ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 44 สุราวานร (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 46 ไม่จำเป็นต้องคิดมากหากต้องฆ่าบางคน (อ่านฟรี)

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 45 เรื่องน่าเศร้าภายใต้หน้ากากที่ยิ้มแย้มแจ่มใส (อ่านฟรี)


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 45 เรื่องน่าเศร้าภายใต้หน้ากากที่ยิ้มแย้มแจ่มใส 

แปลโดย iPAT 

“ไม่ทราบว่าเกิดปัญหาใดเกิดขึ้น?” เจียฟู่กวาดมองฝูงชนก่อนจะเปิดปากกล่าวด้วยความสุภาพ

ผู้ใช้วิญญาณระดับสองรู้สึกราวกับเห็นแสงสว่าง เขาทักทายเจียฟู่ด้วยความเคารพ จากนั้นจึงกวาดตามองผู้คนที่ยืนอยู่รอบๆและเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมด

“เรื่องเป็นเช่นนี้” เมื่อได้ยินเรื่องราวจากผู้ใช้วิญญาณระดับสอง เจียฟู่พนักหน้าก่อนจะเปิดปากถามเจียชิงเฉิง “น้องเล็ก นั่นเป็นเรื่องจริงหรือไม่?”

เจียชิงเฉิงไม่ตอบ เขาเพียงเผยรอยยิ้มเย้ยหยันไปทางผู้คนเท่านั้น

เจียฟู่ครุ่นคิด

ขณะที่ทุกคนปิดปากเงียบ ไม่มีผู้ใดกล้าขัดจังหวะเจียฟู่ พวกเขาเพียงรอฟังคำตอบอยู่อย่างสงบเท่านั้น

กล่าวได้ว่าเจียชิงเฉิงกระทำความผิดแต่ผู้ใช้วิญญาณระดับสองก็ไม่ฉลาด หากเขาไม่ถูกความโลภปิดบังสายตา เขาจะถูกหลอกได้อย่างไร?

ในสถานการณ์นี้หากเจียฟู่คิดปกป้องน้องชายของเขา ด้วยการบ่มเพาะระดับสี่ แม้แต่ผู้นำตระกูลแสงจันทร์ก็ไม่สามารถหยุดเขา แต่เจียฟู่จะตัดสินใจอย่างไร นี่คือสิ่งที่ทุกคนต้องการรู้

เมื่อเวลาผ่านไปเจียฟู่ก็เปิดปากอีกครั้ง “ข้าเข้าใจแล้ว น้องชายของข้าเป็นฝ่ายผิด เขาทำให้น้องชายผู้นี้ได้รับความเสียดายโดยการรับซื้อของปลอม ข้าต้องขออภัยด้วย” หลังกล่าวจบคำ เจียฟู่เร่งเข้าไปจับมือผู้ใช้วิญญาณหนุ่มและลุกเข่าลงอย่างไม่คาดคิด

“ท่านเจียฟู่” ผู้ใช้วิญญาณหนุ่มตกใจมาก “อย่าได้ทำเช่นนี้ ท่านเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสี่ ส่วนข้าเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับสอง ข้าไม่สามารถรับเกียรตินี้ได้”

เจียฟู่โบกมือ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับระดับการบ่มเพาะ ข้าพิจารณาจากข้อเท็จจริง มันไม่เกี่ยวกับสถานะส่วนบุคคล ผิดก็คือผิด ข้าต้องขออภัยในนามขบวนสินค้าของข้า เมื่อน้องชายสูญเสียหินวิญญาณไปสองร้อยห้าสิบก้อน ตระกูลเจียของข้าจะชดเชยให้กับน้องชายเป็นสองเท่า”

หลังจากนั้น คนรับใช้ของเจียฟู่ก็ส่งถุงเงินห้าถุงให้แก่ผู้ใช้วิญญาณหนุ่มต่อหน้าสายตาของทุกคน

ผู้ใช้วิญญาณหนุ่มรับถุงเงินไปด้วยความตื่นเต้นก่อนจะคุกเข่าลงทำความเคารพเจียฟู่อย่างรวดเร็ว

“ขอบพระคุณท่านเจียฟู่”

เสียงยกย่องสรรเสริญดังขึ้นจากรอบข้าง

“ท่านเจียฟู่ช่างน่ายกย่องนัก”

“ยอดเยี่ยม ท่านเจียฟู่เป็นผู้มีเกียรติอย่างแท้จริง”

“แม้เขาจะเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสี่ แต่เขาไม่ได้ใช้อำนาจรังแกผู้อ่อนแอกว่าและกระทั่งปฏิบัติกับผู้อื่นอย่างเท่าเทียม ช่างน่าชื่นชมนัก”

