เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 56 ข้อสงสัย (อ่านฟรี)
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 56 ข้อสงสัย
แปลโดย iPAT
“เจ้าพบมันในผลึกหินงั้นหรือ?” อวี๋โป้ขมวดคิ้วลึก
“ถูกต้อง เมื่อมาถึงจุดนี้ ข้าก็จะไม่ปิดบังอีกต่อไป” ฟางหยวนแสดงออกราวกับกำลังเสี่ยงด้วยทุกสิ่ง เขาเร่งกล่าวต่อ “ข้าซื้อผลึกหินสีทองม่วงจากกระโจมโชคลาภหกชิ้น แต่ข้ามีพลังวิญญาณไม่เพียงพอ ข้าจึงเปิดผลึกหินห้าชิ้นและนำกลับมาหนึ่งชิ้น เมื่อข้าเปิดมันหลังจากนั้น ข้าจึงพบวิญญาณสุรา ข้ามีความสุขมากเมื่อค้นพบว่ามันสามารถเต็มเติมพรสวรรค์ที่บกพร่องของข้า ดังนั้นข้าจึงปรับแต่งมัน”
“เจ้าบอกว่าซื้อผลึกหินจากกระโจมโชคลาภหกก้อนแต่กลับเปิดได้ทั้งคางคกปฐพีและหนอนสุรางั้นนั้นหรือ?” ผู้อาวุโสของตระกูลรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
“แล้วอย่างไร?” ฟางหยวนชี้นิ้วไปที่ผู้ใช้วิญญาณหญิงก่อนกล่าวต่อ “นางสามารถเป็นพยานให้ข้า”
ทุกคนตกตะลึงก่อนจะหันหน้าไปทางหญิงผู้นั้น
ผู้ใช้วิญญาณหญิงรับรู้ถึงแรงกดดันและไม่กล้าโกหก “เขาซื้อผลึกหินหกก้อนจริงๆ เขาเปิดมันที่กระโจมห้าก่อนและนำกลับไปหนึ่งก้อน แต่ข้าไม่ทราบว่ามีสิ่งใดอยู่ภายใน”
“ซื้อผลึกหินหกก้อนแต่พบวิญญาณสองดวง โชคดีเกินไปหรือไม่?” ผู้อาวุโสบางคนพึมพำ
“สิ่งที่ยากจะเข้าใจก็คือโชคของผู้คน ฮืม...ย้อนกลับไปครานั้นข้าเองก็...”
“วิญญาณสุราเป็นสิ่งที่ปรับแต่งได้ยาก เหตุใดเขาถึงประสบความสำเร็จในการปรับแต่งมัน?”
“เจ้าไม่รู้งั้นหรือว่าวิญญาณที่พึ่งตื่นจากการจำศีลจะอ่อนแอมาก พวกมันอยู่ในสภาพใกล้ตาย การปรับแต่งมันเป็นเรื่องง่ายมาก”
ฟางหยวนกล่าวต่อ “หลังจากปรับแต่งวิญญาณสุรา ข้าจึงไปที่ร้านสุราในวันต่อมาและสั่งสุราวานรให้มันดูดซับ จากนั้นข้าก็พบเหตุการณ์ที่น่าตกใจเมื่อเจียชิงเฉิงหลอกขายหนอนทมิฬปลอมให้กับผู้ใช้วิญญาณของตระกูลก่อนที่ท่านเจียฟู่จะเข้ามายุติข้อพิพาท”
“ข้ากลับไปที่ร้านสุราอีกครั้ง แต่ผู้ใดจะคิดว่าเจียชิงเฉิงอยู่ที่นั่นในอารมณ์ที่ไม่สู้ดีนัก อย่างไรก็ตามข้าพึ่งได้รับวิญญาณสุราและกำลังมีความสุข ดังนั้นข้าจึงถามเขาว่าวิญญาณสุราของข้ามีมูลค่าเท่าใด แต่ทันทีที่เจียชิงเฉิงได้ยินว่าข้ามีวิญญาณสุรา เขากลับต้องการซื้อมันอย่างจริงจัง แน่นอนว่าข้าปฏิเสธหรือหากข้าจะขาย ข้าก็จะต้องก้าวเข้าสู่ระดับสองก่อนที่จะขายมันออกไป”
คำกล่าวของฟางหยวนทำให้กลุ่มผู้อาวุโสตระหนักถึงความขัดแข้งระหว่างเจียฟู่และเจียชิงเฉิง
ภายใต้สายตาที่กดดัน เจียฟู่เริ่มสอบสวนฟางหยวน “น้องชายของข้าตามเจ้าไปหรือไม่?”
