ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 41 ปลดผนึก (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 43 ผลึกหินก้อนที่หก  (อ่านฟรี)

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 42 คางคกปฐพี (อ่านฟรี)


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 42 คางคกปฐพี 

แปลโดย iPAT 

“อา...”

“มันใช่หินอีกก้อนหรือไม่?”

“นี่ค่อนข้างประหลาด เหตุใดพื้นผิวของมันจึงได้ขรุขระ”

กลุ่มผู้ใช้วิญญาณรู้สึกสับสนกับสิ่งที่เห็น

เมื่อเห็นหินสีเหลืองทองผิวขรุขระบนฝ่ามือ การแสดงออกของฟางหยวนยังคงสงบนิ่ง เขาเพียงยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น

“มันจะเป็นสิ่งใด?” ผู้ใช้วิญญาณบางคนเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“มันยังยากที่จะกล่าว” บางคนตอบ

“ข้ารู้สึกว่ามันต้องเป็นบางสิ่งที่ค่อนข้างพิเศษ” อีกคนกระซิบ

เมื่อหินสีเหลืองทองค่อยๆเผยตัวขึ้น ชายผู้หนึ่งก็ส่งเสียงตะโกนออกมาอย่างกะทันหัน “เด็กน้อย ใจเย็น ข้า เจียชิงเฉิง ต้องการซื้อมัน”

ฟางหยวนหยุดเคลื่อนไหวและมองไปยังชายผู้นั้น คนผู้นี้ดูเหมือนชายอายุยี่สิบหรือยี่สิบห้าปี เขาอยู่ในชุดคลุมสีทองและคาดเข็ดขัดผ้าไหมที่มีหัวเข็มขัดเป็นแผ่นหยกที่สลักเลขหนึ่งเอาไว้

ชัดเจนว่าเขาเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่ง

พิจารณาจากอายุแต่ยังเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่ง นี่บ่งบอกได้ว่าความสามารถของเขาไม่ใช่สิ่งใดที่ต้องกล่าวถึง

อย่างไรก็ตามสถานะของเขาดูเหมือนจะค่อนข้างพิเศษ เพราะเมื่อคนผู้นี้เดินเข้ามาในกระโจม ผู้ใช้วิญญาณหลายคนเร่งทำความเคารพเขาทันที “คารวะนายน้อย”

“นายน้อย?”

“ชื่อของเขาคือ เจียชิงเฉิง เขาเป็นน้องชายคนเล็กของผู้นำขบวนสินค้า เจียฟู่”

“เช่นนั้นกระโจมโชคลาภแห่งนี้ก็เป็นของเขางั้นหรือ? แต่การแทรกแซงของเขาถือเป็นการฝ่าฝืนกฎของกระโจมโชคลาภมิหรือไม่?”

ผู้ใช้วิญญาณเริ่มพูดคุย

“ถูกต้อง ข้าคือเจ้าของกระโจมโชคลาภแห่งนี้ น้องชาย เจ้าเล่นพนันตั้งแต่เด็ก ไม่กลัวครอบครัวตำหนิงั้นหรือ? ข้าจะซื้อหินสีทองในมือเจ้าด้วยหินวิญญาณสี่สิบก้อน เจ้าคิดอย่างไร? หินวิญญาณสี่สิบก้อนไม่ใช่เงินเล็กน้อย ยังไม่ต้องกล่าวว่ามันมีวิญญาณอยู่ภายในหรือไม่? มันเป็นเพียงเพราะข้าอารมณ์ดีและคิดว่านี่เป็นการพนันครั้งแรกของเจ้า ข้าจึงไม่ต้องการให้เจ้าสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้นจงถือว่านี่เป็นการชดเชยให้กับทั้งหมดที่เจ้าสูญเสีย” เจียชิงเฉิงเดินเข้ามาหาฟางหยวน

“สี่สิบก้อน?” ฟางหยวนยกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะเย้ยหยัน “ดูเหมือนเจ้าต้องการบังคับให้ข้าขายมันให้กับเจ้าถูกต้องหรือไม่? การบังคับขายเป็นการฝ่าฝืนกฎของกระโจมโชคลาภ เจ้าทำเช่นนี้บนภูเขาชิงเหมา เจ้าต้องการให้ทุกคนดูถูกตระกูลแสงจันทร์งั้นหรือ?”