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่” เจียฟู่หันหน้าไปทางฝูงชนและกล่าวออกมาด้วยความสุภาพ “การค้าขายของข้ายึดถือความซื่อสัตย์เสมอมาและไม่คิดที่จะโกงผู้ใด น้องชายของข้ายังเด็กจึงพลั้งพลาดทำเรื่องที่ไม่เหมาะสมไปบ้าง แต่แท้จริงแล้วเขาก็ไม่ได้เลวร้ายมากนัก ข้าหวังว่าทุกคนจะให้อภัยเขา”

เสียงโห่ร้องดังขึ้นอีกครั้ง

ใบหน้าของเจียชิงเฉิงขาวซีดขณะที่เขาเดินเข้าไปในกระโจมก่อนจะออกไปทางประตูด้านหลัง

ฟางหยวนมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยสายตาเย็นเยียบ เขาคิด ‘ดูเหมือนครั้งนี้ข้าจะสามารถทำบางสิ่งกับวิญญาณความทรงจำที่ถูกทิ้งไว้โดยนักบวชปีศาจสุราดอกไม้’

ด้วยความไม่พอใจของนักบวชปีศาจสุราดอกไม้ เขาจึงเก็บภาพเหตุการณ์ที่น่าละอายของผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นที่สี่เอาไว้ในวิญญาณความทรงจำ

เดิมทีฟางหยวนตั้งใจขายวิญญาณความทรงจำของนักบวชปีศาจสุราดอกไม้ให้กับหมู่บ้านใกล้เคียง อย่างไรก็ตามการเดินทางไปยังหมู่บ้านอื่นด้วยระดับการบ่มเพาะในปัจจุบันเป็นเพียงการฆ่าตัวตายเท่านั้น กระทั่งเขาจะประสบความสำเร็จในการค้าขาย แต่ไม่มีความลับที่แท้จริงอยู่บนโลกนี้ เมื่อผู้อาวุโสระดับสูงของตระกูลแสงจันทร์ล่วงรู้ความจริง การลงโทษสถานเบาที่สุดก็คือการขับไล่ออกจากหมู่บ้าน ซึ่งเขายังไม่พร้อมที่จะรับบทลงโทษนี้ ตามแผนการของฟางหยวน เขายังต้องการใช้ประโยชน์จากตระกูลแสงจันทร์ต่อไประยะหนึ่ง

ดังนั้นวิธีการที่ปลอดภัยที่สุดก็คือขายมันให้กับขบวนสินค้า พ่อค้าเหล่านี้เป็นคนนอกทั้งหมด นอกจากนั้นพวกเขายังไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างหมู่บ้าน พวกเขาถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด

วันถัดไปขบวนสินค้าจะออกเดินทางไปยังหมู่บ้านตระกูลซ่งและหมู่บ้านตระกูลไป่

หากฟางหยวนขายวิญญาณความทรงจำให้กับขบวนสินค้า มันจะช่วยลดความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง

“เอาเหล้ามาอีก!”

“เอาเหล้ามาให้ข้าอีก!”

“เอามาให้ข้าเดี๋ยวนี้! พวกเจ้าคิดว่าข้าไม่มีเงินจ่ายงั้นหรือ?”

เจียชิงเฉิงทุบโต๊ะเสียงดัง

“นายน้อย สุรามาแล้วเจ้าค่ะ” พนักงานสาวเร่งนำสุรามาให้เขา

เจียชิงเฉิงคว้าถ้วยสุราไปและดื่มมันเข้าไปในครั้งเดียว

“สุราดี!” เขาหัวเราะด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งก่อนจะกระแทกถ้วยสุราลงบนโต๊ะและตะโกนออกไปอีกครั้ง “เอามาอีก! เอามาทั้งหมดที่พวกเจ้ามีอยู่”

พนักงานสาวไม่กล้าขัดและรีบไปนำสุราออกมาทันที

โชคดีที่สุราส่วนใหญ่ของพวกเขาขายออกไปเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามภายในร้านยังมีผู้คนนั่งกินดื่มอยู่อีกมากมาย

เจียชิงเฉิงต้องการใช้สุราลบความโศกเศร้าที่อยู่ในใจ เขากวาดตามองไปรอบๆและคิดว่าจะมีผู้ใดเข้าใจความข่มขื่นของเขาบ้าง

ทุกคนต่างมีเรื่องราวเป็นของตนเอง เรื่องน่าเศร้ามักถูกซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากที่ยิ้มแย้มแจ่มใส

