ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 50 ระดับหนึ่งขั้นกลาง (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 52 ท่านไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับคำอธิบายของข้า (อ่านฟรี)

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 51 ลองดูว่าเจ้าจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร (อ่านฟรี)


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 51 ลองดูว่าเจ้าจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร 

แปลโดย iPAT 

“วันนี้ฟางหยวนไม่มาเรียนงั้นหรือ?”

“วันนี้มีชั่วโมงเรียนของอาจารย์อาวุโสแต่เขากลับกล้าขาดเรียน?”

“ครั้งนี้ฟางหยวนจะต้องเดือดร้อนอย่างแน่นอน ฮ่าฮ่าฮ่า”

เด็กหนุ่มสาวเริ่มกระซิบเมื่อเห็นโต๊ะของฟางหยวนว่างเปล่า

การแสดงออกของอาจารย์อาวุโสยังไม่เปลี่ยนแต่เขาก็ลอบมองไปที่โต๊ะอันว่างเปล่าของฟางหยวน

เขาหัวเราะอยู่ในใจ ‘ฟางหยวน โอ้ ฟางหยวน ข้ายังกังวลว่าเจ้าจะไม่เผยจุดอ่อนออกมาเมื่อวานนี้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนเจ้าก็ยังเป็นเพียงเด็กอายุสิบห้าผู้หนึ่งเท่านั้น ข้าประเมินเจ้าสูงเกินไป’

อาจารย์อาวุโสต้องการใช้โอกาสนี้ลงโทษฟางหยวนและปลดปล่อยหัวใจของศิษย์คนอื่นๆให้เป็นอิสระจากความหวาดกลัว

การปกครองของฝ่ายเดียวไม่ใช่สิ่งที่อาจารย์อาวุโสต้องการเห็น เขาต้องการเห็นเด็กทุกคนส่องประกายขึ้นมาทั้งหมด

“เด็กๆ” อาจารย์อาวุโสใช้นิ้วเคาะโต๊ะก่อนจะส่งเสียงเรียก

“ผู้อาวุโส คนรับใช้ของท่านอยู่ที่นี่” ยามสองคนที่ยืนอยู่หน้าห้องเปิดประตูเข้ามาทันที

“เด็กน้อยฟางหยวนเกียจคร้านและขาดเรียน จงไปที่หอพักและนำตัวเขามาที่นี่เดี๋ยวนี้”

“รับทราบ!” ยามทั้งสองตอบรับเสียงดัง

เด็กหนุ่มสาวเริ่มวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง

“ฟางหยวนกำลังจะพบกับคราวเคราะห์” ดวงตาของเด็กหนุ่มส่องประกายขึ้น

“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเราจะรอดูการแสดงที่ดี” อีกคนหัวเราะ

“พี่ใหญ่ ท่านยโสเกินไปที่กล้าท้าทายอาจารย์อาวุโส ไม่ว่าอย่างไรท่านก็ต้องถูกลงโทษ!” ฟางเจิ้งมองไปยังโต๊ะที่ว่างเปล่าของฟางหยวน

“ปัง ปัง ปัง”

อาจารย์อาวุโสตบโต๊ะเสียงดัง “เงียบ! พวกเจ้าไม่ได้รับอนุญาติให้พูดคุยในชั้นเรียน!”

การแสดงออกของอาจารย์อาวุโสในเวลานี้ราวกับภูเขาไฟระเบิดและทำให้ห้องเรียนกลายเป็นเงียบสนิทในพริบตา

การเรียนการสอนยังดำเนินต่อไปแต่เด็กเหล่านั้นกลับไม่มีสมาธิเรียนและไม่สนใจการเรียนอีก

เมื่อเวลาผ่านไป เสียงฝีเท้าเริ่มดังใกล้เข้ามา ทันใดนั้นใบหูของเด็กหนุ่มสาวก็เริ่มกระตุก ดวงตาของพวกเขาพลันส่องประกายสดใส

‘มาแล้วงั้นหรือ?’ อาจารย์อาวุโสหรี่ตาขณะฟังเสียงฝีเท้า

เขาคิดวิธีลงโทษฟางหยวนไว้แล้ว เขาจะให้ฟางหยวนยืนหน้าห้องเรียนเป็นเวลาสามชั่วโมง แม้มันจะไม่ใช่การลงโทษขั้นร้ายแรงแต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ภาพลักษณ์ของฟางหยวนพังทลายลง มันจะทำให้ศิษย์คนอื่นๆรู้สึกว่าฟางหยวนไม่ได้พิเศษมากนัก จากนั้นความกล้าหาญจะกลับมาสู่หัวใจของพวกเขาอีกครั้ง

นอกจากนี้มันยังสามารถกอบกู้ชื่อเสียงให้กับอาจารย์ของสถานศึกษาและทำให้เด็กๆยังคงเคารพอาจารย์ต่อไป

มันเป็นวิธีการง่ายๆที่มีประสิทธิภาพสูง

เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาพร้อมกับเสียงเคาะประตู

“ก๊อก ก๊อก”

เมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น

“ข้าจะเปิดเอง” เด็กผู้หนึ่งอาสาเปิดประตูด้วยความกระตือรือร้น

ภายในห้องเงียบกริบ ทุกคู่สายตาต่างมองไปที่ประตูห้อง

“แอ๊ด...”