เมื่อถ้อยคำเหล่านี้หลุดออกมาจากปากของฟางหยวน ผู้ใช้วิญญาณคนอื่นๆจึงไม่สามารถนิ่งเฉยและจ้องมองนายน้องเจียชิงเฉิงผู้นั้นด้วยความไม่พอใจทันที

เดิมทีเจียชิงเฉิงคิดว่าเขาสามารถจัดการเด็กหนุ่มอายุสิบห้าได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามคำพูดเพียงสองสามคำของฟางหยวนกลับทำให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากโดยไม่คาดคิด

เมื่อมองไปยังผู้ใช้วิญญาณที่ให้การสนับสนุนฟางหยวน การแสดงออกของเจียชิงเฉิงก็เปลี่ยนแปลงไป เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนแปลงไป “น้องชายกำลังเข้าใจข้าผิด ข้าเป็นเจ้าของกระโจมโชคลาภแห่งนี้ ข้าจะฝ่าฝืนกฏที่ตนเองตั้งขึ้นได้อย่างไร? หากเป็นเช่นนั้นข้าคงไม่สามารถทำการค้าขายต่อไปได้อีก ฮ่าฮ่าฮ่า มันเป็นเพราะหินในมือของเจ้าดูน่าสนใจ นั่นคือเหตุผลที่ข้าต้องการซื้อมัน หากเจ้าไม่ต้องการขายก็ลืมมันไปซะ อย่างไรก็ตามหากมันไม่มีสิ่งใดอยู่ภายใน เจ้าก็ไม่ควรตำหนิว่าข้าไม่เตือน”

ฟางหยวนไม่สนใจคนผู้นี้และกลับไปให้ความสนใจหินสีทองที่อยู่ในมือของเขาอีกครั้ง

การเคลื่อนไหวของเขาเป็นไปอย่างช้าๆและละเอียดรอบคอบ เมื่อฝุ่นผงค่อยๆหลุดร่วงออกไป การแสดงออกของผู้ใช้วิญญาณรอบข้างก็เริ่มเปลี่ยนแปลง

“สวรรค์ มันเป็นวิญญาณจริงๆ”

“เขาเปิดได้วิญญาณ!”

“มีสิ่งใดผิดพลาดหรือไม่ นี่เป็นไปได้อย่างไร?”

“เด็กหนุ่มผู้นี้มากับโชคจริงๆ เขาได้รับวิญญาณเพียงเพราะโชคช่วยเท่านั้น!”

กลุ่มผู้ใช้วิญญาณรู้สึกตื่นเต้นและกล่าวสรรเสริญความโชคดีของฟางหยวนอย่างไม่หยุดยั้ง

ขณะที่พนักงานสาวต้องยกมือขึ้นปิดปากที่อ้าค้างของนางด้วยความตื่นตะลึงกับฉากที่เห็น

ตั้งแต่นางทำงานอยู่ในกระโจมโชคลาภแห่งนี้ นางเห็นนักพนันมามากมาย แต่นางก็ไม่เคยเห็นเหตุการณ์ที่น่าทึ่งเช่นนี้มาก่อน

“มีวิญญาณจริงๆ” ดวงตาของเจียชิงเฉิงส่องประกายเย็นเยียบ ความเกลียดชังในหัวใจของเขาเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เขาเป็นบางคนที่มีหัวใจคับแคบและเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา สิ่งที่เขารักมีเพียงการแสวงหาผลประโยชน์จากผู้อื่นเท่านั้นและแน่นอนว่าสิ่งที่เขาเกลียดที่สุดก็คือการถูกเอาเปรียบนั่นเอง

เขาเป็นเจ้าของกระโจมโชคลาภแห่งนี้ เขามีหูตาอยู่มากมาย เมื่อใดที่มีบางคนดูเหมือนจะเปิดพบวิญญาณ เขาจะบังคับคนผู้นั้นขายให้เขาเสมอ

ดังนั้นเมื่อฟางหยวนได้รับผลประโยชน์จากสถานที่ของเขา เจียชิงเฉิงจึงรู้สึกราวกับหัวใจกำลังถูกกรีดเฉือน

โดยเฉพาะเมื่อวิญญาณที่ฟางหยวนได้รับคือคางคกปฐพี!

ผิวสีทองของคางคกขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ หากคนผู้หนึ่งจ้องมองมัน พวกเขาอาจรู้สึกขนลุกชันด้วยความขยะแขยง

แม้จะมีสายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉาและไม่พอใจมองฟางหยวนอยู่มากมาย แต่การแสดงออกของเขายังคงสงบนิ่ง เขาส่งพลังวิญญาณให้กับคางคกสีทองตัวนี้

ทันทีที่มันสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณ ร่างกายของมันเริ่มสั่นสะเทือน อย่างไรก็ตามเนื่องจากมันอยู่ในสภาวะที่อ่อนแอ ดังนั้นมันจึงไม่อาจต่อต้านพลังวิญญาณของฟางหยวนและเป็นเหตุให้เขาสามารถปรับแต่งมันได้อย่างง่ายดาย

จากนั้นคางคกสีทองก็ค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆและมองไปที่ฟางหยวน

“อ๊บ...”

