ตอนที่ 97: การเริ่มต้น (2)
"ข้ากระรอกแสง นักเดินทางเจ้ามาที่ภูเขามอสและถ้าเจ้ายังไปต่อเจ้าจะไปถึงคฤหาสน์บ่วงจันทรา ข้าคิดว่านั่นคือปลายทางของเจ้าหลังจากที่ได้เห็นอุปกรณ์ของเจ้าแล้ว"
แองเจเล่ลดศีรษะลงและมองไปที่กระรอก "เจ้าพูดถูก ข้ากำลังมุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์บ่วงจันทรา เจ้าช่วยข้าได้ไหมข้าต้องการข้อมูลให้มากที่สุด ข้าจะให้ขนมปังขาวและถั่วลิสงคลุกเกลือ"
"ข้าได้ทำการซื้อขายข้อมูลด้วยอาหารกับนักเดินทางสามกลุ่ม อย่างไรก็ตามไม่มีใครกลับมา มันยังไม่สายเกินไปที่จะกลับไป" กระรอกแสงตอบ
"เพียงแค่ข้าถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้ารู้ข้าจะตัดสินใจเอง"
แองเจเล่ยิ้ม
"เอาล่ะ"
กระรอกยักไหล่และนั่งลงบนเห็ดจุดดำ
"ข้าไม่รู้ว่าใครสร้างคฤหาสน์บ่วงจันทรา ปกติข้าเรียกว่าสวนบ่วงจันทรา ในช่วงเวลาที่กำหนดของปีข้าจะได้กลิ่นหอมของดอกไม้มันมีกลิ่นแรงมาก นอกจากนี้มีเพียงมนุษย์ที่พยายามเข้าไปสถานที่นั้นสายพันธุ์กลัวเพราะมันมีออร่าลึกลับ อัศวินได้นำกลถ่มของเขาเข้าไปในสวนในช่วงที่ผ่านมาและมีเพียงทหารคนเดียวที่อยู่รอด เขาหลบหนีด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดและในภายหลังเขาก็เป็นบ้า"
"ข้าได้ยินมาว่ามีดอกเกล็ดมังกรอยู่ข้างใน" แองเจเล่พูด
"ไม่เพียงดอกเกล็ดมังกร ยังมีพืชหายากอื่นๆอีกมากมายเช่นหญ้าแสงจันทร์ หญ้าฮาร์ดินและหญ้าตาเดียว" กระรอกพยักหน้า "นอกจากนี้...."
แองเจเล่คิดว่ามันเป็นเรื่องทั่วไปกับสถานที่ตามคำอธิบายของกระรอก
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย 'มันเป็นจุดทรัพยากรที่ยังไม่ได้พัฒนาหรือเป็นทรัพยากรส่วนตัวที่เลิกใช้แล้วของพ่อมดที่ได้ทิ้งสถานที่นี้ไป พ่อมดได้ออกจากสถานที่นี้และคาถาบาเรียได้อ่อนแอลงแต่เขาไม่ได้ปลดกับดักทั้งหมด จากนั้นงูทรายป่าก็พบมันเนื่องจากความโชคดีและคว้าดอกเกล็ดมังกรได้จากที่นั่น'
กระรอกเล่าเรื่องทุกอย่างให้แองเจเล่แล้วเขาก็เริ่มคิด มีเพียงพ่อมดทางการเท่านั้นที่สามารถสร้างทรัพยาการเช่นนี้ได้เนื่องจากมันดูเหมือนที่นี่กำลังซ่อนอยู่และบาเรียของมันยังอยู่ ผู้คนต้องรอให้มันเปิดถ้าพวกเขาปรารถนาต้องการที่จะเข้าไป
"ช่องว่างปรากฏปีละครั้งงั้นหรือ เจ้ารู้ไหมว่ามันจะเปิดอีกครั้งเมื่อไหร่" แองเจเล่ถามอีกครั้ง
กระรอกได้คำนวณบนพื้น "เจ้าต้องรออีกหนึ่งเดือน นกจะบินออกจากคฤหาสน์เมื่อช่องว่างปรากฏและพวกมันจะบินรอบพื้นที่นี้ประมาณหนึ่งชั่วโมง นี่คือระยะเวลาที่ช่องว่างจะเปิดดังนั้นเจ้าต้องออกก่อนที่มันจะปิด มิฉะนั้นเจ้าจะติดกับดักที่อยู่ภายในสวนถูกบังคับให้รอจนกว่าช่องว่างครั้งต่อไปจะปรากฏ"
"หนึ่งเดือนงั้นหรือ" แองเจเล่คิดไปสักพักหนึ่งแล้วลุกขึ้นยืน "ได้โปรดตามข้าไปที่รถม้าของข้า ข้าจะให้อาหารที่ข้าสัญญาไว้ ขอบคุณมาก"
"ยินดีต้อนรับ....ฮี่ฮี่"
กระรอกยกกรงเล็บขึ้นมันมีรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า มันตามแองเจเล่ไปขณะที่ส่ายหางไปมาซ้ำๆ
แองเจเล่ให้ถุงขนมไปทั้งถุงและมันก็เดินกลับเข้าไปในป่าอย่างมีความสุข แองเจเล่เฝ้ามองทอมเปลี่ยนล้อแต่เขากำลังคิดถึงเรื่องอื่น
ทอมใช้เวลาสักครู่ในการตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อย เขาวางเครื่องมือและยืนขึ้น
"นายท่านมันเสร็จแล้ว"
"เอาล่ะ"
แองเจเล่พยักหน้าและเข้าไปในรถม้า พวกเขาเริ่มเดินทางอีกครั้ง
ภายในรถม้าแองเจเล่ไม่ได้หลับอีกต่อไป เขามองออกไปนอกหน้าต่าง มีเพียงสิ่งเดียวที่มองเห็นคือต้นสนโดยไม่มีนักเดินทางรอบๆ มีหินสีขาวอยู่บนพื้นหญ้าและแองเจเล่เห็นสิ่งมีชีวิตแปลกๆกระโดดข้ามระหว่างพุ่มไม้เป็นครั้งคราว
พวกเขาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงจนมีทางแยกปรากฏขึ้นในถนนข้างหน้า มีป้ายสีน้ำตาลที่ระบุชื่อสถานที่ตั้งของสถานที่ทั้งสองที่มีถนนแยกกัน
แองเจเล่บอกให้ทอมหยุดและตรวจสอบป้ายอย่างระมัดระวัง คฤหาสน์บ่วงจันทราอยู่ทางซ้ายและเมืองมอสอยู่ทางขวา
เขามองไปที่พื้น มีรอยล้อ กีบเท้าและรอยเท้าอยู่ทางด้านขวาแต่ทางด้านซ้ายปกคลุมไปด้วยวัชพืช
"ไปเมืองมอสก่อน ไปที่นั่นและรอข้าอยู่ที่นั่น ข้ามีบางอย่างที่จะต้องจัดการ" แองเจเล่สั่ง
"เข้าใจแล้วครับ"
ทอมพยักหน้าก่อนที่จะเริ่มเดินทาง แองเจเล่ได้จ่ายเงินให้เขาแล้ว 200 เหรียญทองมันเป็นโบนัสที่เพิ่มจากเงินเดือน เหรียญทองเหล่านี้จะช่วยครอบครัวของเขาได้มากซึ่งทำให้เขารู้สึกขอบคุณ แต่เขารู้ว่าการเดินทางนี้มันอันตรายดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำของแองเจเล่อย่างรอบคอบ
****************
เมืองมอสอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและมันค่อนข้างเงียบสงบ มีถนนสายหลักเพียงเส้นเดียวในเมืองนี้และมีบ้านไม้ประมาณสิบหลังถูกสร้างขึ้นทั้งสองด้านของถนน มีคนประมาณ 100 คนที่อาศัยอยู่ในเมืองและมีบาร์อยู่เพียงแห่งเดียว ร้านขายของชำและโรงแรมก็เช่นกัน
แองเจเล่ได้รู้สิ่งนี้ก่อนออกเดินทาง
ปกติผู้คนในเมืองมักจะเทน้ำเสียตรงถนนทำให้ถนนสีเทาเปียกและสกปรก บ้านไม้สีน้ำตาลถูกสร้างขึ้นใกล้ข้างถนน
แทบจะไม่มีคนแต่แองเจเล่รู้ว่าคนในบ้านกำลังจ้องมองเขา
ใกล้สุดถนนมีอาคารสามชั้นทางด้านขวาถูกสร้างขึ้นจากก้อนอิฐสีเหลือง ม้าสีดำถูกผูกอยู่ใกล้และกำลังกินหญ้า รถม้าที่มีม้าสองตัวได้จอดอยู่ข้างบ้าน มันมีสีขาวที่มีสัญลักษณ์สีดำสลักอยู่ที่ประตูของมัน
คนงานสองคนคุยกันอยู่ข้างรถม้า แองเจเล่กำลังเดินไปข้างหน้าและทอมกำลังตามเขาไปพร้อมกับรถม้า เสียงที่เกิดจากกีบเท้าของม้าทำให้คนงานสนใจและหนึ่งในนั้นก็วิ่งเข้าไปในอาคารเพื่อรายงาน
แองเจเล่เดินเข้าไปในอาคารและอ่านป้ายที่แขวนอยู่บนรั้ว มันอ่านว่า'โรงแรม'แต่เขียนในภาษาแอนแมคได้แย่มาก
ชายหนุ่มสองคนได้เดินออกมาจากอาคาร หนึ่งในนั้นสวมชุดลินินสีเทามีผมสั้นสีน้ำตาลและกำลังยิ้มอยู่ มันดูเหมือนเขาเป็นเจ้าของสถานที่นี้ ผู้ชายอีกคนสวมชุดคลุมสีแดงเข้มและไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรแต่ด้วยเหตุผลบางอย่างแองเจเล่แทบจะไม่รู้สึกถึงตัวตนของเขา มันรู้สึกแปลกๆและแองเจเล่จ้องไปที่เขาแต่ก็ยังรู้สึกเหมือนว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขา
"ยินดีต้อนรับนักเดินทาง ชื่อของข้าคือสตีเว่นและข้าเป็นเจ้าของโรงแรมนี้ ท่านกำลังมองหาที่พักอยู่หรือไม่" สตีเว่นถามเสียงดังหลังจากที่ก้าวไปข้างหน้า
"ใช่ พวกเรากำลังหาอยู่ ราคาเท่าไหร่"
ทอมออกจากรถม้าและเริ่มเจรจาราคากับสตีเว่น
"15 เหรียญเงินต่อคืนสำหรับหนึ่งคน"
"สัก 14 เป็นอย่างไร"
"ข้าขอโทษแต่ข้าไม่เคยให้ส่วนลดและปกติราคาอยู่ที่ 15 เหรียญเงิน"
"14 เหรียญเงินต่อคืนและเราจะจ่ายล่วงหน้า"
"แต่..."
ทอมพยายามต่อรองราคาให้ดีที่สุดและแองเจเล่ก็ยังคงมองไปที่ผู้ชายในชุดคลุมสีแดง เขาเห็นเครื่องหมายเปลวไฟสีแดงบนคอเสื้อของผู้ชายคนนั้น
"ยินดีต้อนรับ"
ผู้ชายคนนั้นก้าวมาข้างหน้า
แองเจเล่ยิ้ม "ซานเตียโก้งั้นหรือ" เขาถามเสียงเบา
ชายคนนั้นส่ายหัว "ข้าไม่คิดว่าเราควรจะพูดถึงเรื่องนี้ที่นี่"
"เจ้าพูดถูก"
แองเจเล่พยักหน้า
ชายคนนั้นก้าวไปทางด้านข้าง "มีพวกเราสามคน ข้าไม่สนใจว่าเจ้ามาจากไหนแต่ข้าเชื่อว่าเรามีเป้าหมายเดียวกัน เข้ามาก่อนสิ"
แองเจเล่ไม่ได้ลังเลและเข้าไปในชั้นแรกของโรงแรม
มีโต๊ะไม้สีแดงทรงกลมอยู่สามโต๊ะและมีคนสองกลุ่มกำลังนั่งอยู่กันคนละโต๊ะ
มีคนที่ใส่เสื้อคลุมสีดำทางซ้าย แองเจเล่ไม่แน่ใจเกี่ยวกับเพศของเขาเนื่องจากหน้ากากที่ปิดอยู่บนใบหน้า มีชายชราคนหนึ่งที่มาพร้อมกับหญิงสาวในชุดล่าสัตว์กำลังนั่งอยู่อีกโต๊ะ
ชายชราและหญิงสาวหรี่ตาลงเมื่อพวกเขาเห็นแองเจเล่เดินเข้าไป มันดูเหมือนพวกเขาไม่ต้องการให้คนเหมือนแองเจเล่ปรากฏตัวขึ้นที่นี่
แองเจเล่เดินเข้าไปที่โต๊ะว่างและนั่งลง บรรยากาศที่นี่ค่อนข้างอึดอัดและหนักอึ้ง ชายในชุดคลุมสีแดงนั่งข้างผู้ชายเสื้อคลุมสีดำและหลับตาลง เขาอาจจะกำลังฝึก
มันดูเหมือนคนในห้องนี้กำลังทำตามกฎเกณฑ์บางอย่างและไม่มีใครอยากพูดอะไร
แองเจเล่รู้สึกถึงร่องรอยอนุภาคพลังงานจากคนอื่นๆซึ่งหมายความว่าอย่างน้อยพวกเขาต้องเป็นพ่อมดฝึกหัดขั้นที่สอง พวกเขาอาจจะรู้อยู่แล้วว่าคฤหาสน์บ่วงจันทราอันตรายแค่ไหนแต่ก็ยังมา
ทอมใช้เวลาสักครู่เพื่อให้ได้ราคาที่เขาต้องการ เขาเดินเข้าไปข้างในแล้วคุยกับแองเจเล่อยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็กลับไปดูแลรถม้าอีกครั้ง ทอมต้องการทำให้แน่ใจว่าไม่มีใครแตะต้องของต่างๆข้างใน
ในช่วงกลางวันมีผู้หญิงสวมผ้ากันเปื้อนสีเทาเดินเข้าไปในห้อง มีจานอาหารหลายจานและเธอก็วางอาหารลงบนโต๊ะ
มีเนื้อแห้งสีดำ ชิ้นเค้กข้าวและชามซุปเห็ดร้อนๆข้างหน้าแองเจเล่ เขาคว้าไปที่เค้กข้าวและรู้สึกประหลาดใจกับผิวของมัน มันกรอบเหมือนขนมปังกรอบและมีรสเค็ม
เนื้อแห้งกินยากมาก แองเจเล่เคี้ยวประมาณห้านาทีก่อนที่จะกลืนมันลงไป ซุปมันอร่อยดีเมื่อเทียบกับอย่างอื่น เขาใส่ทุกอย่างเข้าไปในซุปและคนมัน
เจ้าของรออย่างเงียบๆด้านข้างต้องการพูดกับแองเจเล่หลังจากที่เขากินอาหารเสร็จแล้ว พวกเขาเดินขึ้นไปชั้นสองเมื่อพวกเขากินหมด
ห้องของแองเจเล่อยู่ทางด้านขวาของสุดทางเดิน ด้านในมีเพียงเตียงและโต๊ะ มันมีกลิ่นฝุ่นอยู่ทุกที่ เขาแทบจะมองไม่เห็นดังนั้นห้องนี้จึงต้องทำความสะอาดก่อน
แองเจเล่และทอมเช่าห้องสองห้องสองเดือนและจ่ายเงินทันที หลังจากที่ได้รับเงินแล้วเจ้าของก็เดินออกจากห้องพร้อมกับนับเหรียญในมือ