ฟางหยวนพยักหน้าและกล่าวคำโกหกออกไปได้โดยไม่กระพริบตา “เขาไม่เพียงตาม แต่เขาไล่ล่าข้า เขาพยายามเพิ่มหินวิญญาณให้ข้า แต่ข้ายังปฏิเสธ เขาโกรธและตะโกนข่มขู่ข้าว่าตระกูลแสงจันทร์ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขา ให้ข้ารอดูต่อไป หลังจากนั้นข้าก็ไม่ได้พบเขาอีกเลย”
เจียฟู่ลอบพยักหน้าอยู่ในใจ ด้วยความเข้าใจเจียชิงเฉิง แน่นอนว่าเขาจะต้องไล่ล่าฟางหยวนและข่มขู่ตามลักษณะนิสัยของเขา
หากฟางหยวนกล่าวว่าเจียชิงเฉิงไม่ได้ตามเขาไป นั่นจึงจะเป็นเรื่องโกหก
แต่เนื่องจากฟางหยวนกล่าวออกมาเช่นนี้ เจียฟู่จึงตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก การสืบสวนนำมาสู่เงื่อนงำนี้ เจียชิงเฉิงจะไม่ตามรังควานฟางหยวนหลังจากนั้นอีกงั้นหรือ? บางทีเขาอาจไปพบฟางหยวนอีกครั้งและเมื่อทั้งสองมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน สุดท้ายเจียชิงเฉิงอาจจะถูกสังหารโดยฟางหยวน? มันเป็นไปได้ทั้งสิ้น
“พูด! เจ้าสังหารเจียชิงเฉิงใช่หรือไม่?” เจียฟู่เร่งกดดันฟางหยวน
ฟางหยวนปฏิเสธอีกครั้งและยืนยันว่าไม่ได้พบเจียชิงเฉิงหลังจากนั้น
เจียฟู่ไม่มีหลักฐาน เมื่อฟางหยวนปฏิเสธ มันจึงมาถึงทางตันในที่สุด
อวี๋โป้ฟังบทสนทนาเหล่านี้และเริ่มไม่พอใจ เจียชิงเฉิงข่มขู่สมาชิกตระกูลแสงจันทร์และยังกล่าวว่าไม่เห็นตระกูลแสงจันทร์อยู่ในสายตา ตอนนี้เจียฟู่ยังกล้าสอบสวนสมาชิกตระกูลแสงจันทร์อย่างดุเดือดต่อหน้าผู้อาวุโสทั้งหมดของตระกูล หากเขามีหลักฐาน มันยังไม่เป็นไร แต่ตอนนี้เขาไม่มีหลักฐาน หากเรื่องนี้แพร่สะพัดออกไป ตระกูลแสงจันทร์จะเสื่อมเสียชื่อเสียง
“น้องเจีย แท้จริงแล้วข้าก็ไม่อยากกล่าว” อวี๋โป้กล่าวขัดจังหวะการสอบสวนของเจียฟู่ “เจียชิงเฉิงหายไปหลายวันแล้ว หากเกิดเหตุร้ายจริง ไม่ทราบว่าเจ้าพบร่องรอยของคนร้ายบ้างหรือไม่?”
เจียฟู่มองฟางหยวนก่อนจะถอนหายใจออกมา “ข้าเข้าใจความหมายของพี่อวี๋ หากข้าพบร่องรอยของคนร้ายข้าคงไม่ต้องย้อนกลับมาที่นี่ อย่างไรก็ตามในวันที่พวกเราออกเดินทาง ฝนตกลงมาหนัก มันสามารถลบร่องรอยทั้งหมด”
อวี๋โป้เผยรอยยิ้มบาง “น้องเจีย ข้าได้ยินมาว่าตระกูลของเจ้ามีวิญญาณที่ชื่อว่าผีเสื้อปฐพี มันสามารถติดตามกลิ่นอายของวิญญาณที่เฉพาะเจาะจง หากใช้มัน เจ้าจะสามารถตามหาร่องรอยของเจียชิงเฉิงได้ในที่สุด”
เจียฟู่ตอบอย่างเคร่งขรึม “ข้าใช้วิญญาณผีเสื้อปฐพีมานานแล้ว แต่มันกลับไร้ประโยชน์ ท่านคงเคยได้ยินว่าหากวิญญาณตาย ผีเสื้อปฐพีจะไม่สามารถตามกลิ่นของมัน นี่หมายความว่าวิญญาณทั้งหมดของเขาถูกทำลายเพื่อปกปิดร่องรอย”
คำกล่าวของเจียฟู่ทำให้อวี๋โป้เกิดข้อสงสัย “แปลกมาก คนร้ายไม่ต้องการวิญญาณหรือกรรโชกทรัพย์ แล้วเขามีแรงจูงใจใดในการทำร้ายผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่ง?”
แท้จริงแล้วแรงจูงใจคือสิ่งใด?
ไม่ว่าเจียชิงเฉิงจะตายหรือไม่ มันก็ต้องมีแรงจูงใจบางอย่างซ่อนอยู่เบื้องหลัง
หากไม่ใช่วิญญาณหรือหินวิญญาณก็อาจจะเป็นความรัก?
หากเกี่ยวกับความรัก มันย่อมต้องผ่านกระบวนการระยะยาวมาก่อนหน้า แม้เจียฟู่จะไม่สนใจ แต่ผู้คนในขบวนสินค้าที่ใกล้ชิดกับเจียชิงเฉิงก็ต้องตั้งข้อสงสัยในเรื่องนี้
ห้องโถงกลายเป็นเงียบงัน
ฟางหยวนลอบสังเกตการณ์ก่อนที่จะกล่าวบางคำออกมา “บางทีเจียชิงเฉิงอาจถูกสังหารโดยท่าน ข้าได้ยินมาว่าครอบครัวของท่านกำลังแย่งทรัพย์สมบัติ เมื่อน้องชายของท่านตาย ไม่ใช่ว่าท่านจะได้รับสมบัติมากขึ้นงั้นหรือ?”
“หุบปาก!”
“ข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง อย่าใส่ร้ายท่านเจียฟู่”
ผู้อาวุโสของตระกูลแสงจันทร์เดือดดาลขึ้นมาทันที
ฟางหยวนเงียบเสียงลง แต่เป้าหมายของเขาสำเร็จแล้ว
คำกล่าวของเขาราวกับก้อนหินที่โยนลงไปในบ่อน้ำที่นิ่งสงบและสร้างระลอกคลื่นขึ้นมาภายในหัวใจของทุกคน
ผู้นำตระกูลเริ่มคิดถึงประเด็นนี้ ‘เจียฟู่ไม่สามารถสังหารเจียชิงเฉิง มันจะเป็นผลร้ายมากกว่าผลดี แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคนอื่นไม่สามารถ...’
“ความขัดแย้งในตระกูลเจีย” ผู้อาวุโสบางคนพึมพำ
เสียงของเขาไม่ดังแต่ด้วยความเงียบภายในห้อง ทุกคนจึงสามารถได้ยินอย่างชัดเจน
‘สุดท้ายพวกเขาก็สามารถคิดถึงเรื่องนี้’ มุมปากของฟางหยวนยกตัวขึ้นอย่างแผ่วเบาขณะที่เขาก้มหน้าลงเพื่อซ่อนสายตาที่เย็นชาเอาไว้
ผู้นำตระกูลเจียต้องการแบ่งทรัพย์สินและส่งมอบตำแหน่งผู้นำตระกูล ด้วยเหตุนี้มันจึงเกิดการต่อสู้แก่งแย่งระหว่างบุตรของเขาโดยเฉพาะเจียฟู่กับเจียกุ้ย ทั้งสองเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสี่และมีผู้สนับสนุนของตนเอง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สถานการณ์ของตระกูลเจียเป็นที่ทราบกันดีในวงกว้าง
เคราะห์ร้ายในครั้งนี้ของเจียชิงเฉิงแปลกประหลาดเกินไป นอกจากนั้นยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าคนร้ายคือฟางหยวน เนื่องจากแรงจูงใจในการฆาตกรรมไม่เพียงพอ วิญญาณสุราไม่สามารถนำไปสู่การฆ่าล้างสังหาร
อย่างไรก็ตามหากเป็นเจียกุ้ยที่อยู่เบื้องหลังการฆาตกรรม นี่กลับสามารถอธิบายทุกสิ่ง
ทุกคนในห้องโถงต่างเป็นผู้อาวุโสที่มีประสบการณ์ พวกเขามีสัญชาตญาณและการรับรู้ที่ดีโดยเฉพาะเรื่องการเมือง
ความขัดแย้งภายในตระกูลเจียทำให้จินตนาการของทุกคนโบกบินออกไปอย่างรวดเร็ว
ผู้นำตระกูลเจียวางเจียชิงเฉิงไว้ในขบวนสินค้าของเจียฟู่เพื่อทดสอบว่าเจียฟู่สามารถดูแลน้องชายได้หรือไม่และเขาดีกว่าพี่ชายหรือไม่
หากเจียชิงเฉิงประสบเคราห์ร้าย ผู้ใดจะได้รับผลประโยชน์มากที่สุดในเรื่องนี้?
เห็นได้ชัดว่ามันคือคู่แข่งที่ยิ่งใหญ่ของเจียฟู่...เจียกุ้ย!
การกระทำของฆาตกรนำมาสู่ทางตันของปัญหา มันแสดงให้เห็นถึงประสบการณ์ของผู้ก่อการร้าย แล้วเด็กหนุ่มอายุสิบห้าเช่นฟางหยวนจะสามารถกระทำการทั้งหมดนี้ได้อย่างไร?
เงื่อนงำทั้งหมดบ่งชี้ไปยังคำตอบเดียว
ห้องโถงยังเงียบสนิทแต่กลุ่มผู้อาวุโสเริ่มมองหน้ากันอย่างมีความหมาย
‘การทำให้บางคนเชื่อบางสิ่งที่ไม่ใช่ความจริงไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ มันเพียงต้องมีบางคนคอยควบคุมสถานการณ์เท่านั้น’ ฟางหยวนลอบหัวเราะเสียงเย็นอยู่ในใจแต่ภายนอกกลับแสดงออกในทางตรงข้าม
ใบหน้าของเจียฟู่มืดมนลงเรื่อยๆ
เมื่อคิดไปถึงเจียกุ้ย จิตวิญญาณของเขาถึงกับสั่นสะท้าน จะมีผู้ใดมีแรงจูงใจมากไปกว่าเจียกุ้ย?
ไม่มี!
‘ตอนนี้ข้าเข้าใจทุกสิ่งแล้ว’ อาจารย์อาวุโสมองฟางหยวนด้วยดวงตาที่ส่องประกาย ‘ฟางหยวนทั้งโชคดีและโชคร้ายที่พบกับเจียชิงเฉิงในตอนท้าย เขาเป็นเพียงเด็กอายุสิบข้าที่พึ่งเข้าเรียนในสถานศึกษา แล้วเขาจะสามารถกำจัดหลักฐานทั้งหมดได้อย่างไร หากเขามีความสามารถในการวางแผนเช่นนั้น เหตุใดเขาจึงต้องโกหกในตอนต้นเพื่อให้ตนเองตกเป็นผู้ต้องสงสัย นั่นเป็นเพียงเพราะเขาต้องการปกปิดการคงอยู่ของวิญญาณสุราเท่านั้น’
เมื่อมาถึงจุดนี้ทุกคนก็ไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับฟางหยวนอีกต่อไป
‘การกำจัดข้อสงสัยในตัวข้าเป็นเพียงการเริ่มต้น แต่เหตุการณ์ต่อไปจึงจะเป็นสิ่งสำคัญ’ สถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมของฟางหยวนทั้งหมด