ประตูเปิดออกขณะที่ร่างกายของอาสาสมัครกลายเป็นแข็งค้าง

“อา...” เขาตะลึงอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะส่งเสียงกรีดร้องออกมาและล้มลงบนพื้นโดยไม่คาดคิด

ใบหน้าของเขาซีดเผือด ร่างกายของเขาสั่นเทา แม้เขาจะพยายามลุกขึ้น แต่ด้วยขาที่อ่อนแรง เขาจึงล้มลงไปอีกครั้งและอีกครั้ง

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” เด็กหนุ่มสาวที่อยู่ในห้องต่างรู้สึกประหลาดใจก่อนจะเริ่มขุ่นเคือง

ประตูห้องถูกผลักเปิดจากด้านนอก

อาจารย์อาวุโสหยุดการบรรยายและมองไปที่ประตูเช่นกัน

สิ่งที่ทุกคนเห็นเป็นสิ่งแรกคือมือซ้ายของเด็กหนุ่ม

มือที่มีเลือดไหลเป็นทางยาวและหยดลงสู่พื้น

มือที่เปื้อนเลือด!

เมื่อเห็นเลือด เด็กหญิงบางคนยกมือขึ้นปิดปากของตน บางคนส่งเสียงกรีดร้องออกมาด้วยควมหวาดกลัว

ประตูค่อยๆเปิดออกจนสุด

แสงอาทิตย์แทรกตัวเข้ามาทิ่มแทงดวงตาของทุกคนพร้อมกับเงาดำของเด็กหนุ่มผู้หนึ่งที่ปรากฏขึ้น

อาจารย์อาวุโสเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ

“เขาคือฟางหยวน!” บางคนอุทานเสียงดัง

หลังจากที่สายตาของพวกเขาเริ่มคุ้นชินกับแสงแดด พวกเขาจึงสามารถจดจำเงาร่างของเด็กหนุ่มผู้นั้น

ในมุมมองสายตาของพวกเขา ร่างของฟางหยวนที่อาบย้อมไปด้วยเลือดยืนอยู่ที่นั่น มันดูราวกับเขาพึ่งผ่านการต่อสู้ที่รุนแรงมาเมื่อไม่นานนี้

มือซ้ายของเขาเคลื่อนตัวกลับไปด้านหลังขณะที่มือขวาเคลื่อนที่มาข้างหน้าพร้อมกับกำเส้นผมของบางคนที่นอนอยู่บนพื้นอย่างไร้ชีวิตเอาไว้ในมือ

“เขาคือยามที่ไปเรียกฟางหยวน!” บางคนตะโกนเสียงดัง

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” บางคนสับสน

“เขาฆ่าคนอีกครั้ง คราวนี้เขาฆ่ายาม!” บางคนชี้นิ้วไปที่ฟางหยวนและกรีดร้อง

เสียงกรีดร้องดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความหวาดกลัวเข้าเกาะกุมหัวใจของเด็กหนุ่มสาวเอาไว้อีกครั้ง

ความโกลาหลปะทุขึ้นทันที

เด็กหลายคนผุดลุกขึ้นยืนและมองไปที่ฟางหยวนด้วยความตกใจและเสียขวัญ

ในจินตนาการของพวกเขา ฟางหยวนต้องถูกลากดึงมาที่นี่โดยยามทั้งสอง

แต่ความเป็นจริงกลับเป็นฟางหยวนที่ร่างกายอาบย้อมไปด้วยเลือดเดินลากซากศพของยามเข้ามาในห้อง

กลิ่นสาบเลือดลอยคละคลุ้งไปทั่ว

กระทั่งอาจารย์อาวุโสยังตะลึงกับฉากที่ไม่คาดฝันนี้

หลังจากชั่วครู่ความโกรธของอาจารย์อาวุโสก็ปะทุขึ้น

ยามทั้งสองเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา แม้พวกเขาจะตาย อาจารย์อาวุโสก็ไม่สนใจ แต่สิ่งสำคัญคือพวกเขาเป็นยามของสถานศึกษาและเป็นตัวแทนของอาจารย์อาวุโส!

‘ฟางหยวนโหดเหี้ยมและเลือดร้อนเกินไป เขาไม่เพียงสังหารเกาเหวิน แต่เขายังกล้าสังหารยามของสถานศึกษา? นี่เป็นการท้าทายและยั่วยุสถานศึกษาของตระกูลอย่างชัดเจน!’

อาจารย์อาวุโสชี้นิ้วไปที่ฟางหยวนพร้อมกับตะโกนเสียงดัง “ฟางหยวน นี่คือสิ่งใด? อธิบายมาเดี๋ยวนี้! หากเจ้าไม่สามารถอธิบาย เจ้าจะต้องได้รับโทษขั้นร้ายแรงในฐานะฆาตกรที่สังหารยามของสถานศึกษา! เจ้าจะต้องถูกโยนเข้าคุกและรอการตัดสินจากตระกูล!”

ร่างกายของเด็กหนุ่มสาวสั่นสะท้านขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง

กระทั่งหน้าต่างห้องยังสั่นสะเทือนเมื่ออาจารย์อาวุโสตวาดเสียงดัง

มีเพียงฟางหยวนที่มองอาจารย์อาวุโสอย่างไร้อารมณ์ราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

หลังจากกวาดตามองไปรอบๆ ฟางหยวนก็ปล่อยมือขวาออกจากศีรษะของยามที่ไร้ชีวิต

เขากล่าว “ท่านอาจารย์ ข้ามีบางสิ่งที่ต้องรายงาน”

“พูด!” อาจารย์อาวุโสมองฟางหยวนและกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

แต่ในใจของอาจารย์อาวุโสกลับกำลังหัวเราะร่าเริง ‘ฟางหยวน ยิ่งเจ้าก่อเรื่องร้ายแรงมากเท่าใด บทลงโทษของเจ้าก็ยิ่งรุนแรงมากเท่านั้น ลองดูว่าเจ้าจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร?’