เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 62 อีกครั้งในห้องโถงวิญญาณ (อ่านฟรี)
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 62 อีกครั้งในห้องโถงวิญญาณ
แปลโดย iPAT
ดวงอาทิตย์ขึ้นสู่ท้องฟ้าในเช้าวันใหม่
ศิษย์ของสถานศึกษายืนเรียงแถวอยู่หน้าห้องโถงวิญญาณด้วยความตื่นเต้น
วันนี้เป็นวันที่พวกเขาต้องเลือกวิญญาณดวงที่สอง
ฟางหยวนเป็นคนแรกที่สามารถก้าวเข้าสู่ระดับหนึ่งขั้นกลาง ดังนั้นเขาจึงสามารถยืนอยู่หัวแถว ด้วยตรรกะนี้ด้านหลังฟางหยวนจึงติดตามมาด้วยโม่เป่ย ฟางเจิ้ง และซื่อเฉิน
หลังจากรอคอยมาเป็นเวลานาน ประตูห้องโถงวิญญาณก็เปิดออกในที่สุด
ฟางหยวนเข้าไปภายใน
ห้องโถงวิญญาณยังเหมือนเดิม มันเต็มไปด้วยช่องขนาดต่างๆที่มีภาชนะอันหลากหลายบรรจุวิญญาณเอาไว้
พวกมันล้วนเป็นวิญญาณระดับหนึ่งแต่สถานศึกษายังต้องใช้หินวิญญาณมากกว่าหนึ่งพันก้อนเพื่อเลี้ยงดูพวกมัน
ฟางหยวนกวาดตามองช่องเก็บวิญญาณและพบว่าหลายช่องว่างเปล่า
เนื่องจากวิญญาณในห้องโถงแห่งนี้จะถูกเติมเต็มปีละครั้ง หลังจากศิษย์นำวิญญาณดวงแรกของพวกเขาออกไป ตอนนี้วิญญาณจึงเหลืออยู่ที่นี่ไม่มาก
ครั้งแรกที่ฟางหยวนเข้ามาในห้องนี้ เขามีเป้าหมายที่ชัดเจนอยู่แล้ว นั่นคือวิญญาณแสงจันทร์ แต่ครั้งนี้เขากลับมีความคิดที่หลากหลายอยู่ภายในใจ
อย่างไรก็ตามมันขึ้นอยู่กับว่าที่นี่จะมีวิญญาณที่เขาต้องการหรือไม่
ฟางหยวนเดินสำรวจอย่างช้าๆ เมื่อมาถึงช่องที่ห้า เขาก็หยุดเท้าลง
ชามทองคำสัมฤทธิ์บรรจุวิญญาณที่มีรูปร่างเหมือนไข่สีทองแดงอยู่ภายใน
นี่คือวิญญาณกายาทองแดง มันเป็นทางเลือกสำหรับผู้ใช้วิญญาณสายต่อสู้ระยะประชิดเช่นเดียวกับอาจารย์ผู้ฝึกสอนศิลปะการต่อสู้ที่ใช้มันเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายและเปลี่ยนชั้นผิวหนังเป็นสีทองแดง
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เลือกวิญญาณดวงนี้และยังเดินต่อไปเพื่อพบกับวิญญาณกายาหินผา
วิญญาณกายาหินผาและวิญญาณกายาทองแดงเป็นวิญญาณประเภทเดียวกัน แต่วิญญาณกายาหินผาจะทำให้ร่างกายของผู้ใช้วิญญาณแข็งเหมือนหินและเปลี่ยนชั้นผิวหนังเป็นสีเทา
นอกจากวิญญาณกายาหินผายังมีวิญญาณกายาเหล็กไหลที่เรืองแสงสีดำอันลึกลับออกมา
“กายาเหล็กไหล กายาทองแดง กายาหินผา กายาหยกเขียว....หากมีกายาหยกเขียว อาจเป็นทางเลือกที่ดี” ฟางหยวนเริ่มคาดหวัง
อย่างไรก็ตามราวกับถูกกำหนดให้ต้องผิดหวัง หลังจากนั้นฟางหยวนพบเพียงวิญญาณกายาอสูร
วิญญาณกายาอสูรถือเป็นวิญญาณพื้นฐาน แต่มันมีข้อได้เปรียบวิญญาณกายาชนิดอื่นที่สามารถใช้ร่วมกับวิญญาณประเภทอื่นเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้น
สำหรับวิญญาณกายาหยกเขียว มันเป็นวิญญาณที่ดีที่สุดและหายากที่สุดเช่นกัน มูลค่าของมันสูงกว่าหนอนสุราถึงสองเท่า
ฟางหยวนไม่พบวิญญาณกายาหยกเขียวในห้องโถงแห่งนี้ แต่เขาไม่รู้สึกผิดหวัง ตรงข้ามเขากลับหัวเราะออกมา
“หมู่บ้านเล็กๆเช่นนี้จะมีวิญญาณกายาหยกเขียวได้อย่างไร?”
กำแพงด้านซ้ายของห้องโถงถูกตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นฟางหยวนจึงเดินไปตรวจสอบกำแพงอีกด้านหนึ่ง
บนกำแพงด้านนี้เขาพบวิญญาณด้วงกว่าง เช่นเดียวกับกลุ่มวิญญาณกายา กลุ่มวิญญาณด้วงกว่างมีวิญญาณหลายดวงที่มีความสามารถคล้ายคลึงกัน
สิ่งแรกที่เข้าตาฟางหยวนคือวิญญาณด้วงจอมพลัง อย่างไรก็ตามมันเป็นวิญญาณที่พบเห็นได้ทั่วไป แม้แต่ในขบวนสินค้าก็มีวิญญาณชนิดนี้วางขายอยู่มากมาย
วิญญาณด้วงจอมพลังจะมอบความแข็งแกร่งของวัวกระทิงหนึ่งตัวให้กับผู้ใช้วิญญาณภายในเวลาห้าลมหายใจ
แต่มันมีจุดอ่อนสองประการ
ประการแรก มันต้องใช้พลังวิญญาณจำนวนมาก สำหรับผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่งขั้นกลาง พวกเขาต้องจ่ายด้วยพลังวิญญาณสิบส่วน หากเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่งขั้นต้น พวกเขาต้องใช้ถึงยี่สิบส่วน
ประการที่สอง หากร่างกายของผู้ใช้วิญญาณอ่อนแอ เมื่อใช้วิญญาณชนิดนี้เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายบ่อยครั้งเกินไป สุดท้ายร่างกายของพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บ มันสามารถทำให้เกิดการฉีกขาดของมัดกล้ามเนื้อ ดังนั้นมันจึงไม่เหมาะสมกับร่างกายของฟางหยวนในเวลานี้
เนื่องจากฟางหยวนมีความรู้มากเกินไป เขาจึงเดินผ่านวิญญาณที่ไม่เหมาะสมกับเขาไปเรื่อยๆ
“โอ้ สิ่งนี้ไม่เลว” เขาหยุดเท้าลงอีกครั้ง
มันเป็นวิญญาณด้วงจอมทนทาน
หากวิญญาณด้วงจอมพลังมอบความแข็งแกร่งให้กับผู้ใช้วิญญาณเป็นเวลาห้าลมหายใจ วิญญาณด้วงจอมทนทานก็จะมอบความทนทานให้กับผู้ใช้วิญญาณเป็นเวลาสิบห้านาทีขณะที่ใช้พลังวิญญาณน้อยกว่า
ท่ามกลางวิญญาณระดับหนึ่ง วิญญาณด้วงจอมทนทานมีมูลค่าเทียบเท่ากับวิญญาณแสงจันทร์แต่น้อยกว่าวิญญาณสุราและวิญญาณกายาหยกเขียว
ฟางหยวนตรวจสอบอย่างละเอียดและพบว่าวิญญาณด้วงจอมทนทานเหลืออยู่เพียงดวงเดียว
“เป็นวิญญาณที่ไม่เลว แต่น่าเสียดาย มันไม่เหมาะกับข้า” ฟางหยวนส่ายศีรษะ
หลังจากตรวจสอบกำแพงสองด้าน ฟางหยวนยังไม่พอใจ
หากเขาต้องการวิญญาณที่มีคุณภาพในห้องแห่งนี้ คงมีเพียงโชคเท่านั้นที่สามารถช่วยเขาได้
ฟางหยวนหันไปทางกำแพงด้านที่สามและเริ่มตรวจสอบ
กำแพงด้านนี้เต็มไปด้วยวิญญาณกลุ่มหมูป่า
มันมีทั้งวิญญาณหมูดอกไม้ วิญญาณหมูดำ วิญญาณหมูชมพู และวิญญาณหมูขาว
วิญญาณหมูชมพูเป็นวิญญาณที่มีค่าน้อยที่สุด มันสามารถทำให้คนผอมกลายเป็นคนอ้วนเท่านั้น
วิญญาณหมูดอกไม้มีจำนวนมากที่สุด ร่างกายของมันมีสีสันที่งดงาม ความสามารถของมันคล้ายคลึงกับวิญญาณด้วงจอมพลังคือการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของผู้ใช้วิญญาณเป็นการชั่วคราว
วิญญาณด้วงจอมพลังจะมอบความแข็งแกร่งของวัวกระทิงหนึ่งตัวให้กับผู้ใช้วิญญาณ ขณะที่วิญญาณหมูดอกไม้จะมอบความแข็งแกร่งของหมูป่าตัวหนึ่งให้กับผู้ใช้วิญญาณ อย่างไรก็ตามด้วยการจ่ายด้วยพลังวิญญาณสิบส่วนเท่ากัน ผู้ใช้วิญญาณสามารถใช้งานวิญญาณหมูดอกไม้ได้ถึงสิบครั้งและมันยังส่งผลกระทบต่อร่างกายน้อยกว่า
“วิญญาณหมูดอกไม้เป็นวิญญาณประเภทหมูป่าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มันมีราคาครึ่งหนึ่งของวิญญาณด้วงจอมพลัง อย่างไรก็ตามในกลุ่มวิญญาณหมูป่ามีวิญญาณสองชนิดที่มีมูลค่าสูงกว่าวิญญาณสุราและวิญญาณกายาหยกเขียว” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น
วิญญาณหมูดำและวิญญาณหมูขาว พวกมันมีมูลค่าเทียบเท่ากับหินวิญญาณจำนวนหกร้อยก้อน เมื่อใดก็ตามที่พวกมันปรากฏขึ้นในท้องตลาด พวกมันจะถูกกว้านซื้อไปในพริบตา
วิญญาณหมูดำสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของผู้ใช้วิญญาณได้อย่างถาวร
แม้วิญญาณด้วงจอมพลังจะมอบความแข็งแกร่งของวัวกระทิงหนึ่งตัวแต่มันคงอยู่ได้เพียงห้าลมหายใจ
ตรงข้ามกับวิญญาณหมูดำที่มอบความแข็งแกร่งของหมูป่าหนึ่งตัวให้กับผู้ใช้วิญญาณอย่างถาวร หากวิญญาณหมูดำตาย ความแข็งแกร่งของหมูป่าหนึ่งตัวก็ยังอยู่ในร่างของผู้ใช้วิญญาณไม่เปลี่ยนแปลง
นี่คือเหตุผลที่มันมีค่ามากกว่าวิญญาณสุรา
สำหรับวิญญาณสุรา มันสามารถควบรวมพลังวิญญาณและยกระดับให้กับผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่งเท่านั้น ในการต่อสู้ผู้ใช้วิญญาณยังต้องพึ่งพาทักษะและความแข็งแกร่งของตนเอง นี่ทำให้วิญญาณหมูดำมีค่ามากกว่าวิญญาณสุรา
“หากข้าได้รับวิญญาณหมูดำหรือวิญญาณหมูขาว นั่นจะดีที่สุด” ฟางหยวนคิด
แต่ในห้องโถงวิญญาณแห่งนี้จะมีวิญญาณที่หายากเช่นนี้ได้อย่างไร
เขาเดินวนรอบห้องและพบว่าไม่มีวิญญาณที่ทำให้เขารู้สึกพอใจอยู่เลย
สุดท้ายเขาจึงหยิบวิญญาณดวงเล็กๆที่ส่องแสงสีขาวดวงหนึ่งขึ้นมา
มันอยู่ในรูปลักษณ์ของดาวห้าแฉกและมีขนาดเล็กเท่ากับครึ่งหนึ่งของเล็บมือมนุษย์
วิญญาณแสงดาว!
วิญญาณแสงดาวมักถูกจับคู่กับวิญญาณแสงจันทร์เพื่อสนับสนุนซึ่งกันและกัน แม้มันจะเป็นวิญญาณทั่วไป แต่มันก็เหมาะสมกับเส้นทางแห่งการบ่มเพาะของเขา สิ่งสำคัญก็คือเขาไม่มีทางเลือกที่ดีกว่า
“ฟางหยวนยังไม่ออกมา”
“ข้าสงสัยนักว่าเขาจะเลือกวิญญาณชนิดใด”
“เขามีวิญญาณสุราอยู่แล้ว บางทีเขาอาจไม่สามารถปรับแต่งวิญญาณดวงอื่นได้อีก ฮ่าฮ่าฮ่า”
ฟางหยวนเดินออกมาจากห้องโถงวิญญาณอย่างผ่อนคลายขณะที่เด็กหนุ่มสาวคนอื่นๆกำลังยืนรออยู่อย่างหงุดหงิด
“ถึงคราวของข้าแล้ว แต่ข้ายังสงสัยว่าฟางหยวนเลือกวิญญาณชนิดใด” โม่เป่ยรีบวิ่งเข้าไปในห้องโถงวิญญาณเมื่อเห็นฟางหยวนเดินออกมา
หลังจากตรวจสอบ โม่เป่ยยังเห็นวิญญาณด้วงจอมพลังอยู่ที่นั่น ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลที่จะหยิบมันออกมา
หลังจากนั้นก็เป็นรอบของฟางเจิ้ง
“ข้ามีวิญญาณแสงจันทร์อยู่แล้วแต่ข้ายังไม่มีวิญญาณที่ใช้ป้องกันตัว” ฟางเจิ้งเลือกวิญญาณกายาทองแดง
ซื่อเฉินเข้าไปเป็นคนที่สี่
“ข้าต้องการความสามารถในการเคลื่อนที่ ในอนาคตข้าจะสามารถทุบทีผู้อื่นแต่จะไม่มีผู้ใดสามารถทุบตีข้า” ซื่อเฉินมองไปทางซ้ายและเลือกวิญญาณจิ้งหรีดมังกร