ในกลุ่มพี่น้อง เขาเป็นน้องชายคนเล็ก ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูดีเหมือนบิดา เขาจึงได้รับความสนใจจากทุกคนมาตั้งแต่เด็ก อย่างไรก็ตามโชคชะตามักเล่นตลกกับผู้คน มันทำให้เขามีพรสวรรค์เพียงนภาที่สี่

แม้เขาจะเป็นน้องเล็ก แต่เขามักถูกกดขี่ข่มเหงโดยพี่ๆของเขาเสมอ นอกจากนั้นเขาก็ยังไม่สามารถต่อต้านขัดขืน

เมื่อบิดาของเขาใกล้จะจบชีวิตลง มรดกส่วนใหญ่จึงถูกแจกจ่ายไปยังพี่ชายทั้งสองของเขารวมถึงขบวนสินค้าขบวนนี้ สำหรับเจียชิงเฉิง เขาได้รับมรดกน้อยมาก

เจียชิงเฉิงต้องพึ่งพาตนเองเพื่อหาผลประโยชน์จากทุกสิ่งรอบตัว อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดว่าพี่ชายของเขาเจียฟู่จะยื่นมือให้ความช่วยเหลือโดยให้เขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของขบวนสินค้าขบวนนี้

แต่เขาก็รู้ดีว่าตั้งแต่ต้นจนจบเจียฟู่เพียงหลอกใช้เขาเท่านั้น

“เจียฟู่!” เจียชิงเฉิงกัดฟันแน่น เพลิงแห่งความเกลียดชังลุกไหม้อยู่ในหัวใจของเขา

“เจ้าต้องการแก้แค้นพี่ชายของเจ้าใช่หรือไม่? ข้าสามารถช่วยเจ้าได้” ทันใดนั้นเสียงสายหนึ่งพลันดังขึ้นในหูของเจียชิงเฉิงอย่างกะทันหัน

เจียชิงเฉิงตกใจ เขาหันหน้าไปรอบๆก่อนจะพบบางคนนั่งอยู่ด้านข้างเขา

เขาส่ายศีรษะและกระพริบตาสองสายครั้งก่อนจะสามารถจดจำคนผู้นี้ได้

“เจ้า!” เขามองฟางหยวนด้วยความโกรธ “ข้าจำเจ้าได้ เจ้าเป็นเด็กโชคดีที่ได้รับคางคกปฐพีในกระโจมโชคลาภของข้า เจ้าต้องการสิ่งใด?”

ฟางหยวนมองเจียชิงเฉิงด้วยสายตาเย็นชา “ข้ามีธุรกิจมาเสนอ หากเจ้าต้องการผลประโยชน์และได้รับมรดกของครอบครัวมากขึ้น จงฟังข้า”

เจียชิงเฉิงตั้งตัวตรงและกล่าวอย่างจริงจัง “เจ้ารู้เรื่องมรดกของครอบครัวข้าได้อย่างไร?”

มรดกเป็นความลับของครอบครัวที่คนนอกไม่สมควรล่วงรู้ อย่างไรก็ตามฟางหยวนกลับพึ่งกล่าวบางคำที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจออกมา

“เรื่องราวของครอบครัวตระกูลเจียไม่ใช่ความลับ เจ้าคิดว่าสามารถเก็บซ่อนมันได้งั้นหรือ?” ฟางหยวนหัวเราะ

จากความทรงจำของฟางหยวน ครอบครัวตระกูลเจียถือเป็นตำนานบทหนึ่งของดินแดนแห่งนี้ หัวหน้าตระกูลเจียเริ่มสร้างตัวขึ้นมาด้วยตนเองรวมถึงขบวนสินค้าที่ใหญ่โตขบวนนี้ด้วย อย่างไรก็ตามทายาทของเขา เจียฟู่ และ เจียกุ้ย ต่างแก่งแย่งมรดกเหล่านั้นอย่างดุเดือด แต่หลายปีผ่านไปยังไม่ปรากฏผลแพ้ชนะ สุดท้ายพวกเขาจึงเริ่มต่อสู้กันด้วยวิญญาณและตกตายไปพร้อมกันในที่สุด

เจียชิงเฉิงหรี่ตามองฟางหยวนและคิด ‘ก่อนหน้านี้ท่านพ่อประกาศเรื่องการแบ่งมรดกออกไป ตอนนี้ก็เป็นเวลาสองปีแล้ว มันไม่แปลกหากข้อมูลนี้จะรั่วไหลออกไป’

