เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 44 สุราวานร (อ่านฟรี)
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 44 สุราวานร
แปลโดย iPAT
เที่ยงของวันถัดมา หลังทานอาหาร ฟางหยวนกลับไปยังลานแสดงสินค้าอีกครั้ง
เวลากลางวันทุกคนต้องทำงานของตนเอง ลานแสดงสินค้าจึงมีผู้คนไม่มากนัก
ฟางหยวนตรงไปยังรถเข็นขายหญ้าประกายแสงแต่เขากลับพบเพียงไก่ตัวหนึ่งที่มีขนาดเท่ากับนกกระจอกเทศยืนอยู่ที่นั่นเท่านั้น
‘ดูเหมือนหญ้าประกายแสงจะถูกขายออกไปจนหมดแล้ว น่าเสียดาย หากได้มันมา ข้าจะประหยัดหินวิญญาณได้มาก” ฟางหยวนหยุดเท้าเพียงชั่วครู่ก่อนจะเดินต่อไปตามเส้นทาง
“เชิญเลย เชิญเลย เชิญเข้าชิมสุราของพวกเราดูก่อน พวกเรามีสุรานับร้อยชนิดจากภูเขาต่างๆ นี่คือสุราที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ได้รับการพัฒนามาถึงเก้าชั่วอายุคน นอกจากนั้นเรายังมีชามังกรผงาด สุราจิตวิญญาณดอกไม้ สุราใบไม้ร่วง...” พ่อค้าตะโกนขายสินค้าเสียงดัง
ฟางหยวนหยุดเท้าก่อนจะเดินเข้าไปในร้านสุราแห่งนั้น
ภายในกระโจม ปรากฏเห็ดขนาดใหญ่ซึ่งมีสีสันที่แตกต่างกันผุดขึ้นมาจากพื้นดิน มันเป็นวิญญาณสายพฤกษาชนิดหนึ่งที่ใช้แทนโต๊ะและเก้าอี้
ฟางหยวนเลือกนั่งบนเก้าอี้เห็ดสีแดงก่อนที่พนักงานสาวจะเดินเข้ามาและส่งรายกายสุราให้กับฟางหยวน
“นายน้อย นี่คือรายการสุราของร้านเราเจ้าค่ะ” พนักงานสาวกล่าว
ฟางหยวนกวาดตามองรายกายสุราทั้งหมดและพบว่าพวกมันมีราคาแพงกว่าสุราไผ่เขียว
“นำสุราวานรมาให้ข้าหนึ่งถ้วย” ฟางหยวนกล่าว
“สุราวานรหนึ่งถ้วย!” พนักงานสาวตะโกนเสียงดัง
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่งที่ยืนอยู่ที่ชั้นวางสุราจึงหันหน้ามาทางฟางหยวนก่อนจะหยิบถ้วยสุราที่ทำจากไม้ไผ่ออกมาวางไว้บนโต๊ะ หลังจากนั้นเขาก็หันหน้ากลับไปทางชั้นวางสุราที่เต็มไปด้วยขวดสุราคริสตัลที่อยู่ในรูปลักษณ์ของแมลงเต่าทอง
แมลงเต่าทองคริสตัลเหล่านี้คือวิญญาณชนิดหนึ่ง มันมีความสามารถในการกักเก็บของเหลวไว้ภายในร ดังนั้นมันจึงถูกใช้เป็นภาชนะบรรจุสุรา
ผู้ใช้วิญญาณผู้นั้นพบแมลงเต่าทองคริสตัลที่เก็บสุราวานรไว้อย่างรวดเร็ว เขาหยิบมันออกมาก่อนจะใช้พลังวิญญาณกระตุ้นให้มันปลดปล่อยสุราวานรออกมาทางปากและค่อยๆเติมเต็มถ้วยไม่ไผ่อย่างช้าๆ
เมื่อสุราถูกเติมจนเต็ม พนักงานสาวจึงยกมันมาวางไว้บนโต๊ะเห็ดของฟางหยวน
ฟางหยวนยกถ้วยสุราขึ้นจิบเบาๆเพื่อรับรู้ถึงกลิ่นหอมและรสหวานที่ปลายลิ้นกระทั่งมันไหลลงสู่ลำคอของเขา
แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ดื่มมันอีก ตรงข้ามเขานำวิญญาณสุราออกมา
ไข่มุกแสงสีขาวปรากฏขึ้นกลางอากาศก่อนจะกลายร่างเป็นหนอนสุราตัวอ้วนกลมและพุ่งลงไปในถ้วยสุราอย่างรวดเร็ว
สุรากระเด็นออกมาเล็กน้อยขณะที่หนอนสุราแหวกว่ายอยู่ในถ้วยสุราอย่างมีความสุข เพียงสองลมหายใจผ่านไป หนอนสุราก็กลืนกินสุราวานรเข้าไปจนหมด
“มันคือวิญญาณสุรา!” ผู้ใช้วิญญาณในร้านอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับดวงตาที่ส่องประกายขึ้น
