เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 68 ธรรมชาติเป็นเช่นนี้ (อ่านฟรี)
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 68 ธรรมชาติเป็นเช่นนี้
แปลโดย iPAT
นักล่าสองคนรับแผนที่ไว้ด้วยดวงตาส่องประกาย
‘นี่เป็นสมบัติของครอบครัวหวัง’
‘ฮ่าฮ่า หุบเขาลูกนี้มีกว้างใหญ่มาก หากข้าสามารถจับกวางป่า ข้าไม่จำเป็นต้องออกล่าอีกสามเดือน อา...มีถ้ำหมีอยู่ที่นี่งั้นหรือ? โอ้ คราวก่อนข้าเกือบเข้าไปที่นั้น ข้าต้องจำไว้ให้ดี’
นี่เป็นข้อมูลล้ำค่า มันเป็นหม้อข้าวของนักล่าทุกคน
โดยปกติมันจะถูกส่งต่อภายในครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่นเท่านั้นเพราะมันเป็นข้อมูลที่ต้องจ่ายด้วยเลือดและชีวิตเพื่อให้ได้รับ
ชายชราแซ่หวังเคยเป็นนักล่าอันดับหนึ่ง ข้อมูลเหล่านี้จึงยิ่งล้ำค่า
นักล่าหนุ่มทั้งสองใช้เวลาตรวจสอบกว่าสิบห้านาทีก่อนจะกลับมาหาฟางหยวนและคืนแผ่นกระดาษให้ฟางหยวนอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
ชายชรายังหมอบอยู่บนพื้น เด็กสาวนอนเอยกายอยู่ด้านข้างราวกับว่านางได้สิ้นใจไปแล้ว
“นายท่าน มันไม่มีปัญหา”
“กับดักในแผนที่ถูกต้องทั้งหมด”
นักล่าหนุ่มทั้งสองตอบ
“นายท่าน เรื่องนี้เกี่ยวพันกับชีวิตของข้าและบุตรสาว ข้าย่อมไม่กล้าโกหก” ชายชรากล่าว
“อืม ไม่เลว” ฟางหยวนสะบัดแผ่นกระดาษแต่การแสดงออกของเขากลับค่อยๆเปลี่ยนไป “แต่ข้าไม่เชื่อ”
ชายชราส่ายศีรษะขณะมองแสงสีฟ้าส่องประกายขึ้นบนฝ่ามือของฟางหยวน
“ฉัวะ!”
ศีรษะบินออกจากลำคอของชายชราพร้อมกับเลือดที่สาดกระจาย
“อา...”
“นายท่าน...”
นักล่าหนุ่มทั้งสองตกตะลึง
“ท่านพ่อ!” เด็กสาวกรีดร้องและพุ่งเข้าไปหาร่างที่ไร้ศีรษะของชายชราแต่นางกลับไม่สามารถเข้าถึงตัวชายชราเมื่อดาบแสงจันท์พุ่งเข้ามาหานาง
“ตุบ!”
นางล้มลงบนพื้นอย่างไร้ชีวิต
ใบหน้าอันงดงามของนางตั้งแต่หน้าผากยาวลงมาจนถึงปลายคางปรากฏเส้นบางๆสีแดงพาดผ่าน
ของเหลวสีแดงค่อยๆไหลออกจากจมูกลงมาถึงปากและหยดลงบนพื้นดินก่อนจะอาบย้อมใบหน้าครึ่งซีกของนางให้กลายเป็นสีแดงเลือด ขณะที่ใบหน้าอีกครั้งซีกของนางยังคงไว้ซึ่งความงามของเด็กสาววัยแรกแย้ม
เมื่อแสงแดดสาดส่อง มันสร้างเป็นผลงานศิลปะที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก
“อย่างน้อยนางก็ดูใช้ได้” ฟางหยวนมองเด็กสาวที่ตายแล้วพร้อมกับพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
ดาบแสงจันทร์ระดับหนึ่งขั้นสูงสามารถตัดเนื้อเฉือนกระดูกได้อย่างง่ายดาย มันกระทั่งสามารถตัดเหล็กได้อย่างไม่มีปัญหา
“น้องหวัง!” นักล่าหนุ่มผู้หนึ่งทรุดร่างลงบนพื้นเมื่อเห็นเด็กสาวตกตาย
“นายท่าน โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วย” นักล่าอีกคนเร่งกล่าวด้วยสังหรณ์ร้าย
“ลุกขึ้น เข้าไปในบ้านและค้นหา” ฟางหยวนออกคำสั่ง “ข้ารู้ว่าครอบครัวหวังเก็บแผ่นที่เอาไว้ หามันมาให้ข้า แล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า”
“ได้ ได้ พวกเราจะทำทันที” นักล่าหนุ่มทั้งสองเร่งเข้าไปค้นหาแผนที่ในบ้านไม้ด้วยความรนราน
แต่หลังจากพลิกโต๊ะ คว่ำตู้ ยกเตียง ค้นหาจนทั่วทั้งบ้าน พวกเขากลับไม่พบแผนที่ดังกล่าว
“นายท่านโปรดให้เวลาพวกเราอีกสักครู่ พวกเขาจะหามันมาให้ได้” นักล่าทั้งสองเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“บัดซบ! มันอยู่ที่ใด?”
“ออกมา จงออกมา”
นักล่าหนุ่มสบถออกมาด้วยความร้อนรน
“ขยะ! ไร้ประโยชน์” ฟางหยวนเดินเข้าไปในบ้าน
“นายท่านโปรดอภัยให้กับพวกเราด้วย...” ร่างกายของนักล่าทั้งสองสั่นเทาอย่างไม่หยุดยั้งอยู่บนพื้น
ฟางหยวนเพิกเฉยต่อคนทั้งสองและเข้าไปในบ้าน
ภายในบ้านมีสี่ห้อง รวมห้องโถงและห้องครัว ทุกสิ่งกระจัดกระจายดังที่มันถูกรื้อค้น
‘มันเป็นความจริงที่ได้รับการพิสูจน์มานักต่อนักแล้วว่านักล่าทุกคนจะต้องมีแผนที่เป็นของตนเอง นี่คือวิถีของนักล่า แล้วมันจะไม่มีได้อย่างไร?’
ฟางหยวนคิด ‘นอกจากนั้นข้ายังทดสอบเฒ่าหวังอย่างง่ายๆโดยการให้นักล่าสองคนเข้าไปหยิบกระดาษและพู่กัน เฒ่าหวังรีบตะโกนบอกตำแหน่งเพราะเขากังวลว่าพวกเขาจะพบแผนที่ที่ซ่อนไว้’
ฟางหยวนตรวจสอบรอบๆและเกิดแรงบันดาลใจเมื่อมองเห็นเตาผิง
เตาผิงนี้เชื่อมต่อกับปล่องไฟบนหลังคา มันมีไว้ใช้ในฤดูหนาว แม้แต่ตอนนี้มันก็ยังมีถ่านตกค้างอยู่ภายใน แต่มันเป็นถ่านที่ยังอยู่ในสถานค่อนข้างสมบูรณ์
“หือ?” หลังจากตรวจสอบ ฟางหยวนพบว่ามันค่อนข้างดำและหนักกว่าถ่านทั่วไป
เขาใช้พลั่วทุบมันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยก่อนจะมองเห็นกระบอกไม้ไผ่ที่ซ่อนอยู่ภายใน
นักล่าทั้งสองอ้าปากค้างเมื่อเห็นสิ่งนี้
ฟางหยวนหยิบกระบอกไม้ไผ่ขึ้นมาก่อนจะเขย่ามันและทำให้แผนที่หลุดออกมา
มันเป็นแผนที่ที่ถูกเขียนเอาไว้บนแผ่นหนังสัตว์สีขาวที่ยาวกว่าหนึ่งเมตรและมีความกว้างครึ่งเมตร ปรากฏเส้นสายสีเขียว สีฟ้า สีแดง และสีเหลืองอยู่บนแผ่นหนังสัตว์
ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจที่เห็นเช่นนั้น
เนื่องจากมันเป็นแผนที่ขนาดใหญ่และขยายวงกว้างออกไปไกลมาก ในฐานะมนุษย์ธรรมดา นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะสามารถทำขึ้นมาได้โดยง่าย
สายตาของฟางหยวนหยุดอยู่ตรงจุดที่บ่งบอกว่ามีฝูงหมูป่า
มันมีทั้งฝูงเล็กและฝูงใหญ่อยู่หลายจุด นอกจากนั้นยังมีสัญลักษณ์กากบาทสีแดงขนาดใหญ่อยู่บนแผ่นหนัง แต่บนกระดาษที่เฒ่าหวังวาดให้เขาก่อนหน้ากลับไม่ปรากฏเครื่องหมายดังกล่าว
นี่บ่งบอกถึงความเจ้าเล่ห์ของเฒ่าหวังได้เป็นอย่างดี
มันคือเหตุผลที่ฟางหยวนฆ่าชายชรา
ฟางหยวนเคยได้ยินคำวิงวอนร้องขอชีวิตมาแล้วทุกรูปแบบ แต่เสียงกรีดร้องเหล่านั้นไม่สามารถทำให้จิตใจของเขาสั่นไหว
ตั้งแต่แรกเริ่มเมื่อฟางหยวนได้ยินบทสนทนาของนักล่าหนุ่มทั้งสี่ที่กับดักหมูป่า ฟางหยวนก็วางแผนที่จะฆ่าพวกเขาแล้ว
การสังหารหวังเอ้อคือการลดจำนวนศัตรูและเป็นข้ออ้างที่จะทำให้เขาได้รับแผนที่ เหตุใดเขาถึงไม่ควรสังหาร?
ฟางหยวนไม่ได้กระหายเลือด การฆ่าเป็นเพียงหนึ่งในวิธีการเพื่อให้ได้รับมาซึ่งสิ่งที่เขาปรารถนา หากวิธีการนี้สามารถแก้ปัญหา แล้วเหตุใดเขาจะไม่ทำ?
ชายชราจำเป็นต้องตาย ไม่ว่าอย่างไรเขาย่อมไม่พอใจที่บุตรชายถูกสังหาร มิฉะนั้นมันจะทำให้ฟางหยวนไม่สามารถผ่อนคลายได้ในอนาคต ดั่งคำกล่าวที่ว่า ตัดรากต้องถอนโคน มิฉะนั้นวัชพืชจะกลับมาอีกครั้งในฤดูใบไม้ผลิ
กระไรนะ? โหดร้ายงั้นหรือ? ฆ่าคนบริสุทธิ์งั้นหรือ?
ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ว่าโลกใบใด ตราบเท่าที่มีชีวิตอยู่บนโลกใบหนึ่ง พวกเขาย่อมเกี่ยวพันกันด้วยชะตากรรม บริสุทธิ์งั้นหรือ? มนุษย์ฆ่าหมู แล้วหมูบริสุทธิ์หรือไม่?
ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ปลาเล็กกินกุ้ง ในธรรมชาติมีเพียงห่วงโซ่อาหาร ไม่มีสิ่งใดบริสุทธิ์อย่างเที่ยงแท้!
ในโลกนี้ ทุกคนสามารถมีชีวิต ทุกคนสามารถตาย แต่ไม่มีผู้ใดบริสุทธิ์!