เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 75 ความแน่วแน่บนเส้นทางสายปีศาจ (อ่านฟรี)
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 75 ความแน่วแน่บนเส้นทางสายปีศาจ
แปลโดย iPAT
ฟางหยวนคิดอย่างรวดเร็วอยู่ในบ้านไม้
ด้วยประสบการณ์ทำให้ฟางหยวนเข้าใจเส้นทางของหวังต้า แต่ความแข็งแกร่งของคนผู้นี้อยู่ในระดับใดเป็นสิ่งที่ยังไม่แน่ชัด
ฟางหยวนไม่เคยพบหวังต้า แต่จากข้อมูลที่มี ฟางหยวนสามารถวิเคราะห์ได้ในระดับหนึ่ง
‘ความกล้าหาญมีพื้นฐานมาจากความแข็งแกร่ง หลังจากรู้ข้อมูลและยังต้องการแก้แค้นข้า นั่นบ่งบอกว่าพลังการต่อสู้ของเขาเหนือกว่าระดับหนึ่ง’
‘สามปีที่ผ่านมาเขาย้ายที่ซ่อนไปรอบๆ วงกลมสีแดงทั้งสามอยู่ในพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างสามหมู่บ้านใหญ่ ทุกวันเขาต้องรับความเสี่ยงของการถูกค้นพบ ด้วยสิ่งนี้มันแสดงว่าเขายังไม่มีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะเตร็ดเตร่ไปข้างนอก เพราะการออกไปจำเป็นต้องมีพลังการต่อสู้ระดับสามเป็นอย่างน้อย’
‘ในการประเมินขั้นต้น เขาเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสอง’
ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายเย็นเยียบ ‘นับตั้งแต่เขาหายตัวไป มันเป็นเวลาสามปีแล้ว เขาสามารถบ่มเพาะมาถึงระดับสอง สิ่งนี้บอกได้ว่าเขามีพรสวรรค์นภาที่สองหรือสามและควรมีระดับพลังวิญญาณสี่สิบถึงเจ็ดสิบส่วน’
‘สามปีที่ผ่านมาเขาสามารถอยู่รอด ในเวลาเดียวกันเขายังสามารถกลับไปที่บ้านได้เป็นครั้งคราวแม้จะมีเจียงอี้สังเกตการณ์อยู่รอบๆ ดังนั้นเขาจึงต้องมีวิญญาณที่เกี่ยวกับการซ่อนตัว’
ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเปิดเผยความจริง
แม้ฟางหยวนจะไม่มีวิญญาณสายตรวจสอบ แต่ด้วยความรู้และประสบการณ์ เขายังสามารถบอกระดับพลังการต่อสู้ของหวังต้ารวมถึงวิญญาณที่เขาครอบครองได้ในระดับที่น่าเชื่อถือ
ภาพของผู้ใช้วิญญาณปีศาจระดับสองที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังและซ่อนตัวอยู่ในที่มืดเพื่อรอโอกาสสังหารเป้าหมายปรากฎขึ้นในใจของฟางหยวนอย่างรวดเร็ว
‘ข้าสามารถฆ่าผู้คน ผู้คนก็สามารถมาฆ่าข้า มันไม่ใช่เรื่องแปลก’ ฟางหยวนหัวเราะเบาๆ
ในโลกใบนี้ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่และทุกคนก็มีโอกาสที่จะตกตาย
นักฆ่าสามารถถูกฆ่า!
ตั้งแต่คนผู้หนึ่งกระทำการฆาตกรรม พวกเขาก็ต้องเตรียมใจสำหรับการถูกฆ่าเช่นกัน
หากเขาถูกฆ่า เขาก็เพียงต้องตาย มันไม่มีสิ่งใดมากไปกว่านั้นและไม่จำเป็นต้องเสียใจ เพราะนี่คือเส้นทางที่เขาเลือกแล้ว
ฟางหยวนเข้าใจอย่างชัดเจน มันคือความแน่วแน่บนเส้นทางสายปีศาจ!