ฟางหยวนยังไม่กล่าวสิ่งใดแต่กวาดตามองไปรอบๆกระโจม นี่เป็นกระโจมสุราที่เข้ามาในเวลากลางวัน แต่ตอนนี้เป็นเวลาค่ำคืน มันจึงมีผู้คนจำนวนมากนั่งกินดื่มอยู่ที่นี่

“มานี่” ฟางหยวนกวักมือเบาๆเรียกเจียชิงเฉิง

เจียชิงเฉิงหัวเราะแต่ยังโน้มตัวเข้าไปใกล้ฟางหยวน

หลังจากเขาได้ยินบางคำจากฟางหยวน คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันและจ้องมองฟางหยวนอย่างลึกซึ้ง “ธุรกิจนี้เกี่ยวข้องกับสามเสาหลักของภูเขาชิงเหมา สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพ่อค้าคือห้ามนำตนเองเข้าสู่ความขัดแย้งระหว่างกองกำลังที่อยู่ในพื้นที่ เจียฟู่ส่งเจ้ามาเพื่อล่อลวงข้างั้นหรือ?”

ฟางหยวนคาดเดาไว้แล้วว่าเจียชิงเฉิงจะต้องสงสัย แต่เขาไม่ตอบคำถาม เขาเพียงลุกขึ้นและเตรียมตัวจากไปเท่านั้น “ฮ่าฮ่า เช่นนั้นข้าก็จะไปคุยธุรกิจกับพี่ชายของเจ้าแทน”

เจียชิงเฉิงมองฟางหยวนที่กำลังจะเดินออกไปจากกระโจมและไม่สามารถอดทนต่อการล่อลวงของฟางหยวนได้อีกต่อไป “เดี๋ยว! อย่าพึ่งไป เราสามารถพูดคุยเรื่องนี้”

ฟางหยวนยืนด้วยมือไพล่หลังและตอบเสียงเรียบ “ข้ารู้ว่าเจ้าระแวงข้า อย่างไรก็ตามตอนนี้เจ้ากำลังถูกกดขี่โดยพี่ชายของเจ้า เร็วๆนี้เจ้าจะต้องสูญเสียทุกสิ่ง เช่นนั้นเจ้าจะคว้าความหวังเอาไว้หรือจะยอมทิ้งทุกสิ่ง เจ้าต้องตัดสินใจด้วยตนเองว่ากล้าพอที่จะเดิมพันหรือไม่?”

การแสดงออกของเจียชิงเฉิงเปลี่ยนแปลงไป “เจียฟู่แก่กว่าข้าแต่ข้าไม่เคยคิดว่าเขาเป็นพี่ชาย เจ้าพูดถูก ข้าจะเดิมพันกับเรื่องนี้!”

ฟางหยวนกล่าวอย่างจริงจัง “สองพันหินวิญญาณ ไม่น้อยไปกว่านี้”

“ราคานี้แพงเกินไปขณะที่สินค้ามีความเสี่ยงสูงมาก”

“อย่าต่อรอง” ฟางหยวนส่ายศีรษะ “หากเจ้าสามารถขายให้กับอีกสองตระกูลบนภูเขาแห่งนี้ เจ้าจะได้รับผลประโยชน์มหาศาล”

เจียชิงเฉิงไตร่ตรองอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้า “เป็นเช่นนั้นจริงๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตระกูลไป่ขยายอิทธิพลออกไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากมีอัจฉริยะพรสวรรค์นภาที่หนึ่งปรากฏตัวขึ้น ไป่หนิงปิง เขามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะยึดครองภูเขาชิงเหมาทั้งหมด หากมีบางสิ่งที่สามารถสั่นคลอนความมั่นคงของตระกูลแสงจันทร์ ผู้นำตระกูลไป่จะต้องจ่ายข้าอย่างงาม มูลค่าของมันสามารถเพิ่มขึ้นไปได้ถึงสองเท่า”

หลังจากได้ยินการวิเคราะห์สถานการณ์บนภูเขาชิงเหมาของเจียชิงเฉิง ฟางหยวนลอบคิดอยู่ในใจ ‘การถือกำเนิดขึ้นในตระกูลเจียทำให้เจียชิงเฉิงได้รับอิทธิพลมาจากพวกเขา กล่าวไปแล้วเขาก็ไม่ใช่คนไร้ประโยชน์’

เจียชิงเฉิงสูดหายใจลึก “แม้จะเป็นหลุมพราง ข้าก็พร้อมที่จะกระโดดลงไป ข้าตกลง สองพันหินวิญญาณ เป็นไปตามนั้น แต่ข้าต้องขอดูสินค้าก่อน”

“แน่นอน ตามข้ามา” ฟางหยวนหัวเราะ ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาแล้ว