แม้เสียงของมันจะอ่อนแรงเล็กน้อย แต่มันยังหันหน้ามองไปรอบๆด้วยความตื่นเต้น

คุณค่าของวิญญาณที่มีชีวิตกับวิญญาณที่ตายแล้วแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

“มันยังมีชีวิตอยู่ เขาพบวิญญาณที่มีชีวิต!” บางคนถึงกับขยี้ตาของตนเองด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“มันเป็นคางคกปฐพี! บัดซบ! เหตุใดเขาจึงโชคดีนัก?” บางคนจำได้วิญญาณดวงนี้ได้ นี่ทำให้ผู้คนยิ่งรู้สึกตื่นเต้นและอิจฉา

“เด็กหนุ่มผู้นี้ โชคดีของเขาไม่ธรรมดาจริงๆ เหตุใดข้าถึงไม่ได้รับโชคลาภเช่นนี้บ้าง?” บางคนถอนหายใจ พวกเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลายทั้งชื่นชมและอิจฉา

“นายน้อย ยินดีด้วยเจ้าค่ะ นี่เป็นเหตุการณ์ที่น่าทึ่งที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบเห็นมา” พนักงานสาวกล่าวด้วยความตื่นเต้น

‘มันเป็นคางคกปฐพี วิญญาณระดับสองที่หายาก มูลค่าของมันสูงถึงห้าร้อยหินวิญญาณ บัดซบ! บัดซบ! ข้าเกลียดทุกคนที่ได้รับผลประโยชน์ในร้านของข้า นี่เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ ขาดทุนครั้งใหญ่!’ ใบหน้าของเจียชิงเฉิงกลายเป็นซีดเผือดขณะที่เขามองคางคกปฐพีและต้องการจะคว้ามันมาทันที

แต่เขารู้ดีว่าไม่สามารถทำเช่นนั้น หากเขาทำตามอำเภอใจ เขาจะได้รับผลกระทบที่ร้ายแรง

ทั่งหมดก็คือที่นี่ไม่ใช่อาณาเขตของเขาแต่เป็นหมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาล

‘ข้าควรเสนอหินวิญญาณเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย บางทีเขาอาจจะตกลง ถูกต้อง เขาเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณฝึกหัด เขาจะต้องยอมรับหินวิญญาณจากข้า’ เจียชิงเฉิงคิดด้วยดวงตาที่ส่องประกายขึ้น

อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นความหวังของเขากลับถูกบดขยี้ลงอย่างรวดเร็ว

ฟางหยวนมองคางคกปฐพีก่อนกล่าว “มันเป็นคางคกปฐพี วิญญาณระดับสอง มันกินโคลนสีเหลืองครึ่งกิโลกรัมต่อหนึ่งมื้อ มันเป็นวิญญาณหายาก ราคาตลาดของมันอยู่ที่ห้าร้อยหินวิญญาณ เจียชิงเฉิง เจ้าต้องการซื้อวิญญาณตัวนี้หรือไม่?”

“เจ้า...เจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร...” เจียชิงเฉิงกล่าวออกมาด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา

ฟางหยวนระเบิดเสียงหัวเราะออกมาก่อนกล่าวต่อ “หากเจ้าไม่ต้องการ เพียงลืมมันไปซะ ข้าเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ต้องการมัน”

“รอก่อน ข้าจะซื้อมัน แต่จงลดราคาลงเล็นน้อย” เจียชิงเฉิงกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มขมขื่น

ฟางหยวนหันหน้ากลับทันที

เจียชิงเฉิงเร่งกล่าวอีกครั้ง “เดี๋ยว! ข้าจะซื้อ ข้าจะซื้อมัน!”

ฟางหยวนไม่มีความตั้งใจที่จะเลี้ยงดูคางคกปฐพีตัวนี้ตั้งแต่แรก เขาต้องการทำกำไรจากมันเท่านั้น

มันเป็นวิญญาณระดับสองขณะที่ฟางหยวนเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่ง นอกจากนั้นโคลนสีเหลืองยิ่งที่หาได้ยาก บนภูเขาชิงเหมาก็มีเพียงโคลนสีเขียว การดูแลมันถือเป็นเรื่องที่ยากลำบากเกินไป

การค้าขายของเขาเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็วภายใต้สายตาของผู้คนมากมาย ฟางหยวนส่งคางคกปฐพีให้กับเจียชิงเฉิงขณะที่พนักงานนำถุงเงินห้าถุงที่บรรจุหินวิญญาณถุงละหนึ่งร้อยก้อนมอบให้กับฟางหยวน

โดยทั่วไปหินวิญญาณห้าร้อยก้อนถือเป็นเงินก้อนใหญ่สำหรับผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่ง ดังนั้นเมื่อฟางหยวนได้รับเงินจำนวนนี้ ช่วยไม่ได้ที่สายตาแห่งความอิจฉามากมายจะมองมาที่เขา

ฟางหยวนเก็บถุงเงินทั้งห้าเข้าไปในอกเสื้อก่อนจะคว้าผลึกหินสีทองม่วงที่เหลือเดินจากไปทันที

“นายน้อยจะไม่เปิดผนึกผลึกหินก้อนนั้นก่อนหรือเจ้าคะ?” พนักงานสาวกระพริบตาถาม

ฟางหยวนเพิกเฉยต่อนางอย่างสิ้นเชิงและเดินออกจากกระโจมโชคลาภไปอย่างรวดเร็ว