้วก็ขอให้เราได้เจอกันอีกนะคะ แต่ถ้ามันไม่ใช่ก็ขอให้พี่เบสมีความสุขให้มากๆอย่าคิดถึงปอยก็แล้วกัน ท้องฟ้าที่แสนสวยงามทำให้ฉันน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้สาเหตุแต่ฉันคิดว่ามันคือน้ำตาแห่งความดีใจ ไม่ใช่น้ำตาแห่งเสียใจเลยแม้แต่น้อย หนูรักพี่เบสมากเลยนะและยังจะรักอยู่ ขอบคุณมาก...นะคะ