‘หวังต้าต้องการฆ่าข้า การสอบกลางปีครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับเขา ด้วยการบ่มเพาะระดับสอง เขาไม่สามารถลอบเข้าไปในหมู่บ้าน’
‘บางทีเขาอาจคาดเดาว่าข้าจะออกมาล่าสัตว์ แต่ภูเขาชิงเหมากว้างใหญ่มาก การเร้นกายและออกค้นหาข้าในเวลาเดียวกันเป็นเรื่องยากเกินไป แต่เวลานี้สถานการณ์เปลี่ยนไป เขากำลังซุ่มโจมตีข้าอยู่’
‘เขาเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสองและสามารถมีชีวิตรอดมาถึงสามปีในสถานการณ์ที่ที่เต็มไปด้วยอันตราย ผู้ใช้วิญญาณสายปีศาจเป็นเช่นนี้ ด้วยพลังการต่อสู้ของเขา ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แต่มันไม่ได้หมายความว่าข้าไม่มีโอกาสรอดชีวิต’
หนี!
ฟางหยวนตัดสินใจทันที
ไม่มีสิ่งใดไร้ยางอายเกินไปหากมันเป็นการทำเพื่อความอยู่รอด หากไม่สามารถต่อสู้ได้ก็ต้องวิ่ง!
สำหรับผู้ใช้วิญญาณ ความก้าวหน้าอย่างกะทันหันเป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน การต่อสู้กับศัตรูที่เหนือกว่าไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่คนผู้นั้นจะต้องมีวิญญาณชนิดพิเศษ
ฟางหยวนมีวิญญาณหลายดวงในการครอบครอง แต่วิญญาณกาลเวลายังจำศีลและไม่สามารถใช้งาน สำหรับวิญญาณสุรา วิญญาณหมูขาว วิญญาณแสงจันทร์ และวิญญาณแสงดาว พวกมันไม่ใช่อาวุธลับที่สามารถต่อต้านศัตรูที่แข็งแกร่งกว่า
เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้ไม่ใช่ศัตรูที่ฟางหยวนสามารถเอาชนะ การแก้ปัญหาด้วยการต่อสู้จะนำไปสู่ความตาย นี่เป็นเพียงเรื่องโง่เง่าของหนุ่มเลือดร้อน กระทั่งเขาจะได้รับชัยชนะ มันก็จะเกิดขึ้นเพราะความโชคดีเท่านั้น
ฟางหยวนใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังเสมอ หากโอกาสชนะมีน้อยเกินไป เขาจะหลีกเลี่ยง
เขาชอบควบคุมสถานการณ์ด้วยวิธีไร้ยางอายเพื่อเพิ่มโอกาสในการก้าวข้ามอุปสรรคที่เป็นไปไม่ได้ แน่นอนว่าเขารักการต่อสู้ แต่เขาจะไม่ต่อสู้หากความเสี่ยงสูงเกินไป
กิจกรรมที่เขาโปรดปรานที่สุดคือการกลั่นแกล้งคนอ่อนแอและฉกชิงทรัพยากรเพื่อเพิ่มพลังการต่อสู้ของตนเองจนกว่าเขาจะแข็งแกร่งกว่าศัตรู เมื่อถึงเวลาสุกงอม เขาจะเหยียบย่ำคนเหล่านั้นในภายหลัง
ไม่มีสิ่งใดต้องละอายใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้ที่แสวงหาความท้าทายเพื่อพิสูจน์ความกล้าหาญและเอาชีวิตไปเสี่ยงในการต่อสู้ที่นำไปสู่ความตาย มันเป็นเพียงเรื่องโง่เขลาของคนไร้สติปัญญา
แต่น่าเสียดายที่คนโง่เขลาเช่นนี้มักจะได้รับการยกย่องเชิดชู เพราะทุกองค์กรต่างต้องการให้บุคลากรของพวกเขาสละชีวิตเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจ
การตายเพื่ออุดมการณ์เป็นเรื่องโง่เขลา การมีชีวิตอยู่อย่างไร้ยางอายเพื่อเติมเต็มความทะเยอทะยานในหัวใจคือความกล้าหาญที่แท้จริงง
สำหรับองค์กร พวกเขาจะใช้ระบบคุณค่า ยิ่งเสียสละมากเท่าใด พวกเขาก็จะได้รับเกียรติยศ ชื่อเสียง และใบหน้าที่จอมปลอมมากเท่านั้น
‘ทิศทางที่ข้าจะมุ่งไปต้องเป็นเส้นทางที่มีโอกาสเผชิญหน้ากับหวังต้าน้อยที่สุด’ แผนที่หนังสัตว์ปรากฎขึ้นในใจของฟางหยวนทันที
‘หวังต้ารู้แล้วว่าข้ามีแผนที่หนังสัตว์ ตอนนี้เขาต้องซ่อนตัวและค้นหาข้าอยู่ในบริเวณรังหมูป่า ข้าไม่สามารถไปสถานที่เหล่านั้น แต่ข้าควรไปในทิศทางตรงข้าม’ เมื่อคิดได้เช่นนี้ เส้นทางมากมายก็ปรากฏขึ้นในใจของฟางหยวน
ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ท่ามกลางป่าอันรกทึบ ดวงตาสีเลือดส่องประกายอยู่ในความมืด มันเป็นดวงตาที่ลุกไหม้ขึ้นด้วยเพลิงแค้น
“ฟางหยวน ข้าพบเจ้าในที่สุด” หวังต้าปล่อยเสียงเล็ดรอดออกมาจากไรฟัน
ภายใต้การจ้องมองของเขา เด็กหนุ่มที่มีรูปร่างผอมบางและใบหน้าขาวซีดกำลังเดินอยู่ในป่า
หวังต้ายังไม่รีบลงมือ แต่เขากวาดตามองไปรอบๆเพื่อตรวจสอบผู้ใช้วิญญาณที่ซ่อนตัวอยู่
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาหวังต้าเดินไปรอบๆเพื่อเก็บข้อมูล เขาพบผู้ใช้วิญญาณระดับสองจำนวนมากเร้นกายอยู่ในป่าเพื่อปกป้องเด็กเหล่านี้ นอกจากนี้ยังมีผู้อาวุโสระดับสามที่อยู่บนเนินเขา
‘หากข้าต้องการฆ่าฟางหยวน ข้าต้องกำจัดผู้ใช้วิญญาณสามคนนี้ออกไปเป็นอันดับแรก มิฉะนั้นข้าอาจพบปัญหาใหญ่ แม้ข้าจะสามารถสังหารฟางหยวน แต่ข้าอาจตายด้วยการไล่ล่าของพวกเขา’
‘ข้าเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสองขั้นกลางและมีพลังวิญญาณห้าสิบส่วน สิ่งที่ข้าต้องทำเป็นอันดับแรกคือฆ่าผู้ใช้วิญญาณสามคนนี้ แต่มันยังค่อนข้างยาก ข้าต้องฆ่าพวกเขาในการโจมตีเดียว มิฉะนั้นมันอาจเป็นการแจ้งเตือนคนอื่นๆและเปิดเผยร่องรอยของข้า’
‘วิญญาณเงาติดตาม!’ หวังต้าปิดเปลือกตาและกล่าวในใจ
ทันใดนั้นความมืดพลันกลืนกินร่างกายของเขาเข้าไปและทำให้เขาสามารถเคลื่อนที่ไปตามเงาของต้นไม้ได้อย่างเงียบเชียบ
ในพุ่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลนัก ผู้ใช้วิญญาณระดับสองของตระกูลแสงจันทร์กำลังอ้าปากหาวด้วยความเบื่อหน่าย
“ช่างน่าเบื่อนัก การติดตามเด็กเหล่านี้ทำให้ข้าดูราวกับพี่เลี้ยงเด็ก” ผู้ใช้วิญญาณระดับสองพึมพำและไม่ตระหนักรู้เลยว่าเงาปีศาจกำลังคืบคลานเข้ามา
มือสองข้างที่ขาวซีดกับกรงเล็บสีม่วงยื่นออกมาจากเงามืดพร้อมกลิ่นเหม็นเน่าเล็กน้อย
"กลิ่นนี้?" ผู้ใช้วิญญาณระดับสองของตระกูลแสงจันทร์ขมวดคิ้ว
เขาต้องการตรวจสอบ แต่มันสายไปแล้ว
หวังต้าลื่นไหลราวกับอสรพิษและรวดเร็วราวกับสายฟ้า
มือข้างหนึ่งปิดปากและจมูก มืออีกข้างแทงเข้าไปด้านหลัง กรงเล็บสีม่วงทะลวงหัวใจของเหยื่อในครั้งเดียว
พิษจากกรงเล็บสีม่วงบุกเข้าสู่หัวใจและทำให้เลือดสีม่วงไหลออกมาเป็นสาย
ร่างของผู้ใช้วิญญาณระดับสองแข็งค้างและสูญสิ้นสัญญาณชีวิต
แม้ทั้งสองจะเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสองเช่นเดียวกัน แต่การลอบโจมตีอย่างกะทันหันทำให้ทุกสิ่งจบลงตั้งแต่ก่อนการต่อสู้จะเริ่มขึ้น
‘ข้าใช้พลังวิญญาณไปแล้วสิบส่วน เหลืออีกสี่สิบส่วน’ หวังต้าตรวจสอบทะเลวิญญาณของตน
ครู่ต่อมาผู้ใช้วิญญาณระดับสองที่ซ่อนตัวอยู่หลังโขดหินก็พบกับชะตากรรมเดียวกัน ดวงตาของเขาเบิกกว้างขณะที่ร่างของเขาล้มลงบนพื้น
พิษทำให้ร่างของเขาเปลี่ยนเป็นสีม่วงขณะที่เลือดสีม่วงไหลออกมาจากจมูก หู และดวงตาของเขา
‘เหลืออีกสามสิบส่วน’ หวังต้าหายตัวเข้าไปในเงามืดอีกครั้ง
"ผู้ใด?" ผู้ใช้วิญญาณระดับสองคนที่สามที่อยู่บนยอดไม้สัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกติ ขณะที่หวังต้าโจมตี เขาหันหลังกลับและคว้ามือของศัตรูเอาไว้
"ฮืม" หวังต้าก่นเสียงเย็นก่อนที่กระเล็บสีม่วงจะยืดยาวออกไปและแทงแขนของผู้ใช้วิญญาณผู้นั้น
เลือดไหลออกมาจากแขนของผู้ใช้วิญญาณและเปลี่ยนมันเป็นสีม่วงอย่างรวดเร็ว
"นี่คือพิษอำลารักงั้นหรือ?" ใบหน้าของผู้ใช้วิญญาณผู้นั้นเปลี่ยนเป็นสีม่วง
เขาไม่มีวิญญาณแก้พิษและรู้ตัวว่าต้องตายอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงตะโกนออกมา "เช่นนั้นก็มาตายพร้อมกัน!"
เขาอ้าปากและแลบลิ้น
มีสัญลักษณ์จันทร์เสี้ยวปรากฎอยู่บนลิ้นของเขา วิญญาณแสงจันทร์!
ดาบแสงจันทร์โบยบินออกไปเจาะไหล่ขวาของหวังต้าและทะลุออกไปด้านหลัง
เลือดพุ่งกระจาย...
หวังต้าก้าวถอยหลังไปเล็กน้อยขณะที่ผู้ใช้วิญญาณระดับสองเสียชีวิต
"ถูกต้อง นี่คือพิษลารัก" หวังต้ายืนอยู่บนกิ่งไม้และค่อยๆเผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า
พิษอำลารักก็คือพิษที่มีความร้ายแรงอันดับหนึ่งท่ามกลางวิญญาณบนเส้นทางแห่งพิษระดับสอง วิญญาณดวงนี้ถูกเรียกว่าวิญญาณอำลารัก ในการหลอมรวมและปรับแต่งมัน ผู้ใช้วิญญาณจำเป็นต้องใช้หญ้าลมหายใจพิษระดับหนึ่ง แมงมุมพิษแม่หม่าย แมงป่องพิษสีชาด และหัวใจของคนรัก!
เพื่อหลอมรวมวิญญาณอำลารัก หวังต้าต้องสังหารภรรยาสุดที่รักของตนและควักหัวใจของนางออกมา
"เพื่อมีชีวิตรอด ข้าต้องความแข็งแกร่งขึ้น นี่คือความแน่วแน่บนเส้นทางสายปีศาจของข้า!" ดวงตาสีแดงเลือดของหวังต้ามองไปยังเด็กหนุ่มที่เดินอยู่ไม่ไกลนัก
"ข้ายอมแพ้ต่อความรักและเหลือเพียงญาติไม่กี่คน แต่เจ้ากลับพรากพวกเขาไปจากข้า ฟางหยวน!" หวังต้าคำรามเสียงต่ำ "ข้าต้องการให้เจ้าเสียใจอย่างสุดซึ้งกับสิ่งที่เจ้าทำ!"