วิญญาณสุรามีความสามารถในการปรับแต่งทะเลวิญญาณและยกระดับการบ่มเพาะ กล่าวได้ว่ามันเป็นวิญญาณที่ล้ำค่าสำหรับผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่งและมันก็เป็นวิญญาณที่หายากมาก
“นายน้อย ท่านสนใจที่จะขายมันหรือไม่?” ผู้ใช้วิญญาณผู้นั้นกระตือรือร้นเข้ามาสอบถามฟางหยวนอย่างจริงจัง
ฟางหยวนส่ายศีรษะและเตรียมตัวจากไป แน่นอนว่าเขาไม่คิดที่จะขายมัน
วัตถุประสงค์ที่เขามาที่นี่เพียงเพราะต้องการเปิดเผยมันออกมาเท่านั้น
“นายน้อยโปรดรอก่อน ข้ามีความจริงใจอย่างมาก บางทีเราอาจสามารถพูดคุยราคากันได้” ผู้ใช้วิญญาณผู้นั้นเดินตามฟางหยวนออกมาจากกระโจม อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่ตอบและไม่แยแสเขาแม้แต่น้อย
สุดท้ายผู้ใช้วิญญาณผู้นั้นก็ทำได้เพียงยืนมองฟางหยวนเดินลับตาไปด้วยความผิดหวังเท่านั้น
ดวงอาทิตย์ร่วงหล่นลงจากท้องฟ้าขณะที่แสงจันทร์เริ่มสาดส่อง
แสงจันทร์สะท้อนผิวน้ำและส่องประกายระยิบระยับราวกับโคมไฟคริสตัล
ลานแสดงสินค้าเริ่มคึกคักและเนืองแน่นไปด้วยผู้คนอีกครั้ง
“ขบวนสินค้าจะเปิดร้านเป็นเวลาสามวัน ตอนนี้เป็นคืนที่สอง หลังจากพรุ่งนี้ ขบวนสินค้าจะจากไป หากพวกเราต้องการซื้อบางสิ่ง พวกเราต้องรีบตัดสินใจคว้ามันมาในเวลานี้”
“เมื่อวานนี้ข้าต้องการซื้อวิญญาณระฆังทอง แต่ราคาของมันค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตามข้าจะลองไปดูอีกครั้ง บางทีพ่อค้าอาจลดราคาลงบ้างแล้ว”
“เจ้ารู้หรือไม่? เมื่อคืนมีเด็กหนุ่มบางคนไปที่กระโจมโชคลาภและโชคดีได้พบคางคกปฐพี สุดท้ายเขายังขายออกไปได้ถึงห้าร้อยหินวิญญาณอีกด้วย”
ฟางหยวนเดินอยู่ท่ามกลางฝูงชน แต่เขากลับค่อนข้างผิดหวัง เพราะเขายังไม่ได้ยินผู้ใดกล่าวถึงวิญญาณสุราของเขาแม้แต่ครั้งเดียว
‘วิญญาณสุราเป็นวิญญาณระดับหนึ่ง มันสามารถยกระดับการบ่มเพาะของผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่ง แต่มันไม่สามารถช่วยเหลือผู้ใช้วิญญาณระดับสองและระดับสาม ด้วยข้อเท็จจริงนี้ ผู้คนจึงไม่ให้ความสำคัญกับมันมากนัก แผนการของข้าจะล้มเหลวงั้นหรือ?’ ฟางหยวนคิด
ทันใดนั้น...
บางคนตะโกนเสียงดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน “ไปดูเร็ว! มีร้านค้าบางร้านขายสินค้าปลอมให้กับสมาชิกตระกูลแสงจันทร์ของเรา!”
เสียงพูดคุยที่เต็มไปด้วยความรังเกียจดังขึ้นท่ามกลางผู้คนมากมาย
“อันใด? มีเหตุการณ์เช่นนี้จริงๆงั้นหรือ?”
“ไปดูกันว่าร้านใดกล้าหลอกลวงตระกูลแสงจันทร์ของเรา”
ฟางหยวนเดินตามฝูงชนไปก่อนจะเห็นกลุ่มคนจำนวนมากที่กำลังรุมล้อมกระโจมสีแดงขนาดใหญ่หลังหนึ่ง มีความกรุ่นโกรธอันบางเบาอยู่บนใบหน้าของทุกคน
มีชายสองคนยืนอยู่หน้าประตูกระโจมแห่งนั้น
หนึ่งเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสองของตระกูลแสงจันทร์
และอีกหนึ่งคือเจ้าของกระโจม เจียชิงเฉิง
ผู้ใช้วิญญาณระดับสองถือวิญญาณสีดำไว้ในมือขณะที่ชูมันให้ผู้คนเห็นอย่างชัดเจน “คนผู้นี้หลอกขายของปลอมให้ข้า เขาบอกว่านี่คือวิญญาณหนอนดำและขายให้ข้าในราคาสองร้อยห้าสิบหินวิญญาณ แต่เมื่อข้ากลับไปปรับแต่งมัน ข้ากลับพบว่ามันไม่ใช่วิญญาณหนอนดำ มันเป็นเพียงหนอนธรรมดาทั่วไปเท่านั้น!”
เจียชิงเฉิงหัวเราะเย้ยหยันก่อนกล่าว “เจ้าอย่าโยนโคลนใส่ข้า ข้าเคยบอกหรือไม่ว่ามันคือวิญญาณหนอนดำ? เจ้ามีหลักฐานหรือไม่?”
ด้วยการปฏิเสธอย่างไร้ยางใจ ผู้ใช้วิญญาณระดับสองคว้าข้อมือเจียชิงเฉิงขึ้นมาด้วยความโกรธแค้น “น่ารังเกียจ! เจ้ากล้าปฏิเสธอย่างไร้ยางอาย เจ้ากล้าหลอกผู้ใช้วิญญาณของตระกูลแสงจันทร์ รนหาที่ตายงั้นหรือ?”
“ปล่อย!” เจียชิงเฉิงสะบัดมือออกก่อนกล่าวต่อ “เจ้าควรเลือกเป้าหมายให้ดีกว่านี้หากเจ้าต้องการสร้างปัญหา ข้าไม่เกรงกลัวเจ้าแม้แต่น้อย พี่ชายของข้าคือเจียฟู่ ผู้ใช้วิญญาณระดับสี่ ได้ยินเช่นนี้แล้วเจ้ายังกล้ายั่วยุข้าอีกหรือไม่?”
“เจ้า!” ผู้ใช้วิญญาณระดับสองโกรธจัด แต่เขาก็ไม่กล้าทำสิ่งใดอีก นั่นเป็นเพราะคำว่าผู้ใช้วิญญาณระดับสี่ทำให้เขาเกรงกลัวได้จริงๆ
“ถุย!” เจียชิงเฉิงถ่มน้ำลายลงพื้นก่อนจะหัวเราะเยาะอีกครั้ง “เจ้าต้องการผลประโยชน์เพียงเล็กน้อยแต่กลับลืมคิดไปว่าวิญญาณหนอนดำที่มีความสามารถยกระดับการบ่มเพาะของผู้ใช้วิญญาณย่อมเป็นสมบัติหายาก ปกติแล้วมันมีราคาหกร้อยหินวิญญาณ แต่เจ้ากลับคิดว่าหินวิญญาณสองร้อยห้าสิบก้อนสามารถซื้อหามันได้จริงๆงั้นหรือ? ฝันไปเถอะ!”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นทันทีหลังจากถ้อยคำเหล่านี้หลุดออกมาจากปากของเจียชิงเฉิง ขณะที่ผู้ใช้วิญญาณระดับสองเต็มไปด้วยความโกรธและความอัปยศ อย่างไรก็ตามไม่มีผู้ใดกล้าเผชิญหน้ากับผู้ใช้วิญญาณระดับสี่เจียฟู่
“คนผู้นี้ช่างน่ารังเกียจนัก เขาชั่วร้ายจริงๆ”
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใดเขาถึงกล้าจองหองและหลอกลวงผู้คนเช่นนี้ มันเป็นเพราะเขามีผู้ใช้วิญญาณระดับสี่เจียฟู่อยู่เบื้องหลัง”
“ข้าได้ยินมาว่าเขาเป็นน้องชายต่างมารดาของเจียฟู่ เขาเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่งแต่กลับอาศัยความสัมพันธ์นี้กลั่นแกล้งผู้คนอยู่เสมอ”
“เกิดสิ่งใดขึ้น?” เสียงตวาดดังขึ้นอย่างกะทันหัน
“เจียฟู่อยู่ที่นี่!”
“ท่านผู้นำมาเพื่อยุติข้อพิพาท ทุกท่านโปรดหลีกทาง”
เมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ ผู้คนจึงเร่งเปิดทางทันที
จากนั้นชายวัยกลางคนร่างอ้วนก็เดินเข้ามา เขาไม่ใช่ผู้ใดนอกจากเจียฟู่ผู้นำขบวนสินค้า
“คารวะท่านเจียฟู่” ผู้ใช้วิญญาณระดับสองผู้นั้นไิม่กล้าไม่สุภาพ แม้เขาจะโกรธแต่เขายังทักทายเจียฟู่ด้วยความเคารพ
ขณะที่ร่างกายของเจียชิงเฉิงกลายเป็นแข็งค้างและยืนมองเจียฟู่อยู่อย่างโง่งม ดูเหมือนเขาจะไม่ได้คาดหวังว่าพี่ชายของตนจะปรากฏตัวขึ้น ดังนั้นใบหน้าของเขาจึงกลายเป็นซีดเผือดพร้อมกับร่องรอยแห่งความหวาดกลัวที่อยู่ภายในดวงตา
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อยู่ในสายตาของฟางหยวนทั้งหมดและมันก็ทำให้เขาเริ่มคิดแผนการบางอย่างขึ้นมาทันที