เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 74 แก้ปัญหาด้วยปัญญา (อ่านฟรี)
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 74 แก้ปัญหาด้วยปัญญา
แปลโดย iPAT
บ้านต้นไม้ไม่ใหญ่แต่มีหลายสิ่งอยู่ภายใน
บนพื้นปูด้วยพรมสีเหลืองเข้ม
กาน้ำสีทองแดงตั้งอยู่บนเตาไฟ ในเตายังมีกองเถ้าถ่านและเศษไม้ที่ยังเผาไหม้ไม่หมดทิ้งไว้
แม้ตอนนี้จะเป็นฤดูร้อน แต่ค่ำคืนบนภูเขายังค่อนข้างหนาว เตาไฟสามารถมอบความอบอุ่นให้กับบ้านไม้ทั้งหลัง
มีหน้าต่างอยู่สองบานที่แขวนไว้ด้วยชุดผ้าขี้ริ้ว ชุดผ้าขี้ริ้วถูกตัดเย็บจากเศษผ้าหลายชิ้น มันเป็นเสื้อผ้าของผู้ใหญ่ นอกจากนั้นมันยังเปียกชื่นเล็กน้อย
แสงแดดสามารถทะลุผ่านช่องหน้าต่างเข้ามาภายในบ้าน อย่างไรก็ตามมันยังค่อนข้างมืดสลัว
ที่มุมหนึ่งปรากฎขวานและมีดล่าสัตว์ที่ถูกรัดพันเอาไว้ด้วยหนังสัตว์ขณที่ด้ามจับมีคราบเลือดสีแดงคล้ำเปรอะเปื้อนอยู่
อีกด้านหนึ่งของผนัง กระดาษเยื่อไผ่ถูกปักไว้ด้วยกริช
มีใบหน้าของเด็กหนุ่มปรากฎอยู่บนกระดาษเยื่อไผ่ มันเป็นภาพของฟางหยวน!
ทั้งหมดบ่งบอกว่าไม่นานมานี้มีบางคนอาศัยอยู่ที่นี่และเป้าหมายของคนผู้นี้ก็คือฟางหยวน
กระดาษเยื่อไผ่ถูกแทงด้วยกริช นี่แสดงถึงเจตนาร้าย
เมื่อเห็นสิ่งนี้ กระทั่งฟางหยวนยังรู้สึกหงุดหงิด
‘คนผู้นี้ต้องการสิ่งใด? เหตุใดเขาจึงคิดร้ายต่อข้า? ไม่ บางทีอาจไม่ใช่ข้าแต่เป็นฟางเจิ้ง?’ จินตนาการของฟางหยวนโบยบินออกไป
ฟางเจิ้งมีพรสวรรค์นภาที่หนึ่งเพียงผู้เดียวในรอบหลายปีของตระกูลแสงจันทร์และเป็นความหวังเดียวของพวกเขา หากเขาเติบโตได้ดี เขาจะกลายเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไป
แต่มันยังอยู่ในช่วงเวลาของการบ่มเพาะ
ระหว่างกระบวนการนี้อาจเกิดอุบัติเหตุหรือภัยพิบัติจากฝีมือมนุษย์
ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงอุบัติเหตุ แต่ภัยพิบัติจากฝีมือมนุษย์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทุกคนรู้ว่าบนภูเขาชิงเหมาไม่ได้มีเพียงตระกูลแสงจันทร์แต่ยังมีตระกูลไป่และตระกูลซ่ง กองกำลังทั้งสองไม่ยินดีที่จะเห็นตระกูลแสงจันทร์ประสบความสำเร็จในการบ่มเพาะผู้ใช้วิญญาณที่มีพรสวรรค์นภาที่หนึ่ง
ดังนั้นการส่งมือสังหารมากำจัดเขาจึงถือเป็นเรื่องธรรมดา
ในโลกใบนี้อัจฉริยะมีอยู่น้อยมากและยิ่งน้อยกว่าสำหรับอัจฉริยะที่สามารถเติบโตขึ้น
ผู้ใช้วิญญาณพรสวรรค์นภาที่หนึ่งไม่ใช่ไม่เคยปรากฎ สามปีก่อนหน้ามันปรากฎขึ้นในตระกูลแสงจันทร์และในยุคก่อนๆก็มีตัวตนเช่นนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว
แต่หลายปีที่ผ่านมาทั้งสามตระกูลบนภูเขาชิงเหมามีอัจฉริยะอยู่เพียงคนเดียวที่ประสบความสำเร็จและกลายเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสามในเวลานี้ นั่นก็คือไป่หนิงปิงของตระกูลไป่
กลับมาที่บ้านไม้ สถานการณ์ดังกล่าวเป็นไปได้ในหลายทิศทาง
‘คนผู้นี้มาจากตระกูลไป่หรือตระกูลซ่งหรือไม่? พวกเขาต้องการกำจัดฟางเจิ้งเร็วๆนี้งั้นหรือ?’ ฟางหยวนขมวดคิ้ว
‘แต่เหตุใดแผนที่หนังสัตว์ของเฒ่าหวังถึงระบุตำแหน่งของบ้านไม้หลังนี้เอาไว้? เขาเป็นสายลับจากกองกำลังอื่นหรือไม่? ไม่! คนผู้นี้กำลังไล่ล่าข้า’
ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น
เขานึกไปถึงฉากเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นก่อนหน้า
ครั้งแรกที่เขาพบกับดักหมูป่า เขาได้ยินบทสนทนาของสี่นักล่า
นักล่าผู้หนึ่งกล่าว "พี่ใหญ่หวัง ท่านก็อายุสิบเก้าแล้ว ท่านควรแต่งงานมีบุตรได้แล้ว"
หวังเอ้อตอบ "ฮืม ข้าเป็นชายผู้ยิ่งใหญ่ แล้วข้าจะติดอยู่กับสิ่งเย้ายวนใจเล็กๆน้อยๆเช่นนั้นได้อย่างไร สักวันข้าจะออกจากภูเขาชิงเหมาและสำรวจโลกกว้าง เรียนรู้ทุกสิ่งภายใต้ท้องฟ้า นั่นถึงจะเหมาะสมกับฐานะของข้า"
หลังจากฟางหยวนปรากฎตัว หวังเอ้อบังสามารถรักษาความเยือกเย็น เขาดึงคันธนูและเล็งเป้ามาที่ฟางหยวนขณะที่คนอื่นๆเร่งคุกเข่าขออภัย
เมื่อฟางหยวนถามบางคำกับสองนักล่า
“ข้าจะถามพวกเจ้า ครอบครัวหวังยังมีสมาชิกคนอื่นอีกหรือไม่?”
“นักล่าหวังเคยมีภรรยา แต่นางถูกหมูป่าที่บุกเข้ามาในหมู่บ้านทำร้ายจนเสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน นางมีบุตรชายสองคนและบุตรสาวหนึ่งคน บุตรชายคนโตของนางเสียชีวิตบนภูเขาเมื่อสามปีก่อน ตอนนี้ครอบครัวหวังไม่เหลือผู้ใดอีกแล้ว”
“ข้า...ข้าพึ่งนึกบางสิ่งขึ้นมาได้ เฒ่าหวังยังมีลูกสะใภ้อีกผู้หนึ่ง นางเป็นภรรยาของหวังต้า หลังจากหวังต้าตาย มีข่าวลือว่านางต้องการแต่งงานใหม่ แต่เฒ่าหวังตามสังหารนาง นายท่าน เมื่อท่านสังหารเฒ่าหวัง นี่ย่อมเป็นการช่วยเหลือชาวบ้านให้รอดพ้นภัยพิบัติจากคนชั่วและนำความสงบสุขมาสู่ทุกคน”
นักล่าอีกคนเร่งกล่าวเสริม “ถูกต้อง ถูกต้อง นายท่าน แท้จริงแล้วพวกเราไม่พอใจเฒ่าหวังมานานแล้ว ฮืม เขาไม่มีสิ่งใดพิเศษนอกจากล่าสัตว์ได้มากกว่าพวกเรา เขาเป็นมนุษย์ธรรมดาเหมือนกับพวกเราแต่กลับคิดว่าตนเองสูงส่งกว่าพวกเราและแยกตัวออกมาอาศัยอยู่ที่นี่ ในฐานะนักล่ารุ่นใหม่ บางครั้งเราก็ต้องการคำแนะนำเล็กๆน้อยๆจากเขา แต่เขากลับไม่เห็นพวกเราอยู่ในสายตาและไม่เคยชี้แนะสิ่งใด นอกจากนั้นเขายังขับไล่พวกเราให้ออกห่างจากบ้านของเขาอีกด้วย”
ครอบครัวของเฒ่าหวังแยกตัวออกจากหมู่บ้านและอาศัยอยู่ห่างจากผู้คน
บุตรชายคนโตหวังต้าตายเมื่อสามปีก่อนบนภูเขาขณะออกล่า
ภรรยาของหวังต้าต้องการแต่งงานใหม่ แต่ถูกสังหารโดยเฒ่าหวัง
เฒ่าหวังพยายามซ่อนแผนที่หนังสัตว์และไม่ระบุตำแหน่งวงกลมสีแดงเอาไว้บนแผ่นที่ที่มอบให้ฟางหยวนก่อนหน้านี้
วังเอ้อยังเยาว์แต่สามารถเยือกเย็นต่อหน้าผู้ใช้วิญญาณ ในเวลาเดียวกันเขาก็ยังไม่ได้แต่งงานและมีความทะเยอทะยานเกินกว่ามนุษย์ธรรมดา
สิ่งสำคัญที่สุดคือวงกลมสีแดงบนแผนที่หนังสัตว์เป็นสถานที่ลับที่มีบางคนอาศัยอยู่และคนผู้นี้มีเจตนาร้ายต่อฟางหยวน
เบาะแสทั้งหมด หากแยกเป็นส่วนเล็กๆ มันยังยากที่จะเชื่อมโยง แต่เมื่อนำพวกมันมาปะติดปะต่อ มันกลับเชื่อมต่อกันได้อย่างแปลกประหลาด
ยิ่งฟางหยวนคิดมากเท่าใด เมฆหมอกในใจของเขาก็ยิ่งถูกปัดเป่าออกไปเท่านั้น
แสงแดดลอดผ่านช่องหน้าต่างเข้ามาตกกระทบบนใบหน้าของฟางหยวนและย้อมมันให้เป็นสีแดง
บ้านไม้ตกอยู่ในความเงียบสงัด
บางคนเฝ้ามองเขาอยู่อย่างลับๆตลอดเวลาเช่นนั้นหรือ?
ทันใดนั้นดวงตาของฟางหยวนก็ส่องสว่างขึ้นราวกับเขาสามารถค้นพบสิ่ง
‘หวังต้ายังไม่ตาย!’
‘ไม่เพียงเขาจะยังไม่ตายแต่เขากระทั่งกลายเป็นผู้ใช้วิญญาณปีศาจโดยบังเอิญ’
ไม่ใช่ว่าคนทั่วไปไม่มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะเป็นผู้ใช้วิญญาณ แต่มันเป็นเพราะตระกูลของพวกเขาไม่มีทักษะการบ่มเพาะ
อย่างไรก็ตามไม่มีความแน่นอนบนโลกใบนี้
มนุษย์ธรรมดาอาจกลายเป็นผู้ใช้วิญญาณหลังจากพบวิญญาณแห่งความหวังโดยบังเอิญในป่า ด้วยวิธีนี้พวกเขาจึงสามารถให้กำเนิดทะเลวิญญาณและอาจได้รับคำแนะนำบางอย่างจากบางคน
แต่ผู้ใช้วิญญาณกลุ่มนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสู่ตระกูลอย่างสมบูรณ์ พวกเขาสามารถเป็นเพียงผู้ติดตามเท่านั้น ด้วยความไม่พอใจ พวกเขาจะกลายเป็นผู้ใช้วิญญาณปีศาจและปล้นฆ่าเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง
‘เขาอาจพบสมบัติบางอย่างจากศพของผู้ใช้วิญญาณเมื่อสามปีก่อน เพื่อปิดบังความจริง เขาปล่อยข่าวออกไปว่าตนเองเสียชีวิต ไม่มีผู้ใดเคยเห็นศพของเขา สำหรับเฒ่าหวัง เขาแยกตัวออกจากหมู่บ้านมาอาศัยอยู่ในสถานที่ห่างไกลและยอมรับความเสี่ยงที่สัตว์ป่าจะบุกโจมตีเพื่อช่วยปกปิดความจริงเรื่องนี้’
‘อย่างไรก็ตามมันกลับมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้น ภรรยาของหวังต้าไม่เห็นด้วยและอาจต้องการรายงานไปยังตระกูลแสงจันทร์ ครอบครัวหวังไม่มีทางเลือกนอกจากต้องสังหารนาง จากนั้นพวกเขาก็ปล่อยข่าวออกไปว่านางต้องการแต่งงานใหม่หรืออาจบังคับให้นางฆ่าตัวตายเพื่อปิดบังความจริงทั้งหมด’
‘หวังต้าจะกลับบ้านบ้านครั้งคราว ดังนั้นเฒ่าหวังจึงไม่ต้อนรับนักล่าหนุ่มเหล่านั้น นี่เป็นเหตุผลที่หวังเอ้อที่มีความใกล้ชิดกับพี่ชายไม่กลัวผู้ใช้วิญญาณ นอกจากนั้นเขายังพัฒนาเป้าหมายของตนเองไปสู่การเป็นผู้ใช้วิญญาณและออกสำรวจโลกกว้าง’
‘พวกเขาเกรงว่าความลับจะถูกเปิดเผย หวังเอ้อจึงไม่คิดที่จะแต่งงาน มิฉะนั้นหวังต้าจะไม่สามารถกลับเข้าบ้านได้อีก สุดท้ายเฒ่าหวังจึงต้องทำเครื่องหมายวงกลมสีแดงเอาไว้เพื่อบ่งบอกว่าเป็นแหล่งกบดานของหวังต้า สถานที่กบดานของเขามีสามแห่ง เพื่อความปลอดภัย เขาจะเปลี่ยนที่ซ่อนตัวเป็นเสมอ นอกจากนั้นทั้งสามแห่งยังอยู่ที่ขอบชายแดนของทั้งสามหมู่บ้านใหญ่’
ความหมายของวงกลมสีแดงถูกเปิดเผยในที่สุด!
สีแดงคือการแจ้งเตือน แต่สถานที่เหล่านี้เป็นที่ซ่อนตัวบุตรชายคนโตของเฒ่าหวัง ดังนั้นเขาจึงไม่ระบุเครื่องหมายวงกลมสีแดงเอาไว้ในแผนที่ที่วาดให้กับฟางหยวนเพื่อปกป้องบุตรชายของเขา ในทำนองเดียวกันเฒ่าหวังไม่ได้วาดเครื่องหมายกากบาทสีแดงเอาไว้เพราะต้องการแก้แค้นให้กับบุตรชายคนรอง
‘เมื่อหวังต้ากลับไปที่บ้านของเขา เขาพบว่าครอบครัวของเขาเสียชีวิตไปหมดแล้ว หลังจากตรวจสอบ เขาตระหนักถึงตัวตนของข้าและภาพวาดของข้าติดไว้บนผนังเพื่อรอวันแก้แค้นด้วยกริชเล่มนี้’
ด้วยประสบการณ์ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนค่อนข้างมั่นใจกับข้อสันนิษฐานนี้
หากเป็นกองกำลังอื่นที่ต้องการสังหารฟางเจิ้ง พวกเขาจะกระทำการชัดเจนกว่านี้ ไม่จำเป็นต้องสร้างสายลับเช่นเฒ่าหวัง สิ่งสำคัญก็คือเฒ่าหวังอาศัยอยู่ในป่าลึก เขาไม่ได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาล
‘เพื่อให้ได้แผนที่หนังสัตว์ มันกลายเป็นการยั่วยุผู้ใช้วิญญาณปีศาจ โลกใบนี้เป็นสิ่งที่น่าพิศวงอย่างแท้จริง’ ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน
เดิมทีเขาสังหารหวังเอ้อ เฒ่าหวัง และบุตรสาวของเฒ่าหวังเพราะต้องการแผนที่หนังสัตว์ เฒ่าหวังเป็นนักล่าอันดับหนึ่ง แผนที่ของเขาถือเป็นสมบัติล้ำค่า
ในเวลานั้นฟางหยวนคิดว่ามันเป็นเพียงชีวิตของมนุษย์ธรรมดาสามคนเท่านั้น เขาสามารถสังหารได้โดยไร้กังวล แต่ผู้ใดจะคิดว่าผู้ใช้วิญญาณปีศาจจะปรากฎตัวขึ้นหลังจากนั้น
อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่รู้สึกเสียใจ ตรงข้ามเขารู้สึกโล่งอก
หากเขามีเมตตาในเวลานั้น เขาจะไม่ได้รับแผนที่หนังสัตว์ แผนที่ที่เฒ่าหวังวาดให้เขาจะสร้างความยากลำบากให้กับเขา ไม่ว่าอย่างไรเขาก็สังหารหวังเอ้อไปแล้ว นอกจากนั้นเฒ่าหวังยังต้องการเก็บความลับของหวังต้า
ทักษะการต่อสู้ของหวังเอ้อไม่ธรรมดา เขาสามารถกำหราบผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่งขั้นสูงทั่วไปได้อย่างไม่มีปัญหา แต่เปรียบเทียบประสบการณ์และความสามารถในการฆ่า เฒ่าหวังยังเป็นภัยคุกคามมากกว่าหวังเอ้อ
แม้เฒ่าหวังจะมอบแผนที่หนังสัตว์ให้ฟางหยวน แต่เฒ่าหวังก็ต้องแจ้งให้หวังต้ารับรู้เรื่องของฟางหยวนทันที ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดศัตรูก็อยู่ในเงามืด ขณะที่ฟางหยวนอยู่ในที่สว่าง หวังต้าสามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมด
‘ดีที่ข้าฆ่าพวกเขาตั้งแต่แรก ด้วยวิธีนี้ข้าจึงสามารถควบคุมสถานการณ์ การฆ่าเฒ่าหวังและบุตรสาวของเขาทำให้หวังต้าต้องใช้เวลานานในการวบรวมข้อมูลของข้า ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงนักล่าสองคนที่ข้าปล่อยไป พวกเขาจะต้องปิดปากเงียบอย่างแน่นอน’ ฟางหยวนยืนยันความคิดกับตนเอง
มีเพียงไม่กี่คนที่รู้เห็นการตายของครอบครัวหวัง ขณะที่หวังต้าย่อมไม่กล้าจู่โจมเจียงอี้ หากเจียงอี้ตาย ตระกูลแสงจันทร์จะส่งคนออกมาสืบหาความจริง การหายตัวไปของนักล่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ สำหรับเจียงอี้ เขาจะไม่เปิดเผยเหตุการณ์นี้เพราะเขาจะถูกตัดคะแนนผลงานปลายปี