เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 59 ลิงคว้าจันทร์ (อ่านฟรี)
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 59 ลิงคว้าจันทร์
แปลโดย iPAT
ดวงจันทร์แขวนอยู่บนท้องฟ้า
คางคกทองคำสามารถเคลื่อนที่ได้นับร้อยเมตรในการกระโดดเพียงครั้งเดียว แต่ด้วยข้อกำจัดของภูเขา มันจึงไม่สามารถเดินทางได้รวดเร็วนัก
เจียฟู่และบริวารทั้งหมดนั่งอยู่บนแผ่นหลังของคางคกทองคำตัวนี้ หลังจากออกจากหมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาล พวกเขาก็มุ่งหน้ากลับไปรวมกลุ่มกับขบวนสินค้าของพวกเขาอีกครั้ง
แสงจันทร์เผยให้เห็นใบหน้าที่เย็นชาราวกับน้ำแข็งของเจียฟู่
ทันใดนั้นผู้ใต้บังคับบัญชาของเจียฟู่ผู้หนึ่งก็เปิดปากถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ
“นายท่าน ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรต่อไป นายท่านจะตอบท่านผู้นำอย่างไร พวกเราควรหาแพะรับบาปหรือไม่?”
เจียฟู่ส่ายศีรษะและหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถาม “เจ้าเคยได้ยินตำนานของมนุษย์คนแรกหรือไม่?”
ผู้ใต้บังคับบัญชาของเจียฟู่ตะลึง เขาไม่คาดว่าจะได้รับคำตอบเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ทราบว่าควรตอบกลับอย่างไร
เจียฟู่กล่าวต่อ “มนุษย์คนแรกมีวิญญาณกฎระเบียบที่สามารถจับกุมวิญญาณนับล้านชนิด หลังจากเขาสูญเสียวิญญาณสติปัญญา เขายังเหลือวิญญาณอีกสามดวง เขาเปิดตาข่ายเพื่อพบกับวิญญาณทัศนคติ วิญญาณความเชื่อ และวิญญาณความสงสัย มนุษย์คนแรกไม่ยินดีที่จะปล่อยพวกมันไป ดังนั้นวิญญาณทั้งสามจึงทำได้เพียงพนันกับมนุษย์คนแรก เมื่อมนุษย์คนแรกเปิดตาข่าย พวกมันจะบินออกไปในสามทิศทาง หากมนุษย์คนแรกจับวิญญาณดวงใดได้ มันจะอยู่กับเขา เจ้าลองเดาดูว่ามนุษย์คนแรกจะจับวิญญาณดวงใด?”
ผู้ใต้บังคับบัญชาตอบทันที “วิญญาณทัศนคติ”
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใด?” เจียฟู่ถาม
ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาส่ายศีรษะ
เจียฟู่หัวเราะ “เพราะทัศนคติก็คือความเชื่อและความความสงสัย ข้าแสดงทัศนคติของข้าออกไปแล้ว เมื่อเจียชิงเฉิงหายตัวไป ข้าสืบสวนในขบวนสินค้าก่อนจะตามมาถึงหมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาลโดยไม่หยุดพัก ที่นั่นข้าต้องรับความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีโดยพวกเขาและสอบสวนฟางหยวนอย่างดุเดือด กระทั่งถึงจุดที่ต้องใช้วิญญาณสุภาพบุรุษหน้าหยกออกไป”
“เมื่อข้ากลับไปถึงตระกูล ข้ายังจะใช้จ่ายเงินอีกจำนวนมากว่าจ้างเทพนักสืบไท่เซี่ยเล้งเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์การหายตัวไปของเจียชิงเฉิง ทั้งหมดคือการแสดงทัศนคติของข้า เมื่อข้าแสดงทัศนคติออกมาแล้ว พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องหาแพะรับบาป บางทีการหาแพะรับบาปอาจเป็นกับดักอีกชิ้นหนึ่งของเจียกุ้ย”
ผู้ใต้บังคับบัญชารู้สึกตกใจและเร่งกล่าว “นายท่านคิดว่าเจียกุ้ยอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้จริงๆเช่นนั้นหรือขอรับ?”
“ฮืม! นอกจากเขายังจะมีผู้ใดที่สามารถกระทำการได้อย่างสมบูรณ์แบบถึงเพียงนี้อีก? ก่อนหน้านี้ข้าคิดถึงความสัมพันธ์ทางสายเลือดและไม่เคยลอบโจมตีเขา แต่เมื่อเขาเริ่มหยาคายต่อข้าก่อน ข้าก็จะตอบโต้อย่างรุนแรง!”
อย่างไรก็ตามเจียฟู่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้มีดวงตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองเขาอยู่อย่างเงียบๆ
ฟางหยวนยืนอยู่บนเนินเขาและมองไปที่เจียฟู่
ท้องฟ้าคืนนี้งดงามกว่าปกติ
จันทร์เต็มดวงแขวนสูงอยู่ท่ามกลางท้องฟ้าอันมืดมิด
เมื่อไม่นานมานี้ฟางหยวนยืนถือร่มภายใต้สายฝนอยู่ที่นี่เพื่อส่งขบวนสินค้าให้เดินทางจากไป ขณะนี้เขามายืนอยู่ที่นี่อีกครั้งเพื่อเฝ้ามองเจียฟู่กลับไป
‘ความยากลำบากในการสังหารเจียชิงเฉิงจบลงในที่สุด’ ดวงตาของเขามืดมิดขณะที่หัวใจของเขาสงบนิ่งและเยือกเย็น
ตั้งแต่เขาสังหารเจียชิงเฉิง เขาก็เริ่มคิดวิธีการแก้ปัญหาเอาไว้แล้ว
โดยปราศจากผู้สนับสนุน หากความจริงถูกเปิดเผย ตระกูลจะละทิ้งเขาทันที แต่กระทั่งเขาจะซุกซ่อนความจริงเอาไว้ วันหนึ่งความจริงก็จะถูกเปิดเผยในที่สุด
วิธีการที่ดีที่สุดคือต้องมีความจริงในเรื่องโกหกและทำเรื่องโกหกให้เป็นความจริง
เหตุการณ์นี้เหมือนเกมส์หมากรุกที่มีผู้เล่นสองฝ่าย ด้านหนึ่งคือขบวนสินค้าของเจียฟู่ อีกด้านคือตระกูลแสงจันทร์ แต่ไม่ว่าจะเป็นเจียฟู่ อวี๋โป้ หรืออาจารย์อาวุโส ทุกคนและทุกฝ่ายล้วนเป็นตัวหมากที่ถูกเดินโดยฟางหยวนเพียงผู้เดียว
ขั้นแรก เขาใช้ยามสองคนเพื่อแสดงละครฉากหนึ่งต่อหน้าอาจารย์อาวุโส ต่อมาเขาปิดซ่อนวิญญาณสุราเอาไว้เพื่อกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของผู้คนและอนุญาตให้อาจารย์อาวุโสตรวจสอบเขา
ถัดมาเขาแสดงความก้าวร้าวต่อสหายร่วมชั้นเรียนเพื่อบ่งบอกว่าเขาไม่พอใจตระกูลและทำให้อวี๋โป้เข้าใจว่ามันคือความอ่อนแอที่อยู่ภายในหัวใจของเขา
จากนั้นเขาตั้งตารอคอยการมาถึงของเจียฟู่
ระหว่างการสืบสวน เขาแสดงออกด้วยท่าทีของผู้เยาว์ที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและปล่อยให้พวกเขาค้นพบความจริงบางอย่าง
เขายังใช้ประโยชน์จากเจียฟู่เพื่อดึงอาจารย์อาวุโสให้ออกมาปกป้องเขา
สำหรับวิญญาณสุภาพบุรุษหน้าหยก มันอยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขา แต่วิญญาณระดับสี่ไม่สามารถต่อต้านวิญญาณระดับหก สุดท้ายมันจึงกลับกลายเป็นสิ่งยืนยันความบริสุทธิ์ของฟางหยวนและวิธีการที่เขาได้รับวิญญาณสุราอย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนั้นมันยังสามารถผลักไสความผิดทั้งหมดให้กับเจียกุ้ย
‘อาจารย์อาวุโสถูกรั้งให้อยู่ต่อโดยอวี๋โป้ นี่หมายความว่าอวี๋โป้จะเข้าแทรกแซงหน้าที่ของเขาและให้เขาหยุดกดดันข้า ด้วยธรรมชาติของอาจารย์อาวุโส เขาสามารถอดทนกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามความสนใจที่แท้จริงของอวี๋โป้ไม่ใช่ข้าแต่เป็นฟางเจิ้ง ด้วยการกระทำของข้า มันทำให้คนระดับสูงต้องเคลื่อนไหว หากไม่ใช่อวี๋โป้ โม่เฉินหรือซื่อเหลียงก็ต้องออกมาปกป้องชื่อเสียงของพวกเขา’
‘สำหรับเจียฟู่ เขาจะมุ่งความสนใจไปที่เจียกุ้ย ตอนนี้เพลิงแค้นถูกจุดขึ้นในหัวใจของเขาแล้ว ฮ่าฮ่า การต่อสู้ระหว่างพวกเขาถูกยกระดับขึ้นโดยข้า ข้าสงสัยนักว่าการต่อสู้ของพวกเขาจะรุนแรงถึงระดับใดในอนาคต?’
‘โอ้ ถูกต้อง ยังมีเทพนักสืบไท่เซี่ยเล้ง ฮืม...’ ฟางหยวนก่นเสียงเย็นก่อนจะหัวเราะเบาๆ ‘ฝ่ายธรรมะ มันก็เป็นเพียงตัวอักษรเท่านั้น อย่างไรก็ตามงานของเขาค่อนข้างยุ่ง มันไม่ง่ายที่เจียฟู่จะเชิญเขามาได้ แม้เจียฟู่จะต้องการแสดงทัศนคติ เขาก็ยังต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองหรือสามปี’
ในช่วงสองหรือสามปีข้างหน้า ฟางหยวนจะสามารถก้าวเข้าสู่ระดับสองหรือระดับสาม เวลานั้นชีวิตของเขาจะแตกต่างออกไปอย่างแน่นอน
สายลมพัดผ่านหุบเขาพร้อมกับกลิ่นหอมของดอกไม้
ฟางหยวนมองไปยังทิวเขาซึ่งทอดตัวยาวออกไปภายใต้แสงจันทร์อยู่อย่างเงียบๆ
“ดวงจันทร์ที่กระจ่างใสท่ามกลางป่าสน ฤดูใบไม้ผลิผ่านไปราวกับภาพฝัน” ฟางหยวนพำพึมขณะคิดถึงบทกวีจากโลกใบเก่า
เมื่อฝูงลิงเห็นดวงจันทร์ในบ่อน้ำ พวกมันต่อตัวกันลงไปในบ่อเพื่อคว้าดวงจันทร์ขึ้นมา แต่เพียงเมื่อลิงตัวหนึ่งใช้มือช้อนดวงจันทร์ขึ้นมาจากผิวน้ำ ดวงจันทร์ในมือของมันกลับเลือนหายไปทันที
ผู้คนบนโลกใบนี้ก็เช่นกัน พวกเขาเห็นเพียงเงาสะท้อนของดวงจันทร์บนผิวน้ำและคิดว่ามันเป็นของจริง
พวกเขาไม่ตระหนักเลยว่าดวงจันทร์ในสายตาของพวกเขาแท้จริงแล้วเป็นเพียงดวงจันทร์ที่อยู่ในใจของพวกเขาเท่านั้น
‘ในชีวิตนี้ข้าจะเป็นดวงจันทร์ที่แท้จริงที่แขวนสูงอยู่บนท้องฟ้าอันมิดมืดและโบยบินอยู่เหนือสวรรค์ทั้งปวง’ ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายสดใสราวกับคริสตัล
บนภูเขาชิงเหมา ร่างผอมบางของเด็กหนุ่มยืนอยู่อย่างเงียบๆภายใต้ดวงจันทร์สีเหลืองทองที่กระจ